วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ความเห็นของ GD ต่อสมาชิกในวง BB (Shout 1)

เมื่อ ต้นปี 2009 คงยังจำกันได้นะค่ะว่าน้องๆได้มีการเปิดตัวหนังสือ Shout out to the world ที่น้องๆร่วมกันเขียนขึ้นมาเอง
โดยน้องจีบอกว่าเป็นหนังสือที่เขียนถึงประสบการณ์ต่างๆที่น้องๆรู้สึกและต้องเผชิญกว่าจะมา เป็นศิลปินในทุกวันนี้

ตอนนี้ที่จีนได้ซื้อลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนี้ไปแปล มีวีไอพีที่อ่านจีนได้ สนใจอยากจะแปลหนังสือเล่มนี้มาแบ่งปันกันอ่านค่ะ


ซึ่งในตอนแรกจัดการว่าจะแปลมาให้อ่านกันทั้งเล่มเลยทีเดียวคุยกันไปคุยกันมาก็ติดตรงที่ว่าถ้าแปลทั้งเล่มก็กลัวลุงเรียกตำรวจมาจับ 5555 ถ้าจะแปลโต้งๆทั้งเล่ม
ตอนนี้เลยสรุปจะแบ่งเหมือนกับเป็นสรุปย่อๆ ในตอนที่น่าสนใจมาแบ่งปันกันอ่านแทนค่ะ ซึ่งมิวเห็นว่าก็ดีทีเดียว ตามมาแปลให้อ่านกันค่ะ

ความเห็นของจีดราก้อนที่มีต่อสมาชิกในวง

บิกแบงเป็นวงที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์เหรอ?? ไม่หรอกฮะ เราแค่เป็นคนที่พยายามต่อสู้อย่างหนักเพื่อความฝันของพวกเราก็เท่านั้น

ก่อนที่พวกเราจะเดบิว ผู้คนต่างก็พูดกันว่าเราจะเป็นวงไอดอลที่ร้องเพลง HIPHOP เราจะเป็นวงที่มีพรสวรรค์ในหลายๆด้าน ยังไงก็ตามแต่ผมคิดว่าเราไม่ได้เป็นแค่นั้น เรายังเป็นคนที่พยายามอย่างมากมากเกินกว่าขอบเขตความสามารถที่เรามีด้วยการทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะทำให้งานเบ่งบานออกมาเหมือนกับดอกไม้สวยๆดอกนึง

ผู้คนต่างก็พูดว่าผมลงมือจัดการทุกส่วนในอัลบั้มเอง เพราะผมทั้งเขียนเพลงออกมาเองเขียนเนื้อเพลงด้วยตัวเองและเรียบเรียงมันด้วยตัวเองอีก คุณคิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงเหรอฮะ?? สำหรับผมผมไม่คิดแบบนั้นนะ เราทุกคนในวงต่างก็ทำงานกันอย่างหนักที่จะแสดงตัวตนของตัวเองออกมาในเพลง เราไม่รู้จักคำว่า " พอแล้วละมันโอเคแล้ว" เวลาที่เราอยู่ในสตูดิโอเราจะหยุดก็ต่อเมื่อเราสามารถที่จะหาความเป็นตัวตนของเราในเพลงออกมาได้แล้วเท่านั้น

ความคิดเห็นของ จีดราก้อนต่อ ท็อป

การแร๊พของเค้าโดดเด่นและเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกครับ ซึ่งความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้มีแต่ในการร้องแร๊พเท่านั้นนะครับแต่เมื่อเค้าร้องเพลงก็จะให้คุณภาพแบบเดียวกันนี้เช่นกัน เสียงในการร้องเพลงของเค้ามีความคล้ายคลึงกับเสียงของสัตว์ป่าฮะ

ความคิดเห็นของ จีดราก้อนต่อ แดซอง

แดซองเหมือนกับเป็นเครื่องชงกาแฟฮะ เสียงของเค้าสามารถที่จะปรับเปลี่ยนไปตามความแตกต่างของเพลงประเภทต่างๆได้ เค้าสามารถให้อารมณ์ที่ลึกซึ้งเวลาร้องเพลงเศร้า แต่ก็สามารถที่จะเป็นเสียงที่ให้พลังงานและทะเล้นในเพลง trot ได้ เค้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากในการร้องเพลงฮะ

ความคิดเห็นของ จีดราก้อน ต่อ ซึงรี

ถึงแม้ว่าเค้าจะเป็นเหมือนกับน้องคนเล็กของพวกเรา แต่เค้าก็สามารถที่จะแสดงออกในด้านที่เปื่ยมเสน่ห์ออกมาได้เวลาที่แสดงบนเวที เค้าคิดว่าเค้าควรจะเพิ่มเติมอะไรลงไปในการแสดงเพลง ‘Strong Baby’ และจัดการเพิ่มมันลงไปด้วยตัวเอง เค้าเป็นน้องเล็กที่ขยันทำงานของพวกเราฮะ

เราเติบโตมาด้วยกันแบบนี้แหละฮะ ผมและแทยังต่างก็เห็นตรงกันว่า "เรานึกไม่ออกจริงๆว่าถ้ามีแต่เราแค่สองคนที่ได้เดบิว จะเป็นไปยังไงกัน"

"ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆที่ผมสามารถที่จะฟอร์มวงร่วมกับสมาชิกทั้ง 4 คนนี้ ถ้าหากผมมีโอกาสที่จะได้ฟอร์มวงกับศิลปินที่มีชื่อเสียง ผมคงไม่สามารถมีความสุขได้เท่ากับที่ผมมีในขณะนี้ ฮะ"

Source: Shout To The World (Chinese Version)
Eng Translated by: godlovesrice@tumblr.com/rice@bbu
Thai Translation by mew in minimuseum

มีคอมเม้นซ์ไม่น่ารักเยอะมากเลยค่ะจากที่เค้าบ่นๆมา มิวเลยจะทิ้งหมายเหตุไว้นะค่ะ
disclaimer: I am not doing close translation of every word in the book, just quoting here and there from the sections. And I have paraphrased and summarized so it might contain errors. I am just sharing to spread the love, not hate. If you don’t feel comfortable reading it, please ignore me. Thanks for your understanding.

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Auckland New zealand Trip

กลับมาจากญี่ปุ่นไม่ทันไรก็เดินทางอีกแล้วค่ะ คราวนี้ไปถ่ายโฆษณาที่นิวซีแลนด์
คราวนี้ก็ยังไม่มีน้องแดร่วมทริปกับเรานะค่ะ รอก่อนนะค่ะ รักนะค่ะ

เมื่อวานเดินทางไปกันค่ะ แฟชั่นสนามบินก็ Northface กันทั้งตัวเลยเชียว
จากรูปเห็นมีคนตามถ่ายรูปด้วยคาดว่าน่าจะมีการทำสกู๊ปเบื้องหลังอะไรมาให้เราชมแน่นอน ก็ไปไกลถึงนิวซีแลนด์นี่เนอะ

เมื่อข่าวกระจายออกไป มีวีไอพีที่โอคแลนด์ตั้งใจไปที่สนามบินเพื่อไปรอเจอด้วยค่ะ
และนี่เป็น สาระสำคัญจากแฟนแอคเค้าส์ค๊า


- น้องๆมีคิวต่อเครื่องไป Queentown ค่ะแต่เที่ยวบินยกเลิกเพราะสภาพอากาศเลยติดที่สนามบินค่ะ
- VIP ได้ลายเซ็นมาทุกคนนะค่ะ น้องจีสะกดชื่อเค้าผิดน้องไม่ได้แก้แต่เขียนว่า "sorry" (ขอโทษนะ)ลงไปแทน
- น้องซึงเป็นมิตรมาก และถามVIP คนนึงว่า อาหารอะไรของ NZ ที่อร่อยเหรอ?? วีไอพีก็ตอบไปว่า fish and chip
- เบและน้องซึงดูเหนื่อย เบเล่นเกมส์จาก ipad และหาปลั๊กเสียบชาร์ตซึ่งวีไอพีเสนอตัวจะช่วย แต่น้องตอบว่า ไม่เป็นไร และไปตามหาปลั๊กมาเสียบเองจนได้
-ทาบิไม่ค่อยได้อยู่แถวๆวีไอพีในช่วงที่เค้าไปนั่งสังเกตการณ์ค่ะ ซึ่งได้ยินแว่วๆจากทีมงานว่า ทาบิจะไปซื้อแซนวิชที่ Subway
(ในแฟนแอคเค้าส์ไม่ได้บอกว่าแซนวิชนะค่ะ พูดแต่ Subway มิวคิดว่าไม่น่าจะแปลว่าไปนั่งรถใต้ดินเที่ยวเล่น แต่คิดว่าน่าจะเป็นร้านแซนวิชมากกว่าค่ะ)
- น้องจีเล่นmacbook ต่อไปเรื่อยๆ น้องซึงเพลียนอนไปกับโซฟาค่ะ

-หลังจากที่นั่งกันมาประมาณ ชั่วโมง ทีมงานตัดสินใจที่จะยกเลิกแผนการเดินทางในวันนี้และใช้เวลาอยู่ที่ โอ็คแลนด์ คืนนึงพรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อไปที่ควีนแลนด์ค่ะ

จากการคาดเดาจะอยู่ที่ ควีนแลนด์ประมาณ 1 อาทิตย์ค่ะ

Source: 0125_

Thai Translation by mew in mew minimuseum

วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

All about YGEX

YGEX│G-Dragon: “ผมอยากที่จะเป็นที่รู้จักในตัวของงานเพลงมากกว่าจะมาสร้างกระแสเกาหลีดังไกลทั่วโลกที่กำลังบูมในขณะนี้ครับ"
จีดราก้อนและแทยังแห่งวงบิกแบงได้เข้ามาอยู่ที่บริษัทวายจีเป็นเวลากว่า 10 ปีมาแล้ว และในช่วงเวลานั้นพวกเค้าก้ได้กลายมาเป็นสมาชิกวงบิกแบง ซึ่งเป็นวงไอดอลที่โด่งดังมากและพวกเค้าก็ต่างพิสูจน์ความสามารถของตัวเองในฐานะศิลปินเดี่ยวมาแล้วด้วยเช่นกัน

ดังนั้นการเปิดตัวบริษัทใหม่ YGEX เมื่อวันที่ 21 กรกฏาคมที่ผ่านมามีความสำคัญยังไงต่อพวกเค้า และ เซเว่นคิดยังไงกับการที่จะเข้าบุกตลาดที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ 2?? ซึ่งเซเว่นถือได้ว่าเป็นศิลปินคนแรกที่ทำให้บริษัทวายจีเป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นก่อนวงบิกแบงเสียอีก

ข้างล่างนี้จะเป็นบทสัมภาษณ์ความคิดเห็นของศิลปินจากวายจี Big Bang, Se7en, 2NE1 และ Gummy ในงานเปิดตัวบริษัท YGEX อย่างเป็นทางการ

Q : พวกคุณคิดว่าอะไรคือสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของวายจีค่ะ?

