วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่วันที่ 29 ธันวาคม 2012



[GD สีชมพู]

ในตอนนี้ซึงจังกำลังอยู่ในรายการพิเศษถ่ายทอดสดของทางช่อง SBS  ครับ

Eng Translation by rurutic
Thai Translation by mew

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอาีรี่วันที่ 28 ธันวาคม 2012


[ผมยุ่งมากครับในช่วงสิ้นปี]

มีรายการพิเศษมากมายที่เกาหลีช่วงนี้เนื่องจากว่าเป็นช่วงสิ้นปีแล้วครับ 
สมาชิกทุกคนในวงบิกแบงต่างมารวมตัวกันและฝึกซ้อมด้วยกัน
หลังจากที่ไม่ได้ทำแบบนี้มานานแล้วนะครับเนี้ย 

สาวๆ 2ne1 ก็อยู่ในห้องซ้อมข้างๆ ดังนั้นผมจึงไปถ่ายรูปกับดาร่าครับ 
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ 
ผมรู้สึกกังวลนะครับ เธออ่อนแอเหลือเกิน ! T_T 
สู้ๆนะ ดาร่าจัง !

Japanese to Korean translation by hmilbori
Korean to English translation by ShrimpLJY

English to Thai translation by mew 
photo credit to  BIGBANG资讯台

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 26 ธันวาคม 2012


[เป้าหมายในปีหน้า]

ปีนี้ใกล้จะจบลงในไม่ช้าแล้วครับ
การที่ต้องบอกลาปี 2012.....ผมเศร้าครับ
ผมคิดว่าผมสามารถที่จะใช้เวลาในปีนี้ให้ดีกว่านี้
ผมควรจะพยายามทำให้ดีที่สุด แต่เป็นเพราะผมก็เป็นมนุษย์คนนึง
ผมไม่สามารถที่จะพอใจในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปแล้วได้
ในปีนี้มีทั้งผลลัพท์ที่ดีและมีผลลัพท์ที่ไม่ดีด้วย
ในปีหน้านี้ผมมีเป้าหมาย 3 ข้อครับ

1. เป็นปรมาจารย์ในเรื่องภาษาญี่ปุ่น
ในตอนนี้ ผมพูดภาษาญี่ปุ่นได้ไม่เลวครับ
แต่ทีมงานชาวญี่ปุ่นก็ยังบอกว่า
"ผมต้องการให้คุณเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเพราะผมคิดว่าคุุณสามารถเติบโตได้อีกเยอะ"
ครับ ผมยังคงไม่รู้ศัพท์บางคำ
ผมต้องการที่จะเรียนอักษรจีนเพิ่มเพราะมันจะทำให้ผมอธิบายความรู้สึกในรายละเอียดได้มากขึ้น

มีคนอ่านไดอารี่นี้เยอะมากครับ แต่ผมก็อยากให้มีเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า
และจะเยี่ยมไปเลยถ้าผมได้ขึ้นแสดงกับ คุณ Sanma ที่ผมชอบ

2. เรียนภาษาอังกฤษ
ผมอยากจะสื่อสารกับแฟนๆทั่วโลก
ควรจะพยายามเรียนให้ได้ ....แฟนๆทั่วโลกต่างสนับสนุนบิกแบง
ผมควรจะลงมือเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราว สู้ๆเพื่อเราครับ ^^ 

3. ผมอยากจะร้องเพลงให้มากๆ 
ในปีหน้าผมอยากจะร้องเพลงให้มากขึ้นมากขึ้นครับ
ในการทัวร์คอนเสริต์รอบโลก ผมหวังว่าจะสามารถร้องเพลงต่อหน้าคนมากขึ้นอีก
บางทีในปีหน้าอาจจะมีงานเดี่ยวเข้ามาครับ
ผมคาดหวังว่าจะมีอะไรที่ท้าทายให้กับผม
ผมอยากจะทำงานให้หนักขึ้นกว่าปีนี้อีกเพื่อแฟนๆและเพื่อผมในฐานะที่เป็นสมาชิกวงบิกแบง
การที่โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้ชายเต็มตัว ผมควรจะตระเตรียมในสิ่งที่จะต้องทำในปีต่อไป
ต้องคิดอย่างจริงจัง

ในวันพรุ่งนี้ผมมีงานเป็นพิธีกรรายการสด  Sakigake awards ปี2012ที่ญี่ปุ่น 
งานนี้จะเป็นงานสุดท้ายในปีนี้ของผมที่ญี่ปุ่นครับ 
โปรดไปร่วมงานและช่วยเชียร์ผมด้วยฮะ ^^ ขอบคุณครับ 

Japanese to Korean translation by :hmilbori
Korean to English translation by :ShrimpLJY
english to thai translation by: mew

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 25 ธันวาคม 2012


[คริตมาสที่อบอุ่น]

ที่นี่ กรุงเทพครับ 
ผมตัดสินใจที่จะมาที่นี่แบบกะทันหันเพื่อพักผ่อน
และจะได้ใช้เวลาอย่างมีความสุขในช่วงคริตมาสในที่ที่อบอุ่น 
ผมมาที่นี่กับ จงฮุน แห่งวง FTIsland ครับ
วงนี้เป็นวงดนตรีที่มีชื่อเสียงที่ญี่ปุ่นด้วยเหมือนกัน ผมกับเค้าเป็นเพื่อนกันมา 5 ปีแล้ว 
ทุกคนต่างก็คิดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเค้าเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ 
แต่พูดง่ายๆก็คือ จงฮุนเค้าจับผมซะอยู่หมัดเมื่อ 5 ปีก่อน wwww
เค้าเป็นฝ่ายพูดก่อนว่า อยากจะเป็นเพื่อนกับผม 
ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับทั้งๆที่ คำนี้ไม่ได้มาจากหญิงสาวที่ไหน wwww
ผมรู้สึกดีใจครับ และเราก็เริ่มเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ตอนนั้น 

จงฮุนนั้นเป็นลีดเดอร์ประจำวงส่วนผมเป็นน้องเล็ก 
ผมได้รู้ถึงความคิดของคนเป็นลีดเดอร์เวลาที่ได้คุยกับเค้า 
เค้ายังพูดถึงน้องเล็กในท่าทีแบบ บ่นๆ ด้วย wwwww
ความสัมพันธ์ระหว่างเค้ากับผมน่าสนใจทีเดียวใช่ไม๊ฮะ?? 

ผมมีเพื่อนที่ทำงานเป็นนักแสดง นักร้องอยู่บ้างที่เมืองไทยครับ ^^
ผมถูกพาไปร้านอาหารที่เสริฟ์อาหารแสนอร่อย ทุกคนใจดี และ ดูหล่อกันไปหมด www

ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน ว่าผมจะสามารถผ่อนคลายแบบนี้ได้ในเมืองไทย
แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกมีความสุขอย่างเต็มที่และได้ชมวิวท่องเที่ยวหย่อนใจจริงๆ 
จงฮุนก็มีความสุขมากเหมือนเด็กเล็กๆทีเดียวครับ www

พวกคุณมีความสุขในความคริตมาสกันรึเปล่าครับ??
ดีมากครับทุกคน

Eng  translated by ShrimpLJY
Thai translated by mew
photo credit to 餃子石剪子布x_gs


วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 24 ธันวาคม 2012


[ซึงจังในวันคริสมาสอีฟ]

Seungri : SOLซัง ศอกขวา ศอกซ้าย ลองทำดูสิฮะ !!

SOL: WHAT????? (อะไรนะ)

Seungri : .................


Eng Trans by 0401rurutic
Thai Translation by mew

วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 22 ธันวาคม 2012


[ซึงจังที่ฟุคุโอกะ]

วันนี้เรามีคอนเสริต์กันที่ฟุคุโอกะครับ
แต่แฟนๆที่ฟุคุโอกะดูเหมือนจะไม่ค่อยชินกับการแสดงสดของพวกเราเท่าไหร่
ครับ ก็แน่ละ เราไม่เคยได้ไปแสดงสดที่นั่นบ่อยๆนี่นา 
แฟนๆดูเหมือนจะเคว้งๆ
ดังนั้นเราจึงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้บรรยากาศนั้นสนุกสนาน

อาจจะเป็นเพราะฝนที่ตกลงมาจึงทำให้ทุกคนดู เงียบสงบกัน
อ่าา และเป็นเพราะคอนเสริต์วันนี้เริ่มเร็วกว่าเวลาตามปกติ 
คือเริ่มในตอนบ่าย 3 โมงดังนั้นผมจึงรู้สึก......แปลกๆ

แต่มืออาชีพจะต้องทำการแสดงออกมาให้ยอดเยี่ยมที่สุดได้ในทุกสถานการณ์

อ่า ผมรู้สึกเหนื่อยและง่วงนอนมากครับ 

จะมีของขวัญพิเศษให้กับผู้อ่านไดอารี่นี้ ในวันพรุ่งนี้นะครับ  ^__^ 
โปรดเฝ้ารอคอยมันด้วยครับ 
ผมได้เตรียมสิ่งที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขเอาไว้แล้ว!.!

Japanese to Korean translation by hmilbori
Korean to English translation by ShrimpLJY
English to Thai translation by mew 
additional part from rurutic


วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 21 ธันวาคม 2012


[ซึงจังที่งานปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่า]

ซึงรี จีดราก้อน และ ยองเบ ถ่ายทำโฆษณา ^^ 
สมาชิกทุกคนต่างก็ดูเหมือนจะเหนื่อยกันมาก
เนื่องจากพวกเราต้องไปในที่ต่างๆในต่างประเทศตามตารางงาน 
แต่ยังไงก็ตามช่วยเชียร์พวกเราด้วยนะครับ ปีนี้กำลังจะจบลงในไม่ช้านี้  ^_^ 
วันนี้เรามีปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่ากันครับ 
ทุกคนต่างก็มารวมตัวกันดื่มและเต้นรำ 
ผมมีช่วงเวลาดีๆที่มีความสุขครับ 

ว้าววว นี่มัน Ziuhimeจังนี่นา!!^_^ 
Ziuhime ในละครเรื่อง sonata of winter!! ผมถ่ายรูปกับเธอด้วยครับ 
เธอเป็นนักแสดงเกาหลีชื่อดังในประเทศญี่ปุ่นครับ 
เธอตอบ "ขอบคุณ" ในท่าทางที่น่ารักในตอนที่ผมเรียกเธอว่า  "Ziuhimeจัง~"
ผมอยากจะเห็นเธอในการแสดงบทบาทในละครดีๆ ^^ 
ผมเชียร์คุณอยู่นะ Ziuhime-จัง!!! 

เพราะช่วงนี้เป็นช่วงสิ้นปีแล้ว ปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่าจึงถูกจัดขึ้น 
แต่อย่าดื่มมากจนเกินไปนะครับ มันไม่ดี ^^ 
เอาแค่หอมปากหอมคอเท่านั้นจะดีกว่า ^__^ 
สำหรับคอนเสริต์ที่ Fukuoka ในวันพรุ่งนี้ 
โปรดมีความสุขกับมันเหมือนทุกทีนะครับ 

English translation by shrimpLJY
Thai Translation by mew

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 19 ธันวาคม 2012

[ ตอนนี้....ผม.....]

