วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

GD:อะไรที่แย่ไปกว่าการที่ต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลว? (Shout5)


Shout of the world GD

(shout 1) ความเห็นของ GD ที่มีต่อสมาชิกในวง BB
(shout 2) ย้อนไปเมื่อผมยังเป็นศิลปินฝึกหัด
(shout 3 ) ทำไมตอนนั้นผมถึงต้องเข้มวงดกับพวกเค้าถึงขนาดนั้น
(shout 4) ผมเป็นคนยังไงกันนะ??

=========================

"อะไรที่แย่ไปกว่าการที่ต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลว?? "

ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมากๆๆ แต่ผมก็ยังรู้สึกประหม่าเมื่อวันที่จะต้องประกาศผลว่าสมาชิกในวงคนไหนจะถูกคัดออกที่มันใกล้เข้ามาทุกทีๆ

ผมรู้สึกคล้ายกับจะหายใจไม่ออกเพราะการแข่งขันเฉือดเฉือนกันมากขนาดคนที่มองโลกในแง่ดีอย่างผมยังรู้สึกเครียดมากๆในเวลานั้น ผมรู้สึกว่าถ้าคนในวัยเดียวกับผมต้องมาเจอสถานการณ์เดียวกันนี้ พวกเค้าคงจะต้องเครียดมากกว่านี้แน่ๆ ผมเฝ้าบอกกับตัวเองว่า " ไม่เป็นไรน่า เราทำได้ " แต่ดูเหมือนว่าประโยคนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากเท่าไหร่


ยังไงก็ตามแต่ เวลานั้นผมไม่สามารถที่จะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกไปได้ ผมทำเป็นว่าไม่รู้สึกรู้สาว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหรือแสร้งทำเป็นว่าผมไม่รู้สึกลำบากใจกับเรื่องทั้งหมดนี้หรอก


ท่านประธานมักจะบอกกับเราเสมอว่า " การใช้ชีวิตเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้มันย่อมจะแตกต่างไปจากสิ่งที่เราคิดเอาไว้โดยสิ้นเชิง เราต้องพยายามทำให้ได้ "


สิ่งที่ผมคิดในตอนนั้นคือ " นี่เราฝึกที่จะเป็นนักร้องทำตามความฝันอย่างเดียวมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ถ้าเกิดเราล้มเหลวในครั้งนี้ละ?? เราจะไปเป็นอะไรได้อีกถ้าไม่ได้รับโอกาสให้เป็นนักร้องในครั้งนี้?? "


ผมเอาแต่คิดหาคำตอบให้กับคำถามนั้น จนไม่สามารถที่จะนอนหลับได้เลยฮะ ในตอนนั้นถึงขนาดที่ว่าถ้านอนหลับก็ต้องฝันร้าย


โชคดี ที่จุดพลิกผันมาถึงในค่ำคืนหนึ่ง คืนนั้นเป็นคืนที่มีพายุและฝนตกแรงมากจนผมต้องไปปิดหน้าต่างเพื่อไม่ให้เม็ดฝนสาดเข้ามาในห้องของผม ตอนที่ผมกำลังวิ่งไปปิดหน้าต่าง ผมสังเกตเห็นสิ่งที่แสนวิเศษบางอย่างเกิดขึ้น


มันคือ แมงมุมตัวน้อยกำลังเร่งถักทอใยแมงมุมอยู่ มันตัวเล็กนิดเดียวแต่ก็ยังพยายามที่จะต่อสู้กับสายฝน มันต้องการที่จะรักษาใยแมงมุมของมันเอาไว้ ผมรู้สึกทึ่งที่ได้เห็นเหตุการณ์นั้นจนถึงขนาดที่ว่าผมลืมว่าตัวเองกำลังจะต้องวิ่งไปปิดหน้าต่าง ผมยืนจ้องมันอยู่นาน จากนั้นก็ตระหนักว่าผมควรจะทำยังไงในช่วงเวลาที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนั้น


"แมงมุมตัวน้อยตัวนั้นรู้ว่าสิ่งที่จะตามมาเมื่อผ่านพ้นค่ำคืนที่พายุกระหน่ำนั่นคือเช้าที่สดใสเจิดจ้าดังนั้นมันจึงไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะต้องพยายามอีกกี่ครั้ง ความปรารถนาที่จะอยู่รอดของมันกับความปรารถนาที่จะเป็นนักร้องของผมมันช่างเหมือนกันเหลือเกิน "


ผมมองเห็นตัวเองในนั้น สำหรับผมแล้ว ความปรารถนาที่จะเป็นนักร้องนั้นมันมีมากเท่าๆกับที่เจ้าแมงมุมปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าหากผมไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จในงานด้านนี้ ชีวิตที่เหลือคงไร้ความหมาย

และนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงต้องตั้งใจพยายามทำงานอย่างหนัก ผมปรารถนาให้เพลงของผมจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย ผมปรารถนาอยากจะเป็น นักร้อง เท่านี้แหละครับ ความต้องการของผม นี่แหละจุดประสงค์ในการมีชีวิตอยู่ของผม

อะไรจะแย่ไปกว่าการที่ต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลวเหรอครับ??
ผมคิดว่า คำตอบคือ ความคิดที่ทำให้เราล้มเลิกที่จะพยายามต่อไปไงละ

[Note: If you want to repost it elsewhere, please include the following disclaimer: I am not doing close translation of every word in the book, just quoting here and there from the sections. And I have paraphrased and summarized so it might contain errors. I am just sharing to spread the love, not hate. If you don’t feel comfortable reading it, please ignore me.And my works has nothing related to any profit making purpose. You are not allowed to reproduce it in any material forms for such a purpose. Thanks for your understanding.]

Source: Shout To The World (Chinese Version)
Eng Translated by: godlovesrice@tumblr.com/rice@bbu
Thai Translation by mew in mini museum

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น