วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

Off shot จากนิตยสาร AnAn Japan June 2012

 

Seungri: ถึงแม้ว่าผมจะเป็นน้องเล็กประจำวง แต่ด้านจิตใจแล้วนะฮะ พี่ท็อปเป็นเด็กน้อยที่สุด
TOP:ไม่ใช่เ็ด็กน้อยนะ เป็นทารกเลยละ

17 นาฬิกาวันนึงในเดือนมีนาคม เมื่อสมาชิกวงบิกแบงได้เดินเข้ามาในสตูดิโอเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายภาพ พวกเค้าหิวกันมาก ทั้งๆที่เพิ่งทาน kimba และ california rolls เข้าไปแล้ว พวกเค้ายังสั่ง cheese buscuits และ ข้าวกล่องราดหน้าเนื้อสไตล์ญี่ปุ่นมาเพิ่มอีก นอกจากนี้ยังทาน dorayaki และ ไข่ม้วนงาที่พวกเราเอามาจากญี่ปุ่นลงท้องไปด้วย น่าแปลกใจที่คนที่ทานเยอะที่สุดคือคนที่มีรูปร่างผอมที่สุดในวง อย่าง จีดราก้อนนั่นเอง  

เมื่อพวกเค้าทานกันอย่างเพียงพอแล้วก็ถึงคราวเริ่มการถ่ายภาพกัน เพื่อให้เข้ากับธีมในการถ่ายภาพในวันนี้ที่ใช้ชื่อว่า  ‘Ready for Blue’ เราต้องการให้พวกเค้าแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกที่เย็นๆ ซึ่งสมาชิกในวงทุกคนต่างเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการและแสดงอารมณ์ออกมาได้เป็นอย่างดี ทักษะในการแสดงของพวกเค้าก็เยี่ยมยอดด้วยเช่นกัน 

ในตลอดการถ่ายภาพ วีไอคุงได้ใช้ทักษะทางด้านภาษาญี่ปุ่นที่ยอดเยี่ยมของเค้าพูดคุยสื่อสารกับเราตลอดเวลา เค้ายอดเยี่ยมมาก 

ถึงแม้ว่าพวกเค้าจะรู้สึกเหนื่อยกับตารางงานที่ยุ่งมากสมาชิกในวงบางคนถึงกับต้องหลับตาพักในระหว่างการถ่ายภาพ ( ดูรูปทางด้านซ้าย) แต่พวกเค้าก็ยังทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขตลอดการถ่ายทำ ไว้เราเจอกันอีกที่ญี่ปุ่นนะ 

=================

[มุมเล็กๆทางด้านซ้ายนะค่ะ]

เป็นเพราะพวกเค้าไปถ่ายทำรายการเพลงรายการนึงก่อนที่จะมาถ่ายภาพกับ AnAn สมาชิกในวงต่างก็เหนื่อยกันมาก Sol เกือบจะหลับไปในช่วงที่เราถ่ายรูปกัน ท็อปทำตัวเป็นพี่พยายามเข้าไปปลุก และ คอยพูดอะไรบางอย่างที่ต้องตลกแน่ๆกับ วีไอ จากนั้น Sol ก็ง่วงอีกและท็อปก็พยายามจะปลุกอีก เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ท็อปเป็นคนที่คอยสร้างบรรยากาศดีๆตลอดการถ่ายภาพครั้งนี้จริงๆ


[มุมเล็กๆด้านขวานะค่ะ]

ในการถ่ายภาพเราจะเห็น แดซองและจีดราก้อนในด้่านที่ผ่อนคลาย แดซองกำลังนวดไหล่และขาให้จีดราก้อนอยู่ และ จีดราก้อนอยากจะจูบแดซองเพื่อเป็นการตอบแทนที่นวดให้  แต่แดซองก็หลบได้อย่างง่ายดาย 

[ใต้รูปทั้งหมด ]

ในตอนที่เสร็จสิ้นการถ่ายภาพในวันนี้ ท็อปนั้นกระตือรือร้นมาก เต้นและเล่นมุขตลกตลอดเวลา ในขณะที่แดซองก็ทำหน้าทำตาหลากหลายอารมณ์ให้พวกเราดู ดูเหมือนว่าพวกเค้ายังคงต้องเดินทางไปทำงานต่อหลังจากที่มาถ่ายภาพกับเราครั้งนี้ ยังไงก็ สู้ๆนะทุกคน  

 Source: http://imgsrc.baidu.com/forum/pic/item/d53f8794a4c27d1ec0e7ce671bd5ad6edcc4384b.jpg
Cr: bigbangfamily Eng translation by rice forever Gdragon
Thai Translation by mew mini museum

Q&A จากนิตยสาร AnAn Japan June 2012


Daesung 

Q: อะไรที่เมื่อเร็วๆนี้สมาชิกในวงทำแล้วทำให้คุณมีความสุขบ้างครับ?
Dae:ซึงรีที่ชอบแกล้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่ครับ (หัวเราะ)
 
Q:เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึกว่า ได้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว??
Dae: เมื่อมีรุ่นน้องมาแนะนำตัวกับผมในรายการเพลงต่างๆครับ

Q. ตอนนี้ ผู้ชายประเภท ’Herbivore’ เป็นที่นิยมมากๆที่ญี่ปุ่นนะครับคุณคิดว่าคุณเป็นผู้ชายแบบไหน??
[หมายเหตุ: herbivore man ถ้าแปลตรงๆคือชายกินพืช ตอนนี้คำนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายเอาไว้แทนผู้ชายประเภทที่สนใจการแฟชั่น สนใจการดูแลตัวเองบำรุงผิวพรรณ เป็นผู้ชายแท้ๆที่ไม่ได้สนใจเรื่องผู้หญิงมากเท่าที่ควร เลยเปรียบว่าเป็น ผู้ชายกินพืช ไม่กินเนื้อ (สาว) นั่นเองคะ ]
Dae: เป็นผู้ชายกระตือรือร้นแล้วกันครับ เพราะผมมักจะยิ้มตลอดทุกวันครับ
 
Q:ในบรรดาภาพยนต์ หนังสือ หรือ แฟชั่นที่คุณได้ดูเมื่อไม่นานมานี้ มีอะไรทำให้คุณสนใจเป็นพิเศษไม๊ครับ??
Dae: ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่อง  ‘Mission Impossible 2’ สุดยอดไปเลยครับ

***************************

YB
 
Q: อะไรที่เมื่อเร็วๆนี้สมาชิกในวงทำแล้วทำให้คุณมีความสุขบ้างครับ? 
Bae: เมื่อตอนที่ผมเกือบจะได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดไฟจากพลุในรายการเพลงรายการนึงครับ ท็อปโมโหในเรื่องนี้มาก มันเป็นครั้งแรกที่ผมคิดว่าเค้าเป็นคนที่พึ่งพาได้จริงๆ (หัวเราะ)
 
Q:เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึกว่า ได้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว??
Bae:ไม่มีช่วงเวลาแบบนั้นเลยครับ
 
Q. ตอนนี้ ผู้ชายประเภท ’Herbivore’ เป็นที่นิยมมากๆที่ญี่ปุ่นนะครับคุณคิดว่าคุณเป็นผู้ชายแบบไหน??
Bae: ผมเป็น ชายไร้เดียงสาครับ เพราะผมไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรักมาก่อน ผมไม่รู้ว่าจะรับมือกับสาวๆยังไงฮะ (เขินอาย)

Q:ในบรรดาภาพยนต์ หนังสือ หรือ แฟชั่นที่คุณได้ดูเมื่อไม่นานมานี้ มีอะไรทำให้คุณสนใจเป็นพิเศษไม๊ครับ??
Bae: ตอนนี้ผมชอบพวกผ้าัพันคอและผ้าโพกหัวมากเลยครับ

*****************************

Seungri 

Q: อะไรที่เมื่อเร็วๆนี้สมาชิกในวงทำแล้วทำให้คุณมีความสุขบ้างครับ?
VI: เมื่อตอนที่ผมแนะนำร้านอาหารใหม่ให้สมาชิกในวงไปทานแล้วพวกเค้าต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "โออิชิ (อร่อยจัง)" ครับ

Q:เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึกว่า ได้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว??
VI:ตอนที่ผมสามารถตื่นนอนได้เองอย่างง่ายดายในตอนเช้าฮะ

Q. ตอนนี้ ผู้ชายประเภท ’Herbivore’ เป็นที่นิยมมากๆที่ญี่ปุ่นนะครับคุณคิดว่าคุณเป็นผู้ชายแบบไหน??
VI: เป็นประเภท ‘Bad Boy’ นะฮะเพราะผมตกหลุมรักค่อนข้างง่ายเลยละฮะ
 
Q:ในบรรดาภาพยนต์ หนังสือ หรือ แฟชั่นที่คุณได้ดูเมื่อไม่นานมานี้ มีอะไรทำให้คุณสนใจเป็นพิเศษไม๊ครับ??
VI: ตอนนี้ผมเสพติดละครเรื่อง ‘rain talk’มากๆฮะ

*************************
 
GD

Q: อะไรที่เมื่อเร็วๆนี้สมาชิกในวงทำแล้วทำให้คุณมีความสุขบ้างครับ?
GD: พวกเค้าไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษให้ผมหรอกฮะ แค่เราอยู่ด้วยกันก็ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขแล้ว

Q:เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึกว่า ได้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว??
GD: ผมยังคงเป็นเด็กอยู่นะฮะ

Q. ตอนนี้ ผู้ชายประเภท ’Herbivore’ เป็นที่นิยมมากๆที่ญี่ปุ่นนะครับคุณคิดว่าคุณเป็นผู้ชายแบบไหน??
GD: ผมคิดว่าผมเป็นผู้ชายประเภท  เปลี่ยนแปลง 7 อย่างเจ็ดวัน เพราะ ทุกครั้งที่คุณเจอผม คุณจะต้องเจออะไรบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดครับ

Q:ในบรรดาภาพยนต์ หนังสือ หรือ แฟชั่นที่คุณได้ดูเมื่อไม่นานมานี้ มีอะไรทำให้คุณสนใจเป็นพิเศษไม๊ครับ??
GD: ผมมีรอยสักใหม่ที่เขียนว่า ‘Forever Young’ ที่ลำตัวข้างขวา และมีรอยสักคำว่า ‘Mind control’ ที่ด้านซ้าย เพราะผมต้องการที่จะควบคุมความรู้สึกของตัวเองให้ดีได้ครับ 