กำลังฟังเพลง Santa Baby ของคุณ  Eartha kitt ครับ
เรามาเตรียมตัวเพื่อวันคริสมาส ในขณะที่ฟังเพลงนี้ไปด้วยกันดีกว่า  ^^

Eng Translation by 0401ruruti
Thai Translation by mew 

[โพสเฉยๆไม่ได้อัพรูปค่ะ ]

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 17 ธันวาคม 2012


[ลาก่อน ลอนดอน]

สิ่งที่จะทำในวันนี้คือ ผมจะต้องบอกลาเมืองลอนดอนแล้วครับ
เป็นเพราะผมรู้สึกเหงาๆ ผมจึงเดินเรื่อยเปื่อยไปตรงโน้นตรงนี่ wwwwwwww
สำหรับผมแล้ว อังกฤษเป็นประเทศที่พิเศษครับ 

หนึ่งปีก่อน มีช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับบิกแบง
และจุดที่เราก้าวข้ามผ่านและออกมาจากความมืดมิดนั้นอีกครั้ง
เป็นตอนที่เรามารับรางวัล ที่งาน EMA ที่อังกฤษ
ผ่านมาได้หนึ่งปีแล้วนะครับ 
เป็นเพราะประเทศอังกฤษได้ให้พลังใจกับเรางั้นเหรอ?? 
ประเทศอังกฤษครับ ขอบคุณครับ   ^^

หลังจากนี้การทัวร์คอนเสริต์ของเราก็ใกล้จะจบลงทุกทีๆ 
มันดีมากเลยที่เราสามารถได้พบกับแฟนๆในประเทศต่างๆ
และต้องขอขอบคุณแฟนๆที่ช่วยสร้างความทรงจำที่ดีกับพวกเรานะครับ 

เริ่มจากนี้ไป เราต้องกลับบ้านแล้ว 
ผมไม่ได้พูดว่าเราจะไม่ได้พบกันอีก เราจะต้องเจอกันอีกในอนาคตครับ 

ลอนดอน สุขสันต์วันคริสมาสครับ   

Source: jerrylovegd via fyeahseungri
Eng Translated by ricekwon

Thai Translation by mew  



วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 16 ธันวาคม 2012


[ซึงรีในลอนดอนกับHwangssabu]

เราเสร็จคอนเสริต์รอบแรกของเราที่ลอนดอนไปแล้วครับ 
แฟนๆที่ลอนดอนนั้นกระตือรือร้นมากๆเลยละฮะ 
ผมตื่นเช้าเล็กน้อยในวันนี้ เลยได้ไปวิ่งจ็อกกิ้งกับ  Hwangssabu ในสวนใกล้ๆ
นานมาแล้วนะครับที่ไม่ได้ออกมาวิ่งจ็อกกิ้งข้างนอกแบบนี้ 
ผมรู้สึกดีมากเลยครับ อากาศดี ภูมิกาศทั่วไปก็ดีด้วย 
ผมตื่นเต้นกับทุกสิ่งทุกอย่างนี่เลยละครับ 

วันนี้ผมได้ทานอาหารเช้าที่ร้าน 'bomburger' ใน Notting Hill
ดูเหมือนว่าในร้านอาหารนี้ผู้คนต่างก็เข้ามาพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
ดังนั้นตอนนี้ คนจึงแออัดกันมากๆครับ wwww
ยังไงก็ตามแต่ ผมมักจะคิดว่าเวลาคนเราทานอาหารไปคุยกันไปนั้น พวกเค้าดูมีความสุขจริงๆ
ที่ญี่ปุ่น ผมมักจะต้องทานอาหารคนเดียวเป็นประจำ 
จากนี้ไป เรามารวมตัวกันและทานอาหารด้วยกัน โอเคไม๊ฮะ?? 

ตอนที่กลับไปที่โรงแรม ผมได้ยินเพลงเกี่ยวกับซานต้าครอสในวิทยุ 
ใกล้จะถึงวันคริสมาสแล้วสินะ
มีนัดออกเดทกันแล้วรึยังครับ?? เตรียมจะทำอะไรในวันคริสมาสกันบ้างฮะ?? 
wwww โอ้..........ผมไม่มีนัดอะไรเลยนี่นา แม้แต่งานถ้ามีก็น่าจะดีนะ

วันนี้ผมจะอยู่ที่ลอนดอนเป็นวันสุดท้ายแล้วละครับ 
ยังคงพยายามทำงานอย่างหนักเช่นเคยในวันนี้ครับ

source:餃子石剪子布x_gs 
chinese to english translation by Ricekwon 
english to Thai translation by mew


ซึงจังไดอารี่ 15 ธันวาคม 2012 + ตอบข้อความ JVIP


[ลอนดอน ลอนดอน,Kim Lung Dong ]
(เป็นชื่อของตัวละครในละครญี่ปุ่นคะ)

ที่นี่ลอนดอนครับ 
ปีนี่ที่นี่เป็นสถานที่จัดงานการแข่งขันโอลิมปิกขึ้น
เมื่อตอนที่ผมอยู่ญี่ปุ่น ผมได้ดูการแข่งขันคนเดียว 
แต่ตอนนี้ผมมาอยู่ที่นี่แล้วละครับ wwww เยี่ยมไปเลยใช่ไม๊ฮะ?? 

วันนี้ได้สัมผัสกับฝนตกในแบบสไตล์ยุโรป 
รู้สึกโรแมนติกมากๆเลยครับ 

ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นมากๆ
ผมกำลังเดินอยู่ในสถานที่ในภาพยนตร์เรื่อง harry potter 
ตึกรามบ้านช่องส่วนใหญ่ที่นี้สร้างมากว่า 100 ปีแล้ว 
พวกมันคงทนถาวรจริงๆครับ 

เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาอาศัยอยู่ที่ลอนดอน 
ดังนั้นหัวใจผมจึงเต้นเร็ววทีเดียวละครับ

ลอนดอน ลอนดอน Kim Lung Ting, สู้ๆ

source: 餃子石頭剪子布x_gs
chinese to english translation by Ricekwon 
english to thai translation by mew 

=========================

ในบล็อคไดอารี่สามารถฝากข้อความถึงน้องซึงได้ด้วยนะคะ 
ครั้งนี้น้องมาตอบด้วย 6 คำถาม ตามนี้ 

1) (ถามถึงเรื่องงานพิธีกรที่น้องทำที่ญี่ปุ่นคะ)
SR: ผมอยากจะกลับไปเป็น ซึงรีในมาดพิธีกรเหมือนกันครับ มันเป็นงานที่สนุกมากทีเดียว

2) (ฉันอยากโดนเรียกว่านูน่าจากปากของซึงจัง)
SR: คุณครับ ภาษาเกาหลีของคุณดีเลยนะเนี้ย
[note:คำที่VIPเขียนเป็นเกาหลีมามีแค่สองคำคือ นูน่ากับมักเน่แต่น้องก็ยังชมเค้าว่าเก่ง>_<]

3) ขอบคุณที่คิดถึงฉันนะคะ
SR:ผมจะพยายามทำงานหนักในฐานะซึงจังผู้ร่าเริงครับ

4)ฉันอยากจะไปออกรายการเพลงที่ญี่ปุ่นบ้าง แต่การร้องเพลงของฉันยังต้องฝึกฝนอีกมาก
SR:ผมก็จะตั้งใจฝึกฝนพัฒนาทักษะของผมด้วยครับ

5) ซึงรีน้องเล็กน่ารัก ซึงรีสุดหล่อ ซึงรีที่สูงอายุ ฉันชอบไปหมดทุกตอนเลย
SR:ซึงรีที่สูงอายุ ไม่ดีหรอกนะครับ ... wwwwww *หัวเราะ*
ผมชักจะแก่ขึ้นทุกทีๆ

6) ไม่มีอะไรฉันแค่อยากจะส่งความรู้สึกไปเท่านั้นค่ะ
SR:ขอบคุณมากๆครับ (Ari ari gatou gatou! ^_^)


japan to english by 0401rurutic
Thai Translation by mew 

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 13 ธันวาคม 2012

[ตอนนี้......ผม.....]

ผมกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางไปที่ลอนดอนครับ
เพลง  It Ain’t Over Till It’s Over ของ Lenny Kravitz
ตอนนี้ผมกำลังฟังเพลงนี้อยู่บนเครื่องบินครับ
ถ้าหากว่าคุณกำลังฟังนี้ด้วย เราก็กำลังฟังเพลงเดียวกันอยู่สินะ    ^__^

———ซึงจังที่โรแมนติก ———

Source: 饺子石头剪子布X_gs
chinese to english by rice
thai Translation by mew

วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 12 ธันวาคม 2012

[สุขสันต์วันเกิดซึงจัง^_^]

วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของผมครับ
คุณแม่ได้ทำอาหารเช้าให้ผมด้วย ขอบคุณครับแม่
ผมรู้สึกดีใจอย่างมากเลยละครับ 
เพราะแฟนๆจากทั่วโลก ต่างก็พูด สุขสันต์วันเกิดกับผม
ผมรู้สึกได้ถึงการที่ถูกรักจากคนมากมาย
ผมรู้สึกขอบคุณมากครับ  

ต้องขอขอบคุณแฟนๆจากประเทศญี่ปุ่นมากๆด้วยครับ 
ตอนนี้ผมกำลังอ่านข้อความทั้งหมดที่พวกคุณทุกคนส่งมาอยู่
เป็นเพราะมันมีเยอะมากเลย ดังนั้นอาจจะต้องใช้เวลานานหน่อยกว่าจะอ่านหมด 

ขอบคุณทุกคนนะครับ วันนี้เป็นวันที่สุดวิเศษสำหรับผมจริงๆ
ผมจะตั้งใจทำงานหนักมากขึ้นอีกเพื่อที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขเช่นกัน 
ผมจะทำงานหนักเพื่อที่ว่าจะได้ไม่มีใครเลยที่เกลียดผม
ขอบคุณครับ

Japan to english translation by 0401rurutic
Thai translation by mew 

[วันนี้มาโพสเฉยๆไม่ได้แปะรูปใดๆมาค่ะ ]

สัมภาษณ์จีดราก้อนจาก XXL (End)


เป็นเพราะไหนๆเราก็คุยกันมาถึงการเขียนเพลงทำเพลงกันอยู่ ผมอยากจะถามคุณเกี่ยวกับข่าวอื้อฉาวที่คุณต้องเผชิญในเรื่องของการคัดลอกผลงานของคนอื่นมา ผมคิดว่าเรื่องนี้มาจากการขาดความเข้าใจในเรื่องของการใช้ Sampling ในเกาหลีใต้รึเปล่าครับ?? คุณคิดว่าไง?? 
G-Dragon: อืมมมม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมเป็นชาวเกาหลีและก็เติบโตที่เกาหลีด้วย แต่ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างในวงการเพลงเกาหลีที่ยังไม่มีการระบุว่ามันคืออะไรกันแน่นะครับ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้นะหากผู้คนจะไม่สามารถเข้าใจในเรื่องของการทำเพลงแบบใช้ samplingได้

ทุกคนต่างก็มีมุมมองที่แตกต่างกันในการรับเพลงหนึ่งๆ มันไม่ได้เป็นเรื่องถูกหรือเรื่องผิด เพียงเพราะมีคนกลุ่มหนึ่งเชื่อแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าผิดเหมือนกัน ดังนั้นหากพวกเค้ารู้สึกอย่างนั้นมันก็จะเป็นแบบนั้นแหละครับ สุดท้ายแล้วจบไปวันวันนึงผมไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องอับอาย ดังนั้นผมขอไม่ออกความเห็นเรื่องนี้แล้วกันครับ 

