วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Cause today is a bad day

วันนี้มีบรยากาศร้ายแต่เช้าเลยละค่ะ
มิวไปร้านกาแฟก็เจอคนพูดจาไม่เข้าหู
แปลกจริง บางคนก็ชอบเอาความคิดแคบๆของตัวเองมาพูดให้คนอื่นเค้าฟัง
มิวพยายามไม่ตัดสินใจคนที่มิวไม่ได้รู้จัก แต่คนคนนี้ขอเถอะ ใจร้ายมาก
ในใจคิดว่านี่แหละ ทวิตเตอร์อีเว้นซ์ 55555 เป็นเรื่องที่เหมาะแก่การไปบ่นในทวิตเตอร์
พอมาถึงร้านเลยรีบออนไลน์เลย ปรากฏว่าเจอข่าวน้องแด กลายเป็นโคม่ากว่าเดิม

คิดจริงจังว่าทำไมน้องไม่มีดวงเรื่องขับรถเลยอะค่ะ จากอุบัติเหตุคราวก่อน ทำให้ร่ายกายเจ็บ
อุบัติเหตุครั้งนี้ร่างกายไม่เจ็บแต่ใจเจ็บ ขอให้น้องเข้มแข็งรักตัวเองมากๆๆนะค่ะ
เรื่องที่มิวกลัวขอให้มันไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้ด้วยเถิด

let's pray together tonight

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Jwalkers and Blackjacks

จริงๆอ่านเรื่องนี้มาทั้งวันเห็นขอบคุณกันทุกไซด์

ปลื้มๆๆ มาอยู่ด้วยกันเถอะน้า 55555 น่าร้ากค่ะ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา รายการอินกีกาโย่เรียกได้ว่าเป็นเทปพิเศษของเหล่าเจย์วอล์กเกอร์และแบล็คแจ็ค

เนื่องจาก เป็นกูดบายสเตจของเจย์ และเป็น เวทีแรกและเวทีเดียวที่สาวๆจะมาขึ้นเพอ lonely บอมมี่ก็จะขึ้นเพอ don't cry ด้วย

มีชาวเจย์วอล์กเกอร์มารวมตัวกันมากกว่า 100 คน แต่มีเพียง 20 คนเท่านั้นที่ได้รับบัตรให้เข้าไปดูการบันทึกเทป ซึ่ง มีแบล็คแจ็คใจดีแบ่งตั๋วให้เจย์วอลล์กเกอร์ได้เข้าไปดูเจย์กู๊ดบายสเตจได้เยอะหน่อยอะค่ะ

หลังจากเสร็จงาน ชาวเจย์วอล์กเกอร์เลย มาโพสขอบคุณที่ DC2ne1 ค่ะ

Source: DC2NE1

Shaun back to korea


29 พฤษภาคม 2011
กลับมาที่เกาหลีใต้อีกแล้วละครับเพื่อทำเรื่องที่เคยทำมาเหมือนปกติ
ห้องในโรงแรม,เตียงที่มั่นคงที่ผมรู้จักมันเป็นอย่างดี,น้ำจากฝักบัวที่มักจะทำให้ผิวผมแห้งเมื่ออาบเสร็จใหม่ๆ วิวจากหน้าต่างห้องของผม บรรดาผู้จัดการและการสื่อสารกับผมแบบไม่ใช้คำพูด,สตูดิโอและผู้คนที่อยู่รอบข้างผม
ผมชอบที่จะได้อยู่กับสิ่งที่ผมคุ้นเคยแบบนี้เพราะชีวิตของผมต้องพบเจอกับผู้คนใหม่ๆและเรื่องราวใหม่ๆเสมอ

ครั้งนี้ ผมคงได้เชื่อมต่อสื่อสารกับสาวๆ 2ne1 อีกครั้ง พวกเธอเติบโตเร็วมาก สิ่งที่มันบ้ามากไม่ใช่เรื่องของความแตกต่างในเรื่องอายุหรอกนะครับ แต่ผมได้เห็นอาชีพนี้ของพวกเธอตั้งแต่ก่อนที่พวกเธอจะฟอร์มวงอย่างเป็นทางการหรือ มีชื่อวงด้วยซ้ำ ดังนั้นการที่ได้มองดูพวกเธอตั้งแต่ เริ่มต้น จนกระทั่งมาทำอาชีพนี้อย่างเต็มตัว และท้ายที่สุดกลายเป็นวงที่ยืนยันได้ด้วยตัวเอง
มันเป็นเรื่องที่สุดยอดจริงๆที่ได้ตามดูและยังได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้อีก มันให้ความรู้สึกที่ดีจริงๆที่ผมอยู่ตรงนั้นด้วยตั้งแต่เริ่ม
พวกเค้าเชื่อใจผมและผมก็สนุกมากที่บริษัทนี้ในตอนที่พวกเค้าไม่ต้องติดกับการงานที่แสนยุ่งเหมือนตอนนี้

เกาหลีเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของผมไปซะแล้วในตอนนี้ ผมหวังว่าจะมีเพื่อนหรือผู้คนให้ผมร่วมแบ่งปันเรื่องต่างๆด้วยมากกว่านี้
ผมคงจะต้องถาม YG แล้วละว่าผมจะสามารถพาใครมาด้วยได้รึเปล่า ในคราวหน้า 5555
ผมชอบในสิ่งที่ผมมีและมีความสุขที่จะได้ทำงานของผมให้มันไปได้ดีที่นี่
นอกจากนี้ผมยังตื่นเต้นในเรื่องของงานในอนาคตที่ผมจะทำออกมาร่วมกับบริษัทนี้

จนกว่าผมจะมาโพสในครั้งต่อไป ขอบคุณที่มาอ่านนะครับ :)

Shaun


source:http://shaunevaristo.tumblr.com/post/5961617307/sk
Thai Translation by mew in mew mini museum

JP Rule No:1

Rule number1: Please do not show your tongue while walking >_< It's make my heart shaking

GD's letter to TOP

To: พี่ชาย

โย่ว! ท็อป

จะว่าไปมันค่อนข้างอึดอัดนะที่ต้องมาเขียนจดหมายถึงกันแบบนี้ 555

พี่ชายคนโตและผู้ทำให้ทุกคนอารมณ์ดี ชเวซึงฮยอน

มีคนเข้าใจผิดกันเยอะเลยเพราะคิ้วที่ดำสนิทและลักษณะท่าทางของพี่

เวลาที่ผมเห็นพี่ต้องเผชิญกับเวลาที่ยากลำบาก ในฐานะเพื่อน ในฐานะน้องชาย ในฐานะหัวหน้าวง

มันทำให้ผมคิดมากและกังวลมากด้วย พี่ชายของเราคนนี้ ก็เป็นคนอ่อนไหวนะㅠㅠ

พี่มีนิสัยที่สดใสแต่ก็ยังขี้อาย และบางทีก็ทำตัวโมโหบ้าบอ.......ผมชอบนะ

แต่ในปีหน้านี้ผมหวังว่าพี่จะสามารถเป็นสุภาพบุรุษสุดเนี้ยบ ทีโอพี ที่สามารถเข้าหาคนอื่นได้ก่อน

ซึงฮยอนฮยอง ที่มีเสียงสุดเท่และสไตล์สุดเท่ ยังคงเป็นพี่ชายหนุ่มบ้านนอกสุดงี่เง่าตลอดไป 555

เรามาช่วยกันสร้างความทรงจำดีๆร่วมกันต่อไปนะฮะ

มีความสุขความคริสมาสและสุขสันต์วันปีใหม่นะครับ

One จาก G


Eng Translated by: mynameisgeorgie@tumblr

Thai Translation by mew in mew mini museum

ไม่รู้เมื่อไหร่แล้วนะค่ะจดหมายนี้ แต่ก็ทำให้ยิ้มได้เมื่อได้อ่านคนที่เป็นน้องมาเขียนจดหมายเชียร์คนเป็นพี่แบบนี้ 5555555

วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

[TRANS]สัมภาษณ์ ผกก MV Butterfly Kim Hye jung ตอน 2

เป็นตอน 2 นะค่ะ สามารถอ่านตอนแรกของสัมภาษณ์ นี้ได้ตามนี้


=====================


8. ฉากหลังของเพลง She's gone มาได้ยังไงค่ะ??

KHJ:เริ่มแรกเลยผมมีรูปแบบของเวทีเอาไว้ในใจสำหรับวีดีโอเพลง she's gone ดังนั้นสิ่งที่สำคัญเบื้องต้นของเราในตอนนั้นไม่ใช่การทำมิวสิควีดีโอขึ้นมาแต่ตั้งใจจะทำวีดีโอที่มีเนื้อหาตรงประเด็นและสามารถที่จะบรรยายและดึงอารมณ์ของการแสดงบนเวทีออกมาได้ และจะเป็นแรงบันดาลใจอะไรบางอย่างให้กับคนที่ได้ดูมัน

จีดราก้อนเขียนเพลงนี้ขึ้นมาโดยได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ ดังนั้นความโหดร้ายที่เราพบในเพลงไม่ได้ให้ความหมายตรงตามตัวอักษรแต่มันเป็นส่วนของจินตนาการและเป็นเหมือนกับนวนิยาย ดังนั้นการตัดสินใจที่จะสร้างวีดีโอที่ดูเหมือนเป็นฉากฉากหนึ่งในภาพยนตร์จึงออกมาตามปริยายฮะ

นอกจากนี้การแสดงเพลงนี้ไม่ใช่เรื่องราวที่จะทำยั่วยุในเรื่องของการ ฆาตกรรม แต่มันเป็นวิธีที่จะอธิบายถึงภาพลักษณ์ของผู้ชายคนนึงที่เลือกวิธีที่คล้ายกับละครในการที่จะ"รัก" ดังนั้นการที่เราจะสร้างภาพของโลกที่ห่างไกลจากความเป็นจริงขึ้นมา ฉากที่เหมือนกับนิยายสยองขวัญ เราจึงเลือกช่วงเวลาฉากหลังที่ใช้ในวีดีโอที่ไม่ใช่เวลาในปัจจุบัน

ตัวอักษรที่ขึ้นในบนจอในตอนแรกทำเหมือนกับภาพยนตร์ และโทรสีของวีดีโอที่เป็นขาวดำนั้น ตัดกันอย่างตรงกันข้ามกับสีแดงของเลือด ซึ่งดูเป็นสีแดงจัด ซึ่งทำให้ดูเหมือนมันถูกแยกออกจากความเป็นจริง และเพราะเพลง she's gone นี้ไม่ใช่เพลงที่เย็นชาและเพลงที่ตั้งใจทำเพื่อเยาะเย้ย แต่มันเป็นเพลงที่แบกรับเอาความรู้สึกของผู้ชายคนนึงที่กำลังคิดถึงโหยหาผู้หญิงของเค้าจนถึงจุดสุดท้ายที่ว่าเค้าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ผมจึงคิดว่ามันคงจะเหมาะดีกับสไตล์แบบคลาสลิกและแนวโรแมนติกครับ

9. ฉันสงสัยเกี่ยวกับ เทียน ใน MV she's gone นี้มากเลยค่ะ??

KJH: แต่เดิม เราจะเริ่มวีดีโอนี้ด้วยการสูบบุหรี่ ส่วนฉากเทียนนั้นเป็นฉากที่ผมมาถ่ายระหว่างการถ่ายทำแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมนึกภาพอะไรขึ้นมาได้ระหว่างการถ่ายทำ ผมจะลงมือถ่ายเลย และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงได้ฉากเทียนมา และเป็นเพราะ จีดราก้อนเค้าเก่งในเรื่องการแสดงที่ไม่ต้องมีการตระเตรียมกันก่อนอย่างมาก เค้าสามารถที่จะแสดงและเข้าถึงบทบาทในฉากที่จู่ๆก็โผล่ขึ้นมาได้ ดังนั้นมันจึงมีบางกรณีที่เราคิดฉากที่ดีกว่าขึ้นมาได้ในช่วงการทำการตัดต่อในช่วงสุดท้าย และในเมื่อมันได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ตั้งแต่ทีแรก ผมจึงตัดสินใจใช้เวอร์ชั่นนี้ ในตอนที่กำลังแก้ไขตัดต่อเวอร์ชั่นสำหรับเยาวชนอายุต่ำกว่า 12 ปีออกมา

10. เกี่ยวกับ วีดีโอเพื่อเพลง " she's gone"

KHJ:ในการทำงานทั้งหมดเพื่อ she's gone ผมจดจำช่วงเวลาในการซ้อมครั้งแรกได้มากที่สุด เพราะทั้งผมและจียงต่างก็ยุ่งกันมากๆๆๆในช่วงก่อนคอนเสริต์ เราได้คุยกันในเรื่องนี้คร่าวๆเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในการประชุมทั่วๆไป ดังนั้นผมจึงทำการซ้อมในครั้งแรกด้วยความรู้สึกที่ใจนึงก็ตื่นเต้นแต่ใจนึงก็กังวลอย่างมาก แต่ผมก็จำได้แม่นเลยว่าผมรู้สึกประทับอย่างมากจริงๆจากการซ้อมครั้งแรกที่ราบรื่นเรียบร้อยในทุกๆอย่างในการถ่ายเพียงครั้งเดียว

การที่วีดีโอได้สื่อออกมาและการแสดงออกถึงอารมณ์การแสดงบนเวที ผมบอกได้เลยว่าคนที่ไม่ได้มาชมการแสดงเพลง she's done นี้ผ่านการแสดงคอนเสริต์บนเวทีแล้วไม่สามารถที่จะเข้าใจอารมณ์นี้ได้ 100%

ทั้งวีดีโอและการแสดงบนเวทีร่วมถึงอารมณ์ร่วมของผู้ชมได้สร้างประสบการณ์ที่เหลือเชื่อที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานและอารมณ์ประทุที่จียงได้ส่งออกมา

ถ้าจะมีเรื่องที่ผมเสียใจก็คือ คนที่ไม่ได้มาดู วีดีโอเพลงนี้ในคอนเสริต์ก็อาจจะตีความวีดีโอแค่ตัววีดีโอเองและอาจจะบิดเบือนสาระสำคัญของการแสดงไปได้ครับ

- ในฐานะผู้กำกับ สิ่งที่คุณเชื่อว่ามันคือเรื่องราวและอารมณ์ที่อยู่เบื้องหลังเพลงมันคือ อะไรค่ะ??