T.O.P:ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดนตรีหรือเรื่องของสไตล์เราพยายามที่จะทำมันออกมาให้เหนือกว่าที่คนอื่นทำก้าวนึงเสมอ ท่านยางฮยอนซอกก็คิดแบบนี้มากๆด้วยเหมือนกันครับ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญนะครับที่เราจะทำดนตรีที่ล้ำหน้าคนอื่นไปแต่เราก็ยังคงซื่อสัตย์กับตัวเองในความจริงที่ว่าเพลงของพวกเรานั้นแตกต่างไปจากเพลงที่คนอื่นเค้าทำกันครับ
GD:ผมอยากจะให้เพลงของบิกแบงไม่ก็เพลงของทั้งครอบครัววายจี ให้เป็นที่รู้จักในตัวของเพลงมากกว่าเป็นเพลงที่มาสร้างกระแสศิลปินเกาหลีดังไกลทั่วโลกที่กำลังบูมในขณะนี้ ผมคิดว่าเราจะพยายามให้คนญี่ปุ่นรู้จักเพลงของเราให้มากขึ้นมากขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะต้องเริ่มต้นในวงการเพลงใต้ดินผมก็ว่ามันเป็นเรื่องดี เป็นเพราะว่ามันเป็นเพลงของบิกแบงหรือเพลงของครอบครัววายจี เราต้องการที่สร้างความมั่นใจในตัวเพลงของเราเองและสามารถได้รับประสบการณ์มากมายด้วย

Q : คุณจำเป็นต้องแข่งกับนักดนตรี Jpop แน่นอนเมื่อคุณเข้ามาบุกตลาดที่ญี่ปุ่น มีศิลปินคนไหนไม๊ที่คุณคิดว่าจะต้องแข่งขันด้วย??

Se7en: ซึงรีได้คาดการณ์พิจารณาในเรื่องนั้นไว้แล้วครับ (หัวเราะ)
Seungri: มันเป็นงานที่ผมถนัดเลยละฮะ (หัวเราะ) จริงๆผมไม่คิดว่าจะมีศิลปินคนไหนที่จะมีสไตล์มาซ้อนทับกับสไตล์ของบิกแบงนะครับ และผู้คนในตลาดที่ญี่ปุ่นนี้ต่างก็โอบอุ้มเราอย่างมากโดยพวกเค้าต่างก็พูดว่าไม่เคยเห็นวงดนตรีแบบไหนที่มีสไตล์แบบเดียวกับเรามาก่อน ดังนั้นผมคิดว่านี่แหละจะสามารถช่วยเราได้ในการทำกิจกรรมที่ญี่ปุ่นนะครับ

Q : ในวงบิกแบง พวกคุณมีแผนการที่จะโปรโมทที่ญี่ปุ่นในฐานะศิลปินเดี่ยวกันบ้างรึเปล่าค่ะ?
Seungri: จริงๆ ตอนนี้ที่เกาหลีเราต่างก็กำลังทำงานในส่วนของงานเดี่ยวของแต่ละคนอยู่นะครับ ดังนั้นผมคิดว่าการที่เราจะมากิจกรรมในฐานะศิลปินเดี่ยวที่ญี่ปุ่นในปีนี้นั้นมีความเป็นไปได้สูง และสมาชิกในวงของเราก็สามารถ ทำงานด้านการแสดงได้และไปปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ต่างๆได้ ดังนั้นผมคิดว่าเราคงสามารถที่จะเข้าไปทำงานในสาขาต่างๆได้กว้างมากขึ้นครับ

Q : งั้นตอนนี้มีรายละเอียดของแผนการในส่วนของ วงบิกแบงหรือในส่วนของงานเดี่ยวบ้างไม๊ค่ะ?
GD: เรายังไม่ได้เซตวันที่ที่แน่ๆเลยครับ ซึ่งจริงๆตอนนี้ทุกคนมุ่งมั่นกับมันในฐานะที่เรากำลังแข่งขันกันว่าถ้าใครสามารถทำเพลงออกมาได้ดีที่สุดในตอนนี้ก็จะคัมแบคออกมาก่อนครับ

Q : แล้วมีแผนที่จะฟอร์มวงในยูนิตพิเศษออกมาอีกไม๊ค่ะ?
T.O.P: เรายังไม่ได้ตัดสินใจอะไรออกมาเลยครับในตอนนี้ แต่อะไรๆก็สามารถเป็นไปได้ทั้งนั้นครับ
Taeyang: คือถ้าหากว่าเราทำเพลงออกมาแล้วมีความเห็นตรงกันและคุยกันว่ามันน่าจะดีเราก็แค่มาทำเพลงร่วมกันอะครับ ทุกอย่างก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ
Seungri: เมื่อเร็วๆนี้ ผมขอให้แทยังมาทำเพลงร่วมกับผมอะครับแต่เค้ากลับรีบเดินออกจากห้องไปเลย ผมเศร้ามากนะฮะ (หัวเราะ)
Taeyang: ฉันไม่เคยเดินหนีออกจากห้องนะ (หัวเราะ)

Q : อัลบั้มเดี่ยวของ แทยัง อัลบัมยูนิตพิเศษของ GDTOP และมินิอัลบั้มของบิกแบงเองได้รับผลตอบรับดีมากๆในอเมริกาเหนือโดยที่ไม่ได้มีการโปรโมทด้วยซ้ำนะค่ะ พวกคุณไม่คิดอยากจะไปบุกตลาดที่อเมริกาบ้างเหรอค่ะ??
T.O.P:ผมคิดนะครับว่าในตอนนี้ มันสำคัญมากกว่าที่จะให้คนอยากจะติดตามเรามากกว่าที่เราจะไปวางแผนในรายละเอียดต่างๆในตอนนี้ครับ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับพวกเราที่จะต้องทำให้พวกเค้ามาสนใจเราโดยที่ให้พวกเค้าต้องการอยากจะดู MV ที่ทางวายจีทำออกมามากขึ้นในตอนนี้ฮะ

Q : แทยังค่ะเร็วๆนี้คุณได้ไปทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันที่โด่งดังในนาม underdog คุณมีแผนการที่จะไปบุกตลาดในอเมริกาบ้างรึเปล่าค่ะ??
Taeyang: การที่ได้มีโอกาสไปทำงานกับ underdog นั้นเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากครับ การที่เราได้มาทำงานด้วยกันเป็นเพราะว่าเราต้องการที่จะทำงานเพลงที่เราต้องการที่จะทำร่วมกันออกมามากกว่าที่จะตั้งใจไปทำมันเพื่อการเดบิวที่อเมริกาของผมนะครับ ซึ่งผมอาจจะไปเปิดตลาดที่อเมริกาหากผมมีการเตรียมการที่พร้อมแล้วจริงๆ ซึ่งในตอนนี้มันยากที่จะพูดออกมานะครับว่ามันจะเกิดขึ้นได้หรือไม่

Q : มีอะไรที่คุณอยากจะพูดกับแดซองที่ไม่ได้มาร่วมงานในวันนี้ไม๊ค่ะ??
GD: เราต้องการที่จะมาด้วยกันทั้งหมดในวันนี้ครับ แต่เราก็ต้องขอโทษด้วยฮะที่มันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งเราเป็นทีมครับดังนั้นผมคิดว่าเราจะยืนหยัดเพื่อเค้าด้วยใจของเราและจะคอยเฝ้ามอง มากกว่าที่จะแสดงออกมาด้วยคำพูด เราต่างเป็นห่วงเค้าเสมอและเค้าก้เป็นห่วงเราเสมอ ดังนั้นผมหวังมากๆว่าเราจะสามารถกลับมาทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างแน่นอนไม่วันใดก็วันนึงแหละครับ

via asiae
shared by miseremei @ tumblr

Thai Translation by mew in mini museum

===============

เหตุผลที่วายจีร่วมมือกับ Avex

ในวันที่ 21 กรกฏาคมที่ผ่านมา ท่านยางฮยอนซอกได้พูดถึงความมั่นใจของเค้าที่มีต่อพลังของวงการ Kpop ในงานแถลงข่าวเปิดตัว YGEX

ในการให้สัมภาษณ์ ท่านยางได้กล่าวว่า " เหตุผลที่วายจีรู้สึกเฉยๆกับการที่จะไปบุกตลาดในระดับสากลเป็นเพราะว่า วายจีได้ใช้เวลานานมากในการสร้างเพลงเพลงนึงออกมาดังนั้นเราจึงต้องการที่จะ ทำงานที่เกาหลีมากกว่าจะไปทำตลาดที่ญี่ปุ่นหรือในยุโรป"

เค้ากล่าวต่อไปว่า " หลังจากที่บิกแบงได้เดบิวที่ญี่ปุ่น ผมบังเอิญได้พบกับ CEOของทาง Avex คุณ Max Mastuura ซึ่งเรามีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกัน คือเราทั้งคู่ชอบตกปลาเป็นการอดิเรก ในตอนที่เราพูดคุยกันเรื่องดนตรี เราก็เริ่มที่จะฝันว่าจะร่วมกันสร้าง YGEX ขึ้นมา ซึ่งเงื่อนไขแรกเลยคือ ผมไม่อยากที่จะปรับแนวเพลงของวายจีไปเพียงเพื่อต้องการให้มันเหมาะสมกับตลาด ที่ญี่ปุ่นและคุณ Matsuura ก็สัญญาว่าจะเคารพในงานในแบบของเราและจะไม่เปลี่ยนมัน"

ในเรื่องที่ KPOP ได้เข้าไปสู่ตลาดในอเมริกาและในยุโรปแล้ว ท่านยางกล่าวว่า " คุณภาพในลักษณะต่างๆในเพลงในแบบ KPOP มันสูงมากและมันสามารถเข้าถึงได้ทุกมุมโลก ความสามารถที่จะไปเจาะตลาดที่ใดนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ผมมองตลาดในอเมริกาโดยมองผ่านตลาดที่ยุโรปซึ่งคิดว่าตลาดอเมริกาน่าจะเปิด กว้างในอีก 2-3 ปี"