ผมคิดว่าหลังจากที่มีวงแบบบิกแบงออกมา น่าจะมีคลื่นไอดอล kpop ลูกใหม่ๆที่มีสไตล์เดียวกันนี้ออกมาแน่ๆเลย คุณคิดว่าไงครับ?? 
G-Dragon: Uh-huh. [หัวเราะ.] ผมชอบนะครับ ส่วนตัวแล้วผมแน่ใจว่าทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นเพราะพวกเราทั้งหมดหรอกครับ แต่หลังจากที่พวกเราเดบิวมา มีไอดอลที่มุ่งเน้นไปในเรื่องของเสียงเพลงของพวกเค้าปรากฏตัวขึ้นในวงการมากขึ้นอย่างแน่นอน ผมไม่รู้ว่าในพวกเค้ามีกี่คนที่จะสามารถทำได้จริงๆ แต่การที่เรามีไอดอลที่สามารถเขียนเพลงออกมาได้เองจริงๆนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีนะครับ 

แต่คุณไม่รู้สึกหรอกเหรอว่าพวกเค้าต่างก็มีสไตล์ในแบบบิกแบงไม่มากก็น้อย??
G-Dragon: ผมก็คิดอยู่นะครับ ผมรู้สึกแบบนั้นมาก่อนบางทีน่าจะซักสองปีก่อนมั้งฮะ??ตอนที่ผมยังเด็กกว่านี้ ไม่ได้จะบอกว่าตัวเองอายุมากแล้วนะครับ แต่ย้อนกลับไปในตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องสไตล์หรือเรื่องเพลง ผมไม่อยากที่จะถูกจับไปรวมจำกัดเป็นหมวดหมู่ แต่ในตอนนี้ผมไม่สนใจเลยละครับจะยังไงก็ช่างเถอะ 

เวลาที่ผมมองภาพรวม และเห็นว่ามันจะสามารถสร้างอิทธิพลให้กับศิลปินรุ่นต่อไปที่จะมาต่อจากรุ่นเราแล้ว ผมคิดว่าการที่มีศิลปินจำนวนมากเป็นสิ่งที่ดีนะ จำเป็นจะต้องมีคนดีมีฝีมือมากขึ้นเพื่อที่ว่าผมก็จะได้ทำให้ดีขึ้นด้วย มีผู้คนพูดกันเยอะไปทางนั้นทีทางโน้นทีเกี่ยวกับคลื่นเพลงเกาหลี ซึ่งผมไม่เชื่อหรอกครับ 



ผมดีใจที่คุณพูดถึงเรื่องนี้นะ คุณมีความคิดยังไงเกี่ยวกับ กระแสความโด่งดังของkpop ในตอนนี้บ้าง?? สำหรับคุณคุณว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติรึเปล่า??
G-Dragon: ผมไม่คิดว่าตัวผมเองจะรู้คำตอบนะครับ ผมไม่ค่อยจะเข้าใจว่ากระแสเพลง kpop มันมีการกลไกการทำงานให้ได้ผลยังไง แต่ผมเห็นด้วยว่าเราจำเป็นจะต้องทำให้เป็นที่ยอมรับให้ได้เมื่อเรามีโอกาส แต่โชคไม่เข้าข้างเท่าไหร่นัก ที่ในเกาหลี ผมรู้สึกว่าคนบางคนก็มองเห็นแต่เรื่องของเงินเป็นใหญ่ พวกเค้าส่งศิลปินที่ยังไม่มีความพร้อมอย่างเต็มที่เข้าไปในตลาดต่างประเทศ ผมยังคงไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนั้น 

แน่นอนว่ามันก็มีทั้งส่วนดีและไม่ดีนะครับ  ที่แน่ๆมันเป็นเรื่องใหญ่นะครับที่ประเทศเล็กๆอย่างเราจะสามารถคัดสรรคนที่มีพรสวรรค์ออกมาไกลถึงอเมริกาและในยุโรปได้แบบนี้ นอกจากนี้ มันยังเป็นเหมือนกับประตูเปิดมาสู่วัฒนธรรมของเกาหลีด้วย ทั้งเรื่องของเพลง เรื่องของผู้คนและศิลปะต่างๆก็ถูกเผยแพร่ขยายออกไป ผมคิดว่านี่เป็นส่วนที่ดี ในส่วนที่ไม่ดีนั้นคือ นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของผมนะครับ การที่เห็นศิลปินที่แค่มองก็รู้สึกแล้วว่าพวกเค้าไม่ได้มีดีอะไรและด้วยท่าทางบางอย่างที่ขนาดผมยังรู้สึกอายที่จะมองดูออกมาทำงานในตลาดโลกด้วยแบบนี้ เป็นเพราะผู้คนที่นี่ยังไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวเกาหลีมาก มุมมองของพวกเค้าที่มีต่อเพลงของเราก็จะถูกจำกัดอยู่กับการกระทำที่เค้าเห็นเหล่านั้นเท่านั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่โชคร้ายจริงๆครับ 

งั้น เราเรียกจีดราก้อนว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Kpop ได้ไม๊ครับ??
G-Dragon: ผมไม่อาจจะพูดได้ว่าผมเกลียดฉายานี้นะครับเพราะสุดท้ายแล้วมันก็เป็นเพลงป็อปที่มาจากเกาหลีอยู่ดี แต่ในระยะยาว ผมไม่อยากที่จะถูกจับไปรวมกลุ่มกับชื่อนั้น ผมไม่อยากที่จะเดินทางไปต่างประเทศและถูกเหมารวมว่าอยู่ในประเภทนั้น ผมกำลังมองไปในภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น คำว่า Kpop อาจจะฟังดูดีในตอนนี้ แต่หากมองไปไกลๆชื่อนี้อาจจะเป็นตัวรั้งผมให้ล้าหลังก็ เหมือนกับคุกที่กักขังและจำกัดประเภทเรา ผมค่อนข้างที่จะระมัดระวังในเรื่องนี้ครับ

คุณเริ่มจากการเป็นแร๊พเปอร์ ต่อมาก็กลายมาเป็นนักร้องไอดอล และตอนนี้คุณเป็นศิลปินเต็มขั้น ชื่อไหนที่คุณชอบมากกว่ากันครับ
G-Dragon: ผมชอบที่จะเป็นแร๊พเปอร์มาโดยตลอดครับ ผมชอบที่คนจะจดจำผมในฐานะแร๊พเปอร์ จะเป็นเพราะวิธีใดก็ตามไปๆมาๆผมก็มาจบลงที่การร้องเพลงเหมือนกัน คือ ผมสนุกมีความสุขที่ได้้ร้องเพลง แต่รากฐานของผมจริงๆแล้วคือการแร๊พคือฮิบฮอบ ดังนั้นผมขอเลือกแร๊พเปอร์ครับ (หัวเราะ) 

ในตอนนี้ถือว่าคุณได้ประสบความสำเร็จขั้นนึงแล้วในฐานะศิลปินเดี่ยว คุณเคยคิดรึเปล่าว่าจะแยกตัวออกมาและเริ่มสร้างสังกัดของตัวเองขึ้นมา?? 
G-Dragon: ผมอยู่ที่วายจีมาตั้งแต่ผมเป็นเด็ก ดังนั้นผมไม่เคยคิดถึงที่อื่นเลยนอกจากที่นี่ ผมคิดว่าที่วายจีมีสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับนักดนตรี ผมได้พบศิลปินชาวอเมริกันมามากมาย และพบเจอศิลปินจากในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มามาก ผมคิดว่าไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนก็ไม่มีที่ใดที่จะเหมือนกับที่วายจีอีกแล้ว

ที่นี่มอบแรงสนับสนุนอย่างเต็มที่ ไม่มียั้งในเรื่องของการช่วยเหลือที่จะมอบให้แก่ศิลปินที่ต้องการที่จะทำเพลง เป็นเพราะเราสามารถที่จะทำหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างออกไปได้โดยที่ไม่ต้องห่วงในเรื่องของเงิน มันเยี่ยมไปเลยครับ อีกอย่างผมไม่เคยคิดถึงเรื่องการสร้างสังกัดของตัวเองเลย หรือว่าผมยังไม่มีความมั่นใจในตอนนี้ก็ไม่รู้ ผมไม่เคยทำมันได้เลย ผมคิดว่านักธุรกิจนั้นถูกแยกชัดเจนจากศิลปิน พวกเค้าเดินกันคนละเส้นทาง ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้เยี่ยมที่สุดในตอนที่พวกเค้าสนุกกับงานนั้นและนักธุรกิจที่ดีมีหน้าที่คอยสนับสนุนพวกเค้าอยู่ข้างๆ แบบนี้เป็นการสร้างระบบการทำงานร่วมกันที่ยอดเยี่ยม หากมีใครพยายามที่จะทำทั้งสองอย่างนี้ไปพร้อมๆกัน ผมคิดว่าเพลงที่ออกมาก็จะแย่และในเรื่องของธุรกิจก็แย่ไปด้วยครับ 

คุณเคยรู้สึกรึเปล่าว่าตลาดเพลงเกาหลีนั้นมีเรื่องจุกจิกเยอะแยะและข้อบังคับมากทีเดียว?? ไม่ว่าจะเป็นกัญชาหรือเรื่องการทำเพลงโดยใช้ sampling เรื่องเหล่านี้ไม่มีผลใดๆทั้งนั้นหากเป็นที่อเมริกา
G-Dragon: ผมคงไม่พูดว่ามันเป็นเรื่องที่เยอะและจุกจิกหรอกครับ คือ แน่นอนว่ามีช่วงเวลาที่ผมคิดแบบนั้นและมีช่วงเวลาที่ผมไม่เข้าใจ แต่วัฒนธรรมที่เรามีนั้นมีเพื่อให้สังคมดีขึ้น และ ก็นะผมเป็นชาวเกาหลีนะครับ (หัวเราะ) คือ ถ้าคุณอยู่ในโรม คุณก็ต้องมีวิถีชีวิตในแบบของกรุงโรม แต่ผมเติบโตที่เกาหลี ผมเกิดที่นั่น ดังนั้นผมก็ควรปฏิบิตตามข้อควรปฎิบัติของที่นั่นคือการใช้ชีวิตในแบบคนเกาหลี และผมก็รักเกาหลีมากๆครับ ผมเติบโตมากับการฟังเพลงเกาหลี และสามารถกลับมาในที่ที่เป็นตัวผม แน่นอนว่ามีช่วงเวลาที่ผมไม่พอใจ แต่ผมก็ได้รับมามากและได้เรียนรู้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ผมคิดว่ามันจะดีขึ้นเรื่อยๆนะครับมีคนมากมายและรวมทั้งตัวผมเองด้วยที่พยายามจะริเริ่มสิ่งใหม่ๆในเรื่องของขนบธรรมเนียมของเราและจะทำให้มันก้าวหน้าไปครับ  

source: XXL
Thai Translaton by mew 

============================

สามารถอ่านตอนแรกได้ที่นี่ค่ะ
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2012/12/g-dragon-xxl-1.html 

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สัมภาษณ์ G-dragon จาก XXL ( ตอนที่1)

แร๊พเปอร์ชาวเกาหลี จีดราก้อน พูดถึงเรื่องกระแส Kpop ,ซิงเกิลใหม่ และข่าวอื้อฉาวในอดีต

