วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

OSEN Interview :หยางฮยอนซอกพูดถึง G-dragon


หลังจากที่จีดราก้อนได้เลือก ท่าน หยางฮยอนซอกให้เป็นคู่หูที่ดีที่สุดในชีวิต ท่านหยางได้ตอบแทนน้ำใจของจีดราก้อนโดยการเปิดเผยว่า จีดราก้อนเป็นสมาชิกในครอบครัววายจีที่มีค่าที่สุดสำหรับเค้า 

หลังจากที่รายการ Thank you ตอนที่จีดราก้อนไปร่วมรายการได้ออกอากาศไป ทาง Osen ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ท่านหยางฮยอนซอก เค้าเล่าว่า "เป็นเพราะผมทำงานยุ่งมาก ผมไม่ได้ดูรายการนี้ตอนออกอากาศครับ แต่ยังไงก็ตามผมต้องขอบคุณจีดราก้อนด้วยที่พูดถึงผมในแง่มุมดีๆ ผมอยากจะพูดเหมือนกันนะครับว่าในบรรดาสมาชิกในครอบครัววายจีทั้งหมดแล้ว สมาชิกที่เป็นของล้ำค่าและเป็นที่รักของผมมากที่สุด คือ จีดราก้อน"

"เหตุผลก็เพราะท่ามกลางสมาชิกในวงบิกแบง จีดราก้อนเป็นคนที่เรารับเข้ามาในบริษัทวายจีตั้งแต่เค้าอายุ 13 และเราก็มีความผูกพันธ์กันมากว่า 10 ปี จีดราก้อนเป็นศิลปินที่เข้ามาที่ตึกวายจีและมาที่สตูดิโอบันทึกเสียงบ่อยที่สุด ดังนั้นเค้าจึงเป็นคนที่คุยกับผมมากที่สุด ศิลปินที่สนิทกับผมมากคือจีดราก้อนและเท็ดดี้ สมาชิกวง 1tym ที่ซึ่งกลายมาเป็นโปรดิวเซอร์หลักในบริษัทเรา" 

ท่านหยางเล่าต่อว่า " อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมชอบในตัวจีดราก้อนคือ แม้ว่าเค้าจะมีบุคคลิกที่ดูแข็งๆและภาพลักษณ์ในแบบแบดบอยบนเวที จริงๆแล้วพอลงจากเวทีเค้าเป็นคนที่ถ่อมตัวที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา เหมือนกับรูปที่ทางทีมงานรายการ Thank you ได้อัพโหลดลงสื่อสาธารณะก่อนหน้านี้ รูปที่จีดราก้อนกำลังยกเก้าอี้ให้กับทีมงาน แม้ว่าเค้าจะเป็นดาราดังแล้ว เ้ค้าเป็นคนแรกที่เก็บกวาดทำความสะอาดเวลาที่โปรดิวเซอร์หรือรุ่นพี่ทานอาหารว่างกันในที่ทำงาน "






























"ในฐานะศิลปิน ด้านที่แข็งแกร่งที่สุดของจีดราก้อน คือ ความคิดสร้างสรรค์ของเค้า เค้ามีส่วนร่วมในการแต่งทำนองและเนื้อร้องในทุกๆเพลงของบิกแบง ความสามารถที่เค้าสามารถคิดเพลงและเนื้อร้องออกมาได้ทันทีหลังจากที่เค้าได้ยินดนตรีนั้นเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก "

"แต่จีดราก้อนที่รู้จักกันดีในนามแฟชั่นนิสต้านั้นไม่ได้เป็นเฉพาะบนเวทีเท่านั้น แต่ใน 10 ปีที่ผ่านมาเค้ามาที่ตึกวายจีในชุดที่แทบจะไม่ซ้ำกันหรือใส่เป็นหนที่สองเลย ผมรู้สึกประทับใจในความเป็นศิลปะและความพยายามอย่างต่อเนื่องของเค้าในฐานะแฟชั่นนิสต้าตัวจริง"


