วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

พรุ่งนี้ Tomorrow ( feat. Taeyang) - by Tablo

Tomorrow ( feat. Taeyang) - by Tablo ::

ไม่มี ไม่มี ไม่มี อีกแล้ววันพรุ่งนี้

แม้คุณเคยได้รับความรักของใครซักคน มันไม่ได้แปลว่าคุณมีมันไว้ในครอบครอง
แม้คุณกำลังเดินอยู่ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเวลาจะผ่านไป
แม้คุณยังคงหายใจ แต่มันไม่ได้หมายความว่าคุณมีชีวิตอยู่

ที่รัก มันไม่มีวันพรุ่งนี้อีกต่อไปแล้ว
ฉันยังคงเหมือนเดิมทุกประการจากคราวนั้น
เวลาหยุดนิ่งอยู่ตรงช่วงเวลาสุดท้าย
ถึงแม้ว่าสำหรับเธอแล้วมันเป็นเพียงแค่อดีตเท่านั้น
ที่รัก มันไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว
( จนกว่าเธอจะกลับมา ทุกวันก็เหมือนวันวาน)
ที่รัก มันไม่มี ไม่มีอีกแล้ว ไม่มี วันพรุ่งนี้

ความทรงจำที่เคยทำให้ใจของฉันแตกสลาย
ตอนนี้พวกมันได้ฉีกหน้าปฏิทิน
พวกมันกำลังเลือนลางเมื่อเดือนปีผ่านไป
ฉันแสร้งใช้ชีวิตอยู่พยายามลืมเธอ
โลกของฉันยังคงเหมือนเดิม (เพียงแต่ว่าไม่มีเธออยู่)

มีคนบอกกับฉันว่า หลังจากนี้ไป ฉันจะยิ้มได้เมื่อย้อนกลับมาคิดเรื่องในอดีตนี้
แต่สำหรับฉันแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้กระทั่งการเงยหน้าขึ้นเพือเผชิญหน้ากับเธอ
ทำไมพวกเค้ายังคงเอาแต่พูดอยู่ได้ทั้งๆที่ฉันไม่อยากจะได้ยินมัน
ฉันจะอยู่ตรงนี้แหละ

ไม่ต้องมาบอกว่าพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันใหม่แล้ว
(ยามเช้ายิ่งมืดมนมากกว่ายามค่ำคืนที่มีเธอเคียงข้าง)
ไม่ต้องมาบอกว่าหลังพายุกระหน่ำความสงบจะเข้ามาแทนที่
(ความสงบ ยิ่งร้อนรนมากกว่ายามที่ร่วมวิตกกังวลไปกับเธอ)
ทุกอย่างล้วนโกลาหล
มันคือฤดูใบไม้ผลิสำหรับเธอนะแต่ฤดูกาลของฉันมันไม่เปลี่ยนไป
แม้ว่าในใจของฉันจะเบ่งบาน ( แต่มันก็ไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับฉัน)

มันเป็นรอยยิ้มที่ตายด้านซึ่งว่างเปล่าภายใน
พวกเค้าต่างพูดกันว่าฉันดูดีขึ้นมากกว่าตอนที่อยู่กับเธอ
และพวกเค้าก็เลิกกังวลในตัวฉันแล้วตอนนี้
แต่ฉันหายใจไม่ออก
รอยยิ้มนี้ไม่อาจจะหลอกฉันได้

ฉันเริ่มที่จะปกติแล้ว
ฉันทำใจให้ว่างเปล่าได้มากแล้วเพราะมันกลายเป็นภาระ
ฉันกำลังจะบ้าแล้ว
หยุดพูดปลอบใจฉันได้แล้ว ฉันไม่อยากจะได้ยินมัน ( ได้โปรดหยุดเถิด)

พวกเค้าพูดว่า การเยียวยาบาดแผลทางใจมันก็คือ รักในรูปแบบนึง
( สำหรับฉันการพบหน้ายังสร้างความเดียวดายได้มากกว่าการเอ่ยคำลาเสียอีก)
พวกเค้าพูดว่า เวลาจะช่วยแก้ไขทุกอย่าง
( ชีวิตจะยังคงเหมือนเดิม ในเมื่อฉันตายทุกๆวินาที)

ใช่แล้วละ
แม้คุณเคยได้รับความรักของใครซักคน มันไม่ได้แปลว่าคุณมีมันไว้ในครอบครอง
แม้คุณยังคงหายใจ แต่มันไม่ได้หมายความว่าคุณมีชีวิตอยู่
ตอนนี้ฉันรู้แล้ว

ไม่มี ไม่มี ไม่มี อีกแล้ววันพรุ่งนี้
ที่รัก มันไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว
( จนกว่าเธอจะกลับมาหาฉัน)
จนกว่าเธอจะกลับมา ทุกวันก็เหมือนเมื่อวาน

Eng Translated : HuisuYoon @bigbangvip.net
Shared via bbvipforum@twitter
Taken from : bbvipforum.tumblr
Credit : HuisuYoon@twitter
Thai Translation by mewmew

================

welcome to our family นะค่ะ ทาโบล

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554

TABI Canada trip


ALL ABOUT Fan ACCOUNT TABI IN CANADA

ทาบิเดินทางไปแคนาดาตั้งแต่วันที่ 9 ที่ผ่านมาเพื่อถ่ายโฆษณาให้กับทาง Northfaceค่ะ และกลับมาถึงเกาหลีแล้วในวันนี้ ระหว่างที่ไปที่นั่น มีแฟนๆหลายกลุ่มทีเดียวได้เจอทาบิด้วยและนี่คือ แฟนแอคเค้าส์ที่แฟนๆนำมาเล่าให้ฟังกันค่ะ

เมื่อไปถึงเวลาผ่านไป 2 วันได้แฟนๆเริ่มออกตามหาตัว 555 ว่าไปอยู่ตรงไหน ก็เริ่มมีข่าวจากแคนาดาค่ะ มีชายคนนึงเจอทาบิกำลังถ่ายภาพให้กับทาง north face ที่ลำธาร Jake lake ในเมือง Banff เค้าบอกว่าทาบิรูปร่างสูงใหญ่ เทียบกับหมีได้เลย
อัธยาศัยดี ขนาดน้องหมาของเค้าที่ไม่ค่อยจะชอบคนแปลกหน้ายังหลงเสน่ห์ทาบิ 55 ทาบิฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง และน่ารัก
ไปๆมาๆ ทาง North Face ก็ยืมน้องหมาถ่ายรูปกับทาบิซะเลยค่ะ


===========================

หลังจากเงียบไปสองวัน มีคนเจอทาบิอีกในเมือง Banff เหมือนเคย คราวนี้แฟนเพลงสาวคนนี้ ขับรถอยู่และเห็นทาบิกำลังเดินหิ้วถุงใส่ของทานเล่นเพิ่งกลับจากร้านขายของชำ กำลังจะกลับโรงแรมพอดีเลย รีบจอดรถลงไปหา

พอถึงหน้าโรงแรมไม่ไกลจากร้านของชำทาบิก็นั่งที่ม้านั่งหน้าโรงแรมเพื่อสูบบุหรี่ จากนั้นแฟนๆก็ขอลายเซ็น แต่พอขอถ่ายรูปทาบิก็ยิ้มน้อยๆและปฏิเสธอย่างสุภาพว่า ไม่ได้

สาวๆเลยถามว่าชอบ แคนาดาไม๊ทาบิว่าชอบและหัวเราะค่ะ ระหว่างคุยกันนั้นน่าจะใช้เวลาทั้งหมด 10 นาที ทาบิมองเค้าและเพื่อนสาวของเค้าไม่วางตา และโค้งให้หลายครั้ง สาวทั้งคู่คุยกับทาบิเป็นภาษาเกาหลีนะค่ะ จากนั้นทาบิก็ลาเข้าโรงแรมไป

