วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สัมภาษณ์ GD 1st Japanese Pictorial ตอนที่ 3

สัมภาษณ์ GD จาก 1st Japanese Pictorial ตอนที่ 3 : เรื่องของบิกแบง

แล้วสมาชิกในวงบิกแบงกลัวคุณไม๊?

ก็ไม่ค่อยฮะ ... (หัวเราะ) แต่ผมกลัวนะครับตอนเจอแทยังครั้งแรก นิสัยของเราทั้งคู่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตอนที่เป็นเด็กผมจะเป็นคนที่เก็บตัวชอบคิดอยู่กับตัวเองแต่ตอนนี้กลายเป็นเค้าที่เก็บตัว ผมรู้สึกอายนิดๆตอนที่เห็นเค้าครั้งแรก แต่เป็นเพราะเราต่างเริ่มฝึกมาด้วยกันผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านช่วงเวลาที่ทรหดมาด้วยกัน เราจึงรู้ใจกันและกันเป็นอย่างดีถึงขั้นที่ว่าตอนนี้มองหน้ากันก็เข้าใจโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรออกมา เราไม่มีเรื่องเข้าใจผิดกันด้วย สำหรับผมแล้วพูดจากใจจริงเลย สมาชิกทุกคนในวงก็เหมือนกับคนในครอบครัวเช่นเดียวกับแทยังก็เหมือนกันครับ มันเป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษและเราต่างก็เคารพซึ่งกันและกัน

งั้น ถ้าจะเปรียบแทยังเป็นสีสีนึง คุณว่าเค้าจะเป็นสีอะไร??

แดงครับ..... เพราะเค้าเป็นพระอาทิตย์ เค้าให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเปลวไฟจากเค้ามันจะร้อนแรงเสมอ เค้าดูเย็นๆภายนอกแต่เต็มไปด้วยความลุ่มหลงภายในครับ

คุณสมบัตินี้ จีดราก้อนก็เป็นเหมือนกันนะ แล้วแดซองละ?

หลังจากที่ได้รู้จักแดซองแล้ว ผมก็ตระหนักว่า บุคคลิก ของคนคนนึงนั้นมีความสำคัญมากแค่ไหน เค้าเป็นคนที่อ่อนโยนเป็นที่สุดและทุกอย่างจะดูสดใสขึ้นมาเมื่อมีเค้าอยู่ใกล้ๆ ถ้าเปรียบให้เค้าเป็นสี เค้าจะเป็นสีเหลือง เหมือนกับหลอดไฟที่ส่องแสงในทุกๆที่

ส่วนซึงรี ....ผมไม่มีความประทับใจแรกกับเค้าเลยครับ (หัวเราะ) ซึงรีได้มาเป็นสมาชิกของบิกแบงผ่านการออดิชั่น ซึ่งจากการค้นหาทางอินเตอร์เนทแล้วผมพบว่าเค้าเข้าร่วมการออดิชั่นมาแล้วมากมาย มันเลยทำให้ผมเฉยๆกับเค้า จนบางทีก็ถึงกับอยากจะไปดัดนิสัยเค้าเลยละครับ

ไม่น่าเชื่อว่าเค้าจะทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นนะเนี่ย??

ซึงรีเป็นคนประเภทที่มีความละโมบมากและมีความหลงใหลในเรื่องต่างๆมากมาย แน่นอนว่ามันคงจะเป็นเรื่องดีนะครับถ้าเค้าแสดงออกมาให้ถูกที่ถูกทาง แต่ผมขอโทษนะครับที่ต้องพูดว่าเค้าแสดงออกมาได้แย่มากๆเลย ( หัวเราะเล็กๆ) เค้าควรจะหาสิ่งที่เฉพาะเจาะจงลงไปเลยและทุ่มความตั้งใจทั้งหมดลงไปในสิ่งนั้น แต่ความสนใจเค้าจะอยู่ได้แค่ 3 นาทีแหละฮะแล้วเค้าก็จะเปลี่ยนไปมองหาสิ่งใหม่ เค้ามักจะเลิกไปซะดื้อๆหลังจากที่เวลาผ่านไปช่วงนึง เวลาที่ผมเห็นแบบนั้นแล้ว ผมมักจะคิดว่า " อ่า...เค้ายังเป็นเด็กมากเลยนะนั่น" ถ้าจะเปรียบเค้าเป็นสี เค้าคงเป็นสีงาช้างครับ จะเหลืองก็ไม่ใช่จะขาวก็ไม่เชิง เค้ายังคงไปไม่ถึงขั้นที่จะสร้างสีสันของตัวเองขึ้นมาได้ดังนั้นผมคิดว่าเค้าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเค้าโตขึ้น ยังไงก็ตามแต่ผมก็คิดว่าเค้าเป็นเด็กที่อ่อนน้อมและน่าเอ็นดูครับ