*******************

Tabi

Q: อะไรที่เมื่อเร็วๆนี้สมาชิกในวงทำแล้วทำให้คุณมีความสุขบ้างครับ?
Tabi: ซึงรีมักจะช่วยพลิกบรรยากาศให้ดีขึ้นฮะช่วงนี้ ซึ่งมันช่วยได้จริงๆ

Q:เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึกว่า ได้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว??
Tabi: ผมไม่มีช่วงเวลาเหล่านั้นเลยฮะ ผมต้องการจะทำตัวให้เป็นเด็กแบบนี้ไปเรื่อยๆในอนาคตครับ

Q. ตอนนี้ ผู้ชายประเภท ’Herbivore’ เป็นที่นิยมมากๆที่ญี่ปุ่นนะครับคุณคิดว่าคุณเป็นผู้ชายแบบไหน??
Tabi: เป็นผู้วิเศษครับ เพราะในตัวผมเต็มไปด้วยเวทมนตร์ 

Q:ในบรรดาภาพยนต์ หนังสือ หรือ แฟชั่นที่คุณได้ดูเมื่อไม่นานมานี้ มีอะไรทำให้คุณสนใจเป็นพิเศษไม๊ครับ??
Tabi: ช่วงนี้ผมชอบดูรูปของพวกแมลง และ การออกแบบต่างๆครับ

Cr to : Bigbangfamily  Eng translation by rice foreverdragon 
Thai Translation by mew mini museum

============================

เป็นคำแปลเฉพาะในหน้า Q&A นะค่ะ ในช่วง off shot มิวไปโพสอีกหัวข้อดีกว่า

วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

สัมภาษณ์พิเศษ Seungri+Hiroki จากนิตยสาร Junon Japan 20 OCT 2010

สัมภาษณ์นี้เป็นสัมภาษณ์ในช่วงเดือน ตุลาคม เมื่อปี 2010 แล้วละค่ะ พอดีนิตยสารJunon เล่มล่าสุดเดือนมิถุนายน 2012 มีคำถามถามน้องซึงถึงเรื่องของฮิโรกิด้วยว่าเป็นมายังไงถึงมารู้จักกันได้ น้องซึงตอบว่าได้มารู้จักกันเพราะมาให้สัมภาษณ์พิเศษลง Junon นี่แหละ 

ได้ยินมาว่าหลายๆคนก็ยังไม่เคยอ่านบทสัมภาษณ์ที่ว่านี้อะนะค่ะ เลยเอามาแปะให้อ่านกันอีกทีค่ะ  อีกอย่างเป็นการรื้อค้นงานแปลของมิวมารวมในนี้ด้วย แฮะๆ >_<

============================


สัมภาษณ์พิเศษ Seungri+Hiroki จากนิตยสาร Junon Japan

หลังจากที่ดูภาพยนตร์เรื่อง Drop Narimiya ก็กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงคนโปรดของ VI หลังจากที่ตอบรับความชื่นชมที่VI มีต่อเค้า Narimiya ก็ได้ยอมรับว่าเค้าก็เป็นหนึ่งในแฟนๆของบิกแบงด้วย ในการพบกันครั้งแรกของพวกเค้า พวกเค้าได้พูดคุยกันถึงสิ่งที่พวกเค้าสนใจ
การพูดคุยในครั้งนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกที่แท้จริงและเรื่องตลกขบขัน
VI
ได้เตรียมของขวัญพิเศษมาเซอร์ไพล์ Narimiya ด้วย


Part 01. เรียนภาษาญี่ปุ่นผ่านการดูภาพยนตร์เรื่อง Drop

Narimiya:
คุณต้องพูดภาษาญี่ปุ่นเก่งแน่ๆเลย ใช้เวลานานแค่ไหนครับเนี่ยกว่าจะเก่งได้ขนาดนี้?? V.I: ผมคิดว่าน่าจะประมาณ 3 เดือนนะฮะ แต่ผมเรียนภาษาญี่ปุ่นมาตั้งแต่สองปีที่แล้วแล้วละครับ
Narimiya:
จริงเหรอฮะ?? คุณหัวดีมากเลย 
V.I: ตอนที่เริ่มแรกๆผมจะเรียนรู้ผ่านการดูละครหรือหนังญี่ปุ่น โดยการที่พยายามออกเสียงให้เหมือนในละครที่ดู ครับ
ผมชอบคุณ Narimiya หลังจากที่ได้ดู หนังเรื่อง Drop ฮะ แม้ว่าผมจะไม่ชอบการต่อสู้ก็ตาม
Narimiya:
ผมก็เกลียดการต่อสู้ฮะ (หัวเราะ) V.I: ในหนัง นาริมิยะคุงจะมีท่าทางแบบแบดบอยแล้วก็ทำผมสีแดง ผมคิดว่าท่าทางของเค้าเท่มากๆๆ และจะน่ารักเป็นพิเศษในตอนที่เค้าแสดงออกด้านที่อ่อนโยนของเค้าออกมาตอนที่คุยกับสาวๆ ผมคิดว่าน่าจะเป็นในฉากที่สารภาพรักนะครับ " อืมม เธอไม่อยากออกเดทกับฉันเหรอ??" ในตอนที่ผมดู ผมอยู่บ้านคนเดียวครับตอนนั้น ด้วยคำพูดประโยคนี้ทำให้ผมต้องหัวเราะออกมาดังๆ คำพูดอย่าง "Ermm" "ไม่มีทาง" " แต่ฉันชอบเธอนะ" " ขอโทษฮะ" ทำให้คุณดูเป็นคนขี้อายมากๆๆเวลาพูดประโยคเหล่านี้กับสาวๆ (หัวเราะ)
Narimiya:
คำพูดในบทในตอนนั้นไม่มีอยู่ในบทนะฮะ ครึ่งนึงนั้นผมคิดออกมาเองเลย 
V.I: ห๋า จริงเหรอฮะ??"

Narimiya:
แต่การที่ใช้ละครมาเป็นเครื่องมือในการเรียนภาษาแบบนี้ คำพูดมันไม่ดูผิวเผินไปเหรอฮะเวลาที่นำเอาไปปรับใช้??  
V.I: ผมจะใช้คำว่า "เธอ" ( คือ おめぇ, ในการที่จะเรียกคนอื่นแบบไม่เป็นทางการ) ตลอดเลยฮะ แต่ทีมงานก็มาบอกว่า " VI ห้ามใช้คำนี้ตอนที่ออกรายการวาไรตี้นะ"(หัวเราะ) ผมเคยพูดเอาไว้ว่าอยากจะมาสัมภาษณ์พร้อมๆกับคุณ narimiya แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้อะฮะ ยังไงก็ตามผมดีใจมากๆที่ได้มาพบคุณแบบนี้
Narimiya:
ผมก็ด้วย บิกแบงนั้นเก่งมากทั้งร้องทั้งเต้น และพวกคุณดูเท่มากๆใน MV
"
เซ็กซี่มากๆๆ" คือความคิดของผมในตอนที่ได้ดู ถ้าหากอยู่บ้าน ผมกับเพื่อนมักจะเล่นเกมส์"เลียนแบบบิกแบง" กัน มันเป็นเรื่องน่าอายนะฮะแต่ว่าเราจะร้องเพลง Koe Wo Kikasete กัน แต่เพราะคีย์ในเพลงจะสูงไปสำหรับผม ผมก็จะลดให้มันต่ำลงมาหน่อย (หัวเราะ) ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเลยหลังจากที่ได้รู้ว่าจะมีการสัมภาษณ์นี้

Narimiya: (
น้องซึงมอบของขวัญให้) "จริงเหรอฮะ??"
V.I: โปรดเปิดเลยครับ มันจะมีหุ่นบิกแบงจิ๋วอยู่
Narimiya:
ตัวไหนคือ VI คุงฮะ?? อ่า น่ารักมากๆๆๆเลย ขอบคุณครับ ผมจะเอามันไปวางในห้องนั่งเล่นแม้ว่าตรงนั้นจะมีหมี NIKE อยู่แล้วก็ตาม (หัวเราะ)
V.I: แล้วก็มีซิงเกิลใหม่ของเราด้วยฮะ Beautiful Hangover ซึ่งมีความหมายสองด้านด้วยกันคือ อาการเมาค้างและอีกด้านคือกำลังค้างอยู่กับความสวยของใครคนนึง
Narimiya:
ผมว่าผมมักจะเมาตลอดเลยนะ ปกติแล้ว (หัวเราะ) แต่ผมรู้สึกดีใจมากๆเลย คุณจะเซ้นให้ผมด้วยใช่ไม๊?? (หัวเราะ)  
V.I: วันนี้เมาไม๊ฮะเนี่ย?? (หัวเราะ)
Narimiya:
ไม่ฮะ ไม่ (หัวเราะ)

******************************** 



Part 2 ผู้หญิงเกาหลี ทรงพลังมากจริงๆ (หัวเราะ)

Narimiya:
ผมเคยไปที่ประเทศเกาหลีอยู่ครั้งนึงเพื่อโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง NANA และผมก็ไปเที่ยวคลับโดยที่ไม่ได้บอกผู้จัดการฮะ (หัวเราะ) ข้าวที่โน่นอร่อยมาก เวลาที่ผมได้ยินคนเกาหลีคุยกันผมจะรู้สึกหิว (หัวเราะ) คุณรู้จักร้าน チャドルバギ ไม๊?? (ร้านอาหารสไตล์ปิ้งย่างของเกาหลี)
การที่ได้กินเนื้อย่างห่อกับผักกาดเขียวให้รสชาติที่อร่อยมากจริงๆ
V.I: ร้านนั้นดีครับ แต่มันจะไม่เป็นปัญหาเหรอฮะถ้าเกิดมีใครจำนาริมิยะคุงได้ที่เกาหลีหนะ??
Narimiya:
สาวๆที่เกาหลีนี่พลังเยอะจริงๆฮะ สถานการณ์ที่สนามบินโกลาหลมากกว่ามาก (หัวเราะ)  
V.I: " โปรดจับมือฉันด้วยค่ะ พูดกับฉันด้วยค่ะ "แฟนๆชาวเกาหลีจะแสดงออกถึงความชอบออกมาแบบนั้น ในขณะที่แฟนๆชาวญี่ปุ่นจะพูดออกมาด้วยท่าทีที่สุภาพ เช่น " อ่า ฉันจะคอยสนับสนุนคุณนะค่ะ" แม้ว่าพวกเธอจะชอบคุณมากแค่ไหนก็จะพูดแบบสุภาพ สงสัยเหมือนกันว่าจะมีอะไรไม๊ที่จะทำให้พวกเธอพูดแล้วจะฟังดูหยาบคายบ้าง