ภาพแรกที่ผมคิดในครั้งแรกที่ได้ยินเพลงนี้คือ ภาพยนตร์ขาวดำที่มีเรื่องราววนเวียนอยู่ท่ามกลางการฆาตกรรมที่ลึกลับ จียงอาจจะรับบทเป็นทั้ง ตำรวจและฆาตกร หรือเค้าอาจจะเป็นที่มีสองบุคคลิกด้วยที่ตัวเค้าเองไม่รู้มาก่อน ถ้าเกิดว่าจะต้องทำมันออกมาเป็น มิวสิควีดีโอ เนื่องเรื่องก็อาจจะต้องไม่ซับซ้อนมากเกินไป

11. แล้วเกี่ยวกับวีดีโอ เพื่อเพลง ‘Gossip Man’ ละค่ะ??

KHJ : การถ่ายทำวีดีโอเพื่อเพลง Gossip man นั้น เริ่มขึ้นโดยที่เราไม่มีเนื้อเรื่องอะไรเลย เราเริ่มจากการที่เราต้องการจะถ่ายจียงกำลังเลียนแบบคุณ Kim Gun Mo ด้วยการใส่เสื้อผ้าและทำฉากหลังเท่านั้น

ในตอนที่เราถ่ายทำ จียงเพลียมากจากการทำงานในวันก่อนหน้านั้น แต่เมื่อถึงเวลาถ่ายทำเค้าก็กลับมีชีวิตชีวาและสนุกไปกับเครื่องแต่งกายในการล้อเลียน

เค้ายังลงมือทำท่าทางแตกต่างไปในแต่ละคัทโดยที่ไม่ได้ทำท่าซ้ำกันหรือเคลื่อนไหวเหมือนเดิม พูดตามตรงคือ ณ จุดนี้ผมคิดว่าทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับจียงเลยจริงๆ การถ่ายทำวีดีโอง่ายๆเพื่อเพลง gossip man นี้ อาจจะเป็นเรื่องตลกเบาๆที่นำมาซึ่งปัญหาใหญ่ก้ได้ เรามุ่งเน้นไปที่อารมณ์ตลกและการแสดงออกสีหน้าที่สดใส แต่ผมคิดว่ามันก็ยังมีตลกร้ายเสียดสีร่วมอยู่ด้วย ซึ่งคนจะรู้สึกว่ามันยากที่จะหัวเราะออกมาเต็มๆให้กับการแสดงนี้ การแสดงที่จีดราก้อนเรียกตัวเองว่าเป็น gossipman

12. ความคิดหรือความประทับใจอะไรที่คุณมีต่อ จีดราก้อนค่ะ??

KHJ: ผมเคยเห็นแค่ด้านที่เป็นธุรกิจและด้านของคนทำงานมืออาชีพเท่านั้นครับ ดังนั้นผมไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเค้าเป็นคนยังไง สิ่งนึงที่ผมรู้สึกได้เลยเมื่อได้ยืนข้างๆเค้าในการทำอัลบั้มเดี่ยวนี้คือ เค้าจะต้องอดทนในการที่จะต้องพาตัวเองออกมาให้ยิ่งใหญ่มากที่สุดเหนือกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ มันเป็นช่วงเวลาที่เค้าได้กลายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและมันอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมคิดแบบนั้น หลังจากที่ได้ทำงานร่วมกับเค้า มันเป็นความจริงที่ว่าความเห็นของผมที่มีต่อเรื่องราวในแบบ"ผู้ชาย"ได้เปลี่ยนไป ผมเกิดความคิดว่า ผู้ชายก็สามารถมีภาพลักษณ์แบบนี้ได้เหมือนกัน หรือ ผู้ชายก็มีอารมณ์แบบนี้เหมือนกันนะ ซึ่งผู้ชายแบบนี้หายากจริงๆ

13. เกี่ยวกับการแสดงของจีดราก้อนละค่ะ??

KHJ:เมื่อเค้าอยู่ต่อหน้ากล้อง ผมได้เปิดประตูแห่งความเป็นไปได้ให้กว้างขึ้นกว่าที่เราได้คุยกันในสตอรี่บอร์ด เค้าไม่กลัวที่จะแยกตัวออกมาจากกล้องและแสดงออกด้านหลากหลายมากมายของตัวเองออกมา

มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับที่จะยังครองสติในการรู้ตัวเองตลอดเวลาในตอนที่มีกล้องจับคุณอยู่มากมายและมีทีมงานมากมายร่ายล้อมอยู่ แต่อิสระเสรีของเค้าทำให้เกิดเรื่องใหม่ๆออกมาเสมอในกอง

14. ในการถ่ายทำเป็นยังไงบ้างค่ะ??

KHJ: มันเป็นสิ่งที่ยากที่สุดเลยครับ ในวันที่ 2 ของการถ่ายทำวีดีโอเพื่อเพลง she's done จียงเหนื่อยจนหมดแรงและในวันรุ่งขึ้นเค้ายังต้องขึ้นเครื่องเดินทางไปต่างประเทศอีก ดังนั้นทุกคนต่างเครียดกันไปหมด

เรากำลังถ่ายทำฉากที่มีแสงเทียนและจียงกลับเป่าเทียนให้ดับด้วยการใช้ลมจากจมูกซึ่งทุกคนถึงกับปล่อยหัวเราะออกมาเสียงดังและความตึงเครียดก็หายไป ผมจำได้เลยว่าเค้าได้โชว์ทักษะการเป่าเทียนนี้เพื่อช่วยทำให้บรรยากาศในกองกลับมาสดใสอีกครั้ง

15. งานไหนที่ดึงเอาความสนใจของคุณได้ หรือ ฉากไหนที่คุณรู้สึกว่ามันมีคุณค่ามากที่สุดค่ะ??

KHJ: ผมคงต้องบอกว่า งานที่ดึงดูดความสนใจของผมมากที่สุดคือ เพลง Butterfly และ she's gone มันเป็นโชคล้วนๆเลยสำหรับผมที่ได้มาทำงานแบบนี้ ถ้าจะให้ผมเลือกฉากที่ผมชอบมากที่สุดในงานสองงานนี้

ผมจะเลือกฉากสุดท้ายในเพลง butterfly ที่จีดราก้อนนั่งอยู่บนหลังคา

และในเพลง she's gone ผมชอบฉากที่จีดราก้อนปรากฏตัวครั้งแรกด้วยมีดสั้นที่วาววับและมีเสียงฟ้าผ่าดังมาแต่ไกล เราถ่ายทำฉากนั้น ในชอตเดียวเป็นการถ่ายชอตยาวที่กล้องจะตามไปกับการแสดงของจีดราก้อนและเวลาของเสียงฟ้าผ่านั้นมันลงตัวเหมาะเจาะดีมากจริงๆ และเราก็ได้ฉากที่ยอดเยี่ยมนี้มา

16.แล้วถ้าให้พูดเกี่ยวกับผู้กำกับ Kim hye Jung ละค่ะ?

KHJ:แทนที่จะดูถึงเรื่องความสมจริงในการถ่ายทำ ผมมักจะสร้างสิ่งที่เราไม่สามารถพบเห็นได้ในชีวิตจริงออกมามากกว่า และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าหลายๆคนรู้สึกว่างานของผมเป็นงานที่ดูเป็นแฟนตาซี คุณสามารถที่จะบอกว่าตัวมิวสิควีดีโอนั้นเป็นโลกแฟนตาซีเพราะคุณได้สร้างโลกใหม่ขึ้นมารองรับกับเพลงที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาออกมา

หากจะมีข้อแตกต่างว่างานของผมไม่เหมือนกับงานคนอื่น นั่นอาจจะเป็นเพราะผมจะไตร่ตรองถึงการร่วมมือกันระหว่างผมกับตัวศิลปินและการที่จะสามารถเสริมแรงซึงกันและกันให้มันสำคัญและได้ผลที่สุด ปกติแล้วผมจะมีความสุขในการนึกภาพไปด้วยเวลาที่ได้ฟังเพลง ดังนั้นผมไม่ค่อยจะได้ฟังเพลงด้วยตัวของเพลงนั้นๆเองเท่าไหร่ ผมพบว่าตัวเองฟังเพลงที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผมคิดภาพออกมาได้โดยที่ไม่รู้ว่าเพลงนั้นมันเป็นแนวอะไรหรืออย่างไร

เมื่อ เพลง butterfly ออกมาได้ประมาณสองเดือนครึ่ง ผมมีความสุขมากๆๆ แต่ผมก็ต้องพบกับความรู้สึกว่างเปล่าแบบที่ไม่สามารถหาคำมาอธิบายได้ ผมจะมองเห็นแต่ส่วนที่มันยังขาดไป ซึ่งมันทำให้มีอยู่ช่วงนึงที่ผมจะมีปัญหาอย่างมากในการดูผลงานที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วของตัวเอง

เมื่อคอนเสริต์ shine a light ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ผมรู้สึกอายที่ได้แต่นั่งอยู่ตรงที่นั่ง สุดท้ายนะครับ ผมไม่ใช่คนเท่เก่งกาจอะไรหรอกครับ

17. ในอนาคตมีงานแบบไหนที่อยากจะทำร่วมกับจีดราก้อนอีกไม๊ค่ะ??

KHJ: หลังจากที่เราได้ถ่ายทำเพลง she's gone กันไป ท่านประธานยางฮยอกซอกได้พูดกับจีดราก้อนถึงเรื่องที่จะทำหนังสั้น คือจะเป็นวีดีโอที่โชว์การแสดงออกมาโดยที่ไม่ทำเป็นวีดีโอสั้นๆ ซึ่งถ้าโครงการนี้เป็นจริงผมคิดว่ามันต้องเป็นงานที่สนุกมากๆแน่ๆที่จะได้ลองทำ สำหรับอัลบั้มเดี่ยวของจีดราก้อนผมอยากจะลองทำ มิวสิควีดีโอเพลง she's gone ดูครับ ซึ่งมันจะแตกต่างออกไปจากอันที่เราทำเพื่อคอนเสริต์อย่างสิ้นเชิง

18. รู้สึกยังไงบ้างค่ะ ที่การสัมภาษณ์ จบลงแล้วละค่ะ??

KHJ:การสัมภาษณ์นี่มันยากกว่าที่ผมคิดนะครับ ^^ แต่ผมมีความสุขนะครับที่ได้หันกลับไปมองผลงานในอดีตของตัวเอง ผมอยากจะให้สัมภาษณ์อีกครั้งเมื่อผมดันเอาความเสียใจที่ผมมีต่อผลงาน เดบิวของผมอย่าง Butterfly’ และ ‘She’s Gone’ ไว้เบื้องหลังและได้สร้างผลงานชิ้นใหม่ที่ดีกว่าขึ้นมานะครับ

ขอบคุณครับ

Source: DCGD Eng Translated by: www.seungie.tumblr.com thai translation by mew in mew mini museum

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

[TRANS]สัมภาษณ์ GD จากนิตยสาร Junon เดือนมิถุนายน

คงจะคงจำกันได้นะค่ะ ที่นิตยสาร Junon จะสัมภาษณ์สมาชิกวงบิกแบงและลงบทสัมภาษณ์นั้นเรียงติดต่อกันไป 5 เดือน หนึ่งคนต่อหนึงเดือน ฉบับเดือนมิถุนายนเป็น น้องจีค่ะ และมีคำถามเล็กน้อยๆถามบิกแบงด้วยเนื่องจากเป็นฉบับที่บิกแบงมีทัวร์ love&hope ที่ญี่ปุ่นพอดีค่ะ ซึ่งของบิกแบงมิวแปลไปเมื่อวานนะค่ะ

===================

คำถาม Q&A กับ จี-ดราก้อน จากนิตยสาร Junon

ในที่สุด ในเดือนนี้เราก็ได้ลงบทสัมภาษณ์ของจีดราก้อนในนิตยสารของเราแล้ว หัวหน้าวงที่นำแฟชั่นแต่ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางของเค้าก็เป็นที่โด่งดังในหมู่สาวๆเช่นกัน วันนี้ขอให้สนุกกับบทสัมภาษณ์ที่เราไปสัมภาษณ์เค้ามาฝากในฉบับนี้กันนะค่ะ

คำถามเรื่องงาน

Q1: ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2011 ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วเลยนะค่ะ จีดราก้อนได้ใช้เวลาในช่วงปีแรกนี้ยังไงค่ะ?แล้วช่วยสรุปให้หน่อยว่าในครึ่งปีแรกผลงานของบิกแบงไปถึงไหนแล้ว
GD: ในช่วงเวลาสั้นๆแบบนี้เราได้ทำอัลบั้มออกมามากมายเลยครับ ทั้ง GD&TOP, VI SOLO,BIGBANG COMEBACK, SPECIAL ALBUM, และอัลบั้ม BIGBANG 2 ที่ญี่ปุ่น เราสามารถแสดงออกถึงสีสันที่แตกต่างมากมายออกมา สำหรับตัวผมเอง ผมก็ได้ทำกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้นครับ ซึ่งถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกของผมต่อเรื่องทุกเรื่องนี้มันคงไม่สามารถบรรยายออกมาได้เลยครับ

Q2: คุณได้ออกอัลบั้ม BIGBANG2 นี้ที่ญี่ปุ่น เพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้เป็นยังไงบ้างค่ะ??

GD: เราต้องการที่จะจัดเอาทั้งเพลงที่เรานำเสนอให้กับชาวญี่ปุ่นในช่วงที่เราโปรโมทที่นี่กับเพลงใหม่ของเราเข้าไว้ด้วยกัน เราต้องการที่จะร่วมแบ่งปันเพลงที่เราทำขึ้นในขณะที่เรามีประสบการณ์ในชีวิตมากขึ้นให้กับทุกคน ซึ่งถ้าทำได้แบบนั้นมันจะเป็นเรื่องที่ดีมากเลยฮะ

Q.3 :ช่วยแนะนำเพลงที่ออกมาใหม่ให้เราฟังหน่อยได้ไม๊ค่ะ??