ท่านหยางจบการสัมภาษณ์กับเรา โดยกล่าวว่า " จีดราก้อนเป็นเพื่อนที่ผมคิดว่าเค้าเป็นน้องของผมจริงๆและเป็นสมาชิกในครอบครัว มันเป็นเกียรติเสมอที่ผมได้ทำงานข้างๆศิลปินที่มีพรสวรรค์รอบด้าน มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยใช่ไม๊ครับที่จะหาศิลปินที่เหมือนเค้าได้อีกในวงการอุตสากรรมเพลงเกาหลี?? ในระดับนั้นผมคิดกับเค้าในฐานะเพื่อนแท้ที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ครับ"

Source: AKP
Thai Translation by missmew

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

Daesung's d'scovery (G-dragon)จากนิตยสาร Josei Jishin


เค้ามักร้องไห้หนักมากขณะที่กำลังดูละครหรือภาพยนตร์ครับ (หัวเราะ)เป็นคนที่โรแมนติกจริงๆ

สำหรับฉบับสุดท้ายที่ผมจะเล่าในเรื่องการค้นพบใหม่ๆที่ผมพบในตัวสมาชิกในวง
ในครั้งนี้และเป็นครั้งสุดท้ายแล้วผมจะเล่าเรื่อง จีดราก้อนครับ 

ตั้งแต่เริ่มเดบิวจนถึงตอนนี้รวมเป็นเวลา 7ปีแล้วครับ เค้านำทางพวกเราด้วยความเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง
ในฐานะที่เป็นโปรดิวเซอร์ของวงเราด้วยเค้ามักจะตั้งเป้าหมายเอาไว้สูงๆและทำงานอย่างหนัก 
สิ่งที่วิเศษสุดเกียวกับเค้าคือในขณะที่เค้าเป็นผู้นำนั้นเค้ามักจะนำพร้อมยกตัวอย่างไปด้วย เช่น
เมื่อเราทำงานตามตารางเสร็จเรียบร้อย เราอยากจะพักผ่อนกันหน่อย แค่ช่วงเวลาแป๊บเดียวเท่านั้น 
พอสมาชิกในวงพูดกันว่า " เรามาพักกันซัก 10 นาทีก่อนดีกว่าแล้วค่อยฝึกต่อ" 
เค้าจะพูดว่า "ถ้าไปนอนตอนนี้ เราก็จะยิ่งง่วงแล้วก็ต้องจบลงที่ไม่ได้ฝึกกันเลยหนะสิ
เพราะฉะนั้นอย่าไปนอนกันเลยนะ มาตั้งใจทำให้ดีกันดีกว่า " 
แม้ว่าตัวเค้าเองก็ต้องเหนื่อยเหมือนพวกเราเหมือนกัน 
แต่ความสามารถในการซ่อนอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ของเค้านั้นมันน่าทึ่งจริงๆ
และผมก็คิดว่าเค้ามีจิตใจที่แข็งแกร่งเข้มแข็งมาก
และต้องขอบคุณการนำที่แข็งแกร่งและเข้มงวดของเค้าทำให้บิกแบงยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ 

ด้านที่อ่อนโยนของเค้าคือ เค้ามักจะร้องไห้บ่อยๆในขณะที่ดูละครหรือภาพยนตร์ (หัวเราะ)
เป็นคนโรแมนติกจริงๆ  แต่ช่วงนี้เค้าไม่มีแม้แต่เวลาที่จะมาดูหนังหรือทำอะไรแบบนั้นเลย 