สองสาวนี้บอกว่าทาบิมีดวงตาที่สวยมากและทาบิมีรูปร่างสูงค่ะ น่าจะ ประมาณ 180 ซม


============================

แฟนเพลงกลุ่มสุดท้ายที่เขียนแฟนแอคเค้าส์ในช่วงนี้คือ คนที่ตั้งใจจะไปเจอทาบิที่สนามบินค่ะ และด้วยความที่ไม่รู้ว่าจะกลับไฟท์ไหนเค้าเลยไปเตร่ที่สนามบิน แล้วก็ไปถามตัวแทนบริษัททัวร์ที่พาทีมงานและทาบิไปถ่ายแบบใน Banff ว่ารู้ไม๊ว่าทาบิจะมากี่โมงแต่ที่บริษัททัวร์ก็บอกว่าไม่รู้

ระหว่างเดินเตร็ดเตร่ก็มองเห็นพี่แบงแองก่อน และก็เหลือบไปเห็น ทาบิกำลังสูบบุหรี่อยู่ตรงทางเข้า เค้าว่าตอนสูบบุหรี่ทาบิไม่ได้ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางคีบบุหรี่แต่ใช้อีกสามนิ้วแทน ระหว่างนั้นคนก็เริ่มเห็นและจะเดินเข้าไปหา ทาบิก็รีบทิ้งบุหรี่ไปและเดินเข้ามาภายในสนามบิน

เค้าเดินเข้าไปหาทาบิ ยื่นถุงที่ใส่แซนวิชและของขวัญวันเกิดล่วงหน้าให้ มีคนมารับไปแทนทาบิเอาแต่ขอบคุณและโค้งให้จนแฟนๆต้องโค้งตาม แต่ระหว่างนี้ไม่ได้หยุดเดินนะค่ะ แฟนๆก็จะถ่ายรูปค่ะกดไปครั้งนึงแสงแฟชทำให้พี่แบงแองสังเกตว่ามีคนถ่ายรูปเลยรีบเข้ามาห้ามไม่ให้มีการถ่ายรูป แฟนเพลงก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และ ยืนมองทาบิและพี่แบงแอง เช็คอิน

ระหว่างที่มองทาบิเชคอิน แฟนๆบอกว่า ทาบิฟัง ipod ซึ่งเป็น ipod รุ่นที่มีปุ่มวงกลมไว้กดเป็นรุ่นเก่ามากแล้ว ( มิวเดาว่าจะเป็นรุ่นแรกๆที่ 7 ทวิตรูปลงในวันที่ คุณจ็อบเสียชีวิตอะค่ะ สีขาวมีปุ่มกลมๆ) และเป็นเพราะมีคนมากมายช่วยเชคอินแทนให้แล้วทาบิก็คอยอยู่และเดินเป็นวงกลมในแบบหนุ่มแร๊พและขยับไม้ขยับมือในแบบhiphopตามจังหวะเพลงที่ฟังระหว่างคอยซึ่งทำแบบนั้นประมาณ 20-30 นาที แฟนๆก็แอบๆดูเพราะมีทีมงานมีคนคอยมองอยู่เยอะมากกลัวจะโดนไล่ค่ะ ซึ่งเค้าบอกว่า มีเค้ากลุ่มเดียวที่มาตามที่สนามบินครั้งนี้

ที่ที่เค้ายืนอยู่มองเห็นไม่ค่อยชัดค่ะ แต่ทาบิก็แฟนเซอร์วิชเหลือเกิน เดินมาใกล้ๆและโยกตามเพลงท่าเดิมให้แฟนเพลงดูกันอย่างจุใจอีกประมาณ ครึ่งชั่วโมง ให้แฟนๆได้แอบถ่ายรูปกัน ซึ่งพี่แบงแองไม่รู้เรื่องอะไรในตอนนี้ แต่ระหว่างนั้นแฟนๆก็ได้เดินไปถามผู้จัดการว่าถ้าถ่ายรูปด้วยไม่ได้ขอลายเซ็นได้ไม๊?? ซึ่งผู้จัดการฟังไม่เข้าใจเค้าเลยทำมือขยุกขยิกๆว่าขอลายเซ็นๆๆ ซึ่งพี่ผู้จัดการก็บอกมาว่า โอเค ซึ่งพอตรงเข้าไปขอลายเซ็นที่ทาบิทาบิก็ไม่รู้เรื่องอีกและต้องหันไปมองพี่ผู้จัดการว่าพวกแฟนๆต้องการอะไร

ตรงนี้แฟนๆได้ขยายความมาว่า ภาษาอังกฤษของทีมงานที่มาด้วยกันกับทาบิและทาบิเองค่อนข้างจะอ่อนค่ะ เพราะพี่สไตลิสต์ที่มาด้วยกันน้ำหนักกระเป๋าเกิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางสายการบินได้แจ้งให้เอาออกไปบางส่วน ตรงนี้พี่สไตลิสก็ฟังไม่เข้าใจ ทำให้เจ้าหน้าที่ของทางแอร์แคนาดาต้องขอให้นักท่องเที่ยงชาวเกาหลีที่เข้าใจช่วยสื่อสารให้แทน

แฟนๆสังเกตเห็นสาวจากค่าย SM ด้วยนะค่ะแต่เค้าบอกว่าทาง YG ก็ไม่ได้คุยอะไรกับฝ่ายนั้นมาก ก็ต่างคนต่างทำธุระของตัวเอง

สุดท้ายแล้วแฟนเพลงคนนี้เล่ามาว่า ทาบิผอมมาก มากเกินไป หน้าตาดูซีดๆด้วยเดาว่าน่าจะเป็นเพราะไม่ชินกับโซนเวลาที่ต่างกันกับทางเกาหลี นอกจากนี้ยังบอกว่า ทาบิหล่อมากๆๆ และใจดีมากๆ พี่แบงแองก็ใจดีถึงแม้ว่าพี่แบงแองจะขอให้เค้าลบภาพที่เค้าถ่ายไปทิ้งให้หมดก็ตามแต่ก็ไม่ได้ตัดสินหรือดูถูกใดๆ เป็นการทำตามหน้าที่เท่านั้นและยังยิ้มให้แฟนๆด้วยค่ะ


==============

Source: EmS 翔翔~@weibo // kspringa @ tumblr
Eng Translation: jwalkervip.tumblr.com
Thai Translation by mew

===============

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554

[Fanaccount] DS and GD At church


[FAN-ACCOUNT] แดซองที่โบสถ์ 10 ตุลาคม 2011

แดซองและจีดราก้อนทั้งคู่ต่างก็ไปโบสถ์ในวันนั้น และเป็นเพราะน้องแดน้องจีเลยร้องไห้ น้องแดจึงไปปลอบใจน้องจีบอกว่า " พี่ฮะ อย่าร้องไห้เลย พยายามยิ้มเถอะฮะ " ทำให้น้องจีพยายามที่ยิ้มออกมา

จากนั้นมีแฟนๆที่ตั้งใจจะไปโบสถ์เพื่อที่จะได้พบกับน้องแดแต่ทำยังไงๆก็มองหาน้องไม่เจอ แต่ขณะนั้นเองพอแฟนเพลงคนนั้นหันหลังกลับก็เจอน้องแดพอดี ด้วยความที่ประหลาดใจและดีใจมากจึงร้องไห้ออกมา น้องแดก็เริ่มกระวนกระวายเมื่อเห็นแฟนเพลงต้องมาร้องไห้เพราะเค้า เค้าจึงพยายามปลอบแฟนเพลงคนนั้น