สำหรับ ท็อป ผมรู้จักกับเค้าตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว ย้อนกลับไปตอนนั้นเค้าเป็นศัตรูตัวฉกาจของผมเลยตั แต่พอ 3-4 ปีให้หลังเราเจอกันโดยบังเอิญ และเค้าก็มาทักผมก่อน หลังจากที่เราปรับความเข้าใจกันแล้ว เราก็เริ่มที่จะเปิดใจเข้าหากันและกันและสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่องครับ

คุณได้ชวนเค้ามาร่วมวงบิกแบงใช่ไม๊??

อืม....ทุกคนมักจะคิดว่าท็อปเป็นหนุ่มสุดหล่อแสนจะสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติเลยใช่ไม๊ฮะ?? แต่จริงๆแล้วเค้ามีจุดอ่อนมากมายเลยทีเดียว (หัวเราะ) แต่ผมคิดว่าเป็นเพราะนั่นแหละฮะเค้าถึงดูมีเสน่ห์มากๆ ถ้าให้ผมเปรียบเค้ากับสี เค้าคงจะเป็นสีชมพู ไม่ว่าคุณจะได้เห็นเค้าหรือฟังเสีียงเค้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเค้าก็จะสร้างความประทับใจที่แสนทรงพลังไว้กับคุณซึ่งมันทำให้ทุกคนจดจำเค้าได้ ซึ่งมีแต่ท็อปเท่านั้นที่ทำได้แบบนี้

แล้วตัวคุณเองละ เปรียบเป็นสีอะไร??

ผมโปร่งใสครับไม่มีสี เมื่อมีสีตกลงมาบนพื้นผ้า ผ้านั้นก็จะมีสี ผมอยากจะเป็นคนแบบนั้นครับและผมกำลังตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อให้เป็นแบบนั้น คุณสามารถพูดได้ว่าผมกำลังเปลี่ยนแปลงช้าๆจากเด็กสู่ความเป็นผู้ใหญ่

ในระหว่างที่แสดงบนเวที จีดราก้อนจะให้ความรู้สึกว่าเป็นคนที่เข้าถึงได้ยาก แต่พอทำงานเป็นพิธีกรคุณดูจะเป็นมิตรมากขึ้นและดูไร้เดียงสาเหมือนเด็กๆมากกว่านะ

ตัวผมบนเวทีกับเวลาปกติจะแตกต่างกันครับ ตอนที่ผมไม่ได้อยู่บนเวทีผมก็จะกลับมาเป็นคนธรรมดาและไม่ได้แสดงออกว่าตัวเองสูงส่งหรือทรงอำนาจเพียงเพราะผมเป็นคนดัง แต่ตราบใดที่ผมอยู่บนเวทีผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำการแสดงออกมาให้ไม่มีที่ติ และ ในการที่จะทำให้การแสดงนั้นออกมาดีที่สุด มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องพาตัวเองให้ดื่มด่ำไปกับการเป็นดาวเด่นบนเวที ครับ

Eng Translation: jwalkervip.tumblr.com

Thai Translation : mew mini museum

===============

ตามอ่าน 2 ตอนแรกได้ตามนี้ค่ะ

สัมภาษณ์ GD 1st Japanese Pictorial ตอนที่ 1

สัมภาษณ์ GD 1st Japanese Pictorial ตอนที่ 2


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น