ขั้นแรกนี้ ทาง YGEX จะออกเพลง I am the best ของสาวๆ 2ne1ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น และยังออกซิงเกิลอีก 2 เพลงในวันที่ 10 และ 31 สิงหาคม และจะเดบิวอัลบั้มญี่ปุ่นในวันที่ 21 กันยายน และในวันที่ 19 กันยายนจะเริ่มทัวร์ที่ญี่ปุ่นโดยเริ่มจากที่ โยโกฮาม่า ตามด้วย โกเบและชิบะ ตามลำดับ

Source + Photos: Sports Chosun via Nate credit to AKP
Thai Translation by mew in mini museum

======================

เมื่อวานนี้ YG ได้ร่วมมือกับ Avex เปิดตัวค่ายเพลงใหม่ YGEX ขึ้นมา ในงานแถลงข่าวท่านยางได้ตอบคำถามนักข่าวว่า

" วันนี้แดซองไม่สามารถมาร่วมงานได้ ซึ่งในปีนี้เค้าคงจะจำกัดการปรากฏตัวไปก่อน เนื่องจากเค้ารู้สึกผิดหวังกับตัวเองและรู้สึกขอโทษต่อสมาชิกในวงทุกคน ดังนั้นบิกแบงคงไม่ได้มีการโปรโมทอะไรใหม่ในปีนี้เพื่อรอให้แดซองกลับมา ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจจะทำให้แฟนๆที่รอคอยผิดหวัง

ในส่วนของสมาชิกคนอื่นๆที่ทำงานในส่วนงานเดี่ยวและในแบบยูนิต ก็จะเดินหน้าต่อไป และจะเริ่มตามแผนคือในเดือนกันยายน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการทำงานใหม่ในนามบิกแบง แต่คิดว่างานเดี่ยวและงานยูนิตพิเศษต่างๆนี้จะช่วยแก้ความผิดหวังที่แฟนๆมี ออกไปได้"

Source: Naeil News via Nate News Thai Translation by mew in mini museum

SR Shoes collection

คอลเลคชั่นรองเท้าของน้องซึง ในนิตยสาร Instyle ฉบับเดือนกรกฏาคม 2011
ดูตามรูปไปนะค่ะ

#1: น้องซึงรับข้อเสนอของน้องจีโดยยอมเอาแจ็คเก็ต 3.1 Philip Lim ไปแลกกับรองเท้า Lanvinคู่นี้
#2: ในคอลเลคชั่นรองเท้าที่สะสมอยู่รองเท้า Lanvin คู่นี้เป็นรองเท้าที่หายากที่สุดน้องซึงไปหาซื้อที่ไหนก็ไม่มี แต่มีแฟนๆหาเจอและซื้อมามอบให้น้องเป็นของขวัญค่ะ
#3: น้องซึงซึ้อรองเท้าผ้าใบของ YSL นี้ที่ลาสเวกัส เพราะคนขายน่ารักมากๆจนน้องไม่ลังเลและถอยทันทีค่ะ
#4:น้องซึงสวมรองเท้าผ้าใบ คู่นี้ตอนที่บิกแบงชนะรางวัลครั้งแรก

Source: SeungriCN.com
Translation: jwalkervip.tumblr.com
Thai Translation by mew in mini museum

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Q&A Bigbang จากนิตยสาร ViVi Japan สิงหาคม 2011


อะไรจะมาเข้ากับสถานการณ์ได้ถึงเพียงนี้ เป็น คำถามถามตอบสั้นๆในนิตยสาร ViVi ฉบับเดือนสิงหาคม 2011 ค่ะ คำถามถามได้เข้ากับสภาพเปื่อยๆตอนนี้ของมิวได้เป็นอย่างดี ใครที่กำลังจิตตกอยู่ลองอ่านดูนะค่ะ
============

Q: คุณจะทำยังไงให้ตัวเองกลับมาร่าเริงเมื่อรู้สึกจิตตกค่ะ?? มีวิธีไหนแนะนำบ้าง

VI: เมื่อคุณไม่สามารถที่จะคิดถึงอะไรได้เลย ขอให้คุณลองไปเพลงอะคลูติกสบายๆที่คุณชอบฟังและเต้นตามดูครับ มันจะช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนกับว่าเห็นดาวดวงที่สดใสที่สุดในช่วงฤดูร้อนทันทีทันใดเลยฮะ


น้องเล็กของวงได้แนะนำวิธีของเค้าที่เค้าใช้เวลาที่เค้ารู้สึกจิตตก เค้าจะเต้นเพื่อที่จะได้ปลดปล่อยอารมณ์เศร้าทั้งหลายออกไป จริงๆแล้ว VI เป็นนักเต้นที่ทรงพลังมากๆ และผู้คนก็ล้วนได้เป็นพยานในด้านที่กระตือรือร้นนี้ของเค้ามาแล้ว

D-Lite: ไม่ว่าจะยังไง ขอแค่ยิ้มเท่านั้นครับ เวลาที่คุณยิ้มคุณจะมีความสุข

D-Lite เป็นคนที่อารมณ์ดีและให้ความรู้สึกอบอุ่นใจแก่เรา เค้ายังบอกกับทาง ViVi ว่า " ผมไม่ใช่คนที่พูดเก่งนักหรอกครับแต่ผมชอบมองผู้หญิงเวลาที่พวกเธอกำลังพูดอยู่" หลังจากที่เราได้พูดคุยกับ D-Lite เราก็รู้ว่าสิ่งที่มีเสน่ห์มากที่สุดในตัวเค้าคือ รอยยิ้ม

T.O.P: ผมมักจะทบทวนตัวเองเสมอๆเพื่อที่จะแบ่งห้องว่างในใจสำหรับตัวเองครับ และผมมักจะใช้เวลากับตัวเองเพื่อคิดถึงปัญหาต่างๆ

"ตอนที่อัลบั้มชุดล่าสุดนี้ออกมาใหม่ๆ ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและเป็นผู้ชายที่ซุกซนด้วย"


และนี่คือท็อปที่มีลักษณะเหมือนกับตัวการ์ตูนของเรา เค้ามีภาพลักษณ์ภายนอกที่สง่างามแต่ในขณะเดียวกัน ด้านที่สนุกสนานซุกซนของเค้าก็เป็นที่เลื่องลือมากด้วย การที่ท็อปเน้นความแข็งแกร่งในตัวเองด้วยการมองทบทวนตัวเอง นี่แหละสมกับที่เป็นชายหนุ่มเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวของเราจริงๆ

SOL: ผมรู้สึกขอบคุณครับไม่ว่าผมจะต้องเจอสถานการณ์ยังไงหรือว่าเรื่องมันจะซ้ำซากน่าเบื่อแค่ไหนก็ตามในชีวิตนี้ของผม ถ้ามันเป็นเรื่องที่ผมทำได้ ผมก็รู้สึกพอใจอยู่เสมอครับ

"ผมจะเอาคัมภัร์ไบเบิลติดตัวไปครับถ้าผมต้องไปอยู่คนเดียวบนเกาะ" คำตอบนี้ของเค้าเป็นข้อพิสูจน์ว่าเค้าเป็นชาวคริสต์ที่มีความเชื่อที่มุ่งมั่น ระหว่างการทัวร์คอนเสริต์ love and hope เค้าได้พูดว่า

"เราขอบคุณและเราได้อธิษฐานเผื่อทุกคน" ซึ่งเป็นประโยคที่แสนจะอบอุ่นที่ sol มอบให้กับแฟนๆชาวญี่ปุ่นของเค้า

GD: ผมชอบที่จะได้ยินเสียงคนที่ผมรักในเวลาที่จิตตกครับ อย่างเช่น ผมอาจจะไปหาพวกเค้าฟังพวกเค้าพูดไม่ก็จะโทรศัพท์ไปหาครับ ทุกครั้งที่ผมทำแบบนี้ความเครียดของผมก็จะทุเลาลงครับ

หัวหน้าของวงซึ่งเก่งไปรอบด้าน จีดราก้อนเป็นคนที่เงียบๆและรอบคอบ ทำให้วิธีการที่จะทำให้ตัวเองร่าเริงขึ้นมาได้อีกครั้งก็ยังเป็นวิธีที่เงียบๆ เค้ามักจะพูดคุยกับคนที่เค้าชอบเพื่อที่จะหายจากอาการเศร้าซึม และนี่เป็นวิธีที่เค้าจะทำเพื่อให้เค้ากลับมามีแรงอีกครั้ง

Scanned and translated by: Rice @ bigbangupdates.com
Thai Translation by mew in mew mini museum

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

TOP so in love with manager ??

ในขณะที่ทาบิยังลัลลาต่อเนื่องที่สิงคโปร์และทำให้มิวเกิดอาการเพลียจริงๆ 5555555 (หวงอ่า หวงงงง) ถ้าเกิดทาบิอินเลิฟกับพี่ผู้จัดการจริงๆก็น่าจะดีนะค่ะ ไม่ก็ไปรักกับน้องจีเถอะไป๊


TOP: มีข่าวซุบซิบเกี่ยวกับผมกระจายออกไปมากเลยละฮะ เรื่องที่ว่าผมเดทกับพี่ผู้จัดการฮะ

GD: พูดตามตรงนะฮะ ดูไปดูมามันก็เหมือนจะเป็นเรื่องจริงนะฮะ พวกเค้าขับรถออกไปที่แม่น้ำฮานด้วยกันทุกคืนเลยละฮะ สองต่อสอง และ จะไม่กลับหอเลยฮะถ้ายังไม่เที่ยงคืน
นอกจากนี้ทั้งสองคนก็ยังชอบไปร้านกาแฟด้วยกันไปดูหนังด้วยกันอีก ในฐานะที่เป็นผู้จัดการของพวกเราทั้งหมด พี่เค้าควรจะดูแลทุกคนสิฮะ

โอเค คุณ KimJongEng คุณผู้จัดการครับ กรุณาอย่าพรากพี่ท็อปไปจากเราเลย เรายังเป็นเด็กและเราก็ขี้อิจฉานะฮะ ล่าสุดเลย มีเรื่องเศร้าเกิดขึ้นนะฮะ
เรื่องมีอยู่ว่าพี่ผู้จัดการออกไปข้างนอกในระหว่างที่เราซ้อมพอเราซ้อมเสร็จ เดินลงจากเวทีมาเราก็เห็นพี่เค้าถือกาแฟถ้วยนึงไว้ในมือ เราต่างก็สงสัยว่าพี่เค้าจะยื่นกาแฟแก้วนี้ให้ใคร แต่ก่อนที่จะได้สบตากับพี่เค้าพี่เค้าก็วิ่งไปหาพี่ท็อปแล้วยื่นกาแฟให้พี่ท็อป พูดว่า " ท็อป ดื่มซะสิ" พวกเราเลยต้องประท้วงออกไปว่า " พี่ฮะ เรามีกันอยู่ห้าคนนะฮะ ทำไมพี่ซื้อมาให้แค่คนคนเดียวเท่านั้นละ??" พี่เค้าก็ตอบมาว่า " อ่า ก็ฉันนึกว่าพวกนายไม่ดื่มกาแฟนิ" นั่นมันคำแก้ตัวชัดๆเลยฮะ