"ไม่ต้องร้องไห้นะ อย่าร้องไห้เลย ทำไมถึงร้องไห้กับเรื่องแบบนี้ละ"ซึ่งแน่นอนแฟนเพลงคนนั้นก็ยิ่งร้องไห้หนักเข้าไปอีก น้องแดจึงเข้าไปกอดแฟนเพลงคนนั้น และพูดว่า " ให้เวลาผมซักหน่อยนะ ผมจะกลับไปอยู่ข้างๆวีไอพีแบบเดิม กรุณารอต่อไปอีกหน่อยนะฮะ"

มีแฟนเพลงที่ตามติดดารา 24ชั่วโมงเล่าต่อกันมาว่าหลังจากเกิดอุบัติเหตุได้ 2-3 วันพวกเค้าได้ยินเสียงร้องไห้ดังออกมาจากหอพักที่บิกแบงอาศัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงพยายามแอบดู และเห็นว่า น้องจีกำลังกอดน้องแดร้องไห้อยู่ โดยได้ยินน้องจีพูดว่า" ทำยังไงดีละเนี่ย จะทำยังไงดี " ส่วนน้องแดก็หลับตาแล้วร้องไห้

Source: @dliteholic//Via ygfamilly@tmblr//@rnosel//navercafe’s uhj3025님 via @永远一洋黑瓶酸 via : BBWW and BBforlife tumblr

วันนี้มิวรู้ข่าวร้ายจากน้องปุ๋ย น้องVIP ด้วยกัน มิวฟังแล้วได้แต่ร้องไห้สงสารน้อง มิวโตกว่าแต่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ทำเอาตอนนี้มิวก็ยังรู้สึกเสียใจกับน้องเค้าด้วย มิวต้องจิตตกกับสัจธรรมเรื่องความเป็นความตายมาก่อน วันนี้มาเจอเรื่องนี้ ทำให้มิวหวาดกลัวลึกๆในใจอีกรอบ ทำให้มิวรู้ตัวว่า มิวยังไม่หายดีจริงๆ หวังว่าน้องปุ๋ยจะเข้มแข็ง และหวังให้คนรอบข้างมิว จะไม่มีใครต้องมาเจอเหตุการณ์แบบน้องปุ๋ยในเร็วๆนี้ หวังว่ามิวจะเข้มแข็งด้วยค่ะ

วันนี้วันเกิดคุณแม่ของมิวด้วย ปีนี้ไม่อยากซื้ออะไรให้เลย เห็นว่าไม่มีของอะไรที่จำเป็น เลยตัดสินใจทำบุญจะดีกว่า ของขวัญให้คุณแม่ปีนี้คือ การบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ร่วมกับครอบครัวข่าว 3 หวังว่าคุณแม่จะแข็งแรงมีความสุขมากๆและอยู่กับมิวไปนานๆๆนะค่ะ รักมากมายค่ะแม่

วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สัมภาษณ์ GD จากนิตยสาร 1st Look (ตุลาคม 2011)

RULE THE NATION

จีดราก้อนกำลังแนะนำแนวทางมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี บอกเล่าถึงความคิดของเค้าในเรื่อง แฟชั่น เสียงเพลง นักดนตรี และ กระแส Kwave, ความคิดของเค้ายิ่งใหญ่ขึ้นและกว้างไกลมากกว่าที่เราคาดไว้


ยุค ของศิลปินที่เน้นในเรื่องเต้นและวงไอดอลนั้น เริ่มขึ้นเมื่อช่วงปี 1990 และ เนื่องจากประวัติศาตร์ในเรื่องนี้ยังถือว่าไม่ยาวไกลนัก ผู้คนที่เป็นผู้เปลี่ยนกระแสในยุคนั้นก็ยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ ผู้คนอย่าง Seo Taiji & Boys, Deuce, และวง H.O.T ต่างก็เคยเป็นผู้ที่ตั้งมาตรฐานผ่านทางดนตรีและการเต้นของพวกเค้ามาก่อน แล้วจีดราก้อนเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและสามารถทำเหมือนกับที่รุ่นพี่เหล่านั้นเคยทำมาได้เหรอ???

ชายผู้ที่มักจะมีพฤติกรรมทำให้คนต้องตกตะลึง ได้เสมอ คนที่เป็นหัวหน้าวง บิกแบงและยังเป็นศิลปินเดี่ยวคนนี้ มีอายุเพียง 24 ปีเท่านั้น แน่นอน จุดเริ่มต้นของเค้าไม่ได้แตกต่างไปจากดาราไอดอลคนอื่นๆที่ถูกคัดเลือกและถูก เลี้ยงดูให้ก้าวไปเป็นศิลปิน ผ่านขั้นตอนที่เรียกว่า ช่วง " เทรนนี" มาก่อน จีดราก้อนก็เดินตามขั้นตอนนั้นเหมือนทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม จีดราก้อนไม่ได้จำกัดตัวเองให้อยู่กับแค่การเต้นและการร้องเพลงเท่านั้น ในตอนนี้เค้าทำงานในส่วนของการออกแบบแนวความคิด เป็นโปรดิวเซอร์ที่สามารถควบคุมในเรื่อง แฟชั่น ทัศนคติ การออกแบบท่าเต้น การออกแบบเวที การออกแบบปกอัลบั้ม นี่ยังไม่ได้นับเรื่องของการเขียนเพลงทำเพลงด้วยตนเองอีกด้วย และนี่เป็นสาเหตุที่เราไม่สามารถจะเรียกเค้า และ วงบิกแบง ให้เป็นแค่วงไอดอลธรรมดาได้


“วาย จีทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ครับ ทั้งสภาพแวดล้อม วิธีที่ทุกคนใช้ทำงานและทุกอย่างเลย ความเป็นครอบครัวนั้นเข้มข้นมากที่นี่ฮะ พวกเราเหมือนกับเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นมันไม่เชิงว่าเรากำลัง "ทำงาน"ฮะแต่เหมือนกับเรากำลัง"เล่นสนุก"ด้วยกันมากกว่า เมื่อเราต้องทำงานและตั้งใจที่จะสร้างสรรค์งานเพลงให้ออกมาฮิต ให้เป็นเพลงที่โด่งดังนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดังนั้นพูดง่ายๆคือ เราจะทำงานไปด้วยในขณะที่เราออกไปนั่งดื่มกัน หรือ ตอนที่กำลังเล่นเกมส์ จากนั้นไอเดียต่างๆมันก็จะเข้ามาหาเราเองซึ่งเพลงที่ได้ในช่วงนั้นก็จะออกมา ดีมากๆ แม้กระทั่งในช่วงวันหยุดผมก็มักจะมาที่บริษัทผมจะมาอยู่ใช้เวลาในที่ทำ งานอยู่กับพวกพี่ๆ ทำงานไปด้วยเล่นไปด้วยกับพวกเค้า ผมคิดว่านี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมสามารถทำงานได้มากกว่าคนอื่นและทำงานเพลง ดีๆออกมาได้ "