จีดราก้อนแห่งวงบิกแบงได้เข้าสู่วงการเพลงด้วยการตอบโจทย์เป็น Bow wow ตัวจิ๋วในเวอร์ชั่นเกาหลี ในตอนนี้จีดราก้อนวัย 24 ปี ได้รับฉายาว่าเป็นดาวรุ่งที่อนาคตไกลตั้งแต่อายุยังน้อย ภายใต้การดูแลของค่ายที่ทำเพลงฮิบฮอบค่ายใหญ่ของวงการเกาหลีอย่าง Yg Entertainment ควอนไปโผล่ในเพลงชื่อดังต่างๆของค่ายตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เมื่อเค้าเดบิวอย่างเป็นทางการเป็นหนึ่งในวงบอยแบรนท์ BigBang จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจไม่น้อย  ผลที่ได้ แม้ว่าจะมีช่วงที่สะดุดอยู่บ้าง ในฐานะวงนักร้อง 5 คนที่มากับกระแส kpop ที่แผ่กระจายไปทั่วเอเซีย ด้วยเพลงที่จีดราก้อนเขียนและแต่งเอง  (“Last Farewell” และ Lies”) ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ อัลบั้มเดี่ยวของเค้า Heartbreaker ที่ออกมาในปี 2009 ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความรุ่งเรืองของเค้าให้ก้าวไปสู่การเป็นคนดังที่มีอิทธิพลต่อเยาวชนมากที่สุดของประเทศเกาหลี เสื้อผ้าที่เค้าสวมใส่กลายเป็นของยอดฮิต ในขณะที่แสดงออกตรงกันข้ามกับสไตล์ดนตรีที่มีรากฐานที่แข็งแกร่งของเค้า นอกจากนี้เค้ายัง มีภาพลักษณ์ไม่เหมือนกับไอดอลส่วนใหญ่ของเกาหลีที่มีภาพลักษณ์สะอาดหมดจด

จีดราก้อนเข้าไปพัวพันกับข่าวอื้อฉาว ( มีเรื่องสูบกัญชาและเรื่องที่เค้าคัดลอกผลงานของศิลปินต่างชาติ) นี่เค้าเป็น Kanye west แห่งวงการเพลงเกาหลีหรอกเหรอ?? จริงๆคำพูดนี้ก็ไม่ได้พูดเกินเลยซักนิด 

ด้วยซิงเกิลล่าสุด One of a kind ที่สร้างเสียงตอบรับได้ท่วมท้นกว่าผลงานใดๆของศิลปินKpop ที่ออกผลงานมาในปีนี้  ความสำเร็จเหล่านี้ล้วนมาจากตัวเค้าเองทั้งนั้น ในช่วงที่บิกแบงมีทัวร์คอนเสริต์ที่นิวยอร์เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทาง XXL ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ ไอดอลศิลปินแร๊พเปอร์ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากเกาหลีคนนี้ 

บทความและสัมภาษณ์โดย Jaeki Cho 



เริ่มแรกเลยคุณรู้จักกับเพลงแร๊พและเพลง hiphop ได้ยังไงครับ??
G-Dragon: ในตอนนั้นผมอายุประมาณ 9 ขวบครับเป็นครั้งแรกที่ผมได้ฟังเพลง“C.R.E.A.M.” ของ Wu-Tang ก่อนหน้านั้นผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการแร๊พและเพลง hiphop เลย ผมแค่หลงใหลอยู่ในวงการเพลงป็อปของเกาหลีเท่านั้นเอง คือก่อนที่จะมีปรากฏการณ์K-pop นะครับ ผมแค่ฟังเพลงที่เป็นเพลงตลาดทั่วๆไปในประเทศเกาหลีและผมก็จะเต้นตาม ผมไม่ได้มีแรงบันดาลใจหรือความใฝ่ฝันที่จะร้องแร๊พหรือว่าอะไรเลย ผมแค่ชอบการเต้นผมจึงทำแบบนั้น มีบางทีที่ผมจะร้องแร๊พไปตามศิลปินแร๊พชาวเกาหลีบ้าง 

จากนั้นเพื่อนของผมได้แนะนำให้ผมรู้จักกับ Wu tang และเปิดอัลบั้ม  Enter the 36th Chambers. ให้ผมฟัง มันทำให้ผมช็อคไปเลยครับ จากนั้นผมก็เริ่มที่จะหาอัลบั้มอื่นๆมาฟังด้วย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ยังไม่มีอินเตอร์เนท ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหาเพลงมาฟังและยิ่งยากเข้าไปอีกถ้าจะหามิวสิควีดีโอมาดู ดังนั้นผมจึงค่อยๆหาดูไปทีละเล็กทีน้อย หากผมเจอมิวสิควีดีโอ ผมจะดูมันซ้ำแล้วซ้ำอีก และจากนั้นเมื่อผมอยู่ ป.5 ผมเริ่มที่จะเขียนท่อนแร๊พท่อนแรกของตัวเองครับ มันห่วยมากเลยแต่ผมก็ยังเขียน (หัวเราะ) จากนั้นผมก็เริ่มที่จะฟังเพลงแร๊พของเกาหลีมากกว่าเพลงป็อป ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นแนวเพลงที่ไม่ค่อยแพร่พลายเป็นแค่แนวเพลงใต้ดินในขณะนั้นฮะ 

คุณเดบิวตั้งแต่อายุยังน้อยมาก คุณเป็นส่วนหนึ่งของอัลบั้มฮิบฮอบรวมเพลงแร๊พ ที่มีชื่อว่า Hip-Hop Flex ในปี 2001ด้วยนี่ครับ
G-Dragon: ตอนนั้นมีการรวมตัวของคนที่ชอบ Hiphop กันในนาม People Crew ครับ ตอนนั้นในเกาหลีไม่มีที่ไหนเลยที่จะทำเพลงแร๊พออกมาดังนั้น peoplecrewจึงเป็นเจ้าภาพจัดโปรแกรมในช่วงฤดูร้อนสอนร้องแร๊พและสอนเต้น ผมขอร้องคุณแม่ของผมให้พาผมไปลงเรียนเพื่อที่จะได้เรียนร้องแร๊พ และจากพี่ๆใน PeopleCrew พวกเ้ค้าชมผมว่าร้องได้ดี พวกเค้าแนะนำผมให้กับคุณ  Lee Hee-sung ซึ่งเป็นหัวหน้าวงแร๊พที่มีชื่อว่า X-Teen ในตอนนั้น Bow Wow ดังมากครับ ผมคิดว่าคุณ  Hee-sung คงคิดว่าเกาหลีคงอยากได้ BowWow ตัวจิ๋วในแบบเกาหลีบ้าง และคิดว่าตัวเค้าเองก็คงอยากจะเป็นเหมือน Jermaine Dupri(หัวเราะ) ดังนั้นผมจึงได้เข้าไปมีส่วนร่วมในอัลบั้ม Hip-Hop Flex ในปี 2001 และนั่นทำให้ผมกลายเป็นหัวข้อให้เขียนถึงว่าเป็นแร๊พเปอร์ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศ ทางวายจี เอนเตอร์เทนเม้นซ์ เห็นเข้าและตัดสินใจที่จะรับผมเข้ามาในค่ายครับ

ดังนั้น จริงๆแล้วคุณอยากจะเป็นแร๊พเปอร์สินะครับ งั้นคุณมีปฏิกริยายังไงเมื่อรู้ว่าตัวเองจะต้องเดบิวมาเป็นสมาชิกคนนึงในวงบอยแบรนด์??? 
G-Dragon: ในตอนแรกผมไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นครับ ผมไม่เข้าใจมันเลย ผมและแทยังเป็นเด็กฝึกที่วายจีมานานมากแล้ว ดังนั้นเราคิดๆกันว่าเราคงได้เดบิวในฐานะคู่ดูโอฮิบฮอบ หรืออะไรประมาณนั้น จากนั้นทางค่ายกลับตัดสินใจที่จะหาสมาชิกในวงอีก 3 คนและมีแผนว่าจะเดบิวเราในฐานะวงไอดอล ผมไม่พอใจในเรื่องนั้นเท่าไหร่ จริงๆผมเกลียดมันเลยละครับ ผมรู้จัก ท็อปตั้งแต่ยังเด็กดังนั้นเราจึงเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่ผมไม่รู้จักสมาชิกในวงอีกสองคนที่เหลือเลย 

เราไม่รู้ว่าเราควรจะต้องทำยังไง ดังนั้นเราจึงเอาแต่ฝึกท่าเต้นทุกวันๆ ผมไม่รู้จริงๆว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ ด้วยตัวยี่ห้อที่ติดกับวายจีมา ถ้าค่ายนี้จะทำวงบอยแบรนด์พวกเค้าจะไม่ทำเพลงป็อปใสๆฮิตตามตลาดอยู่แล้ว และเป็นเพราะรากฐานจริงๆของค่ายทำเพลงฮิบฮอบ ผมจึงเชื่อใจแนวทางของทางค่าย ซึ่งมันก็เป็นไปด้วยดีและผมก็พอใจมากเลยครับตอนนี้

คุณว่าบิกแบงแตกต่างจากวงไอดอล K-pop วงอื่นยังไงบ้างครับ?? 
G-Dragon: ในตอนนี้ ในเรื่องของดนตรีของวงไอดอลนั้นพัฒนาไปมากนะครับ คือ จริงอยู่ที่ยังมีส่วนน้อยที่พวกเค้าจะทำเพลงเองหรือเขียนเพลงเอง แต่ในฐานะที่เราก็เป็นวงkpopไอดอล  ในตอนนั้นที่เราเดบิวเราเป็นเพียงวงเดียวที่ทำเพลงเองและเขียนเพลงเอง ผมคิดว่าเราเป็นวงแรกที่ทำแบบนั้น ดังนั้นถ้าจะให้ผมบอกถึงความแตกต่างชัดๆลงไป ผมว่าเป็นเพราะสมาชิกในวงของเราเขียนเพลงกันเองในเมื่อเราทำเพลงออกมาด้วยตัวของเราเอง เราก็สามารถเข้าใจและมีความพอใจมากกว่าเมื่อเราขึ้นแสดงบนเวที เรารู้ว่าเราเก่งในด้านไหน มันไม่เหมือนกับการที่มีคนหยิบยื่นเพลงมาให้ร้อง เรากำลังทำในสิ่งที่เราชอบที่จะทำ ดังนั้นมันจึงเป็นการช่วยให้พวกเราได้สร้างโลกของตัวเองขึ้นมาให้เหนียวแน่นมากกว่าเดิมอีก  ในทางดนตรีแล้ว เสียงเพลงนั้นจำเป็นต้องมีการร่วมมือร่วมใจเป็นเพราะเราเขียนเพลงของเราเองเราสามารถที่จะบรรยายความคิดความรู้สึกที่เรามีลงไปในเพลงได้ดีมากกว่า แทนที่จะให้คนอื่นมาคอยแปลความรู้สึกนั้นให้ครับ 

ผมได้ยินมาจาก Choice 37 (โปรดิวเซอร์ประจำค่าย YG) ว่าคุณมักหยิบเพลงขึ้นมาปรับแต่งและจัดการกับเพลงเพื่อให้มันเข้ากับภาพที่คุณอยากได้มากที่สุด ช่วยอธิบายถึงการเขียนเพลงของคุณและกระบวนการทำงานของคุณให้เราได้ฟังหน่อยได้ไม๊ครับ 
G-Dragon: ตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็ก หนึ่งในงานที่ผมได้รับมอบหมายให้ทำจากวายจีคือการเขียนเพลงไปส่งครับ ในตอนที่ผมอยู่ชั้นมัธยมเค้าจะบอกให้ผมเขียนให้ได้หนึ่งเพลงภายในหนึ่งอาทิตย์ ซึ่งในตอนนั้นจะเป็นการใส่จังหวะและเนื้อเพลงที่เขียนเองลงไปในทำนองที่มาจากเพลงของชาวอเมริกัน ผมทำแบบนั้นอยู่เป็นปี 