Narimiya:
วีไอคุงชอบทานอะไรที่ญี่ปุ่นครับ?? ไม่นับร้านเนื้อย่างที่พูดไปแล้วเมื่อกี้  
V.I: ผมชอบ ข้าวหน้าเนื้อของร้าน Yoshinoya และร้านข้างแกงกะหรี่ COCOICHI อะไรซักอย่างเนี้ยแหละฮะ (หัวเราะ) ผมไม่ค่อยได้ทานซูชิกับปลาดิบมากเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ชอบลูกพลัมที่มักจะเจอในข้าวกล่องด้วยฮะ

Narimiya:
เค้ามีเอาไว้ตบแต่งเท่านั้นแหละฮะ จะทานก็ได้ไม่ทานก็ได้แล้วแต่  
V.I: ผมไม่ชอบ นัตโตด้วย ( ถั่วเหลืองหมัก คล้ายเต้าเจี้ยวมีกลิ่นฉุน) ตอนแรกที่เห็นผมคิดว่า " นี่มันอะไรกันนี่" แต่ตอนนี้ผมเริ่มที่จะทานมันได้แล้ว
Narimiya:
ถ้าคุณลองคิดว่านัตโตเป็นข้าว แล้วก็ทานกับสาหร่ายดู มันจะเยี่ยมมากเลยแหละ V.I: โอเค เข้าใจแล้วฮะ (หัวเราะ)

Narimiya:
ผมคิดว่าคงสนุกดีนะที่จะได้เห็นสีหน้าของคุณถ้าผมพาคุณไปตะเวนทานของอร่อย (หัวเราะ)แถวนี้มีร้านซูชิดีๆที่ผมชอบไปทานอยู่แถวนี้ด้วยนะฮะ 
V.I: ร้านไหนฮะ บอกหน่อยฮะ
Narimiya:
เดี๋ยวผมวาดแผนที่ให้นะ 
V.I: ตอนนี้ผมเริ่มหิวนิดๆแล้วนะเนี้ย เราน่าจะไปสัมภาษณ์กันต่อที่ร้านนั่นนะ (หัวเราะ)

Narimiya:
จริงเนอะ (หัวเราะ) วีไอคุงมีอะไรที่ต้องระวังบ้างไม๊??เพื่อที่จะรักษาสภาพร่างกายให้ปกติ ของผมนะ เป็นเพราะผมสุขภาพไม่ค่อยดี เวลาที่แสดงโชว์จบผมจะต้องตรงไปที่เตียงและนอนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย
V.I: สมาชิกในวงบิกแบงทุกคนชอบทานผลไม้โดยเฉพาะกล้วยฮะ แล้วเราก็ชอบทานไข่และออกกำลังกายด้วย
Narimiya:
ใช่ฮะ เพราะการเต้นก็คงหนักน่าดู  
V.I: เราจำเป็นต้องฝึกความแข็งแรงของร่างกายเอาไว้ฮะ
เพื่อที่ว่าในระหว่างคอนเสริต์จะได้ไม่รู้สึกเหนื่อยได้ง่าย สำหรับการลดน้ำหนักนะฮะ การวิ่งจ็อกกิ้งเป็นวิธีที่ดีที่สุด ปกติก็วิ่งในลู่ประมาณ 1 ชั่วโมงนะครับ

Narimiya:
ผมรู้ว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่จำเป็นฮะ แต่ว่าช่วงนี้ผมขี้เกียจ (หัวเราะ) คุณทำอะไรบ้างในวันหยุดฮะ??  
V.I: ผมมักจะชวนเพื่อนออกไปดูหนังไม่ก็ปั่นจักรยาน
เวลาที่ผมมีเวลาว่างผมก็ทำเรื่องปกติทั่วไปๆ แต่ผมจะต้องปลอมตัวก่อนที่จะออกไปเที่ยวเล่นนะฮะ Narimuya: เช่นใส่หมวกปิกาจูออกไปเหรอ?? (หัวเราะ)
ผมเคยทำอะไรแบบนั้นมาแล้วนะฮะ (หัวเราะ)สามวันก่อนมีงานที่ Azabu Juban และผมก็ใส่หน้ากาก Kamen Rider ออกไป แต่ว่ามันก็เป็นปัญหานะครับเพราะผมกินดื่มอะไรไม่ได้เลย (หัวเราะ)

V.I: แต่ก็ทำให้คนจำคุณไม่ได้นะ (หัวเราะ)
Narimiya:
คุณเหมาะกับปิกกาจูนะ 

V.I: ฮะ (หัวเราะ)
Narimiya:
แต่ที่ญี่ปุ่นนี้ไม่ค่อยมีเหตุการณ์โกลาหลเกิดขึ้นเท่าไหร่ ดังนั้นผมไม่จำเป็นต้องปลอมตัวอะไรเวลาที่จะออกไปซื้อของตามถนน  

V.I: ผมก็เหมือนกันนะฮะ แค่เดินไปตามท้องถนนในญี่ปุ่นแล้วก็เลือกซื้อของที่ผมอยากได้

********************


Part 03. สาวญี่ปุ่น มีเสียงที่น่ารักมาก   
V.I: นาริมิยะคุงฮะผมมีเรื่องบางอย่างอยากจะถามฮะ
Narimiya:
ถามมาได้เลยฮะ ไม่ต้องเกรงใจ
V.I: อย่างที่คุณเห็นแหละฮะ บิกแบงอยู่ด้วยกัน 5 คน และไปไหนมาไหนด้วยกันตั้งแต่เรายังเป็นเด็ก
ทำให้เราไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการเดทมากเท่าไหร่ ถ้าเราต้องการจะเริ่มออกเดทเนี่ย นาริมิยะคุงมีเคล็ดลับอะไรจะบอกกับเราไม๊ฮะ???
Narimiya:
หมายถึงจะออกเดทกับสาวญี่ปุ่นเหรอฮะ?? V.I: ครับ อย่างผมจะทำยังไงดีถ้าเกิดเจอคนดังเดินเข้ามาบอกว่า " ฉันชอบวีไอมากๆๆเลย" (หัวเราะ)
Narimiya:
งั้นให้ผมสอนนะฮะ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะออกไปเที่ยวเล่นกับแฟนข้างนอกใช่ไม๊ฮะ?? (หัวเราะ) สิ่งที่ทำคือ คุณต้องพาเพื่อนออกไปด้วยตอนที่คุณกับเธอจะออกไปเที่ยวกัน ถ้าเกิดโดนปาปารัชซี่ถ่ายรูป คุณก็จะสามารถปฏิเสธโดยที่พูดว่า " เราเป็นแค่เพื่อนกันครับ" (หัวเราะ) แต่ว่าการออกเดทกับคนดังก็เป็นภาระมากนะครับ V.I: ปาปารัชซี่ที่ญี่ปุ่นเก่งในเรื่องตามติดคนดังใช่ไม๊ฮะ?? คุณเคยมีประสบการณ์อะไรแบบนี้บ้างรึเปล่า??
Narimiya:
คุณหมายถึงว่าผมเคยออกเดทกับคนดังรึเปล่าอะเหรอครับ?? ไม่เคยครับ
V.I: งั้นนั่นก็หมายความว่ามันจะดีกว่าถ้าออกเดทกับคนธรรมดา แต่โอกาสที่จะได้เจอคนที่ใช่ มันน้อยมากเลยนะฮะ
Narimiya:
ถ้าเกิดว่าคุณมาเที่ยวที่ญี่ปุ่นคนเดียวคุณอาจจะเจอคนที่ใช่ได้นะฮะ แต่ผู้จัดการของคุณจะไม่โมโหเหรอถ้าคุณขอมาคนเดียว ?? (หัวเราะ) V.I: ได้ไม๊ฮะ??? (หันไปถามผู้จัดการ) ผมอยากที่จะออกเดทกับสาวญี่ปุ่ณมาโดยตลอดเลยฮะ
เพราะพวกเธอมีเสียงที่น่ารักมากจริงๆ อย่าง คุณ Aoi Miyazaki และคุณ Juri Ueno สมมุติว่าผมโทรไปหาพวกเธอและถามว่า " ทำอะไรอยู่เหรอจ๊ะ??" และได้รับคำตอบว่า " เออ ตอนนี้กำลังยุ่งมากเลยค่ะ" ผมว่าบรรยากาศคงจะดีมากทีเดียว (หัวเราะ)
Narimiya:
มีผู้หญิงที่มีเสียงน่ารักเยอะเหรอฮะ?? V.I: ผมว่ามันขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนนะฮะ
Narimiya:
คนญี่ปุ่นก็มักจะดูตามความชอบส่วนตัวของแต่ละคนนะฮะ (หัวเราะ) V.I: Ah จริงเหรอฮะ (หัวเราะ)  
**************************** 

Part 04. คุณสามารถรับบทนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาจากประเทศเกาหลีได้  

V.I: ยังมีอีกเรื่องที่ผมอยากจะถามคุณครับ จริงๆอยู่ที่บิกแบงเป็นนักร้องแต่ตัวผมรู้สึกว่า เรื่องการแสดง บนเวที ก็สำคัญเหมือนกัน
เพราะเราจะได้บรรยายเรื่องราวในเนื้อเพลงออกมาได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ อารมณ์ที่มีความสุขเวลาร้องเพลงรัก ดังนั้นผมเลยอยากจะถามเคล็ดลับสำคัญๆที่ผมควรจะจำเอาไว้ เพื่อจะได้แสดงออกถึงเสน่ห์ได้อย่างเต็มที่บนเวที อย่างเช่น ส่งสายตาที่ยิ้มได้แบบนี้อะฮะ (พยายามทำสายตาเยิ้มๆๆ)
Narimiya: 5555555
ผมได้ดู ตอนMV โซโล่ของ วีไอคุง แล้วดูเหมือนว่าคุณจะพยายามทำแบบนั้นบ่อยมาก(หัวเราะ)   