TOP: แต่พวกน้องๆก็ไม่ดื่มกาแฟกันจริงๆนะฮะ

GD:
….(.......) ก็ตอนนั้นผมอยากจะดิ่มกาแฟนั่นจริงๆนะฮะ

Source: http://bit.ly/ooqjKP (070214 MTV Sunny Side)
Eng Trans: jwalkervip@tumblr Thai Translation by mew in mew mini museum

P.S พี่ผู้จัดการคนที่ว่านี้ไม่รู้ว่าใช่พี่แบงแองรึเปล่านะค่ะ เพราะเมื่อก่อนพี่แบงแองก็ดูแลบิกแบงทั้งวงมาก่อน
แต่ชื่อไม่เหมือนกันอะค่ะ พี่แบงแองชื่อ Lee Hyung yung แต่ alida แปลว่าชื่อ Lee Jong eng ซึ่งไม่รู้ว่า น้อง alida อ่านจีนมาผิดหรือว่าชื่อเป็นแบบนี้ ถ้าใครมีเบาะแสก็กระซิบบอกมิวทีนะค่ะ

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

A Little something to put a smile on your face Part 2


ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึงนะค่ะ
=====================

- สมัยที่น้องแดยังคงเป็นเด้กฝึกหัดที่มาใหม่ในบริษัท เมื่อถึงเวลาต้องออกไปทานข้าวกับสมาชิกในวงคนอื่นๆ

TOP: แดซองอ่า อยากจะทานบะหมี่ใช่ไม๊??
Daesung: ….(เอาแต่ยิ้ม)
TOP: (ชักจะงงๆๆแล้ว) แดซองอ่า อยากจะทานข้าวมากกว่าใช่ไม๊ละ??
Daesung:… (ยิ้มกว้างกว่าเดิม )
TOP:…
(รอกันอยู่พักใหญ่)
Daesung: (กระซิบๆ) จริงๆผมอยากทานข้าวมากกว่าฮะพี่
TOP:…

-ในรายการทีวี พิธีกรขอให้น้องซึงบอกคำพูดที่น้องซึงจะพูดกับน้องแดเมื่อเกิดสถานการณ์สมมุติแบบต่างๆที่ทางรายการจะสมมุติขึ้นมาให้ ดังนี้

เหตุการณ์ที่ 1:เมื่อน้องแดถูกลอตเตอร์รี่
Seungri: พี่ฮะ เราอยู่ทีมเดียวกันใช่ไม๊

เหตุการณ์ที่ 2: เมื่อน้องแดเพิ่งจะถูกสาวทิ้ง.
Seungri: พี่ฮะ ประชากรในโลกนี้ ครึ่งนึงเป็นผู้หญิงนะฮะ

-ในรายการทีวีน้องจีเคยเ่ล่าว่า " ครั้งแรกที่ผมเจอ ท่านประธานยางฮยอนซอก ตอนนั้นคุณแม่ไปกับผมด้วย พอคุณแม่ออกไปจากห้องเพื่อทำธุระ ท่านยางก็รีบเข้ามาพูดกับผมว่า ถ้าคุณแม่กลับมาละก็ ต้องร้องไห้เลยนะ บอกว่าอยากจะมาอยู่ที่นี่ โอเคไม๊?? ไม่ว่ายังไงก็ตามแต่บอกให้คุณแม่เซนสัญญาเข้าบริษัทให้ได้ เข้าใจนะ"

- เมื่อพิธีกรถามความเห็นของทาบิและน้องจีที่มีต่อท่านประธาน วายจี

TOP: เป็นเพราะว่าเค้าดูแลเราอย่างดีมากเลยครับผมคิดว่าเราก็เหมือนกับลูกๆของเค้าฮะ
GD: …ถ้าหากว่าเราไปโรงเรียนและแต่งเพลงออกมาได้ เมื่อเอาไปให้เค้าลองฟังเค้าก็จะเริ่มเต้นไปด้วยระหว่างที่ฟังเพลงที่แต่งมาใหม่นั้นฮะ และเวลาออกไปทานข้าวด้วยกัน เค้าก็มักจะทานของดีๆไปก่อนเสมอ

-ในรายการทีวี
GD: จริงๆแล้วผมเปรียบได้กับเป็นพ่อประจำวงบิกแบงก็ว่าได้ฮะ
Taeyang: งั้นผมก็คงเป็นแม่สินะ .

- MC Mong: คำพูดที่ว่า" ถ้าเค้าไม่ทำแบบนี้ที่หอจะดีมากเลย ฉันคิดว่าเค้าควรจะเลิกทำพฤติกรรมแบบนี้ได้แล้ว" "เค้า" ที่พูดถึงในประโยคนี้คือใครกันครับเนี่ย??
GD: แทยังครับ เค้าชอบเดินไปเดินมาในห้องสวมแต่กางเกงในอะครับ
Taeyang: อ่า.......ฉันคิดว่านายจะยอมรับในนิสัยข้อนี้ของฉันแล้วซะอีก
MC MONG: ว่าแต่เค้าสวมกางเกงในแบบไหนกันครับ??
GD: แบบที่รัดๆอะครับ
TOP:และส่วนใหญ่อยู่ในโทนสีแดงอะครับ.
GD: มันเซ็กซี่มากก็จริงอยู่นะฮะ แต่ผมคิดว่าเค้าควรจะเลิกทำแบบนี้ได้แล้ว .
Taeyang: ไม่ใช่แค่ผมนะฮะที่มีกางเกงในสีแดงหลายตัว จริงๆผมไม่ชอบสีแดงนะครับแต่ผมแค่มีกางเกงในสีแดงเยอะแค่นั้นแหละฮะ
GD: ถ้าคุณเป็นท่านประธานบริษัทผลิตกางเกงในนะครับ กรุณาจ้างแทยังไปโฆษณาสินค้าของคุณด้วยครับ เค้าเป็นคนที่มีก้นสวยมากจริงๆนะฮะ

-เมื่อตอนที่น้องจียังเด็กต้องขอเงินค่าขนมจากพ่อแม่ เค้าต้องเก็บเงินและคำนวณก่อนทุกอย่างก่อนที่จะออกไปฉลองวันครบรอบกับแฟน น้องจีคิดว่าจะพาแฟนออกไปทานข้าวที่ร้านอาหารดีๆหรูๆและพาไปดูหนัง ต้องคำนวณว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ แล้วก็ออกบ้านไป
ปรากฏว่าสาวเจ้าพาเพื่อนอีก 5 คนมาด้วย น้องจีได้แต่อึ้ง สุดท้ายก็ต้องบอกไปว่าไม่สบาย และรีบกลับบ้าน

-เรื่องประทับใจที่ทาบิมีต่อน้องซึง
TOP: ซึงรี จะเหมือนกับระเบิดเวลาฮะ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเค้าจะระเบิดออกมาเมื่อไหร่??(หัวเราะ)
ถึงแม้ว่าเวลาที่เราทำงานเค้าจะไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นแต่เวลาส่วนตัวเค้ามักจะทำให้พวกเรากลัวกันเสมอ

เช่น วันนึงเค้าซื้อรถมาใหม่เลยฮะ แต่ผมไม่เคยเห็นเค้าขับเลย ดังนั้นเลยเข้าไปถามเค้าว่า " ทำไมนายถึงไม่ยอมขับรถละ??" กลายเป็นว่าใบขับขี่ของเค้าโดนยึดไปฮะ เค้าดูเป็นตัวปริศนาสำหรับผมฮะ (หัวเราะ)
แต่ยังไงก็ตาม มีเรื่องมากมายหลายสาขาเลยที่ผมนับถือเค้ามากๆ อย่างเช่น เวลาที่เค้าเจอคนอื่นๆเป็นครั้งแรก เค้าจะไม่ทำตัวเป็นคนแปลกหน้าแต่จะพูดคุยกับคนคนนั้นอย่างเป็นมิตรและสนิทสนม ซึ่งลักษณะแบบนี้ทำให้ผมชื่นชมเค้าครับ อีกเรื่องนึงคือ เค้าเป็นคนที่ไร้เดียงสามากๆ ไม่ว่าเค้าต้องการจะทำอะไร เค้าจะแสดงมันออกมาผ่านสีหน้าของเค้า ซึ่งเรื่องนี้เค้าไม่อาจจะปิดบังเอาไว้เป็นความลับได้ฮะ

Source excepted the last one : BAIDU
Eng Translated by:Ricekwon@twitter/rice@bigbangupdates.com doing for @esakwan onnie
The Last one Source: DCGD + G-one.me (August, 2010 Exile Magazine)
Eng Translated by: jwalkervip.tumblr.com
All Thai Translation by mew in mew mini museum

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ข้อความ Cyworld ของทาบิและน้องจี 2005-2006

อ่านเองยิ้มเองไปมา นึกท่าทางของน้องจีไปด้วย แลดูมีความสุข
จริงไม่จริงไม่รู้ รู้แต่ว่าน่ารักกกก 55555
แปลจาก Cyworld เมื่อก่อนของทาบิและน้องจีนะค่ะ ประมาณปี 2005-2006
เท่าที่รู้ตอนนี้ปิดกันไปหมดแล้ว ของน้องจีเปิดไว้แต่ไม่ได้โพสเลยค่ะ
ช่วงทำโซโล่ HB เห็นมาเปลี่ยนรูป เปลี่ยนเพลงอยู่ แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวมากกว่านั้น

ข้อความใน Cyworld น้องจีส่งไปให้ทาบิ
(เค้าว่ากันว่า เต่าน้อยจะหมายถึง ทาบิ เปลือกหอยหมายถึงน้องจี มิวอ่านแล้วไม่น่านะค่ะ
แต่น้องจีน่าจะเรียกทาบิว่า เต่าน้อยจริงๆ ส่วนหอย คือ หอยที่เป็นอาหารตามนั้นอะค่ะ)

3/28 - ใต้นภา เหนือแผ่นฟ้า มีแค่คนเดียว ที่เยี่ยมที่สุด หน้าตาดีรูปร่างดี
ท่านชเว เรามาตามเค้ากันเถอะ oppa เยี่ยมที่สุด
4/3- aiiiiiiiiiiiiiiiiiiii~~~~~~~~~~~~~~ght

4/3- ถ้านายหลับอยู่ละก็ ก็จะเปล่าประโยชน์ไปอีกวันละนะ ( น่าเบื่อจัง)

4/4- ㅋㅋฉันจะทำยังไงดีเนี่ย ควรจะซื้อรึเปล่า?? ㅋㅋㅋㅋ

4/4- ฉันต้องการซื้อมากเลยนะ … ไม่รู้สิ…ㅋㅋㅋ

4/8- อยู่ที่ตลาดเมื่อวานนี้ ~~~ㅋㅋㅋ

4/17- เต่าน้ิอยย~~~ฉันจะไปเจอวันพรุ่งนี้นะ~~ไม่ก็หลังจากนี้วันนี้แหละ

4/18-งานนี้มันเข้าท่า

4/24- เต่าน้อย เต่าน้อย เต่าน้อย..