ในระยะหลังนี้ จีดราก้อนถูกพูดถึงในเรื่องของเป็นผู้นำแฟชั่นมากกว่าที่จะเป็นนักดนตรีด้วย ซ้ำ มีบางคนถึงกับออกมาล้อเลียนสไตล์แฟชั่นที่ดูจะกล้าหาญและโลดโผนของเค้าอีกด้วย ดังนั้นเราควรจะรู้ไว้ว่าจีดราก้อนนั้นเป็นผู้มีส่วนในความโด่งดังของ คุณ Jung Hyung-don ผู้ซึ่งวิจารณ์อย่างไม่มีความปราณีในเรื่องสไตล์การสวมใส่เสื้อผ้าในที่เป็น เอกลักษณ์และกล้าได้กล้าเสียของจีดราก้อนผ่านรายการ Infinity Chanllenge นอกจากนี้ การตูนบนเวปไซด์ อย่าง “Fashion King,” ที่มักจะล้อเลียนในเรื่องของแฟชั่นต่างๆล้วนต้องขอบคุณจีดราก้อนทั้งนั้น

“ผม เห็นว่ามันสนุกดีฮะ ในฐานะที่เป็นคนดูทีวีคนนึง รายการ Infinity Challengeเป็นรายการโปรดของผมจริงๆฮะ ส่วนเรื่อง Fashion King ผมได้ยินเรื่องนี้มาจากกลุ่มแฟนๆฮะ แต่ก็ยังไม่ได้ไปอ่านเลย ผมมั่นใจว่ามันต้องสนุกเหมือนกันนะฮะเพราะชื่อก็บอกแล้วว่า
. Fashion King ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมากๆที่คนดังจะถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องในตัวของรายการ นะฮะ"

จี ดราก้อนไม่เพียงแต่มีความหลงใหลอย่างมากในเรื่องของดนตรีเท่านั้น แต่เค้ายังหลงใหลในเรื่องของแฟชั่นอีกด้วย ในตอนนี้เค้ากำลังวางแผนในโครงการใหม่โครงการนึง

“ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเดินทางไปต่างประเทศ ผมมักจะไปดูร้านค้าที่เต็มไปด้วยของที่มีสไตล์เปื่ยมไปด้วยความสร้างสรรค์ และได้พบกับเพื่อนๆที่สุดวิเศษที่นั่นฮะ แต่ในทางตรงกันข้าม พอมานึกถึงว่าในประเทศเกาหลีมีร้านแบบนั้นบ้างไม๊?? ผมก็คิดไม่ออกว่าจะไปหาร้านแบบนั้นในเกาหลีที่ไหน ผมอยากจะสร้างพื้นที่ที่เท่ๆ เจ๋งๆและสร้างสรรค์ร่วมกับเพื่อนๆที่ผมคิดว่าพวกเค้าเก่งและมีสไตล์ขึ้นมา มันจะต้องไม่ใช่ร้านทั่วไปที่ทำธุรกิจขายเสื้อผ้าและข้าวของต่างๆ แต่ว่ามันจะต้องเป็นสถานที่เชิงวัฒนธรรม ที่ที่เราจะสามารถไปสัมผัส ไปมอง ไป เรียนรู้ในเรื่องของสไตล์แบบเกาหลีจริงๆ เป็นที่ที่ทุกอย่างสวยงาม ตระการตา มีสไตล์ไปหมดตั้งแต่คนขายไปจนถึงการตบแต่งภายใน และสินค้าต่างๆ เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยียน ผมเองก็กำลังเตรียมการในโครงการนี้ไปอย่างช้าๆในใจฮะ รอเวลาเหมาะๆก่อน"


นอกจากเรื่องของแฟชั่นแล้วสิ่งที่เค้ากำลังทุ่มเทความสนใจลงไปในช่วงนี้ คือ อัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 2 ของเค้า

" ผมกำลังเตรียมการเรื่องต่างๆในอัลบั้มเดี่ยวของผมอยู่ครับ แต่เป็นเพราะว่าเรามีงานที่ญี่ปุ่นและตารางถ่ายโฆษณาต่างๆเยอะมากๆ ผมคิดว่าผมคงจะต้องล่าช้าไปเล็กน้อยฮะ"


อัลบั้มเดี่ยวชุดแรก ของเค้า อัลบั้ม Heartbreaker เป็นอัลบั้มที่โชว์ สาระข้อเท็จจริง เกี่ยวกับจีดราก้อนจากต้นจนจบ ทั้งภายนอกภายใน เราสามารถรู้สึกได้เลยว่าเค้าทุ่มเทพลังทั้งหมดของเค้าลงไปกับการทำ อัลบั้มของเค้าครั้งนี้ ทุ่มไปหมดตัวหมดใจ
และที่น่าจะเป็นจุดที่เราเรามอง จีดราก้อนในฐานะ เป็นดิวเซอร์และศิลปินอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่นักร้องไอดอลธรรมดา

" ผมคิดว่าอัลบั้มของผมเป็นเหมือนกับไดอารี่ของผมฮะ บางครั้งมันสามารถที่จะเตือนใจคุณในความคิดต่างๆของตัวเอง มันทำให้คุณนึกถึงแนวความคิดและพลังงานต่างๆในตอนที่คุณลงมือทำมันออกมา ยังไงก็ตามทุกอัลบั้มต่างก็มีพื้นที่พิเศษต่างกันไปในใจของผม แม้ว่าในตอนนี้เมื่อผมย้อนกลับไปฟังมัน มันจะฟังดูเด็กมากๆและน่าอายแค่ไหนก็ตาม ผมรู้สึกเหมือนกับว่าได้ใส่พลังความรู้สึกที่ัยังไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่เท่าไหร่ลงไป ดังนั้นในอัลบั้มนี้น่าจะเป็นอะไรที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นครับ"

นอกจากอัลบั้มเดี่ยวของเค้าจะเป็นเพลงในแบบ hip hop ซะเป็นส่วนใหญ่ซึ่งเป็นแนวดนตรีตั้งแต่ต้นของเค้า แต่อัลบั้มชุดนี้ก็จะมีความแตกต่างไปจากอัลบั้มในชุดก่อน มันจะมีการผสมผสานดนตรีแนวต่างๆที่หลากหลายเข้ามามากขึ้น

“ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเพลงที่ดีๆล้วนถูกทำออกมาแล้วทั้งนั้น ตอนนี้กุญแจสำคัญอยู่ที่ว่าเราจะต้องหาทางผสมผสานมันให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง เพราะ เหตุนี้ศิลปินทั้งในและนอกประเทศเกาหลีต่างก็พยายามที่จะทำเพลงใหม่ๆออกมาแทนที่จะมานั่งแบ่งประเภทว่ามันเป็นเพลงแนวไหน เพลงในอัลบั้มนี้จะมีส่วนประกอบที่เป็นเพลง hiphop อยู่มาก ผมมีเพลงที่เป็นเพลงจังหวะช้าๆ และเพลงในแบบป็อป ในอัลบั้มก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้ทุกเพลงจะมีพื้นฐานเป็นเพลงhiphop ทั้งหมด ทุกคนจะต้องคิดเลยว่า " โอ้ นี่มันเพลง hiphop " ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินมันเลยทีเดียวฮะ"


ความหมายของคำต่างๆเปลี่ยนไปเมื่อสังคมเปลี่ยนแปลงไป ในอดีต คำว่า " นักดนตรี" ครอบคลุมไปถึงการเขียนเพลง การแสดงออกถึงทักษะที่ยอดเยี่ยมในเรื่องการร้องเพลงหรือความตั้งใจในเรื่องของดนตรี แต่สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ในปัจจุบัน ถ้าคุณอยากจะได้ชื่อว่าเป็น " นักดนตรี" คุณจำเป็นต้องสามารถควบคุมในเรื่องของแฟชั่น การแสดง รายละเอียดต่างๆที่สามารถมองเห็นได้ และทำให้มันเป็นไปในแบบของคุณให้ได้ด้วย ความปรารถนาของจีดราก้อนและประโยคข้างบนนี้เป็นความคล้องจ้องที่กลายเป็น "มาตรฐานใหม่" ไปแล้ว