V.I: ผมจะมีความมั่นใจ มากขึ้นกับร่างกายฝั่งขวาของผมครับ (หัวเราะ) และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าผมชอบที่จะหันหน้าเข้ากล้องทางฝั่งนี้ แต่การถ่ายรูปครั้งนี้ผมนั่งผิดมุมและไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี (หัวเราะ)
ผมคิดว่ามันเป็นการไม่สุภาพถ้าผมจะบอกกับคุณว่า " ขอโทษนะฮะ ขอเปลี่ยนที่นั่งกับคุณได้ไม๊???
Narimiya:
คุณน่าจะบอกผมก่อนหน้านี้นะ (หัวเราะ) โอเคกลับมาที่คำถามนะ ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันในเรื่องนั้นเพราะผมแสดงคนเดียว แต่เวลาที่อยู่บนเวที คุณอย่ามัวไปยืนตรงกลางเวทีเพียงอย่างเดียว ควรเดินไปทางซ้ายทางขวาบ้างมันจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า และมองไปไกลๆ การร้องเพลงกับการแสดงก็เหมือนกันในจุดนี้ แต่ความพยายามที่ออกมาจากใจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด  
V.I: อ่า ต้องออกมาจากใจ
Narimiya:
แต่ว่ามีสมาชิกวงตั้ง 5 คนคงต้องมีการประสานงานกันใช่ไม๊??  
V.I: ครับ ผมว่าบิกแบงร่วมมือกันได้ดีทีเดียว เรามีสมาชิกที่ต่างกันไป มีคนรับผิดชอบในเรื่องการร้องแร๊พ ทั้งเสียงสูงเสียงต่ำ เราต่างก็มีทักษะที่แตกต่างกัน ผมเป็นนั้องเล็กที่สุดในวง นั่นเป็นเหตุผลที่ผมคอยตามไปเรื่อยๆทุกครั้งที่เราอยู่บนเวที (หัวเราะ)

Narimiya:
วีไอคุงเคยแสดงมาก่อนไม๊ฮะ??  
V.I: สำหรับผมแล้ว ผมว่าคงจะดีกว่าที่ผมจะทำงานด้านการแสดงที่ญี่ปุ่นมากกว่าที่เกาหลี (หัวเราะ)
Narimiya:
ผมว่าคุณสามารถที่จะรับบทเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาจากเกาหลีได้นะ น่าจะลองดู (หัวเราะ)  
V.I: ตกลงเลยยยยย ผมจะรอการติดต่อจากคุณนะ ( หันซ้ายหันขวาแล้วก็บอกโปรดิวเซอร์ " มีคนชื่อ วีไออยู่นะครับ") (หัวเราะ)
Narimiya:
โทษทีนะครับ ผมไม่มีเส้นสายในการคัดเลือกนักแสดงหรอก (หัวเราะ)  
V.I: งั้นการสัมภาษณ์วันนี้มันก้เสียเปล่าจริงๆ (หัวเราะ) ล้อเล่นนะฮะ (หัวเราะ) ผมคิดว่าจากนี้ไปถ้าผมเจอ นาริมิยะคุง ผมสามารถทักทายว่า "สบายดีรึเปล่าฮะ"??ได้ใช่ไม๊?? ในอนาคตข้างหน้าถ้าได้เจอกัน ผมว่าเราก็คงจะดีใจแค่พูดประโยคนี้ก็เพียงพอแล้ว V.I: โทรหาผมนะฮะถ้าคุณได้ไปเกาหลีอีก ผมจะพาไปที่ที่น่าสนใจหลายที่เลย
Narimiya:
ผมด้วยนะฮะ ผมจะพาคุณไปเที่ยวโดยที่ไม่ต้องมาห่วงว่าคุณเป็นคนดังเลย
 
Translated by: Aoiare @ 21bangs.com
Scan by Tisya @ bigbangupdates
Thai Translation by mew mini museum

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

Fan account งาน Premium Fanclub ที่ญี่ปุ่น 23 April 2012

เมื่อวาน น้องๆเดินทางไปที่ญี่ปุ่นอีกแล้วค่ะ หลักๆไปงานมีตติ้งกับ J official VIP ภายใต้ชื่องานว่า BIGBANG PREMIUM LIVE FANCLUB EVENTนะค่ะ มีแฟนแอคเค้าส์มาเล่ากันอีกแล้ว สั้นๆคะ เอามาฝาก


 -บิกแบงร้องเพลงทั้งหมดในงาน 5 เพลงนะค่ะ คือ  TONIGHT, HANDS UP,BLUE,BADBOY,Fantastic Baby!!! เพลง BLUE นั้นนั่งร้องกันนะค่ะ ส่วนในท่อนที่จะต้องทุ่มกีตาร์ในเพลง Tonight น้องจีก็ทำมือสมมุติว่ามีกีตาร์แทนค่ะ
------------------------------

-Seungri: "ทุกคนสมัครเป็นแฟนคลับรึยังครับ???"
ผู้ชม: "ค่า~!!"
Seungri: "โอ้วว !! ดีมากครับ ใครที่ยังไม่ได้สมัครก็ควรจะสมัครนะครับ ส่วนคนที่ไม่ได้สมัครก็เชิญกลับบ้านครับ ~" (โค้ง+หัวเราะ) 
[หมายเหตุ:ตรงนี้น้องซึงเล่นมุขอะนะค่ะ เพราะคนที่จะเข้ามาในงานนี้ได้ก็ต้องเป็น official VIP เท่านั้นอยู่แล้วละค่ะ]
------------------------------

- Youngbae: "ในวันที่ 1 กรากฏาคมเราก็จะมีงานแสดงสดที่ Kobe ด้วยนะครับ !!!"
ผู้ชม: "เอ ที่โตเกียวก็มีไม่ใช่เหรอเนี่ย..??"
Seungri: "ถ้าไม่พูดว่ามีมีตติ้งที่ โตเกียวด้วยมันจะไม่ถูกต้องนะฮะ!!"
Youngbae: "งั้นขอพูดอีกทีนะครับ ในวันที่ 1 กรกฏาคมนี้เราจะมีงานแสดงสดที่ kobe"
(ทุกคนหัวเราะกันใหญ่ จียงก็หัวเราะจนต้องปิดปากไว้)
Seungri: "พอเถอะฮะ!!"
------------------------------

-Youngbae: "Tapu Tappu Tapupupupupu......."
[หมายเหตุ: การออกเสียงคำว่า ท็อปในภาษาญี่ปุ่นจะเป็น ท็อปปุ แต่ยองเบล้อทาบิเลยทำเป็นเรียก เทมปุ เทมปุ]
TOP: "ฉันชื่อ ท็อป!!!"
------------------------------

-Daesung: "มันดีใช่ไม๊ฮะที่เรามาจัดงานมีตติ้งในสถานที่เล็กๆแบบนี้
Youngbae: "นี่มันไซส์เดียวกับ บิกแบงเลยนะ เพราะ เราตัวเล็กกัน"
Seungri: "อะไรฮะที่ว่าเล็ก ถ้าเราตัวเล็กงั้นเวลาไปอยู่ที่ Makuhari คงเห็นว่าเราตัวเล็กนิดเดียวแล้ว" 
[หมายเหตุ: น้องซึงตั้งใจจะบอกว่าตัวไม่เล็กหรอกเพราะฮอลที่ Makuhari ใหญ่ค่ะ ถ้าหากบิกแบงตัวเล็กถ้าไปเทียบกับฮอลที่ว่าคงจะเหลือตัวจิ๋วมาก)
------------------------------

-Youngbae: "วันนี้.... spend a good time....นะครับ " (พูดเป็นอังกฤษเพราะนึกคำญี่ปุ่นไม่ออก)
Seungri: "ทำไมจู่ๆก็พูดภาษาอังกฤษครับเนี่ย??"  
------------------------------

- งานในวันนี้เริ่มช้ากว่าเวลาที่กำหนดถึง 30 นาที น้องซึงขอโทษและบอกว่า เป็นเพราะไม่ได้จัดงานมีตติ้งแบบนี้ที่ญี่ปุ่นนานมากแล้วจึงต้องการอยากจะดูดีที่สุดเลยแต่งหน้านานไปหน่อย
------------------------------

-Youngbae: "พวกเรา.... ตรงนั้น(ชี้ไปทางซ้าย), ตรงนี้(ชี้ไปทางขวา), ตรงโน้น"
ผู้ชม: *หัวเราะ*
TOP: "Mochi mochi~~~!!!!"
(หมายเหตุ: ภาษาญี่ปุ่น ทางนั้น = acchi , ตรงนี้ = kocchi , ตรงโน้น=socchi แต่คำว่า Mochi เป็นของกิน เสียงมันคล้ายๆกันไปหมด ทาบิเลยพูดออกมาค่ะ )
Seungri: "อ่าา ตอนที่เรารับโทรศัพท์เราก็พูด  'mochi mochi' แบบนั้นใช่ไม๊ฮะ!!!"
(หมายเหตุ คำนี้ไปพร้องเสียงกับคำว่า Mochi Mochi ที่ชาวญี่ปุ่นใช้รับโทรศัพท์ด้วยค่ะ)
TOP: "ฉันพูดถึงโมจิที่กินเข้าไปได้นะ "
------------------------------

 -Seungri: "ในอัลบั้มนี้มีเสียงแร๊พของ จีดราก้อนและท็อป เป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยใช่ไม๊ฮะ และพวกเค้าก็ยังดูดี หน้าดีอีกด้วยใช่ไม๊ฮะ?? จากนี้ไปผมไม่จำเป็นต้องพูดภาษาญี่ปุ่นเก่งแล้วละ ผมพยายามอย่างหนักมากที่สุดในการเรียนภาษาญี่ปุ่นแต่ผมกลับไม่ใช่คนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่นี่อีกเหรอ !!"
------------------------------

 -Daesung: "วันนี้สถานที่จัดงานเล็กๆแบบนี้ดีมากเลยนะครับเพราะเราจะได้อยู่ใกล้ๆกัน ผมจะได้พูดไปมองตาทุกคนไปด้วยได้เลย เราสามารถเห็นแฟนๆที่ชั้น 2 ได้อย่างชัดเจนอีกด้วยนะครับ"
ผู้ชม: "ค่า~"
Youngbae: "ผมอยากจะลงจากเวทีไปอยู่ตรงนั้นเลยนะครับ!!"
Audience: "ค่า~~!!"
Seungri: "ดูเหมือน SOLซังอยากจะทำแบบนั้นจริงๆนะครับ
------------------------------

Japan version credit to me2_JP 
Eng version credit Cath lee huynh
Thai Translation by mew mini museum

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

BIGBANG ใน นิตยสาร JUNON ญี่ปุ่นฉบับเดือนมิถุนายน 2012


Q&A Bigbang Junon Japan magazine June issue 

D-LITE

Q: เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างสมาชิกในวงครับ??
D-LITE: ตอนที่เราทำเพลงร่วมกันครับ ถ้าเราไม่ได้ทำเพลงร่วมกันแบบนี้ ผมไม่คิดว่าเราจะมารวมตัวกันและเข้าใจกันได้ดีขนาดนี้ .