สมาชิกในวงทุกคนต่างรู้ว่าตอนนี้ใครทำอะไรอยู่และยุ่งกันมากแค่ไหน 
แต่ด้วยความที่ว่าเราเป็นผู้ชาย เราไม่ค่อยได้พูดคำว่า "สู้นะ"และแสดงความรู้สึกออกมามากเท่าไหร่ 
แต่เราต่างก็เชื่อมั่นในกันและกันว่าเราจะทำให้มันให้ออกมายอดเยี่ยมได้เวลาที่เจอเรื่องท้าทาย
ดังนั้นไม่ว่ายังไงเราก็จะสามารถเดินหน้าไปด้วยกันในฐานะเป็นทีมเดียวกันได้เสมอครับ

Japanese Translation by aru_GD
English Translation by @BIGBANGGisVIP
Thai Translation by missmew

======================

 สามารถอ่านตอนก่อนหน้านี้ได้ ตามนี้ค่ะ

พูดถึงทาบิ
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2013/03/daesungs-discovery-josei-jishin.html
พูดถึงยองเบ
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2013/03/daesungs-discoverysol-josei-jishin.html
พูดถึงซึงรี
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2013/03/daesungs-dscovery-seungri-josei-jishin.html 

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

Daesung's d'scovery (SeungRi)จากนิตยสาร Josei Jishin


ครั้งนี้เราจะพูดถึงน้องเล็กที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเรา , VI ครับ 
ความประทับใจที่ผมมีต่อเค้าในช่วงที่เรายังเป็นศิลปินฝึกหัดก็คือ
เค้าเป็นคนที่เก่งในการร้องเพลง เก่งในการเต้น และมีบุคคลิกภาพที่ดีอีกด้วย 
ผมมักจะคิดอยู่เสมอว่าเค้าเป็นคนดีที่น่าคบหาเพราะเค้าเป็นคนที่มีด้านน่ารักๆเยอะ (หัวเราะ)
วีไอนั้นจะมีภาพลักษณ์ที่มักจะเติบโตอยู่เสมอ ผมไม่รู้ว่าจะพูดเจาะจงยังไง 
แต่เค้ามีความสามารถในการที่จะซึมซับสิ่งใหม่ๆเช่นวัฒนธรรมของต่างประเทศซึ่งเป็นเรื่องที่วิเศษมาก
ท่ามกลางคนอื่นๆ ภาษาญี่ปุ่นของเค้าพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก ทำให้ผมประหลาดใจจริงๆ 
วีไอมักจะจดศัพท์ต่างๆเอาไว้และเรียนอย่างหนัก
ผมไม่เคยเห็นเค้าเอาจริงเอาจังเรียนหนักขนาดนั้นมาก่อนเลย ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน
ซึ่งผมมั่นใจว่าสมาชิกคนอื่นๆในวงก็คงรู้สึกต่อเค้าแบบเดียวกับผม 

ในตอนที่วีไอซังทำรายการวาไรตี้ที่ญี่ปุ่น เรามักจะคอยดูเค้าในทุกๆรายการ
และมักจะถามเค้าว่า "เราดูนายด้วยนะ สนุกรึเปล่า??" และเราก็คอยสนับสนุนเค้า
เค้าเป็นคนที่สมกับความไว้ใจของเราจริงๆ
เพราะเค้าสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่วกับเหล่าคนดังชาวญี่ปุ่น  
ในตอนนี้เค้ากำลังเรียนภาษาอังกฤษ ด้วยครับ
เค้าเป็นคนที่ตั้งใจทำงานอย่างหนักแต่ดูเหมือนว่าผู้คนจะไม่ค่อยรู้ในเรื่องนี้

และเหนือสิ่งอื่นใด ผมรู้สึกอิจฉา วิธีการที่แสนจะรื่นรมย์ของเค้าในการเรียนรู้เรื่องต่างๆ
การที่เค้าสนุกไปกับมันทำให้เค้าสามารถที่จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว  
ส่วนผมเป็นคนประเภทที่จะรู้สึกเครียดเวลาที่ต้องเรียนอะไร ดังนั้นผมอยากจะเรียนรู้เรื่องนี้จากเค้า
อ่า~ แต่ วีไอเป็นคนที่เจี้ยวจ้าวตลอดเวลาที่เราอยู่ในห้องรอหรือห้องแต่งตัว 
ซึ่งมันน่าอายจังครับ (หัวเราะ) มันเป็นเวลา 7 ปีมาแล้วที่เราอยู่กับเค้า
แต่ทุกๆครั้งที่เค้ากำลังเตรียมตัวเพื่อโชว์โซโล่ของเค้า ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่เรามักจะหัวเราะเค้า
มันตลกนะครับและทำให้เรารู้สึกเขินด้วย (เป็นเรื่องน่าตลกจริงๆ) 
เค้าเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ว่าไม๊ครับ?? (ยิ้ม) 