จากนั้นระยะเวลาที่กำหนดให้จะสั้นลงอีก ผมถูกสั่งให้เขียนเพลงใหม่ทุกๆสามวัน และจากนั้นก็กลายเป็นทุกๆสองวัน และ กลายเป็นทุกวัน เป็นเพราะผมถูกเทรนให้ทำแบบนั้นเป็นเวลานาน การที่จะต้องเขียนเพลงให้ได้ทุกวันนั้นกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับผม มันกลายเป็นเหมือนกับงานอดิเรกไป และเหนือสิ่งอื่นใดเลยผมได้ระบบที่ยอดเยี่ยมที่คอยสนับสนุนผมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นพี่เท็ดดี้ หรือ ตอนนี้มี Choice พวกเค้าได้สร้างงานมากมายและจัดการในส่วนของพื้นฐานให้กับผม ผมอยากจะพูดว่าพวกเค้าได้ทำงานส่วนใหญ่ในเพลงไปแล้วและทำงานหนักกว่าผม และตัวผมแค่มาตรวจสอบให้มันเข้าที่เข้าทางครับ 



มิวสิควีดีโอเพลง “One of a Kind,” และ “Crayon” ได้รับเสียงฮือฮามากมายในเรื่องของภาพที่ปรากฏออกมา ใครเป็นผู้กำกับนะครับ คุณ  Suh Hyun-seungใช่ไม๊? คุณใส่ความคิดสร้างสรรค์ของคุณลงไปมากน้อยแค่ไหนครับ??
G-Dragon: คุณ Suh Hyun-seung เป็นคนที่ บ้าบอขนานใหญ่จริงๆครับ เค้าเป็นพวกนอกคอกอย่างแท้จริง คล้ายๆกับเป็นพวก โอตากุ เค้าไม่ค่อยออกไปสังคมกับใคร ไม่ค่อยได้พบเจอกับคนหมู่มาก เค้าเป็นคนที่ไม่ถูกจูงด้วยเงิน หากจะให้เค้าถ่ายมิวสิควีดีโอให้ เค้าจะฟังเพลงนั้นก่อน ถ้าเค้าชอบเค้าถึงลงมือจะทำให้ เค้าจำเป็นต้องมีภาพในหัวและเค้าต้องมองเห็นสิ่งที่เชื่อมโยงในเพลงกับศิลปิน ผมรู้สึกว่ามีศิลปินมากมายอยากที่จะทำงานกับเค้ามาก แต่ถึงจะต้องการตัวเค้าไปทำงานแค่ไหน พวกเค้าก็ไม่สามารถทำได้ พี่เค้าจะเป็นประเภทที่ว่าถ้าเค้าฟังเพลงของคุณแล้วและเค้าไม่ชอบ เค้าจะไม่ตอบกลับคุณเลย โชคดีที่เค้าชอบเพลงที่บริษัทของผมทำออกมา และในช่วงที่ทำงานเราพบกันทุกๆวันเลยครับ เค้ามีห้องตัดต่อส่วนตัวอยู่ที่ตึกวายจี

และเมื่อคุณคิดถึงว่ามันเป็นเรื่องงานแล้ว ผมรู้สึกว่ามันต้องไม่ใช่อะไรที่จะออกมาตามที่คิดต้องการไปหมดทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพลง ดนตรี แฟชั่น หรือ มิวสิควีดีโอ คุณต้องสบายๆ ดูวีดีโอตลกๆ พูดคุยกันว่าแบบนั้นดูจะเป็นไอเดียที่เข้าท่าไม๊ แบบนั้นมากกว่า ผมใส่ใจมากกับความกลมกลืนและความสนุกในมิวสิควีดีโอของผม ผมพยายามอย่างเต็มที่ที่จะใส่ใจในทุกรายละเอียดเท่าที่จะเป็นไปได้ คร่าวๆเช่น หากผู้คนคอยคิดแต่จะแปลเนื้อเพลงออกมาตรงๆ เราก็จะคิดภาพที่หักมุมออกมาเพื่อที่สร้างความหมายที่ลึกซึ้งมากขึ้นออกมา ดังนั้นเวลาที่ผู้คนมาดู พวกเค้าก็จะพูดกันว่า " โอ้ นี่น่าสนใจทีเดียวนะมันตีความหมายออกมาแตกต่างได้อีกจริงๆ" แทนที่จะทำมิวสิควีดีโอที่ควรค่าแก่การดู เราพยายามที่จะทำบางอย่างที่สามารถแสดงออกถึงคุณค่าออกมาได้แทน 

มิวสิควีดีโอในงานเดี่ยวของคุณแตกต่างไปจากของวงยังไงครับ?? 
G-Dragon: ในตอนที่เราทำมิวสิควีดีโอให้บิกแบง เป็นเพราะบิกแบงนั้นยังเป็นวงที่เข้ากับกระแสหลักมากกว่างานเดี่ยวของผม เราจึงตั้งใจที่จะมุ่งสมาธิไปยังการขยายขอบเขตของผู้ฟังให้มากขึ้น ในตอนที่ผมทำงานในโปรเจคงานเดี่ยวของตัวเอง ผมแค่ทำในสิ่งที่ผมต้องการอยากจะทำ ผมสามารถที่จะตลกและแปลกแตกต่างได้ ภาพลักษณ์ของผมก็ไม่ได้ขาวสะอาดหมดจดอยู่แล้ว ดังนั้นในงานเดี่ยวผมพยายามที่จะเล่นสนุกกับตรงนี้ ทุกๆเพลงในอัลบั้มนี้ต่างก็แตกต่างกันไป ดังนั้นผู้กำกับและผมต่างก็พยายามที่จะดึงเอาจุดที่แตกต่างกันนั้นออกมาให้ได้มากที่สุด

เพลง “That XX,” ให้ความรู้สึกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวมากเลยนะครับ มาจากเรื่องในชีวิตจริงของคุณรึเปล่า?
G-Dragon: ทุกเพลงที่ผมเขียน คือ ก็แน่อยู่แล้วครับ บางท่อนบางตอนมันเหมือนกับผสมเข้ากับนิยายหรือเรื่องที่แต่งขึ้นมา แต่ผมพยายามที่จะเขียนเรื่องราวของตัวเองลงไปในส่วนใหญ่ของเพลงครับ ผมไม่อาจจะพูดได้ว่าผมเคยผ่านเหตุการณ์ที่เหมือนกับในเนื้อเพลงตรงๆทุกตอน แต่ผมเคยผ่านความรู้สึกแบบที่มีในเพลง และผมยังจำมันได้ดี และผมก็ทำเพลงนี้ออกมา

อ่า โชคไม่ดีนะครับ
G-Dragon: ผมก็ห่วยแตกได้นะครับ (หัวเราะ) 

แล้วตอนนี้ห่วยแตกอยู่ไม๊??
G-Dragon: ตอนนี้เหรอครับ?? อาจจะไม่แล้วละ แต่ตอนที่ยังเด็ก ไม่ใช่แค่เพราะคุณชอบใครคนนึงนั่นจะหมายความว่าเธอจะสามารถอยู่กับคุณได้ ผมมีประสบการณ์มามากฮะในตอนที่อารมณ์ยังไม่คงที่ (หัวเราะ) ในตอนที่ผมร้องท่อนแร๊พ ผมสามารถที่จะแร๊พเกี่ยวกับสาวโฉดได้ แต่เวลาที่ผมร้องเพลงรักผมต้องการให้มันคร่ำครวญ แลดูเป็นคนโง่เป็นผู้แพ้ อยากให้เป็นแบบนั้น ผมคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าเขียนออกมาแบบนั้น มันเป็นอารมณ์อย่างหนึ่งของเพลงบัลลาร์ดในแบบเกาหลีครับ

source: XXL 
Thai translation by mew 

ซึงจังไดอารี่ 10 ธันวาคม 2012


[ในมุมมืดของแสงสว่าง]

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของคอนเสริต์ที่ฮ่องกงแล้วครับ 
ความจริงข้อนี้ทำให้ผมค่อนข้างเศร้า

ผมเดินทางไปที่นั่น ที่ที่เราจะใช้แสดงคอนเสริต์
ทันทีที่ผมไปถึง....ผมจินตนาการถึงแฟนๆที่จะมาดู
มองไปรอบๆ.......จากนั้น 
ทีมงานคนนึงก็พูดกับผมว่า "สวัสดีครับซึงรี ^^"...."อ่าา สวัสดีครับ" 
"ซึงรีผมรู้สึกดีใจมากเลยที่ได้ทำงานกับบิกแบงนะ" "ขอบคุณครับ"
ผมไม่ได้พูดคุยกับเค้าอีกเลยจากนั้นครับ 
เค้าดูเหมือนว่าจะมาพูดให้กำลังใจกับผม

เวลาที่ทีมงานจะมาพูดคุยกับศิลปินนั้นมีไม่มากหรอกครับ....ครับ...น่าจะนะ
เรารออยู่ที่ห้องคอยจนถึงเวลาที่เราจะต้องออกไปยืนบนเวที 
ดังนั้นเราไม่ค่อยรู้กันเลยว่าทีมงานนั้นต้องทำอะไรบ้าง 
ผมได้ถามตากล้องคนที่ถ่ายเราในช่วงซ้อมมาบ้าง
และคิดว่า....มีคนมากมายเหลือเกินที่ทำงานร่วมกับเรา
ผมคำนวณแล้วว่ายังต้องมีคนอีกมากมายกว่าที่เห็นในรูปนี้อีก 
ผมขอบคุณ.... ทุกคนที่ร่วมทำงานให้บิกแบง 
ผมรู้สึกขอบคุณทุกคนครับ 

แฟนๆครับ
มีคนมากมายเลยที่ต่างก็ทำงานหนักกว่าเรา
อยู่เบื้องหลังเวทีที่เรายืนอยู่นี้
กรุณาอย่าลืมงานหนักที่พวกเค้าได้ทำลงไปนะครับ 
เพื่อเห็นถึงความหมายของความพยายามที่พวกเค้าทำ 
สู้ๆนะ ซึงจัง

Eng translated by ShrimpLJY
Thai Translation by mew 
photo credit to BIGBANG的小小饭GS



วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 9 ธันวาคม 2012


[ฮ่องกง ฮ่องกง ฮ่องกง ฮ่องกง]

ที่นี่คือ ฮ่องกงครับ
ภายในปีนี้ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วครับที่เรามาที่ฮ่องกงนี้
ดูเหมือนว่าบิกแบงจะโด่งดังมากเลยครับที่นี่
จริงๆจะมีคอนเสริต์เพียงรอบเดียว
แต่นี่เราเพิ่มไปอีกถึง 2 รอบ รวมทั้งหมดเป็น 3 รอบ 
เยี่ยมไปเลยใช่ไม๊ครับ??