" เหตุผลที่เคยทำให้ผมอยากจะมาเป็นนักร้องก็เป็นเพราะว่านักร้องนั้นดูเท่มากๆๆ เมื่อย้อนกลับไปในตอนนั้นไม่มีเหตุผลอื่นเลยละฮะ ผมคิดแค่ว่า พวกเค้าดูเท่มากๆจริงๆ ผมคิดว่า โว้วว ผมอยากจะมีชีวิตแบบพวกเค้า จนกระทั่งถึงตอนนี้ เพลงและการแสดงของพวกเค้าก็ยังเท่มากจริงๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีศิลปินนักดนตรีคนไหนที่จะเท่เท่าพวกเค้าอีกแล้ว และนั่นเป็นเหตุผลที่ผมอยากจะกลายเป็นคำตอบที่ดีที่สุดให้กับผู้คน ผมจะรู้สึกดีใจมากถ้าผมได้กลายเป็นมาตรฐานที่ใช้ในการวัดเรื่องของเพลงดีๆ ที่คุณสามารถที่จะตัดสินว่าอะไรคือสิ่งที่ดีและอะไรที่ไม่ดี ท่ามกลางนักร้องที่มีหลากหลายในทุกวันนี้ และนี่แหละครับ คุณสามารถบอกได้ว่าสิ่งนี้แหละคือความฝันของผม"

ในช่วงวัยรุ่นที่อายุยังน้อย สิ่งที่คุณควรจะทำอยู่คือ กำลังยุ่งที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว มันจึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจที่จีดราก้อนมองเห็นอุตสาหกรรมนี้โดยรวมแล้วและพยายามที่จะหาที่ที่เป็นของเค้าเองในอุตสาหกรรมนั้น อย่างไรก็ดี ความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ของเค้าไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ซึ่งตอนนี้หน้าที่ของเค้าก็ยิ่งจะต้องหนักขึ้นอีกเนื่องจากว่าตอนนี้ กระแส Kpop และแฟชั่นเกาหลีได้รับความสนใจไปทั่วโลก ซึ่งทุกอย่างรวมเรียกว่าเป็นกระแส K wave

" สถานภาพของเกาหลีในตอนนี้คือ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรผู้คนต่างก็ให้ความสนใจกันมาก แทนที่เราจะมองว่ามันเป็นแค่กระแสชั่วครั้งชั่วคราว เราควรจะทำให้กระแสนี้เติบโตขึ้นและทำให้เพลงเกาหลี มีเสียงเฉพาะของมันเองในตลาดโลก ถ้าศิลปินทุกคนสามารถที่จะทำงานร่วมกันเพื่อแสดงออกถึงเพลงดีๆและอุตสาหกรรมเพลงของเราสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราสามารถที่จะสร้างตลาดที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับญี่ปุ่นได้หรืออาจจะกว้างไกลกว่าก็ได้ เราอาจจะสามารถที่จะเป็นผู้นำในตลาดโลก ซึ่งตอนนี้เราได้รับโอกาสที่ดีมากๆมาแล้ว และผมก็กังวลมากๆเลยว่าเราอาจจะปล่อยให้มันหลุดมือไปก้ได้ครับ"

และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เค้าทำงานในอัลบั้มเดี่ยวครั้งนี้ด้วยก้าวช้าๆ เค้าอยากที่จะทำงานเพลงดีๆออกมาและจะเป็นมาตรฐานต่อไป และเป็นเพราะเค้าต้องการที่จะดึงกระแสความดังของเพลงเกาหลีให้สูงขึ้นอีก เค้าจึงมีความคิดมากมายและความกังวลมากมายในขณะนี้ ไม่มีใครขอร้องหรือบังคับให้เค้าทำแบบนี้ งั้นทำไมเค้าถึงต้องแบกรับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่และแสนลำบากนี้เอาไว้บนบ่าของเค้าคนเดียวเล่า?? เราขอเป็นกำลังใจให้กับจีดราก้อนคนนี้ ที่ย่างก้าวแต่ละก้าวของเค้าจากนี้คงสาหัสน่าดู

Eng Translated by KAYLI for bigbangupdates.com

Thai Translation by mew in mew mini museum

soure http://www.firstlook.co.kr/?people=cover-story-rule-the-nation

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

KVIP VS YG ( issue3)

ในข้อมูลที่มิวพอจะรวบรวมได้ตอนนี้ เหมือนเป็นบทสรุปว่าตอนนี้มีความไม่พอใจรุนแรงเกิดขึ้นระหว่าง วีไอพีและท่านยาง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีการกระทำใดออกมา หรือ จะมีการเปลี่ยนใจ สงบใจลงกันบ้างไม๊??

ตามสไตล์ค่ายนะค่ะ ต้องรอดูเมื่อมันเกิดเรื่องอะค่ะ ไม่มีการเตือนอะไรล่วงหน้า -_-!!


นอกจากเรื่องความไม่พอใจที่ระอุๆๆกันอยู่ ระหว่าง วีไอพี แบล็คแจ็ค และ ท่านยาง ทางลัคกี้7 ก็ไม่พอใจเหมือนกัน เพราะเมื่อก่อน เจ็ดก็เป็นดาวจรัสแสงของบริษัทมาก่อน เอาเป็นว่าไปๆมา แฟนคลับเหล่านี้ก็คิดเป็นจริงเป็นจังมากว่าใครจะเด่นกว่าใครในบริษัท

บิกแบงขึ้นสู่จุดสูงสุดในเรื่องของแฟนคาเฟ่ในปี 2008 และเริ่มตกลงไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่เดือน มกราคม ปี 2009 ซึ่งสูญเสีย สมาชิกในคลับ ประมาณ 1500 คนทุกๆเดือนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเค้าว่ากันว่า เป็นเรื่องปกติของดารานักร้อง แต่ที่แน่ๆคือ จำนวนแฟนคลับที่ออกไป เหตุผลหลักๆที่ทำให้ออกมักจะเป็นเพราะว่าพวกเค้าหมดความศรัทธาในกลุ่มนั้นๆแล้ว

ในสมัย ที่โปรโมทเพลง Lie สมาชิกแฟนคลับเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า และในช่วง last farewell ก็มีสมาชิกสมัครเข้าใหม่ ทุกๆเดือน แต่ในช่วงที่ คัมแบคกับเพลง Tonight จำนวนสมาชิกกลับเท่าเดิมไม่มีการเคลื่อนไหวไม่เพิ่มขึ้นหรือน้อยลง แต่คงที่ เรื่องนี้แฟนๆต่างรู้ดี แต่ด้วยความไม่พอใจต่างๆ จึงไม่มีใครอยากทำอะไร

วายจีขึ้นชื่อเรื่องการพูดเกินจริงและสร้างแผนการมากมายที่ยิ่งใหญ่ แต่น้อยมากที่แผนการเหล่านั้นจะได้ลงมือทำให้สำเร็จ ในตอนนี้ว่ากันว่า การขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศของทุกค่ายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น SM JYP หรือกระทั่งกับ Cube เอง ก็ยังทำได้ดีกว่าวายจีมาก ซึ่งนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บรรดาแฟนคลับไม่พอใจในตัวท่านยาง

ในเรื่องการนำตลาดเข้าตลาดหุ้น วายจีต้องการให้ขายหุ้นได้มากๆๆ แต่ด้วยความไม่มั่นคงในการตัดสินใจของท่านยางที่เป็นข้อเสียที่ใครๆก็รู้