4/25- ยินดีปรีดา ~~

4/27- เฮ้ๆๆๆ เต่าน้อย

4/30- ตื่นได้แล้ว ขยับตัวได้แล้ว ลุกขึ้นและมาหาฉันด้วย โถ่เว้ย

5/2- เฮ้อ เต่าน้อยพยายามจะเป็นมังกรที่โรงเรียนเหรอ ฉันมันไม่เอาไหน

5/6- มนุษย์เต่า เอาลูกแก้วมาให้หน่อย

5/8- เหนื่อยและเบื่อมาก แต่ยังไงก็เถอะบอกมาตามตรงว่านายอิจฉาอาหารของฉันใช่ไม๊ละ??

5/9- พูดตามตรงนะ ยังหรอก พี่มืดเทมโป้

5/9- นายเปลืกหอยที่แสนจะน่ารัก และเทพเจ้าเต่าชเว

5/12- โย่ เต่าแร๊พ พี่สาวอยู่ข้างๆที่ lotte worldนะ

5/13- นายชอบมันจริงๆนะเนี่ย ㅋㅋ

5/14- เปลือกหอยยยยย.......เต่าน้อยยยยย.......เปลือกหอยยยยยยยย

5/14- เปลือกกกกกกหอยยยย......บ้าเอ้ยยย ฉันหิวจริงๆ

5/15- ㅋㅋ นายก็รู้ฉันรู้สึกประหม่า จริงนะ?

5/16- โฮะๆๆๆๆๆ เรานี่เชื่อไม่ได้จริงๆ

5/17- อ่า ฉันนี่ก็เซ้นซ์ดีจริงๆ ㅋㅋ

5/19- ขาฉันก็ยังไม่มีแรงอยู่ดีนั่นแหละ …

5/21- เหตุใดท่านจึงไม่รับโทรศัพท์์รึ?

5/22- อินไปกับพี่ๆ M2…

5/23- ทำไมเหรอ? รู้สึกท่วมท้นเกินจะเข้าใจ…หุหุ

5/24- เป็นพวกบ้าหอยไปแล้วเหรอ…ㅋㅋ เต่าน้อยผู้ที่ทานหอยสามมื้อต่อวัน

5/25- อะไรกัน มันไม่ดีหรอกเหรอ หุหุ

5/27- ㅋㅋㅋ จริงเหรอนั่น? บอกมาๆ…หุหุ

5/29- พี่ฮะพี่รักหอยมากกก มากกกเกินไป วันนี้เป็นครั้งแรกใช่ไม๊หลังจากที่หยุดไปนาน?? ไม่ใช่เหรอ?? หุหุ

6/1- เปลือกหอย เปลือกหอย เปลือกหอย

6/8- มันนานมากเลยนะหลังจากครั้งสุดท้ายที่เจอนายอะ

6/9- อ่าาาาาา………………..

6/11-คุณครับอยู่ไหนวะครับ

6/13- เชื่อว่าจะได้นายเป็นเพื่อนไปทะเลนะ??ก็เป็นคนแรกที่ไปทะเลได้เร็วที่สุดเลยนี่

6/14- brrrp

6/15- ปะไปกัน.!

6/23- เร็วกว่า jooryunเหรอ? ไม่ๆๆๆเร็วกว่า jo hyeryunอีก เห็นๆกันอยู่

6/17- อยากกินหอยจัง พี่อยากด้วยรึเปล่า?? เต่าน้อย??

6/18- นายต้องแปลงร่างเป็นคนก่อน?!

6/22- brrp!

6/24- วันนี้ไม่ไปนะ~~จะไปซื้อหอย

6/27- พี่ฮะ วันนี้พี่ไม่มาอ่า ㅡㅡ

7/1- ก็แค่อยากจะเจอนี่

7/5- โอเค พ่อคนแสนหยิ่ง
7/8- ฉันอยากจะเจอนายนะ ฉันเริ่มจะลืมความแปลกๆของนายแล้วรู้ไม๊?
7/9- พ่อคนแสนหยิ่ง
7/9- หัวของฉัน หัวของฉ้านนนน~~~
7/12- piekki
7/12- piekki = piggy
7/12- ชิส์ ฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันอยากทำ
7/14- brp!
7/18- มาสิมาสิมาสิ สู้กันมะ??
7/21- พี่ฮะ ก้นของพี่มันห้อยมากเลยเชียว..
7/27- เต่าน้อย.. ไม่มีความสม่ำเสมอเลย..ㅋㅋ
8/8- โทรมาก่อนสิ
8/8- นายไม่มีเซ้นซ์เอาซะเลย .....โอเค ซื่อเกิ๊น
8/12-เอาซีดีมาด้วยㅡㅡ
8/18- ㅋㅋขอบคุณนะ โทรมาด้วย ขี้เมา
8/22- ก็เท่าที่นายรู้นั่นแหละ….ㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋ
8/25- เต่าน้อยยย
8/26- โอเค
8/30- โอเค
9/12- ยังไงก็ได้
9/16- wu wu wu wu wu wu
9/17- หุบปาก~~~^^
9/22- ฉันป่วยและมันเกิดอาการติดเชื้อที่รูจมูกด้านซ้าย
9/24- สะอึกสะอื้น
9/26- เอาซีดีมาให้ฉัน
10/21- พี่ฮะพี่กำลังจะบ้าแล้ว…
10/24- ฉันไม่คิดว่ามันจะดีนะ
10/25- ฉันก็เป็นแบบนี้มาโดยตลอด
10/27- นายอยากจะเป็น เต่า
10/28-ดูหน้าฉันซะก่อน??? ฉันดูเหมาะกับลายม้าลายรึไง??
10/31- รีบหน่อยและมาได้แล้ว
11/04-ขอให้มาตรงเวลาด้วยนะ พวกเด็กฝึกทั้งหลาย ขอให้อ่อนน้อมกับรุ่นพี่ด้วย ㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋㅋ
11/06- ยินดีเสมอครับ ฉันจะให้ของขวัญนายแน่ รอไปเถอะ
11/13-ฉ้านนนนนโทรรรรรไปนะะะะะ
11/21- ยากที่จะปรับตัวนะ ㅋㅋ
11/22- ลูกแมวน้อย
11/22- นอนไม่หลับ
11/22- นอนไม่หลับ แต่พี่กลับกำลังนอนสบายอยู่ในห้องข้างๆ
11/27- ทำต่อไป
11/30- โดดเรียนและนอนเฉยๆ
11/30- โอเค
11/30- ฉันอยากเจอนายมากๆเลย เร็วๆจะได้มานอนด้วยกัน มันยากใช่ไม๊?? สู้ๆนะ
12/02- royal battle
12/12-ฮยอนซึงจะฆ่านายในไม่ช้านี่แหละ ระวังตัวด้วย
1/1-สุขสันต์วันปีใหม่ครับคุณ
1/6-ผมทำไม่สำเร็จเลยเพราะพี่ชายของผมไม่ได้มาอยู่ที่นี่ด้วย
1/8- ใช่เลย
1/10-เลิกเล่น cyworld และเริ่มซ้อมได้แล้ว
1/10- ข้อแก้ตัว…
1/11- อยู่ไหนเนี้ย
1/21- ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มันจะต้องดีแน่?!^^
1/21- ใช่เลย!!! แต่ฮยอนซึงยึดหอเราไปแล้วอ่า
1/22- ฮยอนซึงกี้ เป็น พระราชา

ข้อความใน Cyworld ทาบิส่งไปให้น้องจี
(เนื่องจากทาบิเซต ข้อความตัวเองเป็น private ทั้งหมดค่ะ ได้มาเท่าที่เห็น)

1/26- หุบปากเถอะขอร้อง มันเริ่มน่ารำคาญแล้วนะ มันไม่ใช่อะไรที่นายจะต้องมาทำใหม่อีกครั้งซักหน่อย ฉันบอกไปแล้วไงว่า เสียใจ
อย่ามาทำให้ฉันโมโหนะ ฉันขอโทษไปแล้วด้วย อย่ามาพูดแบบนั้นด้วย

7/27- ไม่สนนายแล้ว นายมันน่ารำคาญจริงๆ


ข้อความใน cyworld ที่ทาบิส่งให้คนอื่น

9/14-พี่ฮะร้าน Converse กลับมาแล้วนะ
9/21-พี่ฮะ ผมคิดถึงพี่ ㅋㅋ
9/22- ฉันคิดว่านายเข้าใจฉัน
9/26-พี่ฮะผมโกหกไม่ได้หรอก แต่ จียงวันนี้นายโดนฉันปล้ำไป จำได้ไม๊??