ผู้คนจากทั่วโลกต่างมาช้อปปิ้งที่ฮ่องกง
เป็นเพราะที่นี่มียี่ห้อมากมายที่ขายของหลายๆอย่าง
ไม่ว่าจะตรงโน่นตรงนี้ทุกคนต่างต้องถือถุงช้อปปิ้ง
ที่หน้าร้าน Chanel และ Gucci คนก็ไปต่อคิวอยู่หน้าร้าน

ผมก็อยากจะไปช้อปปิ้งนะครับ
แต่ว่าผมใช้เงินไปเยอะมากที่ ลาสเวกัส และที่ลอสแองเจิลลิส
ผมไม่อยากจะทำให้คุณแม่โมโห เพราะผมเป็นลูกชายที่แสนดี  wwwwww

มีนักแสดงชื่อดังมาดูคอนเสริต์เราในวันนี้ด้วยครับ
ผมคาดหวัง คาดหวัง คาดหวัง นะครับ
ผมจะทำให้ดีที่สุดเหมือนเช่นเคยครับ
พวกเรา สู้ๆๆ 

Japnese to Korean translation by: hmilbori
Korean to English translation by: ShrimpLJY
English to Thai Translation by :mew 

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 7 ธันวาคม 2012

[ยิ่งหนาวเท่าไหร่ก็ยิ่งร้อนแรงมากขึ้นเท่านั้น]

นี่เป็นฤดูหนาวครับ
เป็นฤดูหนาวแน่นอนแล้วจริงๆ
ในตอนที่ผมเริ่มต้นเขียนไดอารี่นี้ อากาศร้อนมากๆเลยครับ
แต่ตอนนี้เป็นฤดูหนาวที่มีลมหนาวพัดมาแล้ว
นั่นหมายความว่า คุณ ที่อ่านไดอารี่ของผม และตัวผม
เราได้อยู่ด้วยกันทั้งในช่วงฤดูร้อนที่ร้อนแรงและในช่วงฤดูหนาว 

การแสดงคอนเสริต์ที่ โตเกียว โดม ที่ผมเฝ้ารอให้มาถึงนั้นประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ 
ผมจะเก็บความทรงจำนี้เอาไว้ในกระเป๋า 
เมื่อรู้สึกเสียใจและเศร้าผมจะเอาความทรงจำนี้ออกมาใช้
เมื่อผมนึกถึงความทรงจำนี้เมื่อไหร่ ผมก็จะได้รับพลัง 
สำหรับญี่ปุ่นผมมักจะรู้สึกขอบคุณเสมอ 
แต่ตอนนี้ผมมาอยู่ที่ฮ่องกงอีกแล้วครับ 
ผมมักจะ บินไปที่โน่นที่นี่เสมอ ^^

ที่ฮ่องกง เราได้วางแผนว่าจะมีคอนเสริต์ทีเดียวสามรอบรวด
ผมจำเป็นจะต้องทำให้ตัวเองสดใสอีกครั้งจากความเหนื่อยล้า 
ผมเฝ้ารอปฏิกริยาตอบรับจากแฟนๆที่นี่ด้วยนะครับ  ..^__^

ดูเหมือนว่าวันนี้ที่ญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวอีกแล้ว
ทุกคนปลอดภัยกันใช่ไม๊ครับ??
ผมรู้สึกเป็นห่วงมาก
หวังว่าจะไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นนะครับ 

Japan to english by 0401rurutic
Thai Translation by mew
additional part Japanese to Korean by hmilbori
additional part korean to english by  ShrimpLJY

[ไดอารี่วันนี้ไม่ได้แนบรูปมานะคะ โพสเฉยๆ]

วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 5 ธันวาคม 2012


[การแสดงในฝัน]

การแสดงสดที่โตเกียวโดมวันนี้....... วิเศษสุดครับ
ผมมีความรู้สึกว่าได้เป็นหนึ่งในคน 50 000 คนครับ
ความทรงจำนี้จะไม่สามารถลืมเลือนไปจากใจได้ครับ 
ขอบคุณครับ โตเกียว 
ผมจะพยายามให้ดีที่สุดเพื่ออนาคต 
สำหรับวันนี้ ทุกอย่างดีมากจริงๆ 

Japan to korean translation by hmilbori  
Korean to English translation by xxxseungri
English to Thai translation by mew 

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 4 ธันวาคม 2012

[ผมกลับมาแล้ว ^^]

สวัสดียามค่ำครับ โตเกียว
สบายดีกันไม๊ครับ?? โตเกียวของผม คุณยังคงสวยเสมอเลยนะครับ
ใกล้จะถึงวันคริสมาสเข้ามาทุกที ตามท้องถนนมีการติดไฟสว่างไสว
การประดับตบแต่งแบบนี้มักทำให้คนมีความรู้สึกตื่นเต้นนะครับ ^ ^

พรุ่งนี้จุดมุ่งหมายของผมก็เป็นจริงแล้วละครับ
คือการได้แสดงคอนเสริต์ที่โตเกียวโดม 


เมื่อ 4 ปีก่อน ที่ฮอลล์ JCB ข้างๆโตเกียวโดม
เราได้จัดแสดงคอนเสริต์ต่อหน้าผู้ชมประมาณ 2000 คน
ในขณะที่ในวันเดียวกันเลย XJapan กำลังแสดงคอนเสริต์ในโตเกียวโดม


ครั้งนั้นเราต่างก็คิดว่า วันนึงเราจะสามารถแสดงคอนเสริต์ที่โตเกียวโดมได้บ้าง
แน่นอนเราประกาศออกไปแบบนั้นในวันนั้น และวันนี้เราได้ทำให้มันเป็นจริงแล้ว
เยี่ยมไปเลยใช่ไม๊ครับ??
พรุ่งนี้ต่อหน้าผู้ชม 55000 คน เราจะสนองความคาดหวังที่ทุกคนมีต่อเราอย่างดีเลยครับ


คุณรู้ไม๊ครับว่าทำไม??เพราะเราชอบโตเกียวมากจริงๆ

พรุ่งนี้ต่อหน้าคน 55000 คน 
เราทั้ง 5 คนสมาชิกวงบิกแบง 
ในที่สุดเราก็จะได้เห็นความฝันของเราเป็นจริงขึ้นมาแล้ว 
มันจะต้องเป็นโชว์ที่น่าจดจำอย่างแน่นอน 
พรุ่งนี้ เรามาสนุกกันให้สุดเหวี่ยงด้วยกันนะครับ  ^^

Source: 饺子石头剪子布X_gs
chinese Translation by: mspinkmint@tumblr 
Thai Translation by mew  

[ไดอารี่วันนี้ไม่ได้แนบรูปมานะคะ โพสเฉยๆ]

วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 2 ธันวาคม 2012


[ความคิดของผม , เพื่อนของผม ]

วันนี้ผมได้พบกับสมาชิกวง KARA ที่ผมไม่ได้เจอนานเลยละครับ ฮาร่าจัง ^^
ตอนที่เจอกันเราต่างก็พูดกันว่า นี่เป็นโอกาสที่หายากที่เราทั้งคู่จะว่างและมาพบกันได้
วันนี้เราทานอาหารค่ำด้วยกัน จากนั้นก็ไปร้านกาแฟ และพูดคุยกันเยอะมาก

ฮาร่าเป็นเพื่อนจากที่บ้านเกิดครับ เราเป็นเพื่อนกันมาได้ 10 ปีแล้ว
ในตอนนั้นเราถูกฝึกด้วยกัน ในที่เดียวกันในขณะที่ก็ร่วมแบ่งปันความฝันเดียวกันด้วย
ผมพบฮาร่าตอนอายุ 14 ครับตอนนี้ เวลาผ่านไปเป็น 10 ปีแล้ว
เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ

ทุกๆ 3 ปีผมจะมาพบกับฮาร่าอย่างลับๆครับ เพราะเราต่างก็ยุ่งกันมาก
"เรามาถึงตรงนี้ได้ยังไงกันเนี่ย?? เราเยี่ยมมากเลยใช่ไม๊?? ^^"

ในตอนนี้ ผมและฮาร่าต่างก็ แสดงความสามารถของเราในวงบิกแบง และวง คารา
แม้แต่ในประเทศญี่ปุ่น คารานั้นโด่งดังมากนะครับ
เวลาที่ผมเข้าไปในร้านสะดวกซื้อและเห็นขนมที่มีรูป ฮาร่าติดอยู่
ผมจะมีความรู้สึกว่า เธอนี่เจ๋งมากเลย ผมรู้สึกอิจฉามากก wwwwwwww

ตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก เรามีความฝันเหมือนกัน และคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
เมื่อมองพวกเราในตอนนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าน่าสนใจทีเดียวนะครับ
และผมก็มีความสุขมากๆเช่นกัน 

เมื่อก่อน ฮาร่าจะเป็นคนที่ขี้อายต่อหน้าคนแปลกหน้า ดังนั้นเธอจึงจะเงียบมากเสมอ 
แต่เป็นเพราะเธอกลายมาเป็นศิลปินแล้ว ตอนนี้เธอค่อยๆ พริ้วไปได้เรื่อยๆ ^^
และ ฮาร่าจังมีพัฒนาการที่รวดเร็วมากด้วย โอ้ ม่ายยยยย   wwwwwww
เราไม่ได้เจอกันเป็นเวลานาน มันดีจริงๆที่เราสามารถมาเจอกันได้ 
เราไม่ได้คุยกันแต่เรื่องงานนะครับ แต่เราพูดคุยกันในเรื่องส่วนตัวด้วย 

ระหว่างผมกับฮาร่าเราไม่มีความลับระหว่างกันครับ  
เพราะ ฮาร่าเป็นเพื่อนที่ผมไว้ใจ 
จากแรงจูงใจที่ผมได้จากฮาร่าในวันนี้ ผมรู้สึกว่าผมควรจะต้องทำงานให้หนักขึ้นในวันพรุ่งนี้ 

ฮาร่าจัง เป็นเพื่อนแท้จริงๆ   ^^
เหมือนกับที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เราต่างทำงานอย่างหนัก 
เริ่มจากนี้ไป ช่วยสนับสนุนเราด้วยครับ ฮาร่าจัง 

English Translation by. Mspinkmint @ tumblr 
Thai Translation by mew


สัมภาษณ์จีดราก้อนจากนิตยสาร K&Magazine (part3)


Q17) การได้ออกมาทำงานเดี่ยวนั้นมันดีตรงไหนครับ??
GD: ผมสามารถที่จะทำแต่ในสิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้นครับ ในตอนที่ผมทำงานในนามของบิกแบง เป็นเพราะผมต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของเราทั้งกลุ่ม ผมไม่สามารถสวมใส่เสื้อผ้าที่ผมอยากจะใส่สวมมากกว่าได้ มันจะไม่ดีต่อวงถ้ามีคนคนนึงในกลุ่มที่แตกต่างไปจากคนอื่นๆในวงครับ

ในตอนที่ผมทำงานเดี่ยวของตัวเอง ไม่มีข้อจำกัดแบบนั้นเลย ผมเลยลองสไตล์แปลกๆใหม่ๆหลายอย่างเลยครับ นอกจากผมจะมีโอกาสได้ลองสวมเสื้อผ้าที่ผมอยากจะลองสวมแล้ว ผมยังลองท้าทายตัวเองด้วยการทำงานเพลงในแบบที่ผมต้องการอีกด้วย ผมสามารถทำในสิ่งที่ผมต้องการทำได้ทุกอย่างครับ

Q18: มีกรณีพิพากษาอื้อฉาวเกิดขึ้นว่าคุณได้ไปลอกเลียนแบบผลงานของศิลปินต่างประเทศมาเหมือนกันนะครับ??
GD: ถ้าหากว่าคุณมีศิลปินในต่างประเทศที่คุณชอบ หากเค้าจะสร้างผลกระทบและมีผลต่อสไตล์เพลงของคุณนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มันจะแปลกๆนะครับถ้าพูดตรงๆไปว่า ศิลปินเหล่านั้นสร้างผลกระทบต่อการแร๊พของคุณและตัวเพลงโดยตรง 

ถึงแม้ว่าเราจะร้องเพลงที่มีเนื้อหาเดียวกัน แต่เราก็สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการในการบรรยายความรู้สึกของเราออกมาในเพลงได้ หากคุณจะอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ด้วยการบอกว่า "เป็นการลอกเลียนแบบ" คุณไม่คิดบ้างเหรอครับว่ามันเป็นการเข้าใจพวกเราศิลปินผิดไปตั้งหาก?? 