GD: เพลง ‘TONIGHT’ เป็นเพลงที่มีสไตล์ในแบบบิกแบงอยู่ครับ ซึ่งเป็นปกติที่เรามักจะมีเพลงที่สามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของสมาชิกในวงแต่ละคนออกมาได้เสมอครับ และการแสดงสดบนเวทีของเพลงนี้ก็ควรค่าแก่การติดตามนะครับ

เพลง ‘Ms. Liar’ เป็นเพลงที่มีทำนองและเนื้อหาที่น่าสนใจ เราใช้เครื่องดนตรีที่จะมาสร้างจังหวะที่มีสไตล์ของเพลงร็อคมาใช้ในเพลงนี้ หลังจากที่เพิ่มเติมส่วนประกอบต่างๆลงไปแล้ว เราก้ได้เพลงที่น่าสนใจมากขึ้นมาอีกเพลง

Q.4 ฉันคิดว่าเพลงที่ถูกนำมารวบรวมเอาไว้ในอัลบั้ม บิกแบง 2 นี้เป็นเพลงที่รวมเอาอารมณ์ที่หลากหลายที่คุณรู้สึกใส่เข้ามา แต่เพลงที่ จีดราก้อนชอบมากที่สุดในอัลบั้มนี้คือเพลงอะไรค่ะ??

GD: เพลง “LOVE SONG’ ครับเพลงนี้เป็นเพลงล่าสุดที่เราเพิ่งออกตัวไปในช่วงครึ่งปีแรกนี้ครับ และเป็นเพลงสุดท้ายที่เราทำการโปรโมทที่เกาหลีในช่วงครึ่งปีแรกนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เพลงนี้ยังเป็นเพลงสุดท้ายในอัลบั้ม bigbang 2 เพลงนี้เป็นเพลงที่เราทำออกนอกเส้นทางแนวเพลงแบบปกติของบิกแบง ซึ่งมันจะให้อารมณ์ที่แปลกใหม่แก่ทุกคน และ มิวสิควีดีโอเพลงนี้ก็พิเศษด้วยครับ

Q5: เพลงเศร้า เพลงที่สนุกสนาน และเพลงที่ให้อารมณ์อื่นๆอีกมากมาย เรามักจะเจออารมณ์เหล่านี้ในเพลงของบิกแบง คุณทำเพลงที่สามารถจูงใจผู้คนแบบนี้ออกมาได้อย่างไรค่ะ??

GD: มันก็ขึ้นอยู่กับเพลงครับ แต่ยังไงก็ตามแต่ผมพยายามจะเขียนเพลงทุกเพลงด้วยหัวใจของผม ผมเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องเชื่อว่าเราสามารถที่จะสื่อสารกับคนฟังของเราด้วยวิธีนี้ได้จริง เราได้มีการพูดคุยกันระหว่างสมาชิกและกับทีมงานอย่างมาก ผมจะเขียนเพลงที่ผู้คนจำนวนมากสามารถที่จะเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับเพลงได้และรู้สึกผ่อนคลายหลังจากที่ได้ฟังเพลงของเรา ในส่วนของเนื้อเพลงและทำนองของเพลง ในตอนที่ทำเราก็ได้เน้นไปที่บรรยากาศโดยรวมที่องค์ประกอบทั้งหมดจะสามารถดึงออกมาได้ ครับ

Q.6:ในเพลง ‘Tonight’ และเพลง ‘Ms. Liar’, จีดราก้อนได้ทำเสียงเหมือนเสียงหมาหอนลงไปในเพลงทั้งสองเพลง ช่วงนี้ชอบทำแบบนี้เหรอค่ะ??

GD: มันมีสไตล์เฉพาะในการแร๊พอยู่นะครับซึ่งมันเป็นเรื่องของเอกลักษณ์เฉพาะตัวสองสามอย่างครับ เสียงของผมที่ร้องบนเวทีจะเป็นการสื่อให้รู้ว่า จีดราก้อนอยู่ที่นี่ ซึ่งการแสดงจะน่าสนใจขึ้นถ้าเราได้ใส่องค์ประกอบต่างๆลงไป ผมหวังว่าไม่ว่าคุณจะไปฟังเพลงไหนแล้วได้ยินเสียงแบบนั้นคุณก็จะคิดถึงผมครับ

Q7: ในช่วงครึ่งหลังของปี 2011 นี้บิกแบงจะมีอะไรมานำเสนอค่ะ??

GD: ตัวเราเองก็กำลังอยากรู้อยากเห็นเรื่องนั้นเหมือนกันครับ เรามีแผนในการร่วมมือทำงานกับคนดังและนักแต่งเพลงคนใหม่ครับ เราเชื่อมั่นมากว่าเราจะสามารถที่จะนำเสนออารมณ์ที่แตกต่างไปจากที่เคยรู้สึกมาครับ ยังไงขอให้ทุกคน เฝ้ารอด้วยนะครับ

เรื่องส่วนตัว

Q8: มีสไตล์ไหนที่คุณอยากจะแนะนำเราไม๊ค่ะ??? อะไรคือของที่คุณชอบซื้อในช่วงนี้ค่ะ??

GD: เมื่อก่อน ผมชอบที่จะสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันที่แตะตามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ แต่ในช่วงนี้ผมชอบสวมอะไรที่ง่ายๆแต่เก๋มากกว่า นอกจากนี้ผมสะสม แหวนและกำไล สิ่งที่ผมชอบสวมใส่มากที่สุดในช่วงนี้คือ เครื่องประดับของ Chrome Heart ครับ

Q9: การใส่เครื่องประดับทำให้คุณมีความสุขสินะค่ะ อะไรที่คุณชอบที่สุดค่ะ??

GD: เป็นคำถามที่ยากนะครับ ทรงผมที่ถูกเซตมาแบบนี้เป็นเพราะจะให้เข้ากับภาพรวมทั้งหมดและบรรยากาศของเพลงนะครับ พอเวลาผ่านไปผมก็ชักจะอายเหมือนกัน (หัวเราะ) ในตอนนี้ผมของผมจะออกสีชมพูครับซึ่งผมคิดว่าก็ไม่เลวนะ

(mew's note มิวไม่ได้เบลอนะค่ะ แต่คิดว่าน้องจีคงเบลอค่ะ ตอบไม่ตรงคำถามอย่างแรง)

Q10: บางทีคุณก็ดูเท่ๆ บางทีคุณก็ดูไร้เดียงสา เราสามารถเห็นสีหน้ามากมายได้จากใบหน้าของจีดราก้อน แล้วบุคคลิกที่แท้จริงก็คุณเป็นยังไงกันแน่ค่ะ??

GD: ที่จริงทุกคนที่คุณเห็นก็เป็นผมนะครับ นิสัยของผมจะสามารถเห็นได้บางส่วนภายใต้สถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง ซึ่งจะสามารถเห็นทั้งหมดได้จากการรวมทุกๆอย่างที่เห็นเข้าด้วยกัน ผมจะรู้สึกดีใจนะครับถ้าคุณจะคิดแบบนี้เหมือนกัน

Q11: ในเพลงรักมากมายที่คุณเขียนขึ้นมา มีทั้งความเศร้าและความสุขและการประชด ความรักหลากหลายถูกพบในเพลงของบิกแบง เพลงไหนของบิกแบงที่ดูจะใกล้เคียงกับเรื่องราวความรักของจีดราก้อนมากที่สุดค่ะ?

GD: ยกตัวอย่างนะครับ อย่างเพลง What is Right ผมไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าความรักมันเป็นยังไงแต่ผมก็ค่อยๆเรียนรู้ไปเมื่อโตขึ้น ผมเขียนถึงความรู้สึกไร้เดียงสาที่ผมประสบในช่วงหลายปีนั้น ผมไม่สามารถหาคำตอบได้จากที่ไหนเลย ผมคิดเสมอว่ามันเป็นเรื่องยากในเรื่องความรักครับ

Q12: ในช่วงนี้อะไรที่ทำให้คุณมีความสุขค่ะ?? เช่น สิ่งของที่คุณได้มาครอบครอง หรือ อะไรก็ได้ที่ทำให้คุณต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาค่ะ??

GD: ก่อนหน้านี้เราได้เดินทางไปที่เกาะเชจูกันครับซึ่งเป็นที่ที่สวยงามมาก แล้วเราก็สนุกกันมาก ผมอยากจะไปที่นั่นอีกครับ

Q13:สุดท้ายนี้ ช่วยฝากอะไรถึงแฟนๆที่ญี่ปุ่นหน่อยค่ะ

GD: ผมรู้สึกขอบคุณในแรงสนับสนุนของทุกคนเสมอครับ ผมรู้ว่าไม่สามารถที่จะอยู่เคียงข้างทุกคนได้ในตอนที่พวกคุณประสบกับความทุกข์ ผมอธิษฐานให้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเร็วๆนี้ คอนเสริต์ของบิกแบงจะเป็นความทรงจำที่ดีให้กับทุกคน และผมจะดีใจมากถ้าคอนเสริต์จะมอบพลังให้กับทุกคน ความรักที่ทุกคนมีให้ต่อบิกแบงโปรดอย่าเปลี่ยนแปลงไปนะครับ

Source: As tagged via 21 bangsTranslated by: Rice @bigbangupdates thai translation by mew in mew mini museum


วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ทาบิ ได้รับรางวัล 2 รางวัลในงาน Baeksang award ครั้งที่ 47

ชเวซึงฮยอนได้รับรางวัล นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง Into the Fire จากงานประกาศรางวัล BaekSang Arts Award ครั้งที่ 47 ที่จัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัย Kyung Hee ที่โซลในวันที่ 26 พฤษภาคม 2011


ชเวซึงฮยอนกล่าวว่า " ผมรู้สึกขอบคุณมากๆครับ ภาพยนตร์เรื่อง into the fire นี้ได้มอบโอกาสมากมายให้แก่ผมผมจึงรู้สึกขอบคุณมากๆครับ ผมอยากจะขอบคุณ ท่านประธานยางฮยอนซอก ผู้กำกับจากเรื่อง into the fire รุ่นพี่ Kim Seung Woo, Kwon Sang Woo, Cha Seung Won และรุ่นพี่นักเรียนทหารในเรื่องสำหรับคำแนะนำไม่รู้จบ มันทำให้ผมพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้ไม่รั้งท้าย และเป็นแรงบันดาลใจให้ผมกลายเป็นนักแสดงที่จะต้องดีขึ้นอีกครับ"

หลังจากที่เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ชเวซึงฮยอนได้รับ รางวัลเดียวกันนี้ในงานประกาศรางวัล Blue Dragon Film Awards ครั้งที่ 31 บทบาทนักเรียนทหารจากภาพยนตร์เรื่อง into the fire ก็ทำให้เค้าได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมอีกครั้งในคืนนี้

นอกจากงานแสดงภาพยนตร์แล้ว บทบาทการแสดงที่เปี่ยมเสน่ห์ของเค้าในละครทีวีชื่อดัง Iris ก็เป็นการยืนยันได้ว่า เค้าเป็นคนดังคนนึงที่ทำได้ดีทั้งการแสดงและการร้องเพลง

นอกจากนี้ในงานคืนนี้ ชเวซึงฮยอนยังได้รับรางวัล นักแสดงชายยอดเยี่ยมในการประกาศรางวัลในคืนนี้ด้วย

ซึ่งในตอนรับรางวัล เค้าได้กล่าวขอบคุณ ดังนี้

"ผมอยากจะขอบคุณสมาชิกวงบิกแบง รวมไปถึงเพื่อนๆและแฟนคลับ ผู้ซึ่งมอบความเข้มแข็งมากมายมหาศาลให้กับผม รางวัลนี้ขอมอบให้กับทุกคนครับ "

Source: Newsen ,Chinese Translations by: 燕紙 @ BBCN , English Translations by: mystifize @ bigbangupdates, Thai Translation by mew in mew mini museum

[TRANS]สัมภาษณ์ BB จากนิตยสาร Junon เดือนมิถุนายน 2011(1)

สัมภาษณ์ BB จากนิตยสาร Junon เดือนมิถุนายน 2011
Q: เป็นเพราะว่าชื่อทัวร์คอนเสริต์ในครั้งนี้มีชื่อว่า love&hope พวกคุณจะเล่าเรื่องความรักของคุณในขณะนี้ เรื่องความฝันและเรื่องความหวังให้เราฟังได้ไม๊ค่ะ??

TOP:ผมรักแฟนๆชาวญี่ปุ่นของเราครับ และจริงๆผมก็มีความหวังและความฝันของผมเหมือนกันครับ

DS: ผมรักการทัวร์ในครั้งนี้และรถของผมครับ

YB: ผมรักคนที่อยู่รอบๆตัวผมและแฟนๆของผมครับ ความหวังของผมคืออยากจะทำให้ทุกคนประทับใจด้วยเสียงเพลงของผมครับ

GD: ผมรักรถครับ และผมหวังว่าทุกคนในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะกลับมายิ้มได้อีกครั้ง

SR:ช่วงนี้ผมรักการจัดระเบียบทางร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้นครับ ส่วนเรื่องความหวัง.....ยังคิดๆอยู่ครับ(ยิ้ม)

Q: ถ้าเกิดว่าคุณเป็นผู้หญิงและสามารถจะออกเดทกับสมาชิกในวงได้ คุณจะเลือกใครและเพราะอะไรค่ะ?? (เลือกตัวเองก็ได้นะค่ะ)

SR: ให้เลือกคนในวงเหรอฮะ?? ยากนะครับ อืมม.....ไม่เลือกใครเลยฮะ(ยิ้ม) ขอโทษนะครับ

GD: เลือกทุกคนเลยฮะ เพราะแต่ละคนก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ผมเลือกไม่ได้

TOP: ผมอยากจะออกเดทกับทุกคนเลยครับ เหตุผลเหรอครับ??? ลองจินตนาการดูสิฮะ (ยิ้ม)

YB: อ่า.......ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมจะอยู่เป็นโสดดีกว่า (ยิ้ม)

DS: ถ้าผมเป็นผู้หญิงเหรอครับ ผมคงจะเดทกับคนที่เหมือนกับตัวเองนี่แหละครับ

Q: บิกแบงมีความเห็นยังไงกับอัลบั้ม "bigbang 2 " ค่ะ??