วันเสาร์ที่หอ หลังจากที่เราทานอาหารลงไป 7 ชาม

เรานอนไม่หลับ
ดังนั้นเลยเริ่มที่จะถ่ายรูปเล่น
มันเป็นความคิดที่ดีทีเดียว
เราหวีผมมารวมๆกันและเรียกตัวเองว่า " เจ้าหนูอะตอม"
เราหัวเราะกันเหมือนคนบ้าเลย

Credit to Toptopia in thumblr and also the source on naver
Thai Translation by mew in mew mini museum

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Adventure of the sun

ช่วงนี้ น้องๆไม่มีตารางงานเป็นจริงเป็นจังกันเลยค่ะ มีแต่งานรับจ็อบคอนเสริต์ที่มีสปอนเซอร์เป็นสินค้าต่างๆแค่นั้น
เท่าที่เรารู้จากท่านยางเองและจากทวีตของน้องๆ ช่วงนี้เป็นช่วงของการพักผ่อน เดินทางท่องเที่ยว และทำงานเพลงไปด้วยในตัว
ตั้งแต่ต้นเดือนเราเห็น ยองเบทวีตว่าไปลัลลาเล่นอยู่แถว แอลเอ และมีคนทวีตเป็นสิบๆว่าได้เจอได้ถ่ายรูปมากมาย
อันนี้เป็นแฟนแอคเค้าส์ของวีไอพีชาวอินโดนีเซียคนนึงที่ตั้งใจวางแผนเพื่อที่ว่าจะได้เจอ ยองเบ ลองไปอ่านนะค่ะ

ตามเคยมิวออกตัวไว้ก่อน มิวตัดส่วนที่แสดงความรู้สึกของคนเขียนออกไปเล็กน้อยนะค่ะ >_<

============


วันที่ 7 กรกฎาคม 2011 พวกเราตัดสินใจว่าจะเดินไปที่ Beverly Center เพราะว่าจริงๆแล้วมันก็แค่เดินตรงไปตามถนนข้างหน้านี่เอง เบทวีตเมื่อตอนประมาณ ตี 4-5 ดังนั้นฉันเลยคิดเอาเองว่าบางทีตอนนี้เค้าอาจจะยังนอนหลับอยู่ ในที่สุดเราก็กลับไปตั้งหลักที่โรงแรมอีกครั้ง ตอนนั้นเวลา 11:45 เราพากันไปนั่งตรงส่วนนอกชานของโรงแรม ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ ซึ่งในตอนนั้นสิ่งที่ทำได้คือ มองผู้คนเดินผ่านไปมา ส่วนหลานของฉันก็นั่งเล่นเกมส์ของเค้าไป ซักพักก็จะมีปาปารัชซี่วิ่งไปวิ่งมา เพื่อที่จะได้คอยจับภาพของนักกีฬาเบสบอล ที่จะออกจากโรงแรม

พอเวลาประมาณ 13:30 ฉันตัดสินใจที่จะไปหาน้ำมาดื่มเพราะว่าอากาศร้อนมากและหลานชายของฉันก็เริ่มหิวน้ำ ฉันเดินเข้าไปในโรงแรมและถามเจ้าหน้าที่หญิงว่า เราจะย้ายมานั่งข้างในได้ไม๊?? เธอตอบเรามาว่า เราจำเป็นต้องซื้ออะไรซักอย่าง ฉันเลยสั่งน้ำเปล่า แล้วขอใช้ห้องน้ำ ฉันเข้าไปในห้องน้ำและรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ ฉันคิดว่าน่าจะเข้าไปได้แค่ 10 นาทีเท่านั้น ฉันก็ได้ยินหลานชายตะโกนเรียกฉันออกมา
เพื่อที่จะจ่ายค่าน้ำเปล่า ซึ่ง มีราคา ถึง 13 เหรียญรวมภาษีแล้ว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าฉันสามารถที่จะนั่งตรงม้านั่งด้านในได้ ฉันเลยย้ายเข้ามา

ตอนเวลาประมาณ 14:15 ฉันก็เริ่มที่จะกระวนกระวายมากขึ้นเพราะฉันต้องไปส่งหลานชายไปเรียนคาราเต้ ขณะที่กำลังภาวนาอยู่นั้น ฉันก็เห็นChoice 37 ที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่รีบวิ่งลงมาตรงถนน เหมือนกับว่าเค้ากำลังจะส่งเสียงทักเรียกรถคันนึง ซึ่งก็จริงตามนั้น ฉันคิดว่าน่าจะเป็นครอบครัวของเค้านะ จริงๆเค้าอยู่ห่างจากฉันเพียงเมตรเดียวเท่านั้น ฉันส่งเสียงเรียกเค้าแต่เค้าไม่ได้ยินและรีบไปขึ้นรถที่จอดอยู่ในที่จอดรถ คลิปที่ฉันถ่ายมา เบลอไปหมดเพราะฉันกำลังตื่นเต้นมากแทบบ้าเพราะมั่นใจแล้วทีนี้ว่า ยองเบจะต้องอยู่ในโรงแรมแน่นอน ช้อยยังคงคุยโทรศัพท์อยู่ในขณะที่ มีผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงอีกสองคนออกมาจากรถ เปิดกระโปรงท้ายและหิ้วกระเป๋าใบแล้วใบเล่าลงมา ฉันคิดว่าพวกเค้าคงออกไปช้อปปิ้งกันมาบ้างแล้ว พวกเค้ารีบเดินกันเข้าไปในโรงแรม และฉันก็พยายามที่จะให้ช้อยหันมาอีกครั้ง ซึ่งฉันรู้สึกค่อนข้างแย่เหมือนกันเพราะดูเหมือนว่าเค้าจะดูเครียดๆอยู่ แต่ก้ไม่เป็นผล

ตอนนี้เป็นเวลา 14:45 แล้วและฉันก็อยากจะยอมแพ้เหมือนกัน ซึ่งฉันได้รับข้อความจาก
Janelle Marie (janellemarie15) ข้อความมาบอกว่า ยองเบน่าจะอยู่ที่สตูดิโอ ซึ่งฉันคิดว่าฉันคงสวนทางกับเค้าแ้ล้วละ ไม่ก็เค้าอาจจะใช้ทางออกด้านหลังก็ได้ หรืออะไรก็ได้ ดังนั้นฉันเลยเก็บของและกำลังจะออกจากโรงแรม ในตอนนั้นจู่ๆ Choice37 ก็เดินออกมาอีก พร้อมกับกลุ่มคนที่ฉันเล่าไปเมื่อกี้ ตอนนี้ทุกคนมาอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันตื่นเต้นมากๆๆและรีบเดินไปหาChoice37 และถามเค้าว่า

ฉัน: ขอโทษนะค่ะ?? (ช้อยหันมามองพร้อมทำตาโต) : ครับ??
ฉัน: คุณคือ Choice 37? ใช่ไม๊ค่ะ?? (ช้อยตกใจมากๆ): อ่า ใช่แล้วครับ
ฉัน: ขอฉันถ่ายรูปกับคุณได้ไม๊ค่ะ??
ช้อย: ได้เลยครับ แต่ว่าอีกไม่กี่นาทีนี่แหละ เดี๋ยวแทยังก็จะออกมาแล้วนะ คุณถ่ายรูปกับเค้าก็ได้ด้วยนะ
เจ้าหน้าที่ของโรงแรม : คุณกำลังรบกวนแขกของโรงแรมนะค่ะ ฉันก็สงสัยว่าทำไมคุณถึงมานั่งรอที่นี่ตั้งนาน
(แล้วก็เชิญฉันออกไปตรงนอกชานโรงแรมเหมือนเดิม)

ฉันนั่งอยู่ตรงม้านั่ง และมองประตูล็อบบี้ของโรงแรมเหมือนนกเหยี่ยวมองเหยื่อเลยทีเดียว ซักพักฉันก็เห็น ช้อยเดินออกมาและพยักหน้าให้ฉัน จากนั้น ยองเบก็เดินตามออกมา เค้าสวมเสื้อยืดที่ไปตัดแขนออกสีดำที่เราเห็นเค้าสวมเมื่อไม่กี่วันก่อน เหงื่อออกมากมาย และสวมหมวกแก๊ป ไม่มีแว่นกันแดด ช้อยและเค้าพูดคุยกับผู้หญิงคนนึงที่สวมชุดสีฟ้า (ฉันคิดว่าน่าจะเป็นคนประสานงานอะไรซักอย่าง) ภายในล็อบบี้ของโรงแรมฉันเห็นมีคนขอถ่ายรูปด้วยเพราะฉันเห็นแสงแฟรช
จากนั้นช้อยก็เดินออกมาตามมาด้วยยองเบซึ่งเค้าเปิดประตูค้างไว้ให้กับครอบครัวนึงที่มีเด็กเล็กๆมาด้วย ซึ่งเค้าต้องเปิดประตู้ค้างไว้ค่อนข้างนานทีเดียวเพราะครอบครัวนี้เป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งคุณแม่ของฉันที่มาด้วย ถามฉันว่า "นั่นเค้าใช่ไม๊???? ใจดีจริงๆนะเนี้ย!!"

ช้อยพูดโทรศัพท์อีกและผู้หญิงฝ่ายประสานงานก็รีบขึ้นรถ
ช้อย:(พูดโทรศัพท์) "ผมขอโทษจริงๆนะครับ เราสายมากจริงๆ ครับ เรากำลังออกเดินทางแล้วละ " จากนั้นเค้าก็เอาโทรศัพท์เก็บลงไปในกระเป๋า และฉันก็เดินเข้าไปหาเค้า เค้าก็เริ่มยิ้ม

ช้อย: โอเค ตอนนี้เราคงจะถ่ายรูปกันได้แล้วใช่ไม๊?? (เค้าถามผู้หญิงฝ่ายประสานงานก่อนที่เธอจะกระโดดขึ้นรถไป)

ซึ่งในตอนนี้ยองเบก็เดินตามช้อยมาทันและจริงๆแล้วเค้ายืนอยู่ข้างๆฉันนี่แหละ ฉันตัวสั่นและรู้สึกตกใจมากว่าหน้าของเค้าอยู่ใกล้ฉันมาก และตอนนี้เค้าสวมแว่นตากันแดดเอาไว้แล้ว
ยองเบ: แน่นอน ไม่มีปัญหาหรอก .
เค้าหันมามองฉัน และยิ้ม แต่คุณสามารถรู้สึกได้ว่าเค้าอารมณ์ไม่ดี ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเค้าคงโมโหที่เค้า สาย ฉันยื่นกล้องของฉันให้กับช้อยและยองเบก็เข้ามาโอบฉันทันที เค้าจับแขนของฉันค่อนข้างแรง เราโพสท่าแบบนั้น เพื่อถ่ายรูป จากนั้นช้อยก็ยื่นกล้องคืนให้ฉัน
ช้อย: ผมคิดว่ามันเซตเป็นวีดีโอนะ

ฉันขอโทษเป็นการใหญ่และแก้ไขโหมดกล้องและโพสท่ากับยองเบอีกครั้งแต่ครั้งนี้เค้าโอบฉันไม่แน่นเท่าครั้งแรก ช้อยคืนกล้องมาและบอกลา จากนั้นก็เดินตรงไปที่รถ และตอนที่ยองเบกำลังจะออกเดินจากไป ฉันเลยขอให้เค้าเซ็นลงบนอัลบั้มของฉัน
ยองเบ: ได้สิครับ ไม่มีปัญหา
คุณแม่ของฉันเดินมาและแตะที่แขนของเค้าและหัวเราะ และพูดว่า