Q:เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึก ‘ALIVE’ ?
D-LITE: ทุกเช้าที่ผมตื่นขึ้นมาครับ ความรู้สึกสำนึกและขอบคุณจะท่วมท้นอยู่ในใจของผมทุกวัน และมันทำให้ผมอยากจะพยายามทำให้ดีที่สุดในทุกวัน

Q: ในระยะนี้ มีเรื่องอะไรใหม่ๆที่คุณพึ่งลงมือทำบ้างไม๊ครับ??
D-LITE: ทำอาหารครับ แต่ตอนนี้ผมทำเป็นแค่ไข่เจียวเท่านั้นเอง (หัวเราะ) ปีที่ผ่านมาผมอยากจะเป็นเหมือนพระเอกในการ์ตูนเรื่อง Chuka Ichiban (Cooking Master Boy) ฮะ เพราะในการ์ตูนพระเอกทำอาหารเก่งมาก จริงๆผมมีความฝันว่าอยากจะทำอาหารให้แฟนสาวในอนาคตของผมทานด้วย ในครั้งแรกที่เราออกเดทกัน เธอจะมาที่บ้านของผมและผมก็จะเตรียม shabu shabu (หม้อไฟในแบบญี่ปุ่น) เอาไว้ให้เธอ ฟังดูแล้วอาจจะธรรมดานะครับ แต่สิ่งที่สำคัญมันอยู่ที่ซุป ผมจะเตรียมนน้ำซุปด้วยตัวเอง และจะให้เธอทาน ชาบูชาบู พิเศษฝีมือของผมครับ

Q: เมื่อปีที่แล้วคุณมีการติดต่อปฏิสัมพันธ์อะไรกับสมาชิกในวงบ้างรึเปล่าครับ??
D-LITE: ครับ ก็เหมือนกับทุกๆวันครับ เราได้สร้างห้องแชทพิเศษเอาไว้ในโทรศัพท์เพื่อที่ว่ามันจะเป็นการง่ายมากระหว่างสมาชิกวงที่จะติดต่อกัน เราจะส่งข้อความเช่น "ตอนนี้อยู่ไหนเหรอ??" " อยู่แถวนี้รึเปล่า?? มากินข้าวด้วยกันดีกว่า " บทสนทนาแบบนี้แหละครับ

Q: คุณคิดยังไงกับการที่จู่ๆก็เปลี่ยนสีผมเป็นสีบลอนด์ขนาดนี้ครับ??
D-LITE: ในตอนที่ทีมงานแนะนำว่า " ทำไมไม่ลองเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีบลอนด์ดูละ?? " ผมรู้สึกกังวลมากๆเลยครับว่ามันจะเข้ากับผมรึเปล่า?? แต่หลังจากที่ลองทำแล้ว ผมก็ว่ามันไม่เลวนะฮะ (หัวเราะ) ในตอนแรกผมก็รู้สึกอึดอัดอยู่นะครับกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แต่ตอนนี้ผมเริ่มชินกับมันเหมือนกับว่าผมมีผมสีบลอนด์มานานแล้วเลยละฮะ ผมมักจะคิดว่า "นี่เราเป็นชาวอเมริกันรึเปล่านะ??" (หัวเราะ) แต่ดูเหมือนว่าผมทรงนี้จะค่อนข้างทิ้งตัวนะครับมันมักจะหล่นลงมาปรกหน้าอยู่ตลอดเวลาเลย ดังนั้นผมจำเป็นต้องได้รับการดูแลที่ถูกต้องในเรื่องของเส้นผมด้วยครับ

Q: อะไรในตอนนี้ที่คุณรู้สึกรักใคร่หวงแหนมันบ้างครับ??
D-LITE: คำว่า "จงรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ" ครับ และระยะหลังนี้ผมได้ใช้เวลาในการที่จะอยู่ตามลำพัง เมื่ออยู่คนเดียวผมมักจะคิดอะไรมากมายจากการคิดทำให้ผมตระหนักว่าไม่ว่ายังไงผมก็ต้องเผชิญหน้ากับความจริง นอกจากนี้ผมเป็นชาวคริสต์ครับดังนั้นผมจะไปโบสถ์ทุกๆวันอาทิตย์



G-DRAGON

Q: เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึก  ‘ALIVE’?
G-Dragon: ตอนนี้แหละฮะ ตอนนี้เลย

Q: ระยะหลังนี้ มีโอกาสบ้างไม๊ครับที่คุณจะได้พบรัก??
G-Dragon: เมื่อก่อนผมจะทุ่มลงไปหมดใจเลยหากผมมีความรัก แต่ตอนนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวผมเองทำแบบนั้นอีก ผมคิดว่าผมควรจะค่อยๆเปิดใจทีละนิดๆแทนจะดีกว่า มีหลายครั้งมากที่ผมให้ความหวังกับพวกเธอด้วยความที่ผมมักจะตื่นเต้นมากๆซึ่งหลายครั้งมากที่มักจะจบลงที่ว่าผมทำให้พวกเธอผิดหวัง ตอนนี้ผมอยากที่จะมีความรักแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ

Q: ในมุมมองของหัวหน้าวง มีอะไรที่คุณคิดว่าสมาชิกในวงควรจะแก้ไขไม๊ครับ??
G-Dragon : ผมคิดว่าพวกเค้าไม่ควรจะปล่อยตัวมากไปบนเวทีครับ ผมคิดว่าเรามาถึงจุดที่เราจะไม่แสดงออกให้เห็นถึงความประหม่าของเราบนเวทีอีกต่อไปแล้ว แน่นอนว่าผมจะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดใดๆบนเวทีแน่ๆ แต่บางครั้งผมก็อยากจะให้พวกเค้ารู้สึกกดดันบ้างเครียดบ้างเวลาที่ขึ้นไปอยู่บนเวที

Q: ในหนึ่งปีนี้ คุณคิดอะไรเกี่ยวกับบิกแบงบ้างครับ??
G-Dragon : เมื่อปีที่แล้วมีเรื่องราวเกิดขึ้นกับบิกแบงเยอะมากครับ และนั่นเป็นสาเหตุให้ผมคิดถึงอารมณ์ที่ถูกต้องที่จะใช้ในการคัมแบคครั้งนี้ทุกวันเลยทีเดียว คำตอบที่ได้มามีการพัฒนาขึ้นและยังพิเศษเหมือนเดิม ผมอยากจะแสดงให้เห็นว่า "บิกแบงยังคงอยู่ในสภาพที่ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม" ผมคิดว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้งนึง ซึ่งมันจุดเปลี่ยนของบิกแบง ด้วยครับ "

Q: จริงรึเปล่าครับที่  กาโฮ สุนัขที่คุณเลี้ยง แต่งงานแล้วตอนนี้มีลูกหมาน้อยๆแล้วด้วย??
G-Dragon : ความจริงคือ มันยังไม่ได้แต่งงานและยังไม่มีลูกหมานะฮะ

Q: เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างสมาชิกในวงครับ??
G-Dragon : ตอนนี้ผมสามารถที่จะรู้ถึงความรู้สึกของพวกเค้าผ่านการมองตาเท่านั้นครับ นอกจากนี้แนวความคิดของพวกเค้าในตอนนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ผมรู้สึกว่าเราผูกพันธ์กันเสมอครับ

Q: มีอะไรใหม่ๆที่คิดอยากจะริเริ่มทำไม๊ครับ??
G-Dragon: ออกแบบเสื้อผ้าครับ ผมอยากจะทำเสื้อผ้ายี่ห้อตัวเอง

Q: ตอนนี้ในหัวคุณคิดอะไรอยู่บ้างครับ ?
G-Dragon: น่าจะเป็น, BIGBANG 50%, อัลบั้มโซโล่ 30%, นอนหลับ 10%, ผู้หญิง 10%....



VI(SEUNGRI)

Q: เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างสมาชิกในวงครับ??
VI: เพราะพวกเราทุกคนต่างก็ชอบอาหารอร่อยๆนะครับ ในตอนที่เราพูดว่า " อร่อยจัง " "ลองชิมดูสิ" ผมรู้สึกถึงความผูกพันที่เรามีต่อกันครับ เมื่อไม่นานมานี้ผมเจอร้าน บาร์บีคิวร้านนึง ทุกคนต่างก็ทานกันเยอะมากตอนที่เราไปทานกันที่ร้านนี้ฮะ

Q: ตอนนี้ชอบเล่นมุขญี่ปุ่นมุขไหนครับ?
VI: (เต้นไปด้วย)มุขA Poi Poi

Q: คุณไปรู้จัก คุณ  Miura Shouhei และคุณ Narimiya ได้ยังไงครับ?
VI: ครั้งก่อนผมกับคุณ Narimiya Hiroki ให้สัมภาษณ์ นิตยสาร JUNON ด้วยกันครับ แล้วเมื่อปีก่อนเค้าได้มาดูคอนเสริต์ของบิกแบงรอบที่โอซาก้าด้วย ผมถึงกับบอกเค้าว่า " คุณหล่อขึ้นนะครับเนี่ย" แต่เรายังไม่ได้ไปร้านซูชิด้วยกันตามที่สัญญากันเอาไว้เลยละครับ ส่วนคุณ Miura Shouhei มีคนแนะนำให้เรารู้จักกันตอนไปออกรายการ ‘Iitomo’ ในการมาโปรโมทที่ญี่ปุ่นปีนี้แหละครับ เราไปทานอาหารร่วมกัน และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมเจอคนที่หล่อขนาดนี้ที่ญี่ปุ่นครับ

Q: ตอนนี้คุณดูรายการอะไรเพื่อช่วยในการเรียนภาษาญี่ปุ่นครับ??
VI: ตอนนี้ผมชอบดูรายการ  ‘Ame-talk’ (รายการวาไรตี้ทางช่องTV Asashi ). จังหวะรายการดำเนินไปอย่างรวดเร็วผมชอบที่ต้องตั้งสมาธิอย่างมากในการดู ถ้ามีโอกาสผมอยากจะไปออกรายการนี้ด้วยฮะ เย้ๆๆ ผมอยากจะไปออกในช่วง  ‘Recently Popular Celebrity’.  (คนดังในตอนนี้) ครับ แต่ตอนนี้ผมยังไม่โด่งดังพอ แต่เมื่อดังแล้วผมอยากจะไปเป็นแขกรับเชิญจริงๆนะครับ (หัวเราะ) สำหรับนักแสดงตลกตอนนี้ผมชอบนักแสดงตลกคู่หู Downtown ครับ