GD: เครื่องดนตรีและการจัดเรียงดนตรีในอัลบั้มนี้เป็นแนวที่กว้างขึ้นและแตกต่างไปครับ ผมต้องการให้แม้แต่คนที่ไม่เคยรู้จักเรามาก่อนก็สามารถฟังเพลงแบบนี้ได้ คนที่รู้สึกเศร้าก็จะรู้สึกดีขึ้น คนที่มีความสุขอยู่แล้วก็มีความสุขมากขึ้นไปอีกครับ เพลงของเราถูกสร้างมาจากอารมณ์ที่แตกต่างกันไปดังนั้นใครที่อยากจะฟังก็เชิญเลยครับ

TOP: เพลง "Love Song" พูดถึงชายที่สูญเสียคนรักคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว เพลงนี้จะเป็นเพลงที่คุณสามารถฟังตอนดึกๆคนเดียว สร้างบรรยากาศที่เงียบงันขึ้นมา และผมก็คิดว่าเพลงนี้ก็ให้ความรู้สึกดีเวลาฟังตอนเช้าๆด้วยเช่นกัน

YB: ผมชอบเพลง"Somebody to Love" ผมชอบการออกแบบท่าเต้นในเพลงนี้ เป็นการสร้างเหตุการณ์ที่คุณกำลังมองหาใครซักคน เนื้อเพลงก็สร้างความประทับใจที่น่าจดจำด้วยครับ

DS: ถ้าจะให้สรุปออกมาในประโยคเดียว ผมจะบอกว่า " อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ยิ่งใหญ่ด้วยจังหวะที่สบายๆ"

มันไม่ใช่เฉพาะส่วนของเราแต่ละคนแล้วแต่มันเป็นการคิดถึงว่าส่วนของเราจะไปให้ผลกระทบในส่วนของสมาชิกคนอื่นยังไงบ้าง ซึ่งอัลบั้มนี้จึงเป็นการร้องเพลงของเราทั้ง 5คนที่เป็นไปตามธรรมชาติมากขึ้นครับ

SR: เพลง "Ms. Liar" จีดราก้อนเป็นคนเขียนครับ มันเป็นเรื่องที่เราทำเป็นไม่รู้ว่าผู้หญิงที่เราชอบโกหกเราสารพัด ซึ่งมันเป็นเรื่องเศร้านะครับ งานของจีดราก้อนในช่วงนี้มีความเป็นผู้ใหญ่ผสมลงไปด้วย ช่วยฟังกันด้วยนะครับ

บางส่วนจากคำถามถาม-ตอบ จีดราก้อน

Q: เพลงที่คุณเขียนเกี่ยวกับความรัก มีทั้งอารมณ์เศร้า มีความสุข ขี้เล่น ปะปนกันไป คุณใช้เพลงของบิกแบงเป็นที่แสดงออกอุปมาเกี่ยวกับเรื่องความรักของคุณรึเปล่า?? ถ้าเป็นแบบนั้น คุณจะเลือกเพลงไหนที่มันจะบอกได้ตรงที่สุด??

GD: ยกตัวอย่างนะครับ เพลง"What is Right" เป็นเพลงที่ในตอนนั้น ผมยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับความรักมากเท่าไหร่ผมยังเรียนรู้และเติบโตไปกับมัน ผมเขียนเพลงนี้ขึ้นเพื่ออธิบายว่าตอนนั้นผมรู้สึกยังไงผมคิดว่ามันอารมณ์นั้นนะครับ แบบว่าแล้วคำตอบมันคืออะไรละ??? จะไปหาคำตอบได้จากไหน?? ผมแค่รู้สึกว่าการที่เราจะคบใครซักคนนั้นมันเป็นเรื่องลำบากเหมือนกัน

Source: bestiz + DCGD + Eng Trans: amandajaclyn18@twitter
Shared by
Xera@BIGBANGWORLD Thai Translation by mew in mew mini museum

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

[TRANS]สัมภาษณ์ ผกก MV Butterfly Kim Hye jung ตอน 1

ผู้กำกับ Kim Hye Jung เป็นผู้กำกับที่กำกับ MV เพลง Butterfly ให้กับจีดราก้อนและยังเป็นโปรดิวเซอร์ วีดีโอแบล็คกราวเพลง ‘Gossip Man’ และ ‘She’s Gone’ ที่ฉายในคอนเสริต์ shine a light อีกด้วย

ทาง DCGD ได้เดินทางไปสัมภาษณ์ผู้กำกับ KIM เพื่อที่จะนำมาทำแฟนบุ้คประจำบอร์ดที่มีชื่อว่า G-book เล่มสอง โดยคำถามที่นำไปถามนั้นเป็นคำถามที่สมาชิกบอร์ดได้โพสทิ้งไว้กว่า 2 อาทิตย์ตั้งแต่ในวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งหลังจากที่คัดเลือกคำถาม ตอนนี้ บทสัมภาษณ์ได้ถูกจัดทำขึ้นในรูปแบบของหนังสือและวีดีโอ ซึ่งจะออกสู่สายตาแฟนๆในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
เราอยากจะขอบคุณ ผู้กำกับ Kim อย่างมากที่ให้เราได้ไปสัมภาษณ์ไม่เพียงเท่านั้น ยังตอบคำถามของเราอย่างจริงใจและซื่อตรงที่สุดด้วยค่ะ

Q:คุณได้มาทำงานร่วมกับจีดราก้อนได้อย่างไรค่ะ?? อะไรคือความประทับใจแรกเมื่อคุณถูกทาบทามให้มาทำมิวสิควีดีโอของเค้า ??อะไรคือ สิ่งที่มีอิทธิพลที่สุดในการที่ทำให้คุณตัดสินใจมาทำงานกับจีดราก้อนค่ะ?
KHJ: เมื่อผมได้รับการทาบทามและได้ยินเพลง ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก ความจริงที่ว่า เพลง butterfly เป็นเพลงที่ให้อารมณ์แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับเพลงที่ใช้โปรโมทคือ HB นั้นให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่สำหรับผม ซึ่งเรื่องแรกเลยคือ ผมชอบเพลงนี้มากๆ ผมได้ลองร่างภาพฉากสองสามฉากที่เข้ามาในหัวของผมเมื่อได้ฟังเพลงนี้ออกมา ซึ่งจริงอยู่ว่าในตอนแรกที่ผมเอาภาพร่างของผมไปเสนอผมกังวลว่าภาพเหล่านั้นมันจะไปไกลเกินกว่าสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้รึเปล่า แต่น่าแปลกใจมาก ที่จีดราก้อนกลับเสนอว่าอยากจะทำอะไรที่ทำให้เค้าหลุดไปจากกรอบภาพลักษณ์ในแบบไอดอลและให้อิสระเต็มที่กับผม
ผมยังจำได้ดีในตอนที่เราเสร็จการประชุมกันในครั้งแรก ท่านยางได้บอกกับผมว่า ในบรรดาเพลงทั้งผมดในอัลบั้ม เพลงนี้เป็นเพลงที่มีค่ามากที่สุดในใจของจีดราก้อน ผมรู้สึกแบบนี้แหละครับเมื่อตอนที่ได้รับเพลงมาในตอนแรก มันเป็นความแปลกใหม่และผมรู้สึกดีมากๆ ผมเริ่มที่จะให้ศิลปินคนที่มีชื่อ จีดราก้อนคนนี้ คิดอีกทีและรู้ว่ามันจะต้องเป็นงานที่สุดยอดแน่ๆ ซึ่งสิ่งที่โน้มน้าวใจผมให้รับงานชื้นนี้มากที่สุด น่าจะเป็นเพราะ เค้าคือ จีดราก้อน แหละครับ

Q: ในการทำงานร่วมกับจีดราก้อน เป็นยังไงบ้างค่ะ??
KHJ:เพลงของจีดราก้อนนั้นทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจออกมาเป็นภาพมากมาย ผมคิดว่าเค้าต้องการที่จะบรรยายดนตรีของเค้าออกมาให้ภาพที่ให้อารมณ์ที่แปลกใหม่มากที่สุด ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ได้พูดอะไรออกมามากนัก แต่เค้าก็เข้าใจในสตอรี่บอร์ดและภาพรวมต่างๆที่เราอธิบายไปให้เค้าอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ครั้งแรกและทำตามทุกอย่างที่เราคิดไม่เพียงแต่เรื่องเครื่องแต่งกายและการทำผมเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงฉากและสิ่งของประกอบฉากด้วย ผมเชื่อว่าเค้ามีความสามารถในระดับมืออาชีพจริงๆและเค้าก็ลงมือทำอย่างดีที่สุดในบทของเค้า ซึ่งเค้าเคารพในบทบาทของเค้าและเคารพในบทบาทหน้าที่ของ ผกก.เป็นอย่างดี

Q: ความประทับใจที่คุณมีต่อเพลง Butterfly คืออะไรค่ะ?? มีแรงบันดาลใจอะไรไม๊ที่เข้ามาในหัวคุณเลยเมื่อได้ยินเพลงนี้??
KHJ:มันมีภาพลอยไปลอยมาในหัวของผมตั้งแต่ทีแรกที่ผมได้ยินเพลงนี้จนถึงตอนที่เราเสร็จสิ้นการถ่ายทำทุกอย่างแล้ว นั่นคือ ภาพของเด็กชายที่อยู่ในห้วงรักกำลังหัวเราะ
ความร้อนรุ่มตื้นตันที่ทุกคนย่อมเคยมีประสบการณอย่างน้อยก็ครั้งนึง ผมคิดถึงความสุขที่ส่องแสงระยิบระยับและความทรงจำแบบนั้น แต่เสียงเต้นของหัวใจแบบนี้อาจจะเป็นความเจ็บปวดของคนที่เคยประสบกับเหตุการณ์แบบนี้แต่หลังจากที่มองในความเป็นจริงแล้ว ความคิดที่วูบแล่นแบบนี้กลับกลายเป็นความเศร้าแรงบันดาลใจอารมณ์นั้นครับ

Q:รูปแบบของ MV เพลงนี้มาจากไหนค่ะ?? และคุณได้ไอเดียภาพรวมของ MV นี้มาได้อย่างไร?? คือการนำเอาภาพจริงและอะนิเมชั่นมาใช้รวมกัน อะไรที่ส่งให้คุณนำเอาเทคนิคนี้มาใช้เพื่อMV เพลงนี้ค่ะ?
KHJ:เมื่อผมได้รับการทาบทาม ผมได้ยินมาว่าพวกเค้าอยากจะได้อะนิเมชั่นมาไว้ใน MV และภาพรวมต่างๆก็เกิดขึ้นหลังจากที่เราได้หารือกันในเบื้องต้นเกี่ยวกับสิ่งที่ผมร่างออกมา ด้วยตัวเพลงทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจในการทำภาพที่สดใสออกมา และเป็นเพราะ ผมสีบลอนด์ของจีดราก้อน มันช่วยทำให้ภาพในแบบที่เหมือนกับเทพนิยายผุดเข้ามาในใจผมครับ
นอกจากนี้ โดยส่วนตัวของจีดราก้อนแล้ว เค้าเป็นคนที่มีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งแต่ก็ยังคงความบริสุทธิ์และความอ่อนไหวเอาไว้เช่นกัน ซึ่งด้วยเสน่ห์ที่ซับซ้อนแบบนี้มันจะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดด้านที่แตกต่างกันออกมา เหมือนกับที่เค้าเป็นที่รักของคนมากมายแต่บางทีเค้าก็ยังดูโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา ดังนั้นผมจึงเริ่มจากนี้แหละฮะและสร้างตัวละครออกมาจากตรงนี้
พูดตามตรงคือ ผมไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะเอาภาพจริงๆมารวมกับภาพอนิเมชั่น ซึ่งเราถ่ายภาพจริงๆเพื่อที่จะนำเอามาใช้ในภาพอนิเมชั่นแบบเคลื่อนไหวซึ่งมีภาพสวยๆเยอะมากที่เราจำเป็นต้องทิ้งไปนอกจากนี้จีดราก้อนดูกลมกลืนอย่างมากกับฉากหลังที่สร้างขึ้นมา ผมได้ตัดเอาภาพบางส่วนที่มีจีดราก้อนอยู่ในภาพและนำเอาไปตัดกับอะนิเมชั่นให้ทีมงานของวายจีและตัวจีดราก้อนดู และท้ายที่สุดเราก็ตัดสินใจ ที่จะเปลี่ยนการถ่ายทำ MV มาเป็นแบบที่เห็น


Q:ฉันอยากรู้มากๆเลยค่ะเกี่ยวกับผู้หญิงใน MV เพลงนี้อะค่ะ??
KHJ:สาวน้อยในเอ็มวีนั้นเป็นภาพที่สร้างขึ้นมาและเป็นอะไรที่สามัญสากล ผมต้องการให้สาวๆที่ดูมิวสิควีดีโอนี้กลายเป็นสาวน้อยในวีดีโอและมองจีดราก้อนผ่านสายตาของเธอ ดังนั้นเราเลยตั้งใจที่จะสร้างเธอออกมาให้ดูธรรมดาๆมากกว่าจะมีภาพลักษณ์ที่โฉบเฉียว
ฉากที่สาวน้อยคนนั้นกำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างและมีเด็กผู้ชายคนนึงเข้ามาคว้าเอวและพาเธอบินไปในที่ที่แสนไกล ตรงกับความคิดของผมในตอนเด็กๆที่ผมมักจะฝันว่าจะโบยบินออกไปจากความเป็นจริง