คุณแม่: คุณสินะที่เป็นนักร้องที่ลูกสาวฉันตกหลุมรักอยู่ คุณทำให้ความฝันของเธอเป็นจริง"

ยอเบหัวเราะน้อยๆและมาโอบฉัน ยิ้มและพยักหน้า
ยองเบ: ผมเองแหละฮะ ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ

ฉันรีบดึงหลานชายของเราเข้ามาใกล้และบอกว่า เค้าก็เป็นแฟนเพลงตัวยงด้วยเช่นกัน หลานชายของฉันกำลังตื่นเต้นเพราะสถานการณ์ดูจะจริงจังมาก แต่ ยองเบดูจะอ่อนโยนมากๆ เมื่อเห็นหลานชายของฉันและมองเค้าตลอด ซึ่งฉันอยากจะให้พวกเค้าได้ถ่ายรุปคู่กันมากแต่เมื่อมองไปที่รถ ตอนนี้ช้อยกำลังจะขึ้นรถแล้ว ดังนั้นยองเบจึงถามว่า

ยองเบ: แล้วคุณชื่อะไรครับเนี่ย??
(ฉันก็ เอนตัวไปกำลังจะตอบ ซึ่งทำให้ปีกหมวกของเค้ามาโดนหน้าผากฉัน ฉันกล่าวขอโทษออกไป)
ยองเบหัวเราะและฉันก็ตอบไปว่า ฉันชื่อ Felicia.
ยองเบ: "Felicia."
ฉัน: "F E L I-"
ยองเบ: "F E L Y?"
ฉัน: "F E L I C I A"
Bae: "คือ ผม"

แล้วก็ยิ้มให้ฉันอีกรอบ ( มิวคิดว่า เบคงกำลังจะคิดชื่อเรียกง่ายๆให้เธออะค่ะ พอเธอพยายามสะกดเบเลยจะอธิบายซึ่งถึงตรงนี้ สาวเจ้าก็เพิ่งจะเข้าใจ)
จากนั้นเค้าก็เซ็นลายเซ็นลงบนอัลบั้มและส่งคืนมาให้ฉัน ฉันเล่าว่าตัวเองมารอเค้าตั้งแต่ 10 โมงเช้า ซึ่งยองเบถามว่า จริงเหรอ?? แล้วขอบคุณฉันไม่หยุดและบอกว่าตัวเค้าไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
จากนั้นก็บอกลาคุณแม่ ฉัน และหลานชาย ก่อนที่จะวิ่งไปขึ้นรถ

ฉันดีใจมากๆที่ได้เจอเค้าเพราะ ฉันเกือบจะออกจากโรงแรมแล้ว และเค้าดูอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนแรกและดูเหมือนว่าโดนบังคับให้ทำดีกับเรา แต่หลังจากที่ได้ถ่ายรูปแ้ล้ว เค้าดูเป็นมิตรแต่ก็ไม่ได้ดูเป็นมิตรเกินไป ไม่มีการลูบหัว 55555 ( ก่อนหน้านี้มีคนได้เจอและโดนเบลูบหัวค่ะ เค้าเลยพูดแอบแซวนิดหน่อย 555)

ยังไงก็ตามแต่มันคุ้มค่ามากจริงๆ ฉันคิดว่าเค้าคงทำงานหนักมาก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเค้าถึงสวมแว่นกันแดดเอาไว้

credit to daebabyy on twitter Thai Translation by mew in mini museum


วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

add a little flower in your room


แม้ว่าระยะหลังๆหลังจากที่น้องๆไม่มีงานติดๆกัน จะมีเรื่องเล่าที่เราเรียกว่า แฟนแอคเค้าส์ออกมามากมาย ซึ่ง90%ไม่มีที่มา และเครดิตแต่คนมาเล่า ซึ่งเราไม่มีทางรู้ว่าจริงไม่จริงยังไงได้เลย บางเรื่องก็แฟนตาซีมากอะค่ะ เหนือจริงจนคิดว่าเป็นแฟนฟิค แต่เรื่องนี้มิวอ่านแล้วน่ารักดี 5555 ลำเอียงเนอะค่ะ ถึงจะเป็นเรื่องแต่งก็ยังน่ารักอยู่ดี จะแปลค่ะ จบ 5555

========

มี สาวคนนึงค่ะ ไปช่วยคุณป้าที่เป็นเจ้าของร้านขายดอกไม้เฝ้าร้านดอกไม้ เฝ้าไปได้ประมาณ 5 ชั่วโมงเธอก็สังเกตเห็นทาบิเดินเข้ามาในร้าน ซึ่งเธอตะลึงจนทำกรรไกรคล้ายๆคีมที่ไว้ตัดดอกไม้หล่น
ทาบิก็เข้ามาถามว่า "เป็นอะไรรึเปล่า??"

ตามคำเ่ล่าของสาวน้อยคนนี้บอกว่า ในตอนที่ทาบิเดินอยู่ในร้าน เค้าจะเดินเหมือนปู คือเดินเอียงๆคอยหลบพวกใบไม้ที่อยู่ตามก้านดอกไม้ระวังไม่ให้มันมาโดนตัวเค้า
ซึ่งเธอเห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่น่ารักมาก 5555

ทาบิถามเธอหลายคำถามเกี่ยวกับความแตกต่างของดอกไม้ชนิดต่างๆในร้าน
ซึ่งเธอก็ตอบคำถามเค้าได้เป็นอย่างดี ทาบิเดินเลือกดอกไม้ไปก็จะยื่นมือไปจับและชมออกมาว่าดอกไม้พวกนั้นสวยมาก จากนั้นเค้าก็หยุดอยู่ตรงหน้าดอกไม้ 금낭화 (ตามรูปนี้ค่ะ kdw5k2.egloos.com/176870) เป็นเวลานาน สาวคนขายเลยถามว่าจะให้จัดส่งไปให้ใครรึเปล่า?? ทาบิเลยตอบกลับมาว่า " อ่า ไม่ใช่ครับผมจะเอาไปไว้ในห้องของผม"แล้วยังบอกอีกว่าคงจะต้องเปลี่ยนแจกันใหม่ด้วย คนขายเลยช่วยทาบิเลือกแล้วผูกดอกไม้เป็นกำด้วยริบบิ้น ทาบิก็ขอบคุณใหญ่และแจกลายเซ็นให้เธอพร้อมวาดรูปดอกไม้ข้างๆให้ด้วยค่ะ

น่าร้ากกกกก 555555


Source: lxx120216@weibo
Eng Trans: jwalkervip.tumblr.com

Thai translation by mew in mini museum

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

++ when they go to the Party ++


เกริ่นนำเล็กน้อยนะค่ะ เพราะมิวกำลังจะตัดส่วนที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับน้องๆออกไป 5555 คนมาเล่าเป็นสาวที่เรียนที่อเมริกาค่ะแต่มีเพื่อนฝูงอยู่ที่เกาหลี ซึ่งเพื่อนๆก็น่าจะทำงานเกี่ยวกับวงการบันเทิงเลยมีเส้นสายอยู่บ้าง ซึ่งเพื่อนๆของสาวคนนี้ รู้จักกับบิกแบงค่ะ เธอเลยได้เข้าไปปาร์ตี้กับพวกบิกแบงบ้าง ซึ่งเพื่อนของเธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้ไปร่วมถ่ายทำ MV HighHigh ที่ ผับ Rococo ที่ Itaewon เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วค่ะ เธอมาเล่าเรื่องพฤติกรรมของแต่ละคนเวลาไปปาร์ตี้ให้ฟังนะค่ะ พร้อมเกริ่นเรื่องต่างๆมากมาย มิวก็อธิบายไม่ถูกว่ามันเป็นแฟนแอคเค้าส์หรือว่ายังไง 5555 ลองอ่านกันดูค่ะ

===================

ตัวฉันไม่ได้อยู่ที่ เกาหลีในตอนที่พวกเค้ามีการถ่ายทำ MV HH กัน ตามคำที่เพื่อนๆเล่ามา การเชิญมาร่วมปาร์ตี้ในครั้งเป็นการเชิญกันแบบส่วนตัว ซึ่งคุณจำเป็นต้องส่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองอย่างละเอียดก่อนที่คุณจะอยู่ในลายชื่อแขกผู้ที่ได้รับเชิญ ซึ่งเพื่อนของฉันก็มีเส้นสายพอสมควรจึงได้รับบัตรเชิญมา ก่อนที่คุณจะเข้าไปในคลับ โปรดิวเซอร์ที่อยู่ตรงทางเข้านั้นเข้มงวดมากๆ ทุกคนจำเป็นต้องแสดงตัวและบอกข้อมูลตรวจสอบกันหลายรอบแบบไม่มีข้อยกเว้นก่อนที่จะได้เข้าไป

เรื่องการมีเส้นสายเป็นคนในวงการที่เกาหลีนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุกคนก็มีญาติที่รู้จักกับดาราไม่คนใดก็คนนึง ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะมีเพื่อนที่มีพี่สาวและพี่สาวก็เป็นเพื่อนห้องเดียวกันกับคนดังคนนึง คุณก็จะกลายเป็นคนที่มีเส้นสายไปโดยปริยาย


ยังไงก็ตามแต่ ทางวายจีไม่ได้จัดให้มีการถ่ายทำ MV เพลง HH นี้ที่ผับ NB ของตัวเองในย่าน Hongdae แต่จัดในย่าน Itaewon ที่มีชาวต่างชาติมากกว่า เพราะจะได้ได้สาวต่างชาติผมบลอนด์ตาสีฟ้าผิวขาวมาเข้าฉากใน MV ให้แลดูคล้ายผับในอเมริกา ซึ่งจะได้เข้ากับเพลง HH ดังนั้นจึงไปจัดกันที่ผับ Rococo ซึ่งเพิ่งเปิดได้ไม่นานและไม่ได้ใหญ่อะไร เพื่อจะได้เข้าไปควบคุมได้ทั่ว