Photo: cheri-big@tumblr 
English Translated by: DANA A.K.A BIGBANGisVIP
Thai Translated by :mewmew  

=========
 
สามารถอ่านตอนก่อนหน้านี้ได้ ตามนี้ค่ะ

พูดถึงทาบิ
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2013/03/daesungs-discovery-josei-jishin.html
พูดถึงยองเบ
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2013/03/daesungs-discoverysol-josei-jishin.html

วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556

Daesung's discovery(SOL) จากนิตยสาร Josei jishin


อาทิตย์นี้ผมจะพูดถึงสมาชิกที่มีเสียงร้องที่เปี่ยมเสน่ห์ประจำวงบิกแบงนั่นคือ Solซังครับ
เค้าเป็นคนที่เป็นเหมือนเดิมมาโดยตลอดและตั้งใจทำงานอย่างหนักเสมอมา 
เวลาที่เค้าหลงใหลในสิ่งไหน เค้าจะมุ่งหน้าทำในสิ่งนั้นอย่างเดียว
และอย่างที่พวกคุณอาจจะรู้มาบ้างแล้ว ช่วงนี้เค้ากำลังชอบเล่น Skateboard มากๆ
ผมเป็นคนที่เกลียดการที่จะต้องเจ็บตัวมากๆ แต่ โซลซังไม่สนใจเรื่องที่จะได้รับบาดเจ็บเลย 
 
ยกตัวอย่างนะครับ เมื่อเค้าค้นพบอะไรใหม่ เค้าจะทำงานในสิ่งนั้นเดือนแบ้วเดือนเล่า
สมาชิกคนอื่นจะให้ความสนใจในช่วงอาทิตย์แรกเท่านั้น 
แต่โซลจะลงมือทำงานนั้นๆเป็นเดือนๆ ผมอยากจะบอกเค้าว่า
"พอแล้วไม๊?? ตอนนี้พอเถอะนะ " 
ในกรณีของเค้านี้ เป็นเพราะเค้ามักจะทำอะไรบางอย่างอย่างต่อเนื่อง 
ผมมักจะประหลาดใจและเห็นว่ามันน่าสนใจทีเดียว ผมมักคิดกับตัวเองว่า 
"นี่เค้ายังคงทำเรื่องนี้อยู่อีกจนถึงตอนนี้เหรอเนี้ย??" และนี่เป็นเสน่ห์อย่างนึงของเค้าครับ 

ผมมักจะพูดเรื่องดนตรีกับโซลซังเสมอๆ 
ผมมักจะบอกเค้าและเอาเพลงที่ผมชอบให้เค้าฟัง และได้รับการสอนจากเค้า
ผมยังคงฟังเพลงของ Chris Brown ที่เค้าแนะนำให้ผมฟังในช่วงที่เป็นศิลปินฝึกหัดอยู่เลย
และในฐานะที่เรารับหน้าที่เป็นฝ่ายร้องนำในวง เรามักจะไตร่ถามและปรึกษากันเสมอ 
"นายคิดยังไงกับดนตรีในท่อนนี้บ้างเหรอ?? " อะไรทำนองนี้ 
ผมคิดว่าเสน่ห์ของบิกแบงคือ สมาชิกในวงทั้ง 5 คนต่างก็มีเสียงร้องที่แตกต่างกันไป  
และเพราะเราต่างก็มีบุคคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ เราก็ไม่ได้ใส่ใจถึงเสียงร้องของคนอื่น 
ผมคิดว่าการที่เรามีบุคคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ปัจเจกแบบนี้
ทำให้เราพัฒนาพรสวรรค์ของเราไปได้ในหลายๆสายงานครับ 