Q:ใน MV เพลง butterfly ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องในจินตนาการฉันเชื่อว่าอารมณ์ที่แสนสวยงามและภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจนั้นคุณได้มาจากเพลงและโลกในจินตนาการที่จีดราก้อนได้นำทางให้คุณ ซึ่งทั้งคุณและเค้าต่างก็คิดออกมาตรงกัน???
KHJ:ผมออกความเห็นมากมายในเรื่องของฉากหลังที่เป็นโลกในจินตนาการแต่ผมจะให้ความสำคัญอย่างมากเลยกับบุคคลิกของเด็กชายลึกลับที่เข้ามาในเรื่อง ผมต้องการที่จะแสดงออกถึงด้านที่แตกต่างไปจากภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและมีเอกลักษณ์ที่เราได้เห็นจากจีดราก้อนเสมอ ซึ่งในบรรดา MV ทุกเพลงในอัลบั้มเดี่ยวของเค้าเพลงนี้เป็นเพลงที่เค้าเปลี่ยนชุดน้อยที่สุด (^^)
แต่มันเป็นความจริงที่ว่ามันกลายเป็นเรื่องที่พิเศษขึ้นอีกเนื่องจาก จีดราก้อนเอง เพราะตัวละครตัวนี้ไม่ใช่แค่ เจ้าชายรูปหล่อแสนดีแบบในนิยายเท่านั้น แต่ยังมีเหมือนกับด้านมืดในตัวเค้าด้วยซึงด้านมืดนี้ไม่ได้เป็นอันตรายกับใครรอบๆตัวเค้าและด้วยรอยยิ้มที่ไม่มีเงื่อนไขแบบนั้น ผมเชื่อว่ามีแต่จีดราก้อนเท่านั้นที่จะทำมันออกมาได้ครับ

ตลอดความยาวของมิวสิควีดีโอนี้ มีสัญลักษณ์ต่างๆแฝงเอาไว้มากมาย ผมรู้สึกสนใจมากว่าแฟนๆจะตีความหมายมันออกมายังไงเมื่อมิวสิควีดีโอได้ถูกปล่อยออกไป มีบางจุดที่ผมตั้งใจใส่ลงไปและบางจุดที่ผมมองข้ามไป ซึ่งมีคำถามมากมายถามเข้ามาในการสัมภาษณ์ต่างๆ แต่ผมคิดว่าผมไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะตอบว่ามันเป็นแบบนี้นะหรือแบบนั้นนะ ซึ่งผมเชื่อว่าความหมายในมิวสิควีดีโอนี้จะสมบูรณ์ได้เมื่อเราได้มีการร่วมกันแปลความหมายออกมา ซึ่งมันจะมาจากมุมมองที่แตกต่างและความเห็นที่แตกต่างกันไปตามความคิดของคนดูครับ

Q:การทำงานร่วมกับจีดราก้อนในการถ่ายทำ MVนี้ เป็นยังไงบ้างค่ะ??
KHJ:ในการที่เราจะทำเพลง butterfly ให้ออกมาเป็นมิวสิควีดีโอ สิ่งที่จีดราก้อนเจาะจงมาเป็นพิเศษไม่ใช่แค่การหาสิ่งที่แปลกใหม่ขึ้นมาเท่านั้นแต่เค้ายังสั่งมาว่าเค้าต้องการที่จะเป็นอิสระจากกรอบภาพลักษณ์และต้องการแสดงออกในด้านที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนในตัวเค้าออกมาด้วย
ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เค้าได้แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจผ่านอัลบั้มโซโล่ของเค้าซึ่งเค้าทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดของตัวเองออกมา ผมรู้สึกว่า เพลง butterfly มันก็สร้างความแปลกใหม่ได้ตัวยของมันเองอยู่แล้วครับ

Source: DCGD EngTranslated by : Seungie @tumblr via 21bangs Thai Translation by mew in mew mini museum

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

I love Jay in 10asia interview

[เผื่อใครจะแวะมานะค่ะ มิวเวิ่นเว้อเล็กน้อย ข้ามไปเลยค่ะ 555555 เกี่ยวกับสัมภาษณ์เจย์ของ 10 asia ตามอ่านได้ที่ heisjayparkตามลิงค์นี้เลย ค่ะ ช่วยเค้าขายของ อิอิ


=======================

I just don't know how to explain these out loud

but the whole interview make me feel like "this is why i decided to supporting him "

i guess maybe because something about his idea of living or the idea of being the optimistic person make me feel strong and more sheer up


i'm totally agree with him when he said "Uh...to be honest, the song isn’t that popular But Now I’m not ashamed of it. I think [to be able to acknowledged by other musicians] is the most important"


and he always humble "So I’m satisfied with how far I’ve gotten for this album, but frankly, this was way beyond my expectations. I never imagined this album could became big like this. Actually I thought the song would be a hit instead of the album, so it’s completely the opposite. (laughs) " I'm so impressed Jay


Most of all things he is 2ne1's fanboy and don't even once try to hide it (5555) since i'm the YGFamily addicter i'm need him to be in this family so so so bad

" If you’re not 2NE1, it’ll keep changing. So I should be part of 2NE1 now. (laughs)"


when he got a hard time he always got a way out and the method to sheer himself up that really helping me to find the wayout too

"I’m the type of person who tries to have positive thoughts. Things are tough, but that won’t last forever"

" don’t really mind. I’ve been getting a lot of hate comments from articles and their replies. (laughs) It’s because they don’t really know me in person. If it was from my close friends, it would hurt my feelings, but it’s from complete strangers. I used to feel bad about it. I couldn’t agree with something that is not true, and that’s probably why some people misunderstood me on certain things. I wanted to clear things out before then, but now it’s all good as long as people around me understand me clearly"


i love how he answer the last question because it's making me feel like we're so close (kind of stupid right?? but since we are the citizen of the world anything possible 555555)

Wherever I go, it’s always a little different. And now I can adjust very quickly. It was tough for me to get used to Korea when I first got here from America, but after living here and there, going to many places, eating many kinds of foods, doing concerts, and meeting with various fans, I don’t get surprised by so many things now. I would think, “Ah, this is how things work here.” In a sense, Korea and America are connected as one world. If the earth happens to be destroyed, then everyone goes together. (laughs)


So i just love this interview !! and this is not the normal thing for me to write in english (that's crazy !! i know .....)

but since this is supposing to be my private space i decided to do what i want to do

and because i really can't write it out in Thai which is i don't know why ??

Maybe today is a crazy day 5555555 peaceeeee ++ everyone

credit to idlenesswego@JAYPARK.NET for the english translation

Every little thing 24/05/2011

เหมือนจะห่างหายจากการทำ เรื่องเล็กน้อยๆของเรา มาหลายวันเนอะค่ะ
พอกลับมาที่เกาหลียิ่งเงียบจัดมากขึ้นไปอีกอะค่ะ มิวชักชินที่จะอ่านๆๆแล้วไม่แปลไปซะแล้วอะค่ะ 555
===============

- ที่มาเลเซียจะจัดงาน YG Day นะค่ะ ค่าย Halo ที่เป็นค่ายที่ติดต่อเป็นตัวแทนนำเอาศิลปินจากวายจีเข้าไปที่มาเลเซียเป็นคนจัดค่ะ ตามโปสเตอร์เขียนไว้ว่าวันที่ 25 มิถุนายนนะค่ะ ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมค่ะ

-ท่านลุงออกซีดีรวมฮิตขายที่ญี่ปุ่นค่ะ มีดีวีดี เมกกิ้งแถมด้วย ดูหลายชื่อเพลงแล้วเป็นเพลงเก่าล้วนๆ อาทิ
How Gee Number One Haru Haru With U Baby Baby ราคา 2678 วางวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ค่ะ


- ต่อด้วยเรื่องเล่าจากวีไอพี นะค่ะ มีวีไอพีรูปร่างท้วมไปขอลายเซ็นทาบิค่ะ แล้วบอกให้ทาบิว่า "พี่ค่ะช่วยเขียนลงไปด้วยนะค่ะ ว่า "โปรดลดความอ้วนด้วย" " (เพื่อวีไอพีคนนั้นจะได้เอาไปเป็นกำลังใจให้ตัวเองอะค่ะ) ผมปรากฏว่าตอนที่รับกระดาษคืนมา ทาบิกลับเขียนลงไปว่า " เธอน่ารักนะ" แทน ประหนึ่งว่าถึงไม่ต้องลดความอ้วนก็น่ารักแล้ว

- ทันทีที่กลับถึงเกาหลี น้องซึงได้เดินทางไปบันทึกเทปรายการ NAN ค่ะซึ่งเทปนี้ กินเวลาในการถ่ายทำนานกว่า 7 ชั่วโมงและมาถ่ายเสร็จเอาตอน ตี 4

ทีมงานและดาราต่างก็มีน้ำดื่มให้ดื่ม แต่แฟนๆที่มาร่วมอัดรายการด้วยต่างก็เหนื่อยกันมากและไม่มีน้ำให้บริการ เมื่อน้องซึงเห็นแบบนั้นจึงเอาน้ำไปให้วีไอพีที่มาร่วมอัดรายการและถามว่าเหนื่อยไม๊??ฮะ ผมรู้ว่าเหนื่อยนะ อีกนิดเดียวแหละ ใกล้จะเสร็จแล้ว

credit to bigbangworld and alida@twitter
Thai translation by mew in mew mini museum

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

[TRANS]Fan account งานแฟนมีทติ้ง เมื่อปี 2009

ตามน้อง alida ที่แปลจากเกาหลีเป็นอังกฤษเนื่องจากว่า คนที่มาเขียนแฟนแอคเค้าส์คนนี้เป็น ชายค่ะ นานๆทีจะเห็นผู้ชายมาเขียนแฟนแอคเค้าส์ เลยจัดมาให้อ่านกัน
เรื่องราวนี้ เป็นเรื่องราวเมื่อครั้งงานแฟนมีต ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี 2009 ค่ะ


MC: ซึงรี ถ้าเราให้โอกาสคุณวันนึงให้เป็น พี่บ้าง คุณอยากจะทำอะไรมากที่สุด???
Seungri: อืมม...ก่อนอื่นเลยผมจะไปห้องพี่จียงครับ เพราะว่าในนั้นมีเสื้อผ้าดีๆเยอะมาก ผมจะไปลองใส่ให้หมดเลยฮะ
(น้องจีที่อยู่ใกล้ๆ กำลังพยายามอย่างหนักที่จะกลั้นหัวเราะเอาไว้ค่ะ ) จากนั้นผมก็จะขอให้แทยังกระโดดม้วนหลังให้ดู
(เบไม่ได้ว่าอะไรค่ะ ..5555) จากนั้นก็จะเรียกพี่ท็อปให้มานวดหลัง ( ทาบิก็ไม่ได้ว่าอะไร เอาแต่ยิ้มค่ะ)
สุดท้ายพี่แดซองที่ดูเหมือนจะภูมิใจกับใบขับขี่ของตัวเองมาก ดังนั้นในวันนั้นทั้งวันถ้าผมจะไปไหนผมจะให้พี่แดซองเป็นคนขับรถให้


หลังจากที่หมดช่วงคำถามตลกๆๆ ก็ได้เวลาจับมือแล้วค่ะ
มือของแทยัง นุ่มมาก
มือของแดซองมีกลิ่นเหมือนมินซ์ (อาจจะเป็นกลิ่นของ ครีมทามือก็ได้)
มือของซึงรี นุ่มและดูอ่อนโยนเหมือนมือของเด็ก (อิอิ)
มือของท็อปฮยอง อืมๆๆๆจะพูดออกมายังไงดี คือ มือแมนมากและมือใหญ่ด้วย
สุดท้าย มือของจีดีฮยอง ให้ความรู้สึกเหมือนจับมือกับเพื่อนนะ 55555


ในระหว่างการจับมือ

แทยังเอามือนึงวางไว้ตรงหน้าอกและอีกมือนึงยื่นมาให้แฟนๆจับอย่างต่อเนื่อง ส่วนแดซองเอาทั้งสองมือมากุมมือผมไว้
และแจกยิ้มแสนสดใสกับทุกคน แม้แต่กับผู้ชายอย่างผมก็ด้วย ซึงรียืนเหมือนกับตัวเองเป็นเจ้าของบริษัท (นึกภาพออกใช่ไม๊??)
ส่วนท็อป ดูจะนอบน้อมมากๆ และต้อนรับแฟนๆที่เป็นผู้ชายอย่างมาก ส่วน จีดีฮยอง ดูอบอุ่นและเป็นมิตรมากอย่างไม่น่าเชื่อ รู้สึกสบายมากๆ

ในวันนี้ซึงรีดูไม่ค่อยแสดงออกอะไรมากเท่าไหร่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะว่า ตารางงานที่ยุ่งมากของพวกเค้าในช่วงเช้า
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามผมรู้สึกดีมากๆที่ได้มางานนี้ในวันนี้


Source: VIPZ 남팬님 + kathy@bbcn
Eng Translated by: mystifize@twitter
Thai Translation by mew in mew mini museum

ไฮไลท์รายการ Sakigake eight

ตามเคยค่ะ ซับออกมาแล้ว เราก็ทำไฮไลท์ตามเคย เรื่องซับวีดีโอปล่อยให้ทีมเด็กๆทำนะค่ะ 5555

- พูดเข้ารายการมีการเกริ่นนำว่าเมื่อปีก่อน มีหนึ่งในพิธีกรรายการเคยเจอกับบิกแบงกันแล้ว ตอนที่ไปร้าน petshop แล้วให้น้องๆเลือกสัตว์เลี้ยงอะค่ะ คงจะยังจำกันได้น้า แล้วก็มีการพูดถึงความโด่งดังของเพลงในญี่ปุ่นและการเริ่มทัวร์คอนเสริต์ love and hope ค่ะ