แต่ถึงจะมีข่าวอื้อฉาวแบบนั้นออกมา ผมก็ไม่สนใจคำวิจารณ์ของคนเหล่านั้นในเรื่องนี้หรอกครับ

Q19: ความแตกต่างระหว่างงานของคุณในนามบิกแบง และ งานในนามจีดราก้อน อยู่ตรงไหนบ้างครับ??
GD: ผมเคยที่จะพยายามแบ่งแยกงานทั้ง 2 ส่วนนี้ให้แยกออกจากกันนะครับ แต่ตอนนี้ผมพยายามอย่างมากที่จะไม่ทำแบบนั้น ไม่ว่าผมจะทำงานในนามของวงหรือว่าทำงานเดี่ยวของตัวเอง ผมแค่ใส่ความกระตือรือร้นที่อยากที่จะทำเพลงดีๆ ลงไปก็เท่านั้น 

หากจะต้องมีการแบ่งแยกจริงๆ หากเทียบการทำงานในนามของบิกแบงกับการทำงานเดี่ยวแล้ว การทำงานเดี่ยวทำให้ผมสามารถลองทำเพลงในแบบที่ตัวเองอยากลองทำได้มากกว่า ส่วนงานในนามของบิกแบงนั้น ผมพยายามที่จะทำเพลงที่คนส่วนใหญ่จะชอบฟังออกมามากกว่าครับ

หากพวกเพื่อนๆคิดว่า "เพลงแบบนี้มีแต่จีดราก้อนเท่านั้นที่จะทำได้" นั่นจะเป็นความเห็นที่ทำให้ผมมีความสุขมากครับ  

Q20: มีคนพูดว่า "นอกจาก Seo Taiji แล้วก็มีแต่จีดราก้อนนั่นแหละที่มีงานเดี่ยวที่แข็งแกร่งเทียบกันได้"
GD: เป็นเกียรติอย่างมากครับ แต่ผมคิดว่าผู้ฟังคงคิดกันไปเองนะครับ ผมไม่อาจจะไปเทียบแบบนั้นหรอกครับ ผมเข้าใจอย่างมากว่าในวงการตอนนั้นมันดีมากแค่ไหนในยุคที่ Seo Taiji and boys เป็นผู้นำงานเพลงในตอนนั้น 

แทนที่จะพูดว่าผมกำลังพยายามที่จะเป็นให้ได้แบบเค้า ผมว่าผมกำลังทำงานอย่างหนักพยายามที่จะหาสไตล์เป็นของตัวเองมากกว่า ผมอยากจะทำงานเพลงให้ได้อย่างวง ‘DEUX’ หรือ ‘015B’ ซึ่งเป็นเพลงที่แม้ว่าหลังจากนี้ 10 ปีหรือ 20 ปี ผู้คนก็ยังคงจดจำได้

Q21: มีคนวิจารณ์อีกว่า คุณได้ถึงจุดสูงสุดก่อนศิลปินคนอื่นๆ คุณมีความเห็นยังไงครับ??
GD: ผมรู้สึกขอบคุณมากๆกับคำชมนะครับ นี่จะเป็นสิ่งที่ผมใช้ให้กำลังใจตัวเองเวลาที่ผมกำลังพยายามทำงานอย่างหนัก แต่ยังไงก็ตาม เป็นเพราะผมไม่อาจจะล่วงรู้ได้ว่าในอนาคตจะเป็นยังไง ผมไม่คิดว่าตัวเองได้เดินทางมาถึงจุดสูงสุดแล้ว 

ผมคิดว่า ผู้คนคิดว่าผมไปได้ดีจากการมองผ่านกล้องหรือมองจากการแสดงบนเวทีของผม เป้าหมายของผมคือ ผมจะยังสามารถทำเพลงต่อไปได้อีก 10-15 ปีจากนี้ 

ก่อนที่จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ย่อมจะต้องมีทั้งคำสรรเสริญและมีคำวิจารณ์ในด้านลบอยู่ด้วย 

จริงๆแล้วผมเป็นคนประเภทที่ไม่สนใจในสิ่งที่คนอื่นๆพูดเกี่ยวกับผม ไม่ว่าผลตอบกลับที่พวกเค้ามีให้ผมจะเป็นไปในแนวทางไหน ผมก็ไม่ได้รับผลกระทบจากคำวิจารณ์เหล่านั้นครับ 

ผมหวังว่าด้วยบุคคลิกของตัวเองแบบนี้จะสามารถนำทางผมไปสู่จุดมุ่งหมายสุดท้ายได้

Q 22: แฟนๆแบบไหนที่สร้างความประทับใจให้คุณมากที่สุดครับ??
GD: ผมไม่อาจจะลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเราเมื่อครั้งเราไปทัวร์คอนเสริต์ Alive ที่จีนได้เลยครับ 

แฟนๆชาวจีนได้ใช้ยานพาหนะของพวกเค้ามาล้อมพวกเราไว้ไม่ให้เราขยับไปไหนได้เลย จากนั้นแฟนๆก็ลงมาจากรถของพวกเค้ามาถ่ายรูปเรา 

โชคดีที่ว่า หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จแล้วพวกเค้าก็ปล่อยพวกเราไป ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวไปหน่อย แต่เมื่อผมมองย้อนกลับไปในตอนนี้ มันก็ดูน่าสนใจดี 

Q23: สไตล์เพลงที่คุณชอบที่สุด คือแนวไหนครับ??
GD: ผมชอบเพลง HipHop มากที่สุดครับ เป็นเพราะเสน่ห์ของเพลง HipHop นี่แหละที่ทำให้ผมเริ่มรู้จักโลกของเสียงเพลงและแน่นอนว่ามันยังเป็นแนวเพลงที่ผมมีความมั่นใจมากที่สุดด้วย

ยังไงก็ตามเป็นเพราะมีคนที่ยอดเยี่ยมมากมายและทุกคนล้วนมีมาตรฐานที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ผมคิดแค่ว่ามันดีที่สุดแล้วตราบใดที่ผมสามารถที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองพอใจจริงๆได้เท่านั้นเป็นพอครับ

Q24: คุณ PSY จากค่ายเดียวกับคุณในตอนนี้กลายเป็นซูปเปอร์สตาร์ระดับโลกไปแล้ว คุณรู้สึกอิจฉาเค้าบ้างไม๊ครับ??
GD: ผมรู้สึกดีใจจริงๆกับความสำเร็จของเค้าครับแล้วก็รู้สึกอิจฉาด้วย ถึงแม้ว่าเค้าจะได้รับความสำเร็จอย่างที่สุดและสามารถเปลี่ยนความเข้าใจของผู้คนในเรื่องของศิลปินเอเซียได้ แต่ผมคิดว่าเวลาที่เค้ารู้สึกมีความสุขนั้นเค้าก็มีความเครียดอยู่ด้วย 

แม้ว่าผมจะไม่สามารถเข้าใจถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเค้าได้เต็ม 100% แต่เราก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันในตอนที่เราไปร่วมงาน  EMA ในฐานะศิลปินเกาหลีและได้รับรางวัล the Worldwide Act Award for the เป็นครั้งแรก 

ไม่ว่าจะยังไง เป็นเพราะพี่ PSY ได้เปิดประตูตลาดในต่างประเทศให้กับเราแล้ว ผมหวังว่า กิจกรรมต่างๆของศิลปินชาวเกาหลีจะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นครับ

Q 25: คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้ กังนัมสไตล์ ประสบความสำเร็จขนาดนี้ครับ???
GD: หลังจากที่เราฟังเพลงนี้ เราจะสามารถร้องตามได้อย่างง่ายดายเลยครับ ผู้คนสามารถร้องเพลงนี้ในร้านคาราโอเกะหรือเวลาที่เล่นสนุกกับเพื่อนๆ เนื้อเพลงที่ล้อเลียนก็ฟังดีทีเดียวด้วยครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่จะสามารถสร้างอารมณ์สนุกสนานได้จริงๆ 

จริงๆไม่มีมาตรฐานใดๆที่จะมาบอกว่าเพลงที่ดีนั้นควรจะเป็นยังไง แต่ บางอย่างในเพลงกังนัมสไตล์ ได้สะท้อนในสิ่งที่สังคมชอบ

ตลาดเพลงในอเมริกาตอนนี้ไม่ใช่ช่วงที่ดีที่สุดและผู้คนกำลังค้นหาเพลงที่จะทำให้พวกเค้ามีความสุข จริงๆมีเพลงที่ดูจะเข้าท่าอยู่บ้างแต่ไม่มีความสนุกในตัวของมันเลย 

พี่ PSY สุดยอดมากจริงๆครับ

From: pizastarXxXx @weibo
chinese to english translation by ricekwon 
english to thai translation by mew  

=====================================

สามารถย้อนอ่านตอนที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้ ตามนี้ค่ะ
ตอนที่1
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2012/11/g-dragon-k-magazine-part1.html 
ตอนที่2
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2012/11/k-part2.html

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 30 พฤศจิกายน 2012


[งาน MAMA]

นี่เป็นรางวัลใหญ่ ประจำงาน MAMA ครับ 
และเราก็ได้รับรางวัลนี้มา 
เรียกได้ว่า มันเป็นรางวัลที่ใหญ่ที่สุดที่เราเคยได้รับมาเลยนะครับ 
และคนที่มอบรางวัลนี้ให้กับเราก็เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮ่องกง คุณเฉินหลง ครับ
นี่มันเยี่ยมมากจริงๆ 
ขอบคุณครับ ทุกอย่างเป็นเพราะพวกคุณ 
วันนี้เป็นวันที่สมบูรณ์แบบจริงๆ 

from:權小賊at weibo
chinese to english translation by ricekwon
english to thai translation by mew
picture credit to 饺子头剪子布X_gs


วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ซึงจังไดอารี่ 29 พฤศจิกายน 2012


[นี่คือสิ่งที่ได้ตอบแทนครับ]

สวัสดีครับ ที่นี่ฮ่องกง
ผมเคยมาที่นี่แล้วครั้งนึงตอนที่มาถ่ายทำละครครับ
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตของผมที่ผมได้มีโอกาสมาที่นี่
เราจะกลับมาที่นี่อีกครั้งนึงหลังจากอาทิตย์ที่มีคอนเสริต์ที่ โตเกียวโดม
เพราะเราก็มี Alive tour ที่นี่เหมือนกันครับ

