วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สัมภาษณ์จีดราก้อนจากนิตยสาร K&Magazine (part3)


Q17) การได้ออกมาทำงานเดี่ยวนั้นมันดีตรงไหนครับ??
GD: ผมสามารถที่จะทำแต่ในสิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้นครับ ในตอนที่ผมทำงานในนามของบิกแบง เป็นเพราะผมต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของเราทั้งกลุ่ม ผมไม่สามารถสวมใส่เสื้อผ้าที่ผมอยากจะใส่สวมมากกว่าได้ มันจะไม่ดีต่อวงถ้ามีคนคนนึงในกลุ่มที่แตกต่างไปจากคนอื่นๆในวงครับ

ในตอนที่ผมทำงานเดี่ยวของตัวเอง ไม่มีข้อจำกัดแบบนั้นเลย ผมเลยลองสไตล์แปลกๆใหม่ๆหลายอย่างเลยครับ นอกจากผมจะมีโอกาสได้ลองสวมเสื้อผ้าที่ผมอยากจะลองสวมแล้ว ผมยังลองท้าทายตัวเองด้วยการทำงานเพลงในแบบที่ผมต้องการอีกด้วย ผมสามารถทำในสิ่งที่ผมต้องการทำได้ทุกอย่างครับ

Q18: มีกรณีพิพากษาอื้อฉาวเกิดขึ้นว่าคุณได้ไปลอกเลียนแบบผลงานของศิลปินต่างประเทศมาเหมือนกันนะครับ??
GD: ถ้าหากว่าคุณมีศิลปินในต่างประเทศที่คุณชอบ หากเค้าจะสร้างผลกระทบและมีผลต่อสไตล์เพลงของคุณนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มันจะแปลกๆนะครับถ้าพูดตรงๆไปว่า ศิลปินเหล่านั้นสร้างผลกระทบต่อการแร๊พของคุณและตัวเพลงโดยตรง 

ถึงแม้ว่าเราจะร้องเพลงที่มีเนื้อหาเดียวกัน แต่เราก็สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการในการบรรยายความรู้สึกของเราออกมาในเพลงได้ หากคุณจะอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ด้วยการบอกว่า "เป็นการลอกเลียนแบบ" คุณไม่คิดบ้างเหรอครับว่ามันเป็นการเข้าใจพวกเราศิลปินผิดไปตั้งหาก?? 

แต่ถึงจะมีข่าวอื้อฉาวแบบนั้นออกมา ผมก็ไม่สนใจคำวิจารณ์ของคนเหล่านั้นในเรื่องนี้หรอกครับ

Q19: ความแตกต่างระหว่างงานของคุณในนามบิกแบง และ งานในนามจีดราก้อน อยู่ตรงไหนบ้างครับ??
GD: ผมเคยที่จะพยายามแบ่งแยกงานทั้ง 2 ส่วนนี้ให้แยกออกจากกันนะครับ แต่ตอนนี้ผมพยายามอย่างมากที่จะไม่ทำแบบนั้น ไม่ว่าผมจะทำงานในนามของวงหรือว่าทำงานเดี่ยวของตัวเอง ผมแค่ใส่ความกระตือรือร้นที่อยากที่จะทำเพลงดีๆ ลงไปก็เท่านั้น 

หากจะต้องมีการแบ่งแยกจริงๆ หากเทียบการทำงานในนามของบิกแบงกับการทำงานเดี่ยวแล้ว การทำงานเดี่ยวทำให้ผมสามารถลองทำเพลงในแบบที่ตัวเองอยากลองทำได้มากกว่า ส่วนงานในนามของบิกแบงนั้น ผมพยายามที่จะทำเพลงที่คนส่วนใหญ่จะชอบฟังออกมามากกว่าครับ

หากพวกเพื่อนๆคิดว่า "เพลงแบบนี้มีแต่จีดราก้อนเท่านั้นที่จะทำได้" นั่นจะเป็นความเห็นที่ทำให้ผมมีความสุขมากครับ  

Q20: มีคนพูดว่า "นอกจาก Seo Taiji แล้วก็มีแต่จีดราก้อนนั่นแหละที่มีงานเดี่ยวที่แข็งแกร่งเทียบกันได้"
GD: เป็นเกียรติอย่างมากครับ แต่ผมคิดว่าผู้ฟังคงคิดกันไปเองนะครับ ผมไม่อาจจะไปเทียบแบบนั้นหรอกครับ ผมเข้าใจอย่างมากว่าในวงการตอนนั้นมันดีมากแค่ไหนในยุคที่ Seo Taiji and boys เป็นผู้นำงานเพลงในตอนนั้น 

แทนที่จะพูดว่าผมกำลังพยายามที่จะเป็นให้ได้แบบเค้า ผมว่าผมกำลังทำงานอย่างหนักพยายามที่จะหาสไตล์เป็นของตัวเองมากกว่า ผมอยากจะทำงานเพลงให้ได้อย่างวง ‘DEUX’ หรือ ‘015B’ ซึ่งเป็นเพลงที่แม้ว่าหลังจากนี้ 10 ปีหรือ 20 ปี ผู้คนก็ยังคงจดจำได้

Q21: มีคนวิจารณ์อีกว่า คุณได้ถึงจุดสูงสุดก่อนศิลปินคนอื่นๆ คุณมีความเห็นยังไงครับ??
GD: ผมรู้สึกขอบคุณมากๆกับคำชมนะครับ นี่จะเป็นสิ่งที่ผมใช้ให้กำลังใจตัวเองเวลาที่ผมกำลังพยายามทำงานอย่างหนัก แต่ยังไงก็ตาม เป็นเพราะผมไม่อาจจะล่วงรู้ได้ว่าในอนาคตจะเป็นยังไง ผมไม่คิดว่าตัวเองได้เดินทางมาถึงจุดสูงสุดแล้ว 