-ทางรายการได้ถามคำถาม โดยถามเป็นหัวข้อว่า ใครเป็นอันดับ 1 ในบิกแบงที่..............(ตามด้วยคำถามค่ะ)
1.สมาชิกที่โด่งดังที่สุด ทาบิได้ 3 คะแนน น้องจีได้ 2 คะแนน ทาบิชนะ
ทาบิพูดขอบคุณนะค่ะแล้วก็ทำเป็นหลับตาด้วย แล้วก็พูดว่าจริงๆทุกคนมีเสน่ห์เฉพาะตัวค่ะ ทาบิแค่เด่นกว่านิดหน่อยแค่นั้นเอง
2.คนที่แต่งตัวเก่งที่สุด น้องจี 4 คะแนน ยองเบ 1 คะแนน น้องซึง 1 คะแนน น้องจี ชนะ
น้องจีพูดขอบคุณและบอกว่า จุดเด่นในการแต่งตัววันนี้คือ หมวกแดงค่ะ สาเหตุที่ชอบใส่หมวกเพราะ ไม่ชอบสระผม พอไม่ได้สระผมเลยซื้อหมวกแทนค่ะ >_<
3.สมาชิกที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้เก่งที่สุด ยองเบ 4 คะแนน ทาบิ 1 คะแนน ยองเบชนะ
ยองเบบอกว่าขอบคุณมากครับ ยังคงมีอีกหลายสิ่งให้เรียนรู้ ยังไงจะพยายามให้หนักขึ้นอีก
4.สมาชิกที่มีความพยายามและทำงานอย่างหนักที่สุด ยองเบ 2 คะแนน น้องแด 3 คะแนน น้องแดชนะ
น้องแดว่าทุกคนล้วนทำงานอย่างหนักไม่ใช่แค่น้องคนเดียวค่ะ น้องจีเลยแซวว่าน้องแดทำงานอย่างหนักในการรักษาผิวพรรณ น้องแดเล่นเล่นมุขต่อไปว่า "กรุณาอย่าถ่ายโคสอัพนะครับ" 5555
5.สมาชิกที่หล่อที่สุด ยองเบบอกว่ามาเลือกตัวเองกันเถอะเนอะ คะแนนเลยเสมอกันหมดค่ะ

======================

ในช่วงท้าย มีคำถามที่ถามสมาชิกทุกคนว่า เพลงไหนในอัลบั้มที่ชอบมากที่สุด

- น้องแด ตอบว่าเพลง let me hear your voice ค่ะ เพราะบิกแบงทำเพลงเต้นรำมาเยอะ เพลงนี้ทำให้ได้แสดงออกด้านที่แตกต่างไปให้กับแฟนๆได้เห็นค่ะ

- น้องซึง ตอบว่าเพลง tell me goodbye น้องบอกว่า เนื้อเพลงและทำนองทำออกมาได้ดีมาก

-ยองเบ ตอบว่าเพลง hands up เพราะ เวลาร้องเพลงนี้บนเวทีดูแฟนๆจะชอบกันมากเลยชอบร้องเพลงนี้ค่ะ

-น้องจี ตอบว่าเพลง love song ค่ะ เพราะ บิกแบงมีเพลงเร็วๆเยอะเพลงนี้เลยให้อารมณ์ต่างไป...อีกทั้งใน MV ก็ได้ทดลองการถ่ายแบบ one long shot เป็นครั้งแรก น้องจีเล่าว่าในฉากจบ รู้สึกประหลาดใจและกังวลกันมากว่าจะมีใครบาดเจ็บไม๊??หรือข้าวของจะเสียหายบ้างรึเปล่า??
มีคำถามแทรกเข้ามาตรงนี้ว่า ดูเหมือนการระเบิดของรถยนต์ในฉากจบนั้นจะอยู่ใกล้มากๆทีเดียวใช่ไม๊??
น้องจีตอบว่าจริงๆแล้วไม่ได้ร้อนเท่าที่เห็นในภาพ ทาบิเสริมว่า จริงๆแล้วรู้สึกหนาวมากกว่ารู้สึกร้อนค่ะ

- ทาบิ ตอบว่าเพลง tonight ซึ่งเป็นเพลงโปรโมทในอัลบั้มที่วางที่ญี่ปุ่นนี้นะค่ะ เหตุผลคือ หลังจากที่ห่างหายไปนาน เพลงนี้เป็นเพลงแห่งการกลับมาของบิกแบงค่ะ ทาบิเลยเลือกเพลงนี้

================

ข้อความที่ต้องการจะฝากถึง JVIP
ยองเบ : มาพยายามให้ถึงที่สุดกันนะครับ !!!

Video sub by 21bangsTV2 thai translation by mew in mew mini museum

Good morning Monday

ไปๆมาๆ มิวชักจะเป็นห่วงใจตัวเองแล้วนะค๊ะ 5555




วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

[TRANS]Teddy ในฐานะโปรดิวเซอร์แห่งยุค

เพลงมากมายจาก ศิลปิน ของวายจี มาจากการโปรดิวของโปรดิวเซอร์เปี่ยมพรสวรรค์คนนี้ เท็ดดี้
ไล่เรียงมาจาก เพลง Only look at me ของแทยัง เพลง Disco จาก Uhm Jeong Hwa
เพลง sunset grow ของ BIGBANG มาจนถึงเพลงฮิตในปัจจุบันของทั้งบิกแบงและ 2ne1

เมื่อไม่นานมานี้ ทาง money today จาก star news ได้พบกับ เท็ดดี้ โปรดิวเซอร์ผู้ซึ่งมีงานมากมายในวงการเพลงในปัจจุบันนี้ เราได้พูดคุยถึงเรื่อง กิจกรรมในอนาคตของเค้า แผนการต่างๆ รวมถึงความคิดที่เค้ามีต่อ เสน่ห์ของบิกแบงและ2ne1

ตามความเห็นของเค้า เค้ามองว่า กระบวนการกว่าจะได้มาเป็นบิกแบงและ2ne1 ในทุกวันนี้นั้น
เหมือนกับเพชรที่ค่อยๆถูกเจียระนัย พวกเค้าได้ผ่านการขัดเกลามาเป็นเวลานานก่อนหน้านี้
เท็ดดี้กล่าวว่า สมาชิกในวงบิกแบงนั้น มีพรสวรรค์ อีกทั้งพยายามทำงานอย่างหนัก
ในส่วนของ 2ne1 ก็เช่นกัน สาวๆมีความสามารถและพรสวรรค์ ซึ่งเท็ดดี้ได้กล่าวชม 2ne1 อย่างมาก

เริ่มจากทางเท็ดดี้ได้พูดชม จีดราก้อนอย่างมากโดยกล่าวว่า
" ผมรู้จัก จีดราก้อนมาตั้งแต่เราทั้งคู่ต่างก็ยังเป็นเด็ก ซึ่งเค้าเป็นเหมือนกับเพื่อนที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์สำหรับผมมากกว่าฮะ " เค้าเล่าต่อว่า"ทั้งเรื่องเพลงและเรื่องแฟชั่น เค้าไม่เคยที่จะทำมันแบบส่งๆไป
เค้าคิดเสมอว่าจะ ต้องทำให้เพลงของเค้าดีขึ้นๆๆเสมอตามเวลาที่ผ่านไป ทำให้เพลงของเค้าก็เติบโตไปด้วยพร้อมกับความพยายามที่เค้าใส่ลงไป "

จากนั้นเค้าก็พูดถึงแทยังด้วยว่า " แทยังก็เหมือนกันครับ เร็วๆนี้ กลางดึกหลังจากที่เค้าเสร็จงานในตารางงานแล้ว แม้ว่าเค้าจะเหนื่อยมากแต่เค้าก็ยังคงไปที่ห้องอัดอยู่ ซึ่งในช่วงนี้ผมต้องเขียนเพลงอยู่ในสตูดิโอยุ่งตลอดทั้งวัน ผมจึงรู้ว่า ความเหนื่อยหลังจากที่ทำงานมาทั้งวัน นั้นมันเหนื่อยมากแค่ไหน

อาชีพ โปรดิวเซอร์ของเท็ดดี้นั้น กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 12 แล้วในปีนี้

จากประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาของเค้า เค้าก็ให้การชื่นชม 2ne1 ด้วยเช่นกัน
" นักร้องทั้ง 4 คนที่สามารถร้องเพลงได้ดี สำหรับ 2ne1 พวกเธอเหมือนกับกระดาษเปล่า ไม่ว่าคุณจะวาดอะไรลงไปบนกระดาษนั้น พวกเธอก็จะสามารถแสดงออกในสิ่งที่คุณต้องการออกมาได้
ทั้ง 4 คนนี้ร้องเพลงได้ดีมากและพวกเธอก็มีความสามารถมากมายอีกด้วย "

เร็วๆนี้ เท็ดดี้ ได้ทำงานกับ Will.i.am หัวหน้าวงฮิบฮอบระดับโลก อย่าง Black Eyed Peas และกับคนอื่นด้วย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่การทำงานเพลงในประเทศร่วมกับโปรดิวเซอร์ชื่อดังจากต่างประเทศแบบนี้จะเป็นที่สนใจอย่างมาก เลยทีเดียว

ซึ่งงานในประเทศของเท็ดดี้ล่าสุดที่ออกมาคือ อัลบั้ม ยูนิตพิเศษของ GDTOP และเพลงทุกอัลบั้มของ 2ne1 ซึ่งผลงานเหล่านี้ยิ่งเน้นย้ำ ภาพลักษณ์ ของเท็ดดี้ ในฐานะโปรดิวเซอร์ให้แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก


Source: Starnews via bbvipz
Eng Translated by: Rice @bigbangupdates
Thai Translation by mew in mew mini museum

ไฮไลท์ YG Onair EP.04

- บิกแบง ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ที่ญี่ปุ่นอยู่หลายฉบับค่ะ เกี่ยวกับเรื่องทัวร์คอนเสริต์น้องแดบอกว่า น่าแปลกที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับใช้รูปเดียวกัน น้องแดว่าน่าจะเป็นรูปจากคอนเสริ์ตที่โอซาก้า

- ตากล้อง ใจดีถามน้องจีเกี่ยวกับอาการเจ็บที่ขา โดยถามว่า ได้ข่าวว่า คอนเสริต์รอบสุดท้ายที่โอซาก้า น้องจีเกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บที่ขาใช่ไม๊?? น้องจีบอกว่า ใช่ครับ เจ็บขาแต่ไม่ได้เจ็บมากแต่ก็คิดว่าคงยังกระโดดไม่ได้ด้วย ซึ่งท่าในการเต้นมีท่ากระโดดเยอะ แต่น้องก็ว่าไม่เป็นไรค่ะ จะคิดท่าที่ไม่ต้องกระโดดจริงๆขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะดูเหมือนกับกระโดด (ว่าแล้วก็ลุกไปเต้นให้ดูค่ะ ว่า เต้นให้ดูเหมือนกับกระโดดเป็นยังไง)แล้วบอกว่าจะขึ้นไปเต้นแบบที่เพิ่งโชว์ให้ดูค่ะ และตบท้ายว่าถ้าเต้นแบบนี้ก็จะไม่รู้สึกเจ็บแต่ไม่แน่ว่าอาจจะมาเจ็บทีหลังก้อได้

- ทาบิถามช่างทำผมว่า ขอลงสเปรย์ที่ผมอีกรอบได้ไม๊??? (ทำหน้าเครียดทำไมอะค่ะ5555 แค่จะใส่สเปรย์เพิ่มเอง น่ารักกๆๆๆๆ(ลำเอียง))

- เป็นเพราะในการแสดงเพลง ป็อกกี้กาโย่ น้องจีจะต้องสร้างเซอร์ไพล์ให้แฟนๆ โดยการเล่น segway เข้าไปในคอนเสริ์ต ทำให้ระหว่างที่จะเตรียมการแสดงชุดนี้ต้องออกมาข้างนอกฮอลล์คอนเสริต์ น้องจีว่าเป็นครั้งแรกที่ ออกมาจากฮอลล์ในระหว่างการแสดงคอนเสริต์แบบนี้ ซึ่งทาบิก็ออกมาเตรียมตัวอยู่เหมือนกันแต่อยู่อีกฝั่งค่ะ

-ตอนที่วายจีออนแอร์ไปถ่ายมาออกอากาศนี้เป็นคอนเสริต์รอบสุดท้ายที่ชิบะในเขตโตเกียวนะค่ะ แล้วน้องๆจะไปต่อที่นาโกย่า ซึ่งมีตัวหนังสือขึ้นว่าให้รอชมบรรยากาศในวายจีออนแอร์ตอนหน้าค่ะ

thank you subbing video by mlkdemain thai translation by mew in mew mini museum

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

every little thing 20/05/2011

-วันนี้มี อืมๆ ต้องเรียกว่าความเห็นเพิ่มเติมดีกว่าค่ะ เรื่องการตกลงรับแสดงละครเรื่องใหม่ของทาบิ มีแฟนๆหลายคนออกความเห็นว่า ผู้กำกับต้องการที่จะโปรโมทละครเรื่องใหม่ของตัวเอง เลยเอ่ยชื่อทาบิออกมาว่า อยากจะได้ทาบิมาร่วมแสดง ซึ่งผู้กำกับที่เกาหลีส่วนใหญ่เลยชอบทำแบบนี้ คือ มักจะส่งบทไปให้ไอดอลต่างๆๆอ่านดู เพื่อที่ว่าจะได้เรียกเรทติ้งละครเรื่องใหม่ตัวเองอะค่ะ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ไอดอลต้องพิจารณากันอย่างหนักกว่าจะรับแสดงซักเรื่องนึงนะค่ะ ในกรณีทาบิ มีคนให้ความเห็นว่า ปีนี้เป็นปีที่ค่อนข้างยุ่งมากในเรื่องงานเพลงอะค่ะ แค่ลำพังจะออกอัลบั้มตามที่พูดเอาไว้ก็ดูจะไม่สามารถทำให้ทันกำหนดการได้ ถ้ารับงานแสดงต้องแย่ๆแน่ๆเลยค่ะ มองว่าไม่น่ามีเวลาเหลือเฟือมารับเล่น อีกเหตุผลนึง ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาในการให้สัมภาษณ์ ผ่านนิตยสาร W ทาบิบอกเองว่า ไม่อยากจะเล่นละคร โรแมนติก เพราะ ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถแสดงออกได้ว่าการตกหลุมรักใครซักคนมันเป็นยังไงออกมาได้อะค่ะ เรื่องนี้เราก็ตามกันต่อไปเนอะค่ะ