มีวีไอพีประมาณ 100 คนรวมตัวกันจะซื้อหุ้นของบริษัทเป็นจำนวนเงินหลายล้านวอน ซึ่งจากที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ บริษัท SM ก็มีแฟนคลับถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยนิสัยของท่านยางทำให้วีไอพีเกิดความลังเลว่าจะลงทุนลงไปได้ยังไง และเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับตัวเงิน เพราะพวกวีไอพีไม่ได้จะซื้อหุ้นบริษัทเพราะอยากทำธุรกิจ แต่เป็นเพราะจะสนับสนุนบิกแบง โดยแฟนๆกล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างบริษัทกับแฟนดอมในตอนนี้ก็น่าจะส่งผลทะแม่งๆให้กับผู้ลงทุนอื่นๆได้รู้และคงต้องไตร่ตรองบ้างแล้วก่อนการลงทุนกับวายจี

วีไอพีได้รวมตัวกันประชุมเพื่อที่จะทำการแอนตี้ ท่านยางกันอย่างเป็นรูปธรรม โดยคิดคร่าวๆกันว่าอาจจะต้องทำการไม่เข้าร่วมกิจกรรมใดๆของค่าย ไม่ซื้อ ไม่โหวต ไม่เชียร์ ซึ่งการหารือกันในตอนนี้เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเดินหน้ากระทำการใดๆออกมาค่ะ

แต่ผลจากการหารือในคืนนั้น มีวีไอพี หมดใจและลาออกเป็นทางการกว่า 500 คนเพียงชั่วข้ามคืน ลองคิดดูว่าถ้ามีคนถอดใจ คืนละ 500 คน แฟนคลับนี้จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

สถานการณ์เริ่มรุนแรงก่อตัวมาตั้งแต่เดือนกันยายนมาแล้ว ซึ่ง ในเดือนนั้นมีวีไอพีลาออกกว่า 2000 คน

การรวมตัวกันและการกระทำครั้งนี้ ไม่ใช่ KVIP อย่างเป็นทางการที่จ่ายเงินเสียค่าสมาชิกจะลงมามีส่วนทุกคน แต่คนที่เป็น ผู้นำหรือกลุ่มใหญ่หลักๆๆเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นและนั่นทำให้เกิดเป็นเรื่องราวกันขึ้น คนกลุ่มหลักนี้ เป็นคนกลุ่มที่ช่วยซื้อช่วยโหวต ให้กับบิกแบง

สรุปในตอนนี้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับท่านยางคนเดียวเท่านั้น ในส่วนของสาวๆ วีไอพีกลุ่มนี้ไม่ได้ติดใจอะไร และสรุปกันไว้ว่า ควรจะให้เกียรติสาวๆ 2ne1 เอาไว้ เรื่องราวจะดำเนินไปหยุดตรงไหน เราคงต้องรอฟังกันต่อไปนะค่ะ

ตามที่บอกในโพสแรกนะค่ะ บล็อคนี้เป็นบล็อคส่วนตัวของมิว ขออย่า copy และ paste ไปลงที่ไหนให้ลิงค์เข้ามาอ่านนะค่ะ เพราะเจ้าของคนที่มาเล่าเค้าก็ไม่ให้นำออกเหมือนกันแต่มิวดันเอามาสรุปเป็นเวอร์ชั่นที่ได้อ่านๆกันไปนี้ มิวไม่อยากให้เรื่องยาว ไม่ชอบมาม่า 555 ใครอยากอ่านเวอร์ชั่น อังกฤษไปตามได้ตามนี้เลยค่ะ http://swaggalevel1000.tumblr.com/post/10893720932 also credit to Chantal meijer นะค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

KVIP VS YG ( issue 2)

วีไอพี ออกตัวกันไว้ก่อนแล้วนะค่ะ ว่าความพอใจนี้ ไม่พอใจตัวท่านยางเท่านั้น ไม่ได้จะแอนตี้แบล็คแจ็คหรือแฟมดอมอื่นในครอบครัวนะค่ะ แต่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายในการจัดการเรื่องต่างๆของท่านยาง ตัวมิวเองเป็น วายจีอาร์มี่ค่ะ รักหมดเลยค่ายนี้ สาวๆก็รัก หนุ่มๆก็รัก หมีก็รัก เจ็ดก็รัก พี่ไซก็รัก เจย์ก็ร้ากกกกก (เริ่มไม่เกี่ยว 5555)

เอาละค่ะ มาอีกเรื่อง ค่ะ
==================

เรื่องราวที่เล่าๆกันมานะค่ะ มาจากการที่ประธาน แฟนคลับอย่างเป็นทางการ Lee Hye mi ได้เขียนไว้ในไซเวิดดิ์ของตัวเอง
นอกจากเรื่อง มงกุฏวีไอพีที่โดนวายจี เอาไปทำขายเอาตังเข้ากระเป๋าแล้ว เรื่องที่เป็นประเด็นคล้ายๆกัน คือ กรณี รอยสักใช้เชียร์คอนเสริต์เดี่ยวของ ยองเบ Solar concert เมื่อปีที่แล้ว

วีไอพีตั้งใจจะวาด เฮนน่าทำเป็นรอยสักปลอมๆขึ้นมาบนมือของวีไอพีที่จะไปดูคอนเสริ์ตในครั้งนั้น เพื่อใช้เชียร์เบ (ตามรูปทางขวาค่ะ)เลยมีความคิดว่างั้นเราลองเอารอยสักนี้ไปถามทางวายจีกันดีกว่า เผื่อวายจีจะชอบและจะได้ทำออกมาเป็นสติกทู ขึ้นมา และแจกให้ทางวีไอพีเอาไปติดกันฟรีๆ เพื่อเชียร์เบ

แต่คำตอบก็รู้ๆกันนะค่ะ ทางวายจีรู้สึกว่ามันดูปัญญาอ่อนอีกแล้วและบอกว่ามันจะดูแรงไปสำหรับคนที่ไม่นิยมชมชอบกับการสักตามร่างกาย ทางวีไอพีก็ไม่ได้ประท้วงอะไร และ ตามเคยก็ไม่มีแฟมดอมไหนก็อปปี้ไอเดียเรื่อง สติกทู หรือการเขียนเฮนน่านี่ไปใช้เชียร์ศิลปินของตัวเอง แต่ก็ซ้ำรอยกับเรื่องมงกุฏ อาทิตย์ต่อมาเมื่อถึงช่วงแสดงคอนเสริต์ วายจีออกสติกทู มาจำหน่าย (ตามรูปทางซ้ายค่ะ) และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้วีไอพีคิดว่า วายจีมองว่าบิกแบงเป็นแค่เครื่องพิมพ์แบงค์เป็นแค่ตัวหาเงินให้กับวายจีเท่านั้น

=================

ทั้ง KVIP และทางแบล็คแจ็ค รู้ดีว่า วายจีเข้าใจว่าการกระทำของแฟนคลับนั้นมีความหมายมากมายแค่ไหนต่อแฟนๆ และฝ่ายดูแลแฟนคลับของบริษัทวายจีต่างก็ตามติดคอยดูพวกเค้าทั้งสองคลับทุกย่างก้าว แต่ถึงอย่างนั้นวายจีก็ยังกล้าที่จะเมินความเห็นของวีไอพี และเฉยชามองข้ามกับปัญหาและความคิดที่พวกเค้าเสนอไปอีก