Q: คุณยังอยากจะออกเดทกับสาวญี่ปุ่นอยู่ไม๊ครับ?
VI: แน่นอนสิครับ ถ้าได้ออกเดทจริงๆผมต้องการผู้หญิงที่เข้าใจผมได้หมดหัวใจ ผมยุ่งกับการทำงานของผมมากดังนั้นจะไม่มีเวลารับโทรศัพท์ และเราคงไม่ได้เจอกันบ่อยๆ ผมอยากได้คนที่เข้าใจผมเป็นอย่างดี แต่ในตอนนี้ผมไม่มีความมั่นใจเลยที่จะสามารถปฏิบัติกับเธออย่างดีได้ ผมไม่สามารถที่จะมีความสัมพันธ์กับใครแบบธรรมดาอย่างไปทานข้าวไปดูหนังได้ ถ้าสาวคนนั้นรับตรงนี้ได้ ผมก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ดีที่ไม่สามารถทำอะไรเพื่อเธอได้เลย

Q:  ในระยะนี้ มีเรื่องอะไรใหม่ๆที่คุณพึ่งลงมือทำบ้างไม๊ครับ??
VI: ช่วงนี้ผมกำลังหลงใหลเทียนหอมครับ หลังจากที่ปิดโคมไฟในห้องแล้วผมมักจะจุดเทียนหอมที่มีกลิ่นดอกไม้ไม่ก็ผลไม้ มันสร้างบรรยากาศดีมากเลยครับ ตอนที่ผมซื้อไฟแช็คเพื่อที่จะเอามาใช้ในการจุดเทียน คุณแม่ก็ดุว่า "ลูกสูบบุหรี่เหรอ??!!" ผมถึงกับอึ้งไปแล้วรีบบอกว่าเปล่าฮะเอามาจุดเทียนครับ และคุณแม่ก็เชื่อครับ (หัวเราะ)
 


SOL

Q: คุณใช้เวลานานไม๊ครับในการจดจำท่าเต้นต่างๆ?
SOL: ประมาณ 30 นาทีครับ แต่ว่าจะเต้นให้ได้สมบูรณ์แบบนั้นต้องใช้เวลาครับแต่ถ้าจำท่าใช้แค่ 30 นาทีเท่านั้น เวลาเราฝึกซ้อมเราจะซ้อมด้วยความสนุก ดังนั้นเวลานึกไอเดียอะไรได้เราก็มักจะปรับให้มันเข้ากับท่าเต้นในตอนนั้นเลย ในอัลบั้ม  ALIVE ท่าเต้นที่ผมชอบมากที่สุดคือ เพลง BAD BOY ที่มีท่าเต้นแบบคนบนท้องถนนจะเต้นกัน ( street dance) ใส่ลงไปในเพลงเยอะเลยฮะ

Q: เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึก  ‘ALIVE’?
SOL: ตอนที่อยู่บนเวที เป็นเวลาที่มีความสุขที่สุดของผมฮะ ตอนที่จดจ่ออยู่กับการเต้นของผมผมจะไม่สามารถมองเห็นแฟนๆหรือได้ยินเสียงเชียร์ของพวกเค้าชัดเจนเท่าไหร่แต่พออยู่ในช่วงพูดคุย และช่วงอังกอร์ผมก็สามารถเห็นพวกเค้าได้ชัดเจนขึ้นครับ ในระหว่างการแสดงผมมักจะคิดในแง่บวกเพิ่มพลังให้กับตัวเองตลอดเวลา ในภาวะแบบนั้นมันจำเป็นมากที่คุณจะต้องสามารถรับทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้ครับ

Q: คุณรักษาหุ่นให้คงรูปร่างแบบนี้ได้ยังไงครับ??
SOL: ที่เกาหลี หากเป็นไปได้ผมจะพยายามไปออกกำลังกายทุกวันครับ แต่ที่ญี่ปุ่นผมไม่ค่อยมีเวลาเลยไม่ได้ออกกำลังกายเลย ผมชอบที่จะเต้นมากเลยครับบางทีการเต้นคงช่วยเสริมกล้ามเนื้อให้กับร่างกายของผม ส่วนพฤติกรรมการกินของผม จริงๆผมไม่มีอะไรที่เกลียดเป็นพิเศษนะครับ ผมเพียงแต่พยายามจะไม่ทานข้าวเย็นครับ ผมเพียงแต่ทาน Gyudon (ข้าวหน้าเนื้อ) ของโปรดของผมในมื้อเช้าเท่านั้น

Q: ยี่ห้อสุดโปรดในตอนนี้คือยี่ห้ออะไรครับ??
SOL: Chrome Hearts เป็นยี่ห้อโปรดของผมตั้งแต่ผมยังเด็กเลยละครับ ผมเห็นศิลปินร็อคคนโปรดที่ผมเคารพสวมใส่เสื้อผ้าจาก Chrome Hearts ผมก็มีความคิดว่า " เราจะซื้อเสื้อผ้าแบบนั้นบ้างถ้าได้เป็นนักร้อง" แต่ถึงแม้ว่าผมจะมาเป็นนักร้องแล้ว ราคาของมันก็ยังแพงมากเกินไปสำหรับผมอยู่ดี (หัวเราะ)

Q: Boss สุนัขที่คุณเลี้ยงสบายดีนะครับ??
SOL: ครับ มันแข็งแรงขึ้นครับ ตั้งแต่ผมงานยุ่งมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่เป็นคนพามันไปเดินเล่นทุกวันเลย ผมไม่เคยพูดกับมันนะครับ แต่ผมรู้สึกจริงๆว่ามันสามารถเข้าใจความรู้สึกของผมได้ สำหรับผมมันเหมือนกับเป็นน้องแท้ๆของผมจริงๆเลยครับ



T.O.P

Q : เมื่อไหร่ที่คุณจะรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างสมาชิกในวงครับ??
TOP: ตอนที่ผมสามารถรู้ได้ว่าพวกเค้าคิดอะไรอยู่เพียงแค่มองตาเท่านั้นครับ

Q: แผนการในอนาคตในการเป็นนักแสดงของคุณเป็นยังไงบ้างครับ??
TOP: ผมยังคงพิจารณาและคิดถึงการแสดงภาพยนตร์หรือละครเป็นโครงการต่อไปของผมอยู่ครับ ผมจำเป็นต้องมองมันในทุกแง่มุมและคิดไตร่ตรองพิจารณาให้ดี ผมต้องคิดว่า " โปรเจคนี้มันมีความหมายจริงๆใช่ไม๊?? เราจะสามารถเข้าถึงบทบาทและเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครนี้ได้มากแค่ไหน บทบาทของเราในโปรเจคนี้คืออะไร?? " และมีอีกหลายแง่มุมครับ

ส่วนความเป็นไปได้ในการรับละคร โรแมนติกเลิฟคอมเมดี้ นั้น ถ้ามีโอกาสและแฟนๆต้องการอยากจะดู ความเป็นไปได้ไม่ได้เป็นศูนย์ครับมีโอกาสที่จะรับแสดง ในอนาคตผมจะทำงานทั้งงานเพลงและงานด้านการแสดงควบคู่กันไป และผมก็พยายามที่จะแสดงออกถึงด้านใหม่ๆของผมออกมาด้วยในฐานะนักแสดงครับ 

Q: ในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่ที่สุดในวง เมื่อไหร่ที่คุณเห็นว่าน้องๆในวง น่ารักน่าเอ็นดูบ้างครับ??
TOP: ช่วงที่เราทำการแสดงสดกันครับ เมื่อสมาชิกในวงทั้ง 4 คนแสดงออกมาอย่างสุดใจสุดความสามารถ ผมคิดว่าพวกเค้าน่ารัก เรามีการถูกเนื้อต้องตัวกันด้วยครับ ( skinship) แต่บางครั้งเราไม่ค่อยจะได้แสดงออกความรักที่เรามีต่อกันออกมาตรงๆมากเท่าไหร่ แต่ผมก็คิดว่าผมเค้าน่ารักอยู่ดี

Q: จะเกิดอะไรขึ้นครับถ้าคุณเมา ??
TOP: ผมจะเป็นประเภทที่รู้สึกง่วงแล้วก็จะหลับไปครับ ระยะหลังผมหันมาดื่มไวน์จากชิลีที่มีชื่อว่า ‘Almavival’, เป็นไวน์ที่มีคุณภาพดีมาก ผมจึงชอบมันมากครับ เมื่อก่อนผมจะดื่มเยอะมากเลยแต่เดี๋ยวนี้ผมพยายามห้ามตัวเองไม่ทำแบบนั้น ผมจะดื่มเฉพาะตอนที่มีเวลาเท่านั้นครับ 

Q: จริงไม๊ครับที่คุณจัดงานปาร์ตี้กับสมาชิกในวงที่บ้านของคุณเอง??
TOP: ครับ ผมได้เชิญพวกเค้าไปงานปาร์ตี้ที่บ้านผมหลายครั้งได้แล้วละครับ เมื่อเราทั้ง 5 คนมาอยู่ด้วยกัน แน่นอนว่าเราก็จะคุยกันเรื่องดนตรี เราจะปรึกษาหารือกันว่า " คอนเซ็ปในอัลบั้มของเราควรจะออกมาเป็นแบบไหน" และ " เราควรจะทำงานในทางไหนดี" แบบนี้แหละครับ 

Q: แฟชั่นชิ้นใดที่เป็นชิ้นโปรดในตอนนี้ครับ?
TOP: เสื้อผ้า  THOM BROWNE ยี่ห้อจากนิวยอร์กที่ผมสวมขึ้นปกนิตยสาร COSMOPOLITAN ฉบับเกาหลีไปครับ สูทของยี่ห้อนี้เก๋ดี และผมก็ซื้อพวกมันไว้ด้วยครับ ผมชอบไปเดินซื้อของในย่าน  Aoyama ที่ญี่ปุ่นมาก แต่ผมไม่ได้ไปเลยในช่วงนี้ครับเพราะยุ่งมาก