ผมคิดว่า ผู้คนคิดว่าผมไปได้ดีจากการมองผ่านกล้องหรือมองจากการแสดงบนเวทีของผม เป้าหมายของผมคือ ผมจะยังสามารถทำเพลงต่อไปได้อีก 10-15 ปีจากนี้ 

ก่อนที่จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ย่อมจะต้องมีทั้งคำสรรเสริญและมีคำวิจารณ์ในด้านลบอยู่ด้วย 

จริงๆแล้วผมเป็นคนประเภทที่ไม่สนใจในสิ่งที่คนอื่นๆพูดเกี่ยวกับผม ไม่ว่าผลตอบกลับที่พวกเค้ามีให้ผมจะเป็นไปในแนวทางไหน ผมก็ไม่ได้รับผลกระทบจากคำวิจารณ์เหล่านั้นครับ 

ผมหวังว่าด้วยบุคคลิกของตัวเองแบบนี้จะสามารถนำทางผมไปสู่จุดมุ่งหมายสุดท้ายได้

Q 22: แฟนๆแบบไหนที่สร้างความประทับใจให้คุณมากที่สุดครับ??
GD: ผมไม่อาจจะลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพวกเราเมื่อครั้งเราไปทัวร์คอนเสริต์ Alive ที่จีนได้เลยครับ 

แฟนๆชาวจีนได้ใช้ยานพาหนะของพวกเค้ามาล้อมพวกเราไว้ไม่ให้เราขยับไปไหนได้เลย จากนั้นแฟนๆก็ลงมาจากรถของพวกเค้ามาถ่ายรูปเรา 

โชคดีที่ว่า หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จแล้วพวกเค้าก็ปล่อยพวกเราไป ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวไปหน่อย แต่เมื่อผมมองย้อนกลับไปในตอนนี้ มันก็ดูน่าสนใจดี 

Q23: สไตล์เพลงที่คุณชอบที่สุด คือแนวไหนครับ??
GD: ผมชอบเพลง HipHop มากที่สุดครับ เป็นเพราะเสน่ห์ของเพลง HipHop นี่แหละที่ทำให้ผมเริ่มรู้จักโลกของเสียงเพลงและแน่นอนว่ามันยังเป็นแนวเพลงที่ผมมีความมั่นใจมากที่สุดด้วย

ยังไงก็ตามเป็นเพราะมีคนที่ยอดเยี่ยมมากมายและทุกคนล้วนมีมาตรฐานที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ผมคิดแค่ว่ามันดีที่สุดแล้วตราบใดที่ผมสามารถที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองพอใจจริงๆได้เท่านั้นเป็นพอครับ

Q24: คุณ PSY จากค่ายเดียวกับคุณในตอนนี้กลายเป็นซูปเปอร์สตาร์ระดับโลกไปแล้ว คุณรู้สึกอิจฉาเค้าบ้างไม๊ครับ??
GD: ผมรู้สึกดีใจจริงๆกับความสำเร็จของเค้าครับแล้วก็รู้สึกอิจฉาด้วย ถึงแม้ว่าเค้าจะได้รับความสำเร็จอย่างที่สุดและสามารถเปลี่ยนความเข้าใจของผู้คนในเรื่องของศิลปินเอเซียได้ แต่ผมคิดว่าเวลาที่เค้ารู้สึกมีความสุขนั้นเค้าก็มีความเครียดอยู่ด้วย 

แม้ว่าผมจะไม่สามารถเข้าใจถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเค้าได้เต็ม 100% แต่เราก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันในตอนที่เราไปร่วมงาน  EMA ในฐานะศิลปินเกาหลีและได้รับรางวัล the Worldwide Act Award for the เป็นครั้งแรก 

ไม่ว่าจะยังไง เป็นเพราะพี่ PSY ได้เปิดประตูตลาดในต่างประเทศให้กับเราแล้ว ผมหวังว่า กิจกรรมต่างๆของศิลปินชาวเกาหลีจะดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นครับ

Q 25: คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้ กังนัมสไตล์ ประสบความสำเร็จขนาดนี้ครับ???
GD: หลังจากที่เราฟังเพลงนี้ เราจะสามารถร้องตามได้อย่างง่ายดายเลยครับ ผู้คนสามารถร้องเพลงนี้ในร้านคาราโอเกะหรือเวลาที่เล่นสนุกกับเพื่อนๆ เนื้อเพลงที่ล้อเลียนก็ฟังดีทีเดียวด้วยครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่จะสามารถสร้างอารมณ์สนุกสนานได้จริงๆ 

จริงๆไม่มีมาตรฐานใดๆที่จะมาบอกว่าเพลงที่ดีนั้นควรจะเป็นยังไง แต่ บางอย่างในเพลงกังนัมสไตล์ ได้สะท้อนในสิ่งที่สังคมชอบ

ตลาดเพลงในอเมริกาตอนนี้ไม่ใช่ช่วงที่ดีที่สุดและผู้คนกำลังค้นหาเพลงที่จะทำให้พวกเค้ามีความสุข จริงๆมีเพลงที่ดูจะเข้าท่าอยู่บ้างแต่ไม่มีความสนุกในตัวของมันเลย 

พี่ PSY สุดยอดมากจริงๆครับ

From: pizastarXxXx @weibo
chinese to english translation by ricekwon 
english to thai translation by mew  

=====================================

สามารถย้อนอ่านตอนที่ออกมาก่อนหน้านี้ได้ ตามนี้ค่ะ
ตอนที่1
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2012/11/g-dragon-k-magazine-part1.html 
ตอนที่2
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2012/11/k-part2.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น