วีไอพีที่เกาหลีต่างไม่ค่อยพอใจกับความจริงที่เห็นๆกันอยู่ว่าตั้งแต่สาวๆ 2ne1 เดบิว บิกแบงก็ไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกๆในลิสของวายจีอีกต่อไป ทางวีไอพีมองว่า บิกแบงต่างเอาใจและทำทุกอย่างเพื่อให้แฟนๆมีความสุข จนกระทั่งช่วงปลายปี 2008 ปีที่ 2ne1 เดบิว และบิกแบงก็ถูกส่งไปทำงานที่ญี่ปุ่นกว่า 2 ปี และตารางงานก็ยุ่งมากและเต็มไปด้วยการเดินทางไปๆมาๆ เกาหลีและญี่ปุ่น ตัวของน้องแดที่ตอนนั้นยังทำรายการ family outing อยู่ก็จำเป็นต้องเดินทางไปๆมาๆตลอดเวลาและใช้เวลา 3-4 วันต่ออาทิตย์บนเครื่องบิน

และในปี 2008 นี่เองที่ วายจีสัญญาว่าจะทำอัลบั้มเดี่ยวให้กับ ทาบิและน้องแด และจะออกวางแผงในช่วงต้นปี 2009 แถมยังประกาศว่าจะมีสาวๆมาร่วมแจมในอัลบั้มเหล่านี้ด้วย แต่สองอัลบั้มนี้ก็ไม่เคยได้ออกมาและกลายเป็นแค่แผนการโปรโมท 2ne1 เท่านั้น

ในปี 2009 ในช่วงเดือนกรกฏาคมควรจะเป็นช่วงที่ บิกแบงจะออกอัลบั้มใหม่ แต่กลายเป็นว่าปีนั้น ทูเอนี่วันได้เดบิวและน้องจีไปทำอัลบั้มเดี่ยวแทน

นอกจากนี้ รายการ YGTV ควรจะเป็นรายการทีวีที่มีทุกคนในค่ายแต่กลายเป็นว่า พอปีที่สองที่ทำรายการนี้ก็เปลี่ยนเป็น 2NE1 TV แบบเต็มๆ และทำมาถึง 3 ซีซั่นแล้ว เกิดคำถามขึ้นว่าทำไม 2ne1 ถึงมีรายการทีวีของตัวเอง ในขณะที่บิกแบงไม่มีการคัมแบคเลยกินเวลายาวนานกว่า 2 ปี 3 เดือน แล้วทำไมถึงต้องใช้เวลานานขนาดนั้นในการทำอัลบั้มคัมแบค? ทุกอย่างที่วีไอพีคิดว่าเป็นเหตุผลของเรื่องนี้คือ วายจีเอาแต่คิดเรื่องของ 2ne1 และวายจีต้องการแค่เงินเท่านั้น ตอนนี้พวกเค้าสามารถสร้างวงเจ้าหญิงที่ทำเงินออกมาได้แล้ว บิกแบงก็ค่อยๆหมดบทบาทในบริษัทลง และเรื่องทั้งหมดทำให้ วีไอพี เจ็บปวดมาก


วีไอพีเชื่อว่า ส่วนหนึ่งของ แบล็คแจ็คล้วนต้องเป็นวีไอพีด้วยและเชียร์สาวๆเพราะเป็น ครอบครัววายจีด้วยกัน แต่แบล็คแจคบางกลุ่มกลับไม่ยอมรับ มีวีไอพีบางกลุ่มเอ็นดูสาวๆและเชียร์เพราะชอบในครอบครัววายจี บางคนชื่oชอบเพราะพรสวรรค์ของสาวๆ แต่ไปๆมาๆ เมื่อวายจีพยายามดันให้สาวๆขึ้นสูงกว่าที่ควรจะเป็นมันเลยเริ่มสร้างความรำคาญใจให้กับวีไอพีเหล่านั้น แถมยังใช้บิกแบงในการโปรโมทเปิดตัวสาวๆ ที่ว่า เป็นบิกแบงเวอร์ชั่นผู้หญิง แถมเพลง Lollipop ที่สาวๆทำกับบิกแบงนั้น วายจีกลับบอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงของ 2ne1 โดยบรรจุขายในอัลบั้มของ สาวๆ และรายได้ที่ได้จากเพลงนี้เป็นการ 2ne1 ไป ไม่ใช่ บิกแบงและ2ne1ร่วมกัน

====================

มาถึงตอนนี้เริ่มนัวเนียกันไปมา ที่เขียนว่า วีไอพี และแบล็คแจ็คก็เป็นแค่บางส่วนนะค่ะ แต่ส่วนที่คิดกันมากๆนี้ เป็นแฟนคลับอย่างเป็นทางการ จ่ายเงินและมีอิทธิพลในการจัดการกลุ่มแฟนคลับ ดังนั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยค่อนข้างกลายเป็นปัญหาที่ วีไอพีอย่างมิวได้แต่ขมวดคิ้ว คนที่ได้ฟังก็คงจะรู้สึกว่า มันวุ่นวายดีจริงๆ

ตามที่บอกในโพสแรกนะค่ะ บล็อคนี้เป็นบล็อคส่วนตัวของมิว ขออย่า copy และ paste ไปลงที่ไหนให้ลิงค์เข้ามาอ่านนะค่ะ เพราะเจ้าของคนที่มาเล่าเค้าก็ไม่ให้นำออกเหมือนกันแต่มิวดันเอามาสรุปเป็นเวอร์ชั่นที่ได้อ่านๆกันไปนี้ มิวไม่อยากให้เรื่องยาว ไม่ชอบมาม่า 555 ใครอยากอ่านเวอร์ชั่น อังกฤษไปตามได้ตามนี้เลยค่ะ
http://swaggalevel1000.tumblr.com/post/10893720932

KVIP VS YG ( issue 1 )

หลังจากที่ ช่วงหลังๆ น้องๆไม่ค่อยมีงาน และถ้ามีงานส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นในต่างประเทศและก็ยังคงไม่มีน้องแดเข้าร่วมในกิจกรรมวงเหมือนเดิม ทั้งนี้ทั้งนั้น ตามที่วายจีบอกมาคือ ตั้งใจให้น้องได้พักและน้องยังไม่พร้อม ซึ่งตอนนี้น้องแดก็ทำงานร่วมกิจกรรมของโบสถ์ และ วายจีก็กำลังคิดว่าจะให้น้องคัมแบคยังไงดี ซึ่งที่ดูๆไว้ล่าสุด "คาดว่า" จะให้ขึ้นคัมแบคที่เวทีคอนเสริต์บิกโชว์ ปี 2012 ค่ะ

ระหว่างที่รับงานโชว์ตัวร้องเพลงไปเรื่อย ประกอบกับทำงานเพลงใหม่ในสตูดิโอกันไป ข้อเท็จจริงที่ว่า จำนวนวีไอพี ก็ลดลงตามไปเรื่อยๆๆ และ ข่าวลือและความขัดแย้งต่างๆ ระหว่าง KVIP และ ท่านยาง ก็ดูจะรุนแรงไปเรื่อยๆ

ในตอนแรกมีการหารือกันนะค่ะ ว่าจะทำการ บอยคอย ตัวของ ท่านยางฮยอนซอก ตั้งเป็นกลุ่มแอนตี้ท่านยางขึ้นแต่ล่าสุด ได้ข้อสรุปว่าจะไม่ทำนะค่ะ แต่ความไม่พอใจก็ยังเดือดอยู่ ซึ่งไม่รู้ในอนาคตจะเป็นยังไงต่อ