Scanned by: Rice @ bigbangupdates.com
Eng Translated by: @RealNadiah and @marthapido at twitter
Thai Translation by mewmini museum

=============================



Q:คุณมีความรู้สึกยังไงในการทำการโปรโมทครั้งนี้หลังจากหายไปนานกว่า 1 ปีครับ?
TOP:(คิดอยู่นาน) ผมรู้สึกขอบคุณอย่างมากกับแรงสนับสนุนจากแฟนๆที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยครับ เราพยายามกันอย่างมากที่จะทำอัลบั้ม Alive นี้ออกมาให้ดีที่สุด หวังว่าทุกคนจะได้มีโอกาสได้ฟังมันนะครับ ผมรู้สึกดีใจมากๆที่ทุกคนยังคงสนับสนุนบิกแบงจนถึงตอนนี้ครับ
GD:สิ่งที่ผมต้องการที่จะทำในตอนนี้คือผมต้องการที่จะสนุกและมีความสุขกับ ขั้นตอนในการทำงานครับ ผมพยายามที่จะตั้งสมาธิและความตั้งใจไปยังพลังของเราทั้ง 5 คน

Q:คุณรู้สึกยังไงในตอนที่ทำงานในอัลบั้ม Alive ที่มีชื่อเดียวกับ ชื่อทัวร์คอนเสริตในครั้งนี้ด้วยครับ??
TOP:ความรู้สึกของผมตอนนี้คือผมกำลังมีชัวิตอยู่จริงๆครับ
GD:ผมอยากจะให้สมาชิกทั้ง 5 คนช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันดังนั้นผมจึงทำงานในอัลบั้มชุดนี้ด้วยความ ตื่นเต้น และนี่เป็น CD ที่เราทำออกมาหลังจากที่มีเรื่องมากมายเกิดขึ้น เราต่างก็รู้สึกประหม่าอย่างมากในกระบวนการต่างๆแต่ตอนนี้ความรู้สึกทั้งหมด คือตื่นเต้นมากครับ

========================

Q: เรื่องของ MV ในอัลบั้มนี้ก็เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมากนะครับ??

VI: ทั้งเพลง 'Blue' และ 'Bad Boy' ต่างก็ถ่ายทำที่ NYC ครับซึ่งมันเป็นเช้าที่หนาวมากจริงๆๆ (หัวเราะ)
TOP:ผมรู้สึกว่าหูของผมจะหลุดออกมาเลยละครับ
GD:ในวันนั้นเป็นวันที่หนาวที่สุดในนิวยอร์กครับและเราก็สวมแค่เสื้อยืดตัวเดียว เพื่อแสดงออกถึงคอนเซ็บป์ Bad boy ของเรา
SOL:ดีไซเนอร์เป็นกังวลและเป็นห่วงพวกเราได้เตรียมเสื้อแจ็คเก็ตมาให้ด้วย แต่เป็นเพราะผมคิดว่ามันจะเท่กว่าถ้าใส่แต่เสื้อกล้าม ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะสวมแต่เสื้อกล้ามครับ ผมคิดว่ามันคงจะเท่มากถ้าเราได้ เมืองนิวยอร์กมาเป็นฉากหลังให้กับเอ็มวีของเราหลังจากที่เราหายกันไปนาน ซึ่งเราก็ทำได้จริงๆและผมก็มีความสุขกับมันมากครับ

(Cr: rainbowtop and rice for eng translation
Thai Translation by miss mew )


วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555

เรื่องราวการแต่งเพลงของ GD ในรายการ Go show 20042012


ออนแอร์กันไปแล้วเมื่อคืนนะค่ะ รายการ Go show ทางช่อง SBS แม้ว่าเรทติ้งจะไม่ได้พุ่งทะลุเพดานแต่ก็มีเรื่องน่ารักๆมาเล่าเพียบอีกแล้วในรายการนี้ รอดูซับเต็มๆกันเนอะค่ะ 

จากตอนที่ออกอากาศมีบางส่วนที่โดนตัดออกไปไม่ได้ออกอากาศ ซึ่งวีไอพีที่ไปดูการถ่ายทำ ถ่ายคลิปมาแบ่งกันและมีคนใจดีแปลมาเล่าให้เราฟังด้วย หลักๆเป็นเรื่องการแต่งเพลงของน้องจีนะค่ะ ในรายการตัดไปเยอะ กลายเป็นช่องให้แอนตี้เม้าส์อีกแล้วว่าน้องจีหลงตัวเอง และ หยิ่ง แต่เท่าที่อ่านในคำแปลตัวเต็มอันนี้แล้ว น้องจีแค่อธิบายการทำงานของตัวเองให้ฟัง และ ยังออกจะถ่อมตัวซะด้วยซ้ำ 

ลองอ่านกันดูค่ะ จริงๆมิวว่าจะแปลแล้วทวิตไปแค่นั้น ทำไปทำมา ชอบแฮะสัมภาษณ์นี้อยากจะเก็บไว้ เลยแปะรวมในบ้านด้วยเลยดีกว่า

=====================

Go show น้องจี แบบไม่ตัด (ตอน 1 เรื่องทำงานกับเท็ดดี้)

YJS: คุณมีความสามารถพิเศษที่เหนือคนอื่นในเรื่องใดบ้างครับ??
GD: ความสามารถพิเศษเหนือธรรมชาติของผมคือ ผมสามารถเขียนเพลงฮิตๆได้เพียงแค่กระพริบตาเท่านั้น ผมเลยพยายามไม่ค่อยกระพริบตาเท่าไหร่นะครับ
YJS:หมายถึงว่าสามารถเขียนเพลงได้ในเวลาอันรวดเร็วใช่ไม๊ครับ??
GD: ผมยังคงเขียนเพลงออกมาจากแรงบันดาลใจชั่วขณะที่จู่ๆก็จะแล่นเข้ามาในหัว ไม่ใช่ว่าผมเขียนเพลงเก่งหรือว่ายังไงนะครับแต่ว่าเมื่อผมเขียนเพลงออกมาทุก คนก็ชอบกันเท่านั้นเองครับ

YJS: คุณตั้งใจจะเขียนเพลงในตอนที่คุณคิดว่า จะตั้งใจเขียน หรือมักจะเขียนเมื่อมีแรงบันดาลใจเข้ามาครับ??
GD: ผมจะเขียนเวลาที่ผมมีแรงบันดาลใจเข้ามาครับ แต่ก็ ถ้ามีคนมาบอกให้เขียนก็สามารถเขียนได้เหมือนกัน
YJS: งั้นเมื่อพอนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ คุณมักจะมีแรงบันดาลใจบ่อยๆเลยไม๊??
GD: การเขียนเพลงของผมมันใช้เวลาเพียงแป๊บเดียวเท่านั้นแหละครับ เมื่อผมนั่งลง ซักพักก็ได้มาออกมาแล้ว

YJS:ผมอยากจะเอาพลังพิเศษนี้ออกมาจากตัวคุณได้จัง
GD:ตอนนี้ผมได้มาอยู่ต่อหน้ารุ่นพี่ YJS แล้ว ผมชอบเพลงของรุ่นพี่มากครับ

YJS: คุณสามารถเขียนเพลงที่มีทำนองติดหูออกมาได้ ผมชอบเพลง คอจิมาลมากๆ พอผมได้ยินเพลงคอจิมาลที่จียงเขียนผมก็รู้เลยว่า เค้าเป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และบอกได้เลยว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ถูกเขียนออกมาด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์

GHJ: คุณร่วมทำออกมากับเท็ดดี้ใช้ไม๊ค่ะ??
GD: ครับ ทุกครั้งครับ บางคนอาจจะเข้าใจผิดกันไปเอง แต่เพลงที่ออกมาสู่สาธารณชนจนถึงตอนนี้ผมไม่ได้ทำมันออกมาเอง "ทั้งหมด" ด้วยตัวของผมเองคนเดียว ผมมีเขียนเพลงเอาไว้ที่ไม่ได้ออกมาก็เยอะครับ

YJS: แล้วทำงานร่วมกันยังไงครับ?
GD: อธิบายง่ายๆคือ ผมจะคลุกตัวอยู่ในสตูดิโอตลอดเวลาครับ ในสตูดิโอเราไม่ได้วางแผนไว้ว่า "เอาละวันนี้เราต้องทำงานนะ เราต้องรีบทำเพลงให้เสร็จแล้วละ เพลงที่ออกมาต้องฮิตระเบิดแน่ " ไม่ใช่แบบนั้นครับ ถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้ชายด้วยกันหมด แต่เราก็ชอบคุยกันเยอะมากๆ เราพูดคุยในเรื่องต่างๆร่วมกันมากมาย บางทีเป็นเรื่องตลก เรื่องสาวๆ เรื่องชีวิต ผมเรียนรู้อะไรมากมายจากพี่เท็ดดี้ เวลาเราคุยกันไปมาจู่ๆก็จะเกิดไอเดียขึ้นว่า " ความคิดนี้เข้าท่านะ " ทำนองนี้

YJS: คุณเป็นฝ่ายพูดก่อนเหรอครับ??
GD: เราต่างก็พูดคุยกันก่อนแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตลกหรือเรื่องอะไร เราคุยกันเยอะมาก จากนั้นก็จะเป็นว่า " ผมว่าเราใช้เรื่องนี้มาเป็นธีมได้นะฮะ ดีมากแน่นอน" แล้วพี่เท็ดดี้ก็จะ " เหรอ แล้วถ้าใช้คอร์ดนี้ละ?? " จากนั้นเค้าก็จะเดินไปเล่นที่คีย์บอร์ด จากนั้นก็ " แล้วถ้าใช้จังหวะแบบนี้ละ??" "เรียบเรียงออกมาแบบนี้ละ??" จากนั้นผมก็จะ " แล้วถ้าผมใส่ท่อนแร๊พสไตล์นี้เข้าไปละฮะ??" เราร่วมงานกันแบบนั้นครับ แล้วก็ไม่ใช่เฉพาะแค่พี่เท็ดดี้ที่ผมทำแบบนี้ด้วย แต่ผมจะพูดคุยแบบนี้กับนักแต่งเพลงและโปรดิเซอร์ทุกคนในวายจีแบบนี้อย่างต่อ เนื่อง