ครั้งนี้เราเดินทางมาร่วมงานประกาศรางวัล MAMA ครับ
ก่อนหน้านี้เราเคยได้รับรางวัลดีๆมามากมายในหลายๆรายการ
แม้ว่าจะเป็นรางวัลที่แจกกันในหมู่ชาวเกาหลี แต่มันก็ถูกแพร่ภาพออกไปในประเทศต่างๆ
การที่เราได้รับรางวัลนั้นเป็นการยืนยันถึงงานหนักที่เราได้ทำไปในแต่ละปีที่ผ่านมา
สำหรับศิลปินแล้วมันสำคัญมากครับ แม้ว่าสำหรับพวกเรามันจะแตกต่างไปหน่อยก็เถอะ
แต่เราจะดีใจมากแน่นอนครับถ้าเราได้รับรางวัลบ้าง
แต่สิ่งที่เราต้องการจะทำมากที่สุดคือ ตอบแทนสิ่งที่พวกคุณคาดหวังจากเรา
นั่นคือ....การแสดงที่สมบูรณ์แบบ..... การแสดงสดที่สมบูรณ์แบบ.....
สิ่งที่พวกคุณต้องการคือ ...การแสดงสดที่สมบูรณ์แบบของบิกแบง....
เรารู้ครับ ....เรารู้ดีเลยด้วย.....  
เป็นเพราะพวกคุณตั้งหน้าตั้งตารอคอยมัน เราก็จะตอบแทนกลับไปให้ดีขึ้นครับ
นอกจากนี้ เราจะรู้สึกดีใจมากขึ้นเป็นสองเท่าตัวเมื่อคุณคอยปรบมือให้เราหลังเสร็จการแสดงนะครับ

เดือนพฤศจิกายนกำลังจะจบลงแล้วครับ และอีกไม่นานเราก็จะเข้าสู่เดือนธันวาคมกันแล้ว
เรากำลังเตรียมการในการที่จะจบปีนี้อย่างดี
เรากำลังทำงานกันอย่างหนักที่จะสร้างความทรงจำที่ดีให้กับทุกคนเป็นของขวัญครับ

จนถึงตอนนี้ ผมพูดมายาวเกินไปแล้วใช่ไม๊ละครับ?? 
จริงเหรอครับ???
จากนี้ไปผมกำลังจะเล่าเรื่องตลกให้พวกคุณฟังนะครับ
หลังจากที่เรามาถึงที่ ฮ่องกงเราก็รีบเดินทางไปที่โรงแรมทันทีครับ
เป็นเพราะมีคนเยอะมากเลยทำให้เราเสียเวลาไปมาก กว่าจะได้กุญแจห้องมา
ใช้เวลานานมากๆ จริงๆครับ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงไม่ได้รับกุญแจห้องของตัวเองซักที
ทั้งๆที่สมาชิกในวงทุกคนได้รับกุญแจห้องของตัวเองไปแล้วและขึ้นไปพักผ่อนบนห้องกันแล้วด้วย 
เป็นเพราะผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความอดทนที่จะต้องรอคอย
ผมอยากจะพูดออกไปว่า " นี่เอากุญแจมาให้ผมเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!"
แต่ ผมก็คิดถึงภาพพจน์ของตัวเอง ภาพลักษณ์ของซึงจังคนนี้...?? WWW
ผมจึงอดกลั้นความโมโหเอาไว้
สุดท้าย ก็ได้รับกุญแจห้องมาและผมก็เข้าไปในห้องครับ

"สวัสดีครับ????" 
อ่าา.....ในห้องมีคนอยู่ครับ และเป็นผู้หญิงด้วย น่าอายจริงๆ
แล้วจริงๆเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับเนี่ย??? อ่าา.....
ยังไงก็ตามแต่ ผู้จัดการโรงแรมได้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
และปัญหาก็ได้รับการแก้ไขอย่างเรียบร้อย เค้าพูดว่า
"เป็นความผิดของทางเราครับที่สับสนกับหมายเลขห้องของคุณ 
เพื่อเป็นการแสดงความเสียใจของทางเรากับเรื่องที่เกิดขึ้น 
เราจะอัพเกรดห้องของคุณให้ดีขึ้นครับ ได้ไม๊ครับ??" 
ผมตอบกลับไปว่า 
" จริงๆก็ไม่เป็นไรครับ แต่ในเมื่อพวกคุณยืนยันแบบนั้น ผมก็จะรับมันไว้ครับ ^~~~^"

โชคดีจัง!!! 
ทำไมเป็นแบบนี้ครับเนี่ย 
ทั้งที่ลาสเวกัส และที่ฮ่องกง ผมได้รับห้องพักที่ดีที่สุดมา
ผมอยากที่จะแบ่งปันเรื่องราวแห่งความโชคดีนี้กับทุกคนครับ  
แต่ว่าช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับกันด้วยนะครับ 
เพราะถ้าพวกเค้ารู้กันละก็จะต้องพูดว่า 
"นี่ซึงรี เปลี่ยนห้องกับฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ "wwww

ราตรีสวัสดิ์ครับ

chinese translation from:賊小虫at weibo
chinese to english translation by Ricekwon 
english to Thai Transation by mew 

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สัมภาษณ์จีดราก้อนจากนิตยสาร K&Magazine (part2)


Q11) คุณจำกัดเรทเพลง  ‘that XX’ ให้เป็นเพลงที่ไม่เหมาะสำหรับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีฟังเหรอครับ??
A: ผมคิดว่าผมควรจะจัดเรทขีดเส้นเอาไว้ก่อนเลยครับ ถึงแม้ว่าจะมีการจำกัดอายุคนฟังเอาไว้แบบนั้น ผมก็ยังไม่คิดว่า คำว่า " ไอ้เฮงซวย" ในเนื้อเพลงจะ เป็นคำที่ต้องห้ามขนาดนั้น

หากจะเทียบกับการที่ผมจะต้องถูกห้ามและจำกัดในการทำอะไรไปซะหมดทุกอย่างแบบนี้ ผมว่าสิ่งที่สำคัญกว่าคือการที่ผมสามารถที่จะถ่ายทอดความคิดที่แท้จริงของผมออกมามากกว่าไม่ใช่เหรอครับ??

แน่นอนว่าจะต้องมีคนบางคนที่เกลียดคำว่า "ไอ้เฮงซวย" นี้แต่ผมคิดว่าก็ย่อมมีคนที่ไม่ได้คิดเกลียดมันเหมือนกัน " ผมแค่เดินไปตามทางที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง หากเพลงนี้มีการเปลี่ยนไปใช้คำว่า "ผู้หญิงคนนั้น" หรือ "ผู้ชายคนนั้น" เพลงนี้จะยังสื่อถึงบรรยากาศที่เหมือนกันได้อีกไม๊ละครับ?? "

Q12) คุณคิดยังไงกับระบบเซ็นเซอร์ที่ MV ทุกเพลงต้องส่งไปตรวจก่อนที่ออกเผยแพร่ครับ??

A: ผมคิดว่ามันเป็นภาระที่ค่อนข้างหนักนะครับ ผมคิดว่าผมควรจะสามารถที่จะทำงานเพลงที่ออกจากขอบเขตเดิมๆออกมาได้ ผมควรที่จะทำมันให้สำเร็จลุล่วงในแบบที่ผมคาดหวังไว้ได้

ดังนั้น MV ที่ได้ออกมาดูจะธรรมดาๆไปซักหน่อย ถ้าเป็นแบบนี้ผู้คนก็จะไม่สามารถสนุกไปกับงานนั้นๆได้อย่างเต็มที่อย่างที่ควรจะเป็นได้นะครับ  

Q13) คุณได้ร่วมงานกับคุณ Kim Eung ah จากวง JAURIM และ คุณ Kim Jong wan จาก Nell ด้วยในครั้งนี้ใช่ไม๊ครับ??

A: ผมก็อยากจะถามพวกเค้าเหมือนกันนะครับว่าทำไมถึงได้รับคำขอร้องและสัญญาว่าจะช่วยผมในเวลาอันสั้นแบบนั้น 
ผมขออนุญาติจากท่านประธานยางฮยอกซอกอย่างถึงที่สุด ดังนั้นเค้าถึงยอมอนุญาติให้ผมทำงานร่วมกับพี่ Eungah ในเพลง Missing you ในครั้งนี้ครับ 

ส่วนพี่ Kim Jong Wan ที่ร้องเพลง Today กับผมผมรู้จักพี่เค้าผ่านพี่ Tablo ครับถึงแม้ว่าผมจะรู้มาว่าพี่เค้าเป็นคนที่ตรงมากๆ แต่จริงๆแล้วเค้าเป็นคนที่ใจดีมากเลยครับ ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากการทำงานกับพวกเค้า

การที่ได้เห็นพวกเค้าสามารถถ่ายทอดงานของผมออกมาได้มากกว่าที่ผมจะลงมือทำเองแบบนี้ ผมมีความรู้สึกว่า " อ่า.....ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเค้าเป็นรุ่นพี่ของเรา" เพราะแบบนี้ มันทำให้ผมย้อนคิดอีกครั้งว่าตัวเองก็ควรที่จะทำงานร่วมกับทีมงานในบริษัทของตัวเองด้วย หลังจากนี้ผมอยากที่จะทำงานร่วมกับคนอื่นให้มากขึ้นครับ

Q14: เนื้อเพลงเพลง Light it up น่าสนใจทีเดียวนะครับ

A: ผมเขียนเนื้อร้องเพลงนี้หลังจากที่ได้ดู หนังเรื่อง "War Crimes" ครับ นอกจากนี้ผมยังคิดว่าจะใส่ข้อความลงไปในเนื้อเพลงสำหรับคนที่เกลียดผมโดยเฉพาะแต่เป็นเพราะมีคนเกลียดผมมากเกินไปครับ ผมเลยไม่สามารถที่จะเขียนเนื้อเพลงลงไปและมอบให้แก่ใครคนใดคนนึงโดยเฉพาะได้

นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ว่าในเนื้อเพลงจึงกลายเป็นท่อนนี้แทนครับ " แม้ว่าพวกคุณจะเกลียดผม แต่ผมไม่สนเลยซะนิด" แทน ผมรู้ว่ามันดูออกจะตรงไปหน่อย แต่ผมหวังว่าพวกคุณจะหาความน่ารักในเนื้อเพลงนี้เจอนะครับ เพราะตั้งแต่ต้นเพลงเลยในเนื้อเพลงมีบริบทที่น่ารักๆในท่อนแร๊พนะครับ


Q15: ในอัลบั้มมีเพลงที่คุณร่วมทำกับคนอื่นถึง 4 เพลงจากเพลงทั้งหมด 7 เพลงเลยนะครับ
A: เป็นที่ชัดเจนว่าสมาชิกในวงบิกแบงทั้ง 5 คนต่่างก็มีเอกลักษณ์และเสน่ห์เป็นของตัวเองที่ต่างกันออกไปนะครับผมคงไม่ไ่ล่ตามหาเสียงของคนอื่นนอกจากนี้อีกแล้วครับ 

แต่ถึงแม้ว่าเราอยากที่จะทำงานร่วมงานมากแค่ไหน มันก็ค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องยากอยู่ แต่เป็นเพราะ อัลบั้มเดี่ยวครั้งนี้ของผมเป็นอัลบั้มที่ผมไม่ได้ออกมานานแล้วนะครับ ดังนั้นผมเลยออกอาการโลภเล็กน้อย (หัวเราะ)  

Q16: ใครที่คุณคิดว่า ไม่ว่ายังไงก็ตามก็จะต้องหาโอกาสร่วมงานกันให้ได้ครับ??
A: คุณ ‘Kim Bunjan’ จาก ‘Wind City’.ครับ จริงๆยังมีเพลงที่ผมได้ร่วมทำกับศิลปินคนอื่นอีกนะครับแต่มันไม่ได้รวมไว้ในอัลบั้มนี้ ผมคิดว่ามันคงน่าสนใจดีถ้าหากผมสามารถที่จะได้ทำงานร่วมกับศิลปินร่วมค่ายออกมาบ้างนะครับ

Source: pizastar @ weibo
Chinese to english translation by Ricekwon
English to Thai translation by mew  

สามารถอ่านตอนที่ 1 ได้ตามนี้คะ
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2012/11/g-dragon-k-magazine-part1.html