และโซลซังครับ ได้โปรดหยุดเลียนแบบเสียงที่มีแต่เราเท่านั้นที่รู้กันได้ไม๊??
เพราะเวลาคนอื่นที่เค้าไม่รู้เรื่องนี้มาได้ยินเข้า เค้าจะไม่เข้าใจหรอกนะ 

Source:URTheSun
Picture scan by cheri
English translation by dana:bigbangisVIP
Thai translation by mew 

================

สามารถอ่านตอนก่อนหน้านี้ได้ ตามนี้ค่ะ

พูดถึงทาบิ
http://mew-mini-museum.blogspot.com/2013/03/daesungs-discovery-josei-jishin.html

วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

พี่สาวของจีดราก้อนอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับ ซาแซงแฟน



"ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกกลัวในการที่จะกลับบ้าน ㅜㅜ
เป็นเพราะเมื่อ 3 วันก่อน
ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าแฟนเพลงของจียงค้นพบได้ยังไง
แต่พวกเค้ารู้ที่อยู่ของเราและไม่รู้ทำยังไงถึงได้จัดการหลบเลี่ยงยามผ่านประตูหน้าเข้ามาได้
พวกเค้าเข้ามายืนอยู่ถึงชั้นที่เราอาศัยกันอยู่
เมื่อวานตอนเช้า ขณะที่จียงกลับมาถึงบ้าน
พวกเค้าหลบอยู่ในตู้หน้าบ้านที่ที่เราใส่ถังดับเพลิงไว้
พอจียงมาถึงพวกเค้าก็โผล่ออกมาจากที่ซ่อน
จียงนั้นตกใจกลัว และล้มลง
วันนี้ ในตอนที่ฉันกลับบ้านหลังจากที่ทำงานเสร็จ
ฉันพบเด็กคนนั้นอีกครั้งในที่จอดรถชั้นใต้ดิน
เราจำเป็นต้องเรียกยามในตอนรุ่งเช้า
คุณแม่ต้องตื่นหลังจากที่นอนไปได้ครึ่งๆกลางๆ
อ่า~~ เรารู้สึกขอบคุณมากๆที่จียงมีแฟนเพลงที่รักเค้า
แต่นี่เป็นการสร้างความเครียดที่มากเกินไปจริงๆ
ในตอนนี้มันน่ากลัวมากในการที่จะกลับมาบ้านในแต่ละวัน"

==========================

น้องจีทวิตบ่นเรื่องนี้ด้วยค่ะ ทำให้เรารู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ซึ่งจริงๆพี่Dami เล่าก่อนแต่คนยังไม่ค่อยเห็น
จนน้องจีทวิตเลยได้ไปตามหากันว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่ 
-_-!!! เห็น VIP รุ่นเก่าๆวิเคราะห์กันว่า คนที่ทำน่าจะเป็นเด็กที่พึ่งจะมาชอบได้ไม่นาน
เพราะจริงๆแล้วเค้าว่ากันว่าในหมู่ VIP จะไม่มีซาแซงแฟนนะคะ 
ต่างก็รู้กันดีเลยว่า พวกน้องๆหวงแหนความเป็นส่วนตัวแค่ไหน 
 



"ช่วงนี้มีเด็กๆอายุน้อยๆมาที่บ้านของผม ถึงกับมาถึงหน้าประตูบ้านเลยทีเดียว
ผมเข้าใจนะครับแต่เรื่องนี้มันชักจะเกินไปแล้วละ 
คุณแม่และพี่สาวของผมต้องประหลาดใจมากเมื่อพวกเค้ากลับมาถึงบ้านในตอนดึกๆ 
หยุดหลบซ่อนตัวได้แล้ว และอย่ามาที่บ้านของผม" 


sorce:http://netizenbuzz.blogspot.com/2013/03/pann-g-dragons-sister-explains-what.html?utm_medium=twitter&utm_source=twitterfeed
English translation by kristine 
Thai Translation by mew

วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

Daesung's Discovery จากนิตยสาร Josei Jishin


แม้ว่าจะมีอายุมากที่สุดกว่าทุกคน แต่ก็ยังเป็นเด็กน้อยประจำวงบิกแบง 

ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ผมจะเล่าแบ่งปันเรื่องราวที่เป็นการค้นพบใหม่ๆของผม
ที่มีต่อสมาชิกในวงนะครับเริ่มจากท็อปเป็นคนแรก 
เค้าเป็นคนที่มีบุคคลิกตรงกับกรุ๊ปเลือด เป็นคนในแบบกรุ๊ปบีจริงๆ 
หากเค้าคิดว่าอยากจะทานอะไร เค้าก็จะทานทุกอย่าง 
เค้าเป็นคนที่สามารถประสบความสำเร็จในสิ่งที่เค้ามุ่งหวังไว้ได้ภายในหนึ่งวัน 
เค้าเป็นคนที่รักอิสระ ดังนั้นผมคิดว่าเค้าเป็นคนที่ไม่มีความเครียดเท่าไหร่นัก 
ในบรรดาสมาชิกในวงเค้าเป็นคนที่มีอายุมากที่สุด แต่เค้ากลับเป็น "เด็กน้อย"ประจำวงบิกแบง(หัวเราะ)
ขอบคุณท็อป ที่ทำให้บรรยากาศรอบๆตัวผมละมุนละไมขึ้น 
ในครั้งแรกที่ผมเจอกับเค้าเมื่อนานมากแล้วนั้น 
ท่าทางของเค้าดูเย็นชา และพูดตามตรงนะครับ มันทำให้ผมกลัวเค้าจริงๆ
แต่เมื่อเค้าพูดกับผมว่า "ไม่ต้องพูดจาเป็นทางการกับฉันหรอกนะ "
ผมก็คิดว่า "เค้าเป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ (ยิ้ม) "
ในตอนนี้เค้าก็ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย 

สำหรับผู้ชายคนนี้ ผมได้ค้นพบด้านใหม่ๆในตัวของเค้าด้วย 
ในระหว่างการทัวร์คอนเสริต์ของบิกแบงเมื่อปีที่แล้ว 
เค้าแยกตัวออกจากบิกแบงและต้องทำงานด้วยตัวของเค้าเองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Alumni.” 
เค้าได้บทบาทที่ท้าทายโดยรับบทเป็น ฆาตกร
และเค้าก็ทำงานอย่างหนักและกลายเป็นคนในบทภาพยนตร์อย่างสมบูรณ์แบบซึ่งจริงจังและเ่ท่มาก
ในตอนที่เค้าทำงาน คุณจะรู้สึกได้เลยว่า " ท็อปนั้นยอดเยี่ยมสมชื่อท็อปจริงๆ"
และเสน่ห์เฉพาะตัวของเค้าก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีกในตอนที่เค้าเริ่มทำงานในฐานะนักแสดง 

แต่ว่ามีอย่างเดียวเท่านั้นครับที่ผมอยากจะให้เค้าหยุดทำ 
ขอให้หยุดขึ้นมาขี่หลังผมในตอนจบของทุกๆคอนเสริ์ตซักทีเถอะครับ (หัวเราะ) 
เค้าพูดว่า " ฉันชอบขี่หลังแดซองที่สุดเลยนะ" 
แต่ผมก็อยากให้เค้าหยุดทำแบบนั้นจริงๆนะครับ ผมเหนื่อยนะ 


Credit Translation to DANA:BIGBANGISVIP
Thai Translation by mew 
VIA BBU