YJS:เยี่ยมไปเลยนะครับที่สามารถทำเพลงออกมาได้ผ่านการสนทนากันแบบนั้น เป็นเรื่องจริงที่ว่าเวลาแต่งเพลง การพูดคุยกันเรื่องคอร์ดและทำนองของเพลงนั้นเป็นจุดกำหนดกระบวนการทำเพลง ทั้งหมดออกมา มันไม่ใช่ว่าการเขียนเพลงจะต้องยึดติดอยู่กับอะไรที่ตายตัว 

---------------------------------

(ตอน 2 เรื่องเพลงain't no fun +having an affair)

JHD: แล้วการคุยกับสมาชิกในวงบิกแบงละครับ ได้แรงบันดาลใจบ้างไม๊??
GD: ครับ ได้เยอะเลย
JHD: เพลงไหนครับ??
VI: เพลง Ain't No Fun ที่อยู่ในอัลบั้มล่าสุดของเราก็ใช่ฮะ
GHJ:ฉันชอบเพลงนี้เหมือนกันนะ
VI: เพลงนี้เราเขียนขึ้นมาในตอนที่เราเบื่อๆฮะ

GD: ตอนที่ผมเขียนเพลง Ain’t No Fun เรากำลังพูดถึงเรื่องแฟนกับประสบการณ์ความรักที่ผ่านมากันฮะ เวลาที่คุณออกเดท ฝ่ายชายมักจะเข้ามาเป็นฝ่ายคุมเกมเสมอๆ แต่พอเวลาที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้าคุณก็อยากจะให้ฝ่ายหญิงทำหน้าที่ปลอบโยนคุณ บ้าง ในกรณีขอบิกแบงเรามักจะทำงานหนักและเหนื่อยกับตารางงานที่ยุ่งตลอดเวลา เราก็อยากจะพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน แต่ถ้าฝ่ายหญิงเหนื่อยด้วย คุณก็ไม่อยากจะเอ่ยปากพูด ซึ่งมันไม่สนุกแล้วละครับแบบนั้น

มันเลยกลายมาเป็นเรื่องราวของเพลงนี้ ผมคิดว่าคุณจำเป็นต้องใส่ความรู้สึกที่แท้จริงของคุณออกมาในเพลงเพื่อที่จะ ได้สื่อสารอย่างเปิดอกกับผู้คนที่มาฟังเพลง ให้พวกเค้าได้รับรู้และเข้าถึงอารมณ์ของเพลงจริงๆ ถ้าคุณใส่อะไรที่เป็นเรื่องแต่งเติมลงไปในเพลง ผมเชื่อว่าผู้ฟังก็ต้องรู้แน่ว่าเรื่องที่เติมเข้าไปเป็นเรื่องปลอมๆและดู ไม่ปกติ ดังนั้นผมจึงพยายามที่จะเขียนเอาประสบการณ์จริงของตัวเองลงไปให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นได้ ครับ

VI: ผมอยู่ในวงเดียวกับพี่จียงก็จริงนะครับ แต่ก็มีมุมมองของแฟนเพลงด้วย ผมเลยมีคำถามครับ
YJS: อ่า....ซึงรีในมุมมองของผู้ชมนะครับ
VI: อย่างที่รู้ๆกันนะครับเพลง Having an Affair ที่พี่จียงร้องร่วมกับคุณ Park Myung Sooเพื่อรายการ Infinite Challengeเป็นเพลงฮิตเลยใช่ไม๊ครับ
JHD: ครับ เพลงฮิตดังเลยครับ
VI: ฮิตมากเกินกว่าที่คิดไว้เลยใช่ไม๊ละครับ
JHD:เป็นเพลงฮิตอันดับ 1 ประจำชาร์ตเพลงออนไลน์แห่งปีเลยครับ
VI:ผมไม่เคยคิดว่าพี่ PMS จะแร๊พได้ออกมาดีขนาดนั้นเลยครับอยากจะรู้มากๆเลยว่า พี่จียงโปรดิวเพลงออกมาได้ยังไงที่ทำให้พี่PMS ร้องแร๊พออกมาได้เก๋ไก๋ขนาดนั้นครับ
JHD: ซึงรีนี่ช่างสงสัยนะครับ
VI: คือเป็นเพราะผมอยู่วงเดียวกับพี่จียงไงครับผมเลยถามออกมาไม่ได้ และผมก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะเลยไม่กล้าถาม ควรจะถามเหรอครับ??
YJS: แต่มาถามออกอากาศเนี่ยนะ

YJS:จียงครับคุณโปรดิวคุณ PMS ยังไงครับ??
GD: เพลงนั้นผมทำออกมาเพราะรายการ Infinite Challenge จริงๆมีเพลงอีกเพลงนึงที่ผมทำออกมาเพื่อรายการนี้แต่คุณ PMS บอกว่ามันดูอ่อนไป ดังนั้นเราเลยเปลี่ยนมาเป็นเพลง 바람났어 [Having an Affair] ผมอยู่กับพี่เท็ดดี้ฮะในตอนนั้น และเราใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมงในการทำเดโมเพลงนี้ เขียนเนื้อเพลงฉบับเต็ม ใส่ทำนอง และเรียบเรียง ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ภายในเวลา 6 ชั่วโมง มันถูกเขียนขึ้นมาโดยที่ไม่ได้คิดอะไรมากเท่าไหร่ฮะ ผมคิดแค่ว่า อยากจะได้เพลงที่สนุกและตลกๆฮะ

------------------------------------

(ตอน 3  การแบ่งท่อนในเพลง+ความสำคัญของเนื้อเพลง(จบ))
GD:ทุกครั้งเวลาที่ผมอัดเสียงไกด์ในเดโม ผมจะตั้งใจเลียนแบบเสียงของสมาชิกในวง เพื่อร้องในท่อนนั้นๆให้เสียงเหมือนพวกเค้า เพราะผมโปรดิวเพลงให้กับบิกแบง ผมจึงรู้ว่าเสียงของแต่ละคนมีบุคคลิกยังไงและวิธีเปล่งเสียงยังไงที่จะเป็น วิธีที่ดีที่สุดในการร้องเพลงในท่อนนั้นๆออกมา และ เสียงของใครเหมาะที่สุดที่จะปรากฏออกมาในช่วงไหนของเพลง เสียงพี่ท็อปจะดีที่สุดถ้าออกมาในช่วง verse 2 และตัวผมถ้าได้ร้องท่อนแรกจะดีที่สุด ของแดซองจะมาช่วยเสริมพลังในช่วงกลางเพลง แทยังจำเป็นจะต้องโผล่มาในท่อนคอรัส และผมจะเพิ่มน้ำหนักต่างๆลงไปในเพลง แบบนั้นครับ

JHD: คุณยังไม่ได้พูดถึง ท่อนของซึงรีเลยนะครับ??
GD: ผมไม่รู้ว่าผู้คนภายนอกคิดยังไงกับเสียงของซึงรีนะครับ แต่ผมชอบเสียงของเค้า แต่เรื่องนึงที่ต้องเข้าใจคือ เสียงแบบนี้ไม่สามารถใช้ในเพลงได้เยอะครับ
GHJ: ทำไมละค่ะ?
VI: ถ้าเทียบกับเสียงของสมาชิกในวงคนอื่น เสียงผมค่อนข้างจะอ่อนไปครับ
GD: คือถ้าเสียงของซึงรีออกมาเยอะมากในเพลงบ่อยๆ ผมไม่รู้ว่าแฟนๆจะเข้าใจมันออกมายังไงอะครับ
VI: เพลงจะเบาไปครับ
GD:ครับเพลงมันจะให้พลังน้อย เพราะเสียงของเค้ายัง.......
VI: เนื้อเสียง บาง ครับ
GD:เสียงเค้าหวานนะครับ ดังนั้นในความคิดของผม ถ้าได้เสียงที่นุ่มลึกมาอยู่ในท่อนกลางและเสียงของซึงรีเป็นตัวเข้ามาเสริม เพลงจะออกมาดีกว่าครับ

YJS: คือ ไม่ใช่ว่าจียงจะแบ่งท่อนของทุกคนให้เท่าๆกันในทุกเพลง แต่จะใช้การคิดว่าเสียงของใครจะดีที่สุดสำหรับเพลงในท่อนไหนๆมากกว่า
GD:ครับ เป็นแบบนั้นฮะ ทุกวันนี้ถ้าคุณถูกเรียกว่าเป็น ไอดอล เพลงที่ออกมาเป็นเพลงที่ทำ เพื่อแสดงออกถึงปัจจุบันนี้เท่านั้น ทุกเพลงต่างก็สะท้อนและแสดงออกในเรื่องเดียวกัน

ตอนที่ผมเป็นเด็กผมมักจะฟังเพลงของศิลปินต่างประเทศด้วยและอยากจะมาเป็น ศิลปิน และผมก็ชอบศิลปินรุ่นเก่าๆของเกาหลีด้วย ผมฟังเพลงเหล่านั้นเยอะมาก และมันก็มีอิทธิพลต่อผมมากเลย เพลงของรุ่นพี่ YJS มีเนื้อเพลงที่สวยงามมากครับ

JHD: ทำไมเนื้อเพลงของ YJS ทำให้คุณชอบครับ??
GD:มันเป็นบางอย่างที่ทำให้คุณเขียนภาพออกมาได้ในหัวหนะครับ
GHJ: ใช่ๆ ฉันเห็นด้วยนะ
GD: ผมคิดว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดคือ เนื้อเพลง นะครับ ผมไม่รุ้เหมือนกันว่ามันจะเหมือนกับการถ่ายภาพยนตร์หรือเปล่า เมื่อคุณดูหนัง เวลาที่คุณหยิบเอาความทรงจำในอดีตของคุณแทรกลงไปด้วย มันจะทำให้คุณเข้าใจและเข้าถึงอารมณ์ในเนื้อเรื่องได้ดีขึ้น ซึ่งก็เหมือนกับเนื้อเพลงของเพลงมันทำหน้าที่เป็นวีดีโอให้กับเพลง เหมือนมิวสิควีดีโอแต่ไม่ได้บอกเล่าผ่านวีดีโอแต่ด้วยเนื้อเพลง ซึงหากเราไม่มีวีดีโอมันคงเยี่ยมมากที่คุณจะสามารถสร้างภาพในหัวขึ้นมาเอง ได้เลยเพียงแค่อ่านผ่านเนื้อเพลงออกมา เนื้อเพลงมันสะท้อนภาพของมันเอง เหมือนกับเนื้อเพลงของเพลงของรุ่นพี่ YJS ทำออกมาได้ฮะ

(Cr. Bestiz and DCGD )
Eng translation by  후드 thank you
Thai Translation by mew mini museum