- มาถึงเรื่องโพลๆๆกันอีกแล้วค่ะ ทีมงานจากรายการ อินกีกาโย่ ไปสำรวจ ถาม ไอดอลหญิงค่ะว่าอยากจะเดทกับไอดอลชายคนไหนมากที่สุด
ผลออกมาดังนี้ค่ะ
1st: G-Dragon
2nd: Gwanghee and Yunho
3rd: TOP and Jung Yong Hwa


เนื่องจากมิวไม่อยากพิมพ์สรุปทีเดียวตอนดึกเลยจะใช้วิธี edit อัพเดทเอาเรื่อยๆนะค๊ะ (ถ้ามี >_<)

welcome HOME


เมื่อวานบ่นๆว่าไม่รู้ว่าจะโปรโมทอีกนิดหน่อยที่ญี่ปุ่นแล้วค่อยกลับบ้านหรือยังไง
ปรากฏว่าวันนี้ เดินทางกลับมาถึง โซล เรียบร้อยกันทุกคนค่ะ
คืนนี้ น้องแด กับน้องซึงจะไปถ่ายทำรายการ Night after night ต่อกันด้วย

เกิดมั่นใจอะไรขึ้นมาไม่รู้เนอะค่ะ ช่วงนี้เห็นคอทาบิบ่อยมากๆ 5555

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

every little thing 19/05/2011

-วันนี้มีการจัดอันดับไอดอลที่มีรายได้มากที่สุดขึ้นค่ะ อันดับ 1 เป็นน้องจี ทาบิติดเข้ามาในอันดับ 10 ค่ะ

-วันนี้เป็นสุดท้ายของการทัวร์คอนเสริต์ที่ญี่ปุ่นแล้วนะค่ะ เย้ๆๆๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่รู้จะโปรโมทต่อนิดหน่อยแล้วค่อยกลับบ้านหรือกลับเลยอะค่ะ

-คลิป รายการ sakigake eight ออกมาวันนี้ค่ะ ตอนนี้ยังไม่มีซับ แต่มีคนมาเล่าให้ฟังคร่าวๆว่า
ในรายการจะให้สมาชิกในวง ฟังคำถาม และ ให้เอาไม้เหมือนไม้แหย่แมว อันทีเห็นในคลิปอะนะค่ะ
ชี้ไปที่ สมาชิกในวง ตามคำถามว่าใครได้อันดับ 1 และ ใครได้ที่โหล่
คำถามแรก ถามว่า ใครที่ดังที่สุดในวง คำตอบคือ ทาบิ
คำถามที่สอง ถามว่า ใครที่เป็นเจ้าแห่งแฟชั่นมากที่สุด คำตอบคือ น้องจี
ต่อมาถามว่า ใครเก่งภาษาญี่ปุ่นที่สุด คำตอบคือ ยองเบ
จากนั้นก็ถามว่าใครที่ ทำงานอย่างหนักและพยายามมากที่สุด คำตอบคือ น้องแดค่ะ
สุดท้ายถามว่าใครที่ Kakkoi หมายถึง เท่หรือมีเสน่ห์มากที่สุด ทุกคนต่างเลือกตัวเองค่ะ 5555

รอซับเต็มๆต่อไปนะค่ะ
Eng translation by bbygjjang @ 6 forum + Thai Translation by mew in mew mini museum

Do you want some??

ทาบิ"อาจจะ"ได้แสดงละครเรื่องใหม่

ทาบิ หรือ ชเวซึงฮยอน ถูกเลือกจากคุณ Yoon Suk ho PD ชื่อดัง ว่ามีบุคคลิกที่เหมาะสมกับตัวเอกในละครเรื่องใหม่ของเค้า PD คนนี้มีชื่อเสียงจากการกำกับละคร แนวโรแมนติก เกี่ยวกับฤดูต่างๆ 4 ฤดู คือ เรื่อง "Winter Sonata", "Autumn in My Heart", "Spring Waltz" และ "Summer Scent"


คุณ Yoon suk ho กำลังจะกลับมาสร้างละครเรื่องใหม่ที่มีชื่อเรื่องว่า "Our Happy Youthful Days"ซึ่งชื่อเรื่องอาจจะมีการเปลียนแปลงได้ เพราะละครเรื่องนี้มีกำหนดการว่าจะเริ่มถ่ายทำในเดือนสิงหาคม


ซึ่งบทนำในเรื่องนี้ มีข่าวมาว่า ทาง PD ได้ส่งบทให้กับ ทาบิ พิจารณาอยู่เนื่องจากว่า ทักษะการแสดง จากละครเรื่อง IRIS และบทของโอจางบอมในเรื่อง 71 นั้น เป็นที่โดดเด่นมาก ยังไงก็แล้วแต่ตอนนี้ อยู่ในขั้นตอนการทาบทาม ดูบท พิจารณาในรายละเอียดต่างๆนะค่ะ ทาบิยังไม่ได้ตอบรับและยังไม่มีข่าวอย่างเป็นทางการออกมา ก็ต้องติดตามกันต่อไปค๊า


Source: Nate News Eng translation and writing: solshin3@21bangs.com and mizz_julie@21bangs.com via bigbangupdate Thai translation by mew @ mew mini museum


เพิ่มเติมจากการไปสอบถามของทาง Osen ไปถึงทางวายจี โดยการให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ปรากฏว่า ในตอนนี้ ทาบิจะรับแสดงหรือไม่นั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาบทอยู่ค่ะ เพราะตอนนี้ได้รับการเสนอบทให้ร่วมแสดงจากหลายๆเรื่องและเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในจำนวนที่ส่งเข้ามา ซึ่งในตอนนี้ ทาบิและบิกแบงกำลังมีการทัวร์คอนเสริต์ที่ญี่ปุ่น ทางบริษัทก็ยังไม่ได้พูดคุยกันในรายละเอียดกับทาบิค่ะ


Sourse Osen via DCTOP Thai Translation by mew @ mew mini museum

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

every little thing 18/05/2011

-วายจียังคงออกผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องนะค่ะ วันนี้ออกช็อคโกแลตมาขายค่ะเป็นช็อคโกแลตรูปหน้าน้องๆ อืมมๆๆ ราคาก็เบาๆค่ะ 23000 วอน

-ทาบิให้สัมภาษณ์ กับ star news ว่า ได้ดูรายการ Infinite Chanllege ที่ตัวเองไปเป็นแขกรับเชิญว่า "ผมได้ดู รายการ Infinity Challenge ตอน Gangs of Seoulที่ญี่ปุ่นครับ ยังไงก็ตามแต่ผมคิดว่า สิ่งที่ผมแสดงออกไปในรายการนั้น ทำให้ผมดูเหมือนเป็นคนโง่เลยจริงๆครับ (หัวเราะ)แต่มันก็สนุกมากๆและตลกด้วยซึ่งมันเป็นความทรงจำที่ลืมไม่ลงเลยสำหรับผม "

- MTV เกาหลีได้จัดอันดับ ไอดอลที่เซ็กซี่ที่สุด ทาบิได้อันดับ 2 ค่ะ


สุดท้ายมิวสารภาพยอมรับแต่โดยดีว่าตั้งใจจะไม่แปล fan account ทัวร์คอนเสริต์ที่ญี่ปุ่น นะค่ะ เพราะก็ต้องสารภาพอีกว่า มันไม่มีอะไรที่ทำให้มิวสนใจเลยอะค่ะ ในเรื่องที่เค้าเล่าๆกันมา มีแต่เรื่องที่ตั้งใจจะเบี่ยงเบนความสนใจใช่ไม๊ค่ะ ??? ชิส์ มิวไม่หลงกลหรอกค่ะ 555555 ( โปรดพูดอะไรที่ชาวบ้านเค้ารู้ด้วยนะค่ะ คุณมิว 5555555)


โอเคๆๆจริงๆก็มีเรื่องน่าสนใจสำหรับมิวอยู่นะค่ะ มีสองตอนเท่านั้น คือ ก่อนที่ไฟจะดับลงเพื่อเตรียมเข้าเพลง คาเฟ่ ในคอนเสริต์ที่นาโกย่ารอบสอง จู่ๆทาบิก็พูดขึ้นมาว่า "ใครมีไอติมบ้างไม๊ฮะ???" 5555555 ( น่าร้ากกกกกกกก) และในช่วงอังกอร์ หลังจากที่ เซอร์ไฟล์วันเกิดเบเสร็จ แล้ว ทาบิทำท่า "ซารางเฮ" ไปรอบๆเวทีและพูดว่าขอบคุณครับ นอกจากนี้ แฟนๆยังบอกมาว่า ทาบิใส่กางเกงรัดมากๆๆๆๆๆ 55555555

(อืมม บางคนอาจจะบ่นว่านี่เหรอ เรื่องที่น่าสนใจของมิว 555555 )

จบค่ะ 555555

wishing JP is YG family

วันนี้ดูสัมภาษณ์ เจย์ : ปาร์ก แจ บอม A.K.A JP จาก MTV K ชอบจัง 55555
ชอบจังที่พูดอะไรที่ฟังรู้เรื่องอะค่ะ เหมือนสื่อสารกันได้ ได้ยินมาหลายที แล้วว่าเจย์เค้าชอบ น้องๆและสาวๆ ในสัมภาษณ์นี้ ก็มีคำถามมาให้พาดพิงกันอีกแล้ว โดยเค้าถามว่ามีศิลปินคนไหนที่เจย์รู้สึกชื่นชมบ้าง คำตอบก็มี เรน แล้วก็แถมว่าชอบเพลงของบิกแบงและ 2ne1 ด้วยค่ะ

ซึ่งก่อนหน้านี้ ในงานแจกลายเซ็น สมุดภาพ Just me , Jay ก็มีคำถามทำนองนี้เหมือนกันค่ะ
เป็นคำถามจากโพสอิทของแฟนๆ

- ตอนนี้มีเพลงของนักร้องคนไหนบ้างที่คุณรู้สึกอิจฉามากๆ คุณช่วยร้องให้ฟังสักท่อนได้มั้ย?
J: ตอนนี้นะเหรอครับ เพลงนี้ครับ nananannanana รู้มั้ยว่าเพลงอะไร (แฟน : ไม่รู้) เพลงที่ผมร้องแบบนี้งัยnananna 2ne1 I’m lonely nanananna. พวกคุณไม่รู้จักเพลงนี้เหรอ? 2ne1 ดังมากๆ เลยนะ คิคิคิ

ตอกย้ำอีกทีกับข้อความที่เจย์เค้าทวีตตอนที่ lonely ออกใหม่ๆ "เพลง lonely ของ2ne1 ผมคิดว่ามันเพราะมากๆเลย"
อยากจะให้ เจย์มาเป็นหนึ่งในครอบครัว YG จังค่ะ อิอิ

Thank you Heisjaypark.com for introduced me to Jay
your site is dove and full of unconditionly love for JP i'm so admired it. peace!!! all credit go to heisjaypark.com

YB birthday thank you

วันนี้วันเกิดยองเบค่ะ มีคนอวยพรกันให้คึกคักตั้งแต่ สี่ทุ่มเมื่อคืนกันแล้ว เจ้าตัวออกมา ทวีตขอบคุณ คำอวยพรทั้งหมด ที่ส่งมา และตามเคยนะค่ะ อินเตอร์ตลอด ทวีตภาษาอังกฤษ ตามด้วยเกาหลีค่ะ

"ขอบคุณสำหรับคำอวยพรแสดงความยินดีครับ ผมกำลังเข้าสู่ช่วงอายุ 23 ปีแล้วและผมก็เริ่มกังวลเล็กๆเหมือนกัน นะ 555" Thank you for congratulating me. I'm turning (into) 23 and I'm getting worried a bit ;)
จากนั้นห่างกันไม่กี่นาทีก็ทวีตเป็นภาษาเกาหลี ขอบคุณแฟนๆอีกรอบค่ะ "ตอนนี้เป็นวันเกิดปีที่ 24 ของผมแล้วเหรอเนี่ย เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ ผมรู้สึกขอบคุณมากๆสำหรับความรักและแรงเชียร์ที่พวกคุณมอบให้ผมเสมอ คิดถึงนะครับ ผมจะรีบกลับไปให้เร็วที่สุดหลังจากที่ผมเสร็จทัวร์คอนเสริต์ รักนะครับ" Source: RealTaeyang @twitter.com Eng translation: Rice @BigBangUpdates.com Thai translation by mew in mew mini museum

วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

every little thing 17/05/2011

เนื่องจากยังไม่ได้เวลาเข้านอนซักที 55555
และวันนี้มีข่าวโพลๆออกมาอีกแล้วอะค่ะ ตามสไตล์เวลามีหนังเรื่องไหนเข้าฉายใหม่ ก็จะมีโพลโน่นนั่นนี่โน่นออกมาตามเรื่องราวในหนัง และน้องๆก็ยังครองเรทติ้งไปติดกับเค้าทุกโพล มิวจะถือโอกาสรวมไว้ซะหน่อย นะค่ะ

-ตอนนี้หนังเรื่อง Source Code กำลังเข้าฉายเลยมีโพลว่า "ถ้าคุณเหลือเวลาที่จะมีชีวิตอยู่อีกเพียง 8 นาทีคุณอยากจะใช้ 8 นาทีนั้นกับไอดอลกลุ่มไหน??" โพลนี้ บิกแบงได้อันดับ 1 ที่ 61 %ค่ะ ห่างจากอันดับสองคือ 2pm ที่ 17% มากทีเดียว

-มีโพสสำรวจว่า สาวๆในเกาหลีอยากจะเดทกับคนดัง คนไหนมากที่สุด ผลมีดังนี้ค่ะ อันดับ 1 น้องจี อันดับ5 ทาบิ อันดับ 7 น้องแด อันดับ 14 น้องซึง อันดับที่ 17 เป็นยองเบค่ะ