ตัวมิวเองอ่านข่าวและติดตามดูกระแสของ KVIP แล้วรู้สึกว่าบางที แฟมดอมที่มันมากไป จริงจังไป มันก็แลดูไม่ค่อยเข้าท่า เข้าใจว่าเป็นธรรมชาติของ KVIP ที่แลดูจะฮาร์คคอร์มากๆๆ เมื่อครั้งที่แอนตี้น้องจีรักแต่ยองเบ หรือแอนตี้ทุกคนรักแต่น้องแด มันก็ทำเอามิวมึนมาแล้ว 55 แต่ก็อยากจะอัพเดทเรื่องนี้เอาไว้หน่อยนะค่ะ เผื่อวีไอพีด้วยกันที่ยังไม่รู้ หรือรู้แล้วยัง งงๆๆ จะได้มีข้อมูลเอาไว้นะค่ะ มิวขอสรุปเอาให้เข้าใจง่ายๆจะได้ไม่ งง มากเข้าไปอีก 5555 เป็นการรวบรวมข้อมูลในฐานะที่มิวก็เป็นวีไอพีคนนึง

อ่านแล้วเห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไงก็เป็นสิทธิ์ของทุกคนนะค่ะ สำหรับคนที่ไม่เคยได้เป็นแฟนคลับคงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ตัวมิวเป็นแฟนคลับแต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นด้วยกับ KVIP เท่าไหร่ค่ะ 5555 เอาละ เริ่มกันเลยดีกว่า

สาเหตุที่ KVIP ไม่พอใจท่านยาง เป็นเพราะว่า ท่านยางไม่ยอมรับว่าที่ทางค่ายมีชื่อเสียงสูงมากจนถึงทุกวันนี้จริงๆแล้วต้องยกความดีความชอบให้กับบิกแบงมากกว่านี้ และระยะหลังๆ ท่านยางให้ความสนใจกับ 2NE1 มากเกินไป

จากความที่ ค่ายวายจีอยู่กันอย่างเป็นครอบครัว ศิลปินต่างรักกันเหมือนพี่น้อง แต่การกระทำของท่านยางที่ลำเอียงให้กับสาวๆมากเกินไป เริ่มจะทำให้ วีไอพีไม่อยากจะเป็นพี่น้องกับแบล็คแจ็ค และความไม่พอใจนี้คงไม่แผ่ขยายเป็นวงกว้างและมีผลมากเท่าไหร่ แต่ตัวตั้งตั้งตีในการแอนตี้ท่านยางครั้งนี้ เป็นถึงหัวหน้ากลุ่มวีไอพีอย่างเป็นทางการ

ความไม่พอใจที่เกิดขึ้นเริ่มถึงจุดที่วีไอพีรับไม่ได้ เมื่อเห็น สินค้าที่ท่านยางวางขาย ในงานคอนเสริต์ใหญ่ครั้งแรกของสาวๆ Nolza concert ที่มีที่คาดผม ที่แลดูเหมือนที่คาดผมมงกุฏที่เหล่าวีไอพีช่วยกันทำและแจกให้วีไอพีใส่ตอนที่บิกแบง ทำการโปรโมทเพลงตามรายการทีวี และ ใส่ไปดูคอนเสริต์

โดยจุดประสงค์ในการทำที่คาดผมมงกุฏ เป็นการทำเพื่อให้กำลังใจบิกแบง และทำให้แฟนดอมวีไอพีแลดูเป็นยูนิตี้ และออกกล้องแล้วดูสวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งฟีคแบคที่ได้รับดีมากๆ การกระทำครั้งนี้ทำโดยไม่ได้คิดเงิน ได้รับเพียงกำลังใจจากวีไอพีด้วยกัน ดังนั้น ที่คาดผมรูปมงกุฏแต่ละอันจึงเปื่ยมไปด้วยความหมายลึกซึ้ง และมีค่าเปรียบเหมือนตัวแทนวีไอพี

แต่วายจีกลับเอาไอเดียนี้ไปผลิตที่คาดผมในการใช้เชียร์สาวๆ 2ne1 และเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเองทำให้วีไอพีเสียใจผิดหวังและช่วยไม่ได้ที่งานนี้จะทำให้วีไอพีมองวายจีว่าเป็นพ่อค้าหน้าเงิน

ที่คาดผมนี้ไม่มีแฟนคลับวงอื่นกล้าที่จะเลียนแบบเลย เพราะ มันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่ทำให้ทุกคนรู้ว่า "นี่แหละวีไอพี " " เราคือวีไอพี" " นี่คือสิ่งที่บิกแบงเท่านั้นที่จะได้เห็นเมื่อเค้าอยู่บนเวที"

ในแฟนดอมทั้งหลายต่างต้องผ่านช่วงเวลายากลำบากในการเลือกสีประจำกลุ่ม ของที่ใช้เชียร์ประจำกลุ่ม การเลือกแบบแท่งไฟในการเชียร์ ซึ่งวีไอพีได้ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมานานแล้ว ในครั้งนี้การที่จะต้องมาเห็นศิลปินร่วมค่ายมีของเชียร์ที่ใช้เชียร์เหมือนกัน และ ทางค่ายได้เงินจากการขายของเหล่านี้ เป็นการแสดงให้วีไอพีรู้สึกว่าวายจีเมินพวกเค้า มงกุฎวีไอพีที่เป็นสิ่งที่ทำให้วีไอพีรวมกันเป็นยูนิตี้ มงกุฏนี้มีความหมายมากมายต่อจิตใจที่เคยสร้างความขลังและความภูมิใจให้กับวีไอพี ในตอนนี้มันไม่ขลังเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะวายจีทำเลียนแบบเพื่อเหตุผลทางธุรกิจเท่านั้น

ทางหัวหน้ากลุ่มวีไอพี Lee Hye mi กล่าวว่า จริงๆแล้วมันเป็นปัญหาของแบล็คแจ็คที่จะต้องคิดว่าจะใช้อะไรเป็นของเชียร์อย่างเป็นทางการ รวมถึง แฟนคลับของศิลปินคนอื่นๆในค่ายวายจีด้วย ซึ่งถ้าทำแบบนี้มันก็จะเป็นปัญหาให้กับ วีไอพี และยังกล่าวด้วยว่า ในตอนแรกที่เริ่มทำที่คาดผมมงกุฏ ทางแฟนคลับได้รับการเตือนจาก ทีมงานผู้ดูแลกลุ่มแฟนคลับของทางวายจี ต่อว่า ให้เลิกทำเพราะมันดูปัญญาอ่อน แต่วีไอพีก็ยังเดินหน้าทำต่อไป เพราะสิ่งที่พวกเค้าทำไม่ได้ทำเพื่อเอาใจ ครอบครัววายจี แต่เค้าทำเพื่อบิกแบงและมันเป็นสิ่งที่พวกเค้าวีไอพี ภูมิใจการที่ได้เห็นวายจีทำแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง

==========================

อืมมมม อ่านถึงตรงนี้ เพลียใช้ได้เลย เข้าใจทั้งสองฝ่าย แต่ไม่รู้จะทำยังไง 555

มิวว่ามิวแบ่งเป็นหลายๆโพสดีกว่าค่ะ เริ่มมึน ขอพักก่อน

P.S ใครอยากจะกระจายข่าว บล็อคนี้เป็นบล็อคส่วนตัวของมิว ขออย่า copy และ paste ไปลงที่ไหน
ให้ลิงค์เข้ามาอ่านนะค่ะ เพราะเจ้าของคนที่มาเล่าเค้าก็ไม่ให้นำออกเหมือนกันแต่มิวดันเอามาสรุปเป็นเวอร์ชั่นที่ได้อ่านๆกันไปนี้ มิวไม่อยากให้เรื่องยาว ไม่ชอบมาม่า 555 ใครอยากอ่านเวอร์ชั่น อังกฤษไปตามได้ตามนี้เลยค่ะ http://swaggalevel-1000.tumblr.com/post/10893720932