นอกจากนี้ ยังมีข่าวเพิ่มเติมเรื่องอาการบาดเจ็บแบบเบาๆที่ขาของน้องจี นะค่ะ คราวนี้เจ้าตัวสัมภาษณ์เองโดยให้สัมภาษณ์ผ่านทาง star news หลังจบการทัวร์คอนเสริต์ที่ชิบะ ว่า ขาไม่ได้มีอาการเจ็บรุนแรงเลยและสภาพร่างกายทุกอย่าง เป็นปกติดีค่ะ ดังนั้นให้แฟนๆทำใจร่มๆไว้ ไม่ต้องเป็นห่วงนะค่ะ

แหวนเบที่พี่โบรัมทวีตตามหาให้ จริงๆเจอไปแล้วเมื่อสองวันก่อน วันนี้มีทวีตรูปโชว์ว่า กลับมาสู่เจ้าของอย่างปลอดภัยแล้วนะค่ะ

เรื่องต่อมา มีคนสงสัยค่ะ ว่าทำไมโฆษณาของ Gmarket ที่ทั้งน้องจีและอินนาต่างเป็นพรีเซนเตอร์ แต่กลับไม่มีฉากไหนที่สองคนนี้ ร่วมฉากถ่ายพร้อมกันเลย ทางบริษัท TBWA ที่รับผิดชอบเรื่องการทำโฆษณาให้กับทาง Gmarket ในชุด OMG เลยต้องออกมาตอบคำถามในเรื่องนี้ว่า จริงๆแล้วมีการวางแผนให้น้องจีและอินนาถ่ายทำหลายๆฉากร่วมกันค่ะ และได้พยายามปรับตารางงานแล้ว แต่ก้ไม่ประสบความสำเร็จค่ะ เพราะอินนากำลังได้รับความนิยม ส่วนน้องจีก็ยุ่งกับงานในส่วนของบิกแบงและการออกทัวร์ที่ญี่ปุ่น ดังนั้นเลยต้องจำยอมต่างคนต่างถ่ายไปนะค่ะ

สุดท้ายท่านลุงก็ได้เปิดเผย รายละเอียดของ YG onair ตอน 4 มายั่วเราอีกแล้วค่ะ
โดยตอนนี้จะฉาย ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้นะค่ะ จะมี คอนเสริต์ของบิกแบงที่ญี่ปุ่น และสาวๆ live lonely ค่ะ

thank you thank you ค่ะ

เห็นน้องๆตามมาในโกดังเก็บของของเราแล้ว
น้องพลอย เคียว น้องก้อย น้องแพต น้องต้อย น้องอีฟ น้องแสง และคนอื่นๆที่กำลังจะตามมา จุ๊บๆๆค่ะ

ช่วงนี้หนุ่มๆเงียบๆเราก็ทยอยๆๆแปลแปะ บทความบทสัมภาษณ์ ที่เราสนใจกันเนอะค่ะ
บางทีอาจจะมี หนุ่มอื่นและสาวๆมาแจมบ้าง ยังไงก็ take it slow ค่อยเป็นค่อยไปนะค๊ะ 5555

ขอบคุณทุกเสียงเชียร์ค๊า

[TRANS] BB กับ อันดับ 1 Oricon chart Weekly



เวลาผ่านไปกว่า 1 ปีกับอีก 9 เดือน นักร้องชาย 5 คนศิลปินจากเกาหลี ก็ได้ออกอัลบั้มชุดสอง
ที่มีชื่อว่า Bigbang 2 ที่ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา และทำยอดขายได้ถึง 65000 แผ่น
และในวันที่ 13 พฤษภาคมพวกเค้าก็พาอัลบั้มขึ้นสู่อันดับ 1 ในชาร์ต ออริกอนweekly ได้เป็นครั้งแรก
ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิลปินจากเกาหลีกลุ่มที่ 3 ที่สามารถมาครองอันดับ 1 ที่ชาร์ตนี้ได้
รองมาจาก TVQXและ JYJ

สำหรับเรื่องนี้หัวหน้าวง บิกแบง จีดราก้อน กล่าวว่า
" ผมรู้สึกดีใจจริงๆครับ ที่อัลบั้มของพวกเราได้เข้าไปอยู่ในอันดับ 1 ของ ออริกอนชาร์ต
และมันก็ยิ่งมีความหมายพิเศษมากเลยโดยเฉพาะในตอนนี้ที่เรากำลังมีทัวร์คอนเสริต์อยู่
ผมอยากจะท้าทายตัวเองด้วยการที่จะพยายามพาอัลบั้มให้ไปสู่อันดับ 1
ในชาร์ต ออริกอน monthly ให้ได้ด้วยนะครับ "

ในตอนนี้บิกแบงได้เสร็จสิ้นการแสดงคอนเสริต์ในทัวร์ไปแล้ว 2 ที่ คือที่ โอซาก้าและชิบะ
ตอนนี้เหลือคอนเสริต์อีกเพียง 3 รอบที่นาโกย่าค่ะ

Thank you Speech

G-Dragon
"ผมรู้สึกมีความสุขมากจริงๆเวลาที่เราได้มาทำงานที่ญี่ปุ่นครับ
ตอนนี้อัลบั้มของพวกเราก็ได้ขึ้นสู่อันดับ 1 ออริกอนชาร์ตด้วย
มันมีความหมายต่อเรามากๆโดยเฉพาะในตอนนี้ที่เรากำลังมีทัวร์คอนเสริต์อยู่
ในอนาคต เราจะทำการโปรโมทและผมก็ต้องการที่จะท้าทายตัวเองในการนำเอา
อัลบั้มขึ้นสู่อันดับ 1 ออริกอน Monthly ชาร์ตด้วย ในตอนนี้ผมอยากจะให้แฟนๆ สนุกกับ
คอนเสริต์รอบที่เหลืออยู่ที่เรากำลังจะขึ้นแสดงให้มากๆนะครับ"

VI
"เป็นเวลากว่า 1 ปีกับอีก 9เดือนเลยนะครับกว่าเราจะออกอัลบั้มใหม่ในครั้งนี้
และผมรู้สึกดีใจมากที่ได้รู้ว่ามันได้ผลตอบรับที่ดีจริงๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เจ็บปวดแบบนี้
ผมหวังว่าเพลงของบิกแบงจะสามารถนำเอาความหวัง กำลังใจ และความเข้มแข็ง มาสู่ชาวญี่ปุ่นได้
ถึงแม้ว่าเสียงเพลงนี้จะมาในตอนท้ายแล้วก็ตาม แต่ผมก็หวังว่า การที่ได้ฟังเพลงของเรา
จะช่วยนำพาแสงสว่างแห่งความหวังมาได้บ้างนะครับ"

T.O.P
"จากนี้ต่อไป ผมต้องการที่จะท้าทายในเรื่องต่างๆมากขึ้นเนื่องจากว่าเรามีแรงกระตุ้นแล้วในตอนนี้
ผมรู้สึกว่าตัวเองมีแรงจูงใจมากขึ้นที่จะทำงานให้หนักมากขึ้นไปอีกครับ "

SOL
"ผมไม่เคยคิดเลยละครับว่าเราจะได้ขึ้นสู่อันดับ 1 ในชาร์ตออริกอน weekly
บิกแบงได้พยายามกันมากขึ้นแทนที่จะรอให้แฟนๆ ประทับใจกับสิ่งที่แฟนๆคิดว่าจะได้รับ
ซึ่งผมรู้สึกดีใจมากๆเลยละครับ จริงๆแล้วผมไม่ได้จะเอาเป็นเอาตายกับเรื่องชาร์ตเลย
(แต่ถึงแบบนั้น ผมก็อยากจะลองท้าทายตัวเองกับอันดับที่ 1 ในชาร์ต monthly ด้วยเช่นกัน)
ผมอยากจะทำงานเพลงด้วยความตั้งใจเริ่มแรกที่เราตั้งไว้กับการทำงานเพลง ของเรา
ผมอยากจะแสดงความขอบคุณต่อแฟนๆทุกคนและทีมงานทุกคนด้วยครับ

Dlite
"ผมอยากจะขอบคุณสำหรับแรงสนับสนุนที่เราได้รับมาตั้งแต่เราเริ่มเดบิวที่ญี่ปุ่น
และตลอดการทำงานที่ญี่ปุ่นนี่ครับ ในอนาคต เราต้องการที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุด
โดยการทำงานเพลงที่ดีขึ้นและการแสดงบนเวทีที่มีมาตรฐานที่สูงขึ้น ดังนั้นโปรดตั้งใจรอด้วยนะครับ
ผมหวังว่าจะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ระหว่างทัวร์ที่ยังคงเหลืออยู่ ผมอยากจะร่วมแบ่งปันความสุขนี้
กับแฟนๆทุกคนที่ คอยเชียร์เราอยู่ครับ "

Source: Oricon via bbvipz
Eng Translated by: Rice @ bigbangupdates
Thai Translation by mew in mew mini museum

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

[TRANS]สัมภาษณ์ Aimee Lucas เกี่ยวกับการทำงานกับ GDYB

เอมี่ ลูคัส สาวน่ารักและน่าทึ่ง นักเต้นนักออกแบบท่าเต้น ผู้ซึ่งเคยร่วมงานกับบิกแบง
ได้มาให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเล่มใหม่ Sparkling magazine จากฟิลิปปินส์
ในนิตยสารเล่มนี้ เธอได้พูดถึงประวัติความเป็นมาของตัวเอง แฟนๆไอดอล kpop
รวมถึงเล่าถึงการทำงานร่วมกับ บิกแบง และ 2ne1
'คอนเสริต์ Shine a light ทำให้เอมี่เป็นที่รู้จัก เพียงชั่วข้ามคืน"

Q : ศิลปิน K-pop คนไหนที่คุณคิดว่าเป็นคนที่มีการแสดงบนเวทีที่ดีที่สุด"??
Aimee : ฉันคงต้องตอบว่า จีดราก้อนค่ะ เค้าเป็นศิลปินเต็มตัวจริงๆ เค้ารู้ว่า ผู้คนต้องการอะไรและมอบสิ่งนั้นให้กับพวกเค้า ฉันเคยเจอกับเค้าทุกวันๆๆ แต่การที่ได้มาเห็นเค้าบนเวทีนั้น มันแตกต่างกันจริงๆ

Q: จีดราก้อน ในชีวิตประจำวัน แตกต่างกับจีดราก้อนบนเวทียังไงค่ะ??
Aimee : ฉันไม่ได้รู้อะไก่ยวกับเค้ามากหรอกค่ะ เพราะ ว่ากำแพงทางด้านภาษาเข้ามาเป็นปัญหาใหญ่เลย
แต่ เมื่อเข้าไม่ได้อยู่บนเวทีเค้าดูจะขี้เล่นมากๆ และสบายๆๆ

Q : ศิลปิน K-pop คนไหนที่คุณรู้สึกชอบมากที่สุด??
Aimee : ขอตอบว่าเป็น แทยังค่ะ มันเป็นเรื่องยากนะเวลาที่คุณจะต้องทำงานกับใครซักคนแบบตัวต่อตัว
ฉันต้องทำความรู้จักกับเค้าจริงๆ เค้าเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นมากๆและมีใจที่บริสุทธิ์
และเค้าก็พยายามอย่างมากที่จะทำความรู้จักกับพวกเรา เค้าเป็นผู้ฟังที่ดีและเป็นนักเรียนที่ดี ค่ะ

Q : จีดราก้อน หรือ แทยังค่ะ??
Aimee : เค้าทั้งคู่เลยค่ะ

Q : แล้วการทำงานกับ ซึงรี ที่ได้ชื่อว่ารับผิดชอบเรื่องการเต้นของวงบิกแบง ละเป็นยังไงบ้างค่ะ??
Aimee : อ่าๆๆๆๆ วีไอ เหรอ เค้าเป็นนักเรียนที่ดีเลยละ มันสนุกนะ
เพราะเค้ามีความกระตือรือร้นที่จะเรียนท่าเต้นใหม่ๆอย่างมาก
ทั้งชอร์นและฉัน ต้องล้อเล่นไปว่าเราจำท่าเต้นของเราไม่ได้เลย เพราะเต้นอะไรเค้าก็รู้จักมันไปหมด


Taken from : topphilippines.tumblr
Credits : @topphilippines
Thai Translation by mew in mew mini museum

welcome me and welcome everyone

หลังจากทีมิวหลีกเลี่ยงหัวข้อเรื่อง น้องจีเจ็บขาที่ญี่ปุ่น
และเรื่อง ทาบิ (อาจจะ) ขับรถไม่ได้ และความจริงที่ว่าทาบิยังไม่มีใบขับขี่ 5555
ไม่อยากจะเริ่มต้นบล็อคด้วยเรื่องอะไรแบบนั้นเลยจริงๆค่ะ 55555
แต่วันนี้มิวก็ทนให้ บล็อค โล่งๆๆต่อไปอีกไม่ไหวแล้วละค่ะ
เห็นที ต้องลองเอาอะไรมาเก็บไว้บ้างตามความตั้งใจ
และจะได้ลองจัดการกับ เครื่องมือต่างๆที่แสนจะ งงงวย

วันนี้ทางวายจีก็ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ถึงอาการเจ็บขาของน้องจีว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
จริงๆมองจากรูปที่ออกมาจาก party after concert เมื่อวาน ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วเนอะค่ะ

ข่าวมีดังนี้ค่ะ
ทางวายจีเอนเตอร์เม้นได้ ตอบคำถามแฟนๆเกี่ยวกับอาการเจ็บขาของ น้องจีผ่าน(@mydaily)ว่า
น้องจีได้เกิดอาการข้อเท้าเคล็ดเล็กน้อยระหว่างการแสดงคอนเสริต์ ซึ่งไม่มีอะไรที่ร้ายแรง
ที่ต้องพันพลาสเตอร์เอาไว้ เป็นการป้องกัน อาการแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการเคลื่อนไหวเท่านั้น

ดังนั้นไม่มีอะไรที่แฟนๆจะต้องเป็นห่วงนะค่ะ

ถือว่าเป็นข่าวดี ต้อนรับมิวและต้อนรับทุกคน สู่บล็อคเก็บของของเราค่ะ 555555