ตัวฉันเองเป็นแฟนเพลงของ GD ถ้าจะถามว่ามีเรื่องอื้อฉาวอะไรที่น่าสนใจจะมาเล่าไม๊?? ฉันคงต้องตอบว่าฉันไม่มีเรื่องราวแบบนั้นเลย
แต่ฉันพอจะอธิบายได้ว่าเค้าเป็นยังไง จริงๆแล้ว จียงไม่ได้สนิทกับเพื่อนๆที่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเท่าไหร่ ซึ่งก็หมายถึงเพื่อนๆที่ทำงาน 9 โมงเช้าออกงาน 5 โมงเย็นคนแบบนั้น ซึ่งจียงไม่ได้สนิทกับเพื่อนๆที่เป็นคนทำงานแบบนั้น บางทีอาจจะเป็นเพราะเค้าเริ่มเป็นศิลปินฝึกหัดตั้งแต่อายุยังน้อย คนที่เค้าสนิทด้วยจึงเป็นพวกคนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นจากโซล เป็นคนที่มีพรสวรรค์เป็นเจ้าแห่งแฟชั่น ซึ่งเค้าก็รู้จักชาวต่างชาติที่ทำงานในด้านเหล่านี้เยอะมากทีเดียว และนั่นเป็นที่มาของ ชื่อเล่นที่ใครๆก็จะเรียกเค้าว่า เป็นสุภาพบุรุษตัวน้อยประจำ Itaewon

ฉันได้ยินมาว่า ตอนเป็นเด็ก ประมาณ เมื่อจียงยังเรียนอยู่ชั้นประถม เค้าออกจะหยิ่งๆเพราะเค้าได้เซนสัญญาเข้าค่ายเพลงตั้งแต่ในวัยนั้น ซึ่งคนที่ฉันรู้จักไม่ชอบจียงในตอนเด็กมากๆ แต่ในตอนนี้พอได้พบกันบ่อยๆเค้าก็ชื่นชมในตัวจียงมาก
ทุกคนต่างก็รู้กันว่า ทุกคนในวายจีนั้นมักจะมี ทัศนคติในการแสดงบนเวที ที่แสดงออกถึงความรู้สึกที่ว่า " มาเป็นแบบพวกเราสิ อิจฉาพวกเราใช่ไม๊??" ซึ่งเมื่อจียงโตขึ้น และเป็นเพราะเค้าได้เดบิวตั้งแต่อายุัยังน้อย ทำให้เค้าโตเร็วกว่าไอดอลในวัยเดียวกันและเค้าก็มีมารยาทดีมากๆตั้งแต่นั้นมา ซึ่งเค้ามักจะทักทายทุกคนแบบสุภาพเสมอ และค่อยๆเรียนรู้และเจริญรอยตามคุณยางฮยอนซอกมาติดๆ คือ โปรดจงระมัดระวังและสุขุมรอบคอบเสมอ

คุณยางฮยอนซอกนั้นเลี้ยง จียงมาเหมือนกับลูกชายของเค้า เมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน คุณยางมักจะถูกเชิญให้ไปร่วมงานสังคมของพวกชนชั้นสูงที่ร่ำรวย ซึ่งจะว่ากันตามตรงย้อนไปในสมัยนั้นคุณยางก็ไม่ได้มีอิทธิพลถึงขนาดที่ว่าจะได้รับเิชิญให้ไปร่วมงานแบบนั้นบ่อยๆ แต่คนที่คุณยางพาไปในงานแบบนั้นด้วย ไม่ใช่สาวสวยที่ไหน ไม่ใช่เท็ดดี้ไม่ใช่เซเว่น แต่คุณยางพาจียงไปกับเค้าและพาเค้าไปแนะนำให้รู้จักกับคนมากๆๆ ซึ่งคุณยางคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จียงจะได้มีโอกาศได้รู้จักกับคนในวงการแฟชั่น และ คนในวงการที่เกี่ยวข้องกับสื่อแขนงต่างๆ ซึ่งคุณยางมักจะไปเที่ยวในผับชั้นสูงเพื่อหาโอกาสคลุกคลีกับคนแบบนั้น แต่เมื่อเค้าสามารถหาเงินได้มากขึ้นๆๆ เค้าก็ย้ายไปเที่ยวในที่ที่เป็นส่วนตัวและป็นความลับของเค้าเองมากกว่า

นอกจากเราจะได้เห็นคนในสังคมชั้นสูงได้ถ่ายรูปกับพวกบิกแบงมาก่อน แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่ถ้านิตยสารซุบซิบได้ภาพถ่ายไปแล้วละก็ต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ๆ เพราะสถานนะในสังคมของพวกเค้าซึ่งคนกลุ่มนี้ถ้าเค้าบอกว่าเค้าเป็นลูกใครแล้วละก็ รับรองว่าคนทั้งประเทศเกาหลีจะต้องรู้จักแน่ๆ ซึ่งคนเหล่านี้รู้จักบิกแบงผ่านเส้นสายที่พวกเค้ามี ซึ่งพวกเค้ายังเป็นวัยรุ่นในวัย 20 ต้นๆ

นอกจากพวกไฮโซ และคนที่ทำงานในวายจี พวกนางแบบ คนที่บิกแบงจะคบหาด้วยก็เป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกับพวกเค้าทั้งนั้น ไม่เกี่ยวข้องทางใดก็ทางหนึ่ง
ซึ่งเป็นเพราะฉันชอบจียงมาก เพื่อนๆก็ดูถูกฉันเล็กน้อยเพราะสำหรับพวกเค้าจียงก็แค่เพื่อนคนนึง

ไม่ว่าจะมีปาร์ตี้หรือมีงานอะไร พวกเค้ามักจะจัดในที่ที่อลังการและพิเศษเสมอ ซึ่งปาร์ตี้แบบนี้ไม่ใช่ใครๆก็จะได้รับเชิญง่ายๆโดยเฉพาะไอดอลที่ยังอายุน้อยอยู่ แต่เป็นเพราะ จียงนั้นดังมากๆเค้าจึงได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้แบบนี้เสมอ ทุกคนจะเห็นเค้าโอบสาวซ้ายขวาซึ่งเค้าเป็นแบบนั้นจริงๆในงานปาร์ตี้ ถ้าเป็นในอเมริกา ทุกคนจะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติเพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงว่าคุณเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์และโด่งดังในหมู่สาวๆ

ส่วนแทยังนั้น เค้าจะเก็บตัวมากกว่าจียง แต่เมื่อเค้ารู้สึกคึกคักแล้วเค้าก็จะเข้ามาเล่นกับคุณเอง สำหรับซึงรี ฉันไม่รู้ว่าจะพูดออกมายังไงดี แต่ซึงรีเหมือนไม่ใช่ดาราอีกต่อไป เค้าไม่ถือตัว เค้าเป็นมิตรมากๆ และเค้าก็ชอบเล่นหูเล่นตาใส่สาวๆ เค้าเป็นคนเดียวในบิกแบงที่สนุกสนานเต็มที่และน่ารักมาก

ท็อป ความรู้สึกที่ฉันได้จากเค้าคือ เค้ามักจะเดินไปรอบๆดื่มไวน์แดงไม่ก็เชมเปญและมักจะดื่มด้วยท่าทางที่สุขุมนิ่งๆตลอด แดซองนั้นเก็บตัวมากยิ่งกว่าแทยังอีก จนถึงวันนี้ฉันก็ไม่เคยเห็นเค้าคึกคักปล่อยตัวแบบคนอื่นๆ ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเค้าไม่เก่งภาษาอังกฤษเลยไม่ชอบพูดรึเปล่า แต่ที่แน่ๆคือ แดซองจะไม่ใช่คนที่เริ่มเปิดบนสนทนาแน่นอน


สำหรับ ทักษะเรื่องภาษาอังกฤษของพวกเค้า อืม....ก็พวกเค้าเป็นแร๊พเปอร์กันเลยถูกฝึกมาตั้งแต่เด็ก ภาษาอังกฤษของจียงนั้น ดีมากๆๆและพูดไม่เพี้ยนด้วย จริงๆแล้วเค้าเหมือนกับคนที่เคยไปเรียนที่อเมริกามาซักสองสามปีเลยละ ซึ่งเค้ายังเข้าใจศัพท์สแลงด้วย แทยังและท็อปมาเป็นอันดับ 2 ( ฉันชอบจียงเลยอาจจะลำเอียงไปบ้าง keke) ซึงรึได้อันดับ 2.5 ส่วนแดซองฉันเคยได้ยินเค้าพูดแต่คำทักทายธรรมดาๆเท่านั้น

เป็นที่เห็นกันอย่างชัดเจนว่า ศิลปินของวายจีนั้นไม่อยากจะได้ชื่อว่าเป็นไอดอลที่ธรรมดา คือ พวกเค้าอยากจะให้คนเห็นว่าดีกว่าคนอื่น เป็นคนที่เข้มงวดในกฏระเบียบ เป็นคนที่ไม่สนใจในเรื่องของคนธรรมดาเท่าไหร่ ซึ่งจุดยืนตรงนี้ของวายจีนั้นนับว่าทำถูกต้อง เพราะลองคิดกันดูสิว่า หลังจากที่อยู่ในวงการบันเทิงมายาวนาน ไม่มีใครเคยรู้ว่า คุณยางมีแฟน ซึ่งเค้าเองยังรู้มานานแล้วว่าคุณ seo taji ก็แต่งงานมาเป็นเวลานานแล้วหากเค้าพูดโพล่งออกมามันก็ต้องจบกันแน่ๆ และพวกเค้าจะยืนอยู่ในวงการบันเทิงต่อไปยังไง

เพราะเอาเข้าจริงๆแล้ว วงการนี้มันเล็กมาก ทุกคนรู้ว่าคุณเป็นใครและถ้าคุณโพล่งความลับที่คุณรู้ออกมา ก็ย่อมมีใครพูดเรื่องของคุณบ้างใช่ไม๊??

Source: 71-233-277@baidu Translated by: jwalkervip.tumblr.com Thai Translation by mew in mew mini museum

======================

seunghyun&Jiyong arm in arm

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Mad season

ช่วงนี้เหมือนมิวไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลยซักอย่าง จิตตกเป็นกังวลเืรื่องบ้าบออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
รู้สึกว่างเปล่า รู้สึกเหมือนกับว่า สิ่งรอบๆตัวมิวไม่มีอะไรสามารถจับต้องได้ ทุกอย่างเป็นเรื่องสมมุติไม่มีอยู่จริง

คงเป็นฤดูกาลแห่งความบ้าบอสินะ

ฉันรู้สึกว่าตัวเองโง่ แต่ก็รู้ว่าความรู้สึกนี้มันไม่ได้คงอยู่ตลอดไปหรอก
ฉันกำลังคาดเดาอยู่ ซึ่งก็รู้ว่าเคยเดาผิดมาเหมือนกัน
ตอนนี้เธอไม่รู้จักฉัน
ฉันคิดว่าเธอจะเข้าใจบ้างไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หรือว่า เธอก็โดนเรื่องบ้าบอเล่นงานเหมือนกัน??

ฉันรู้สึกว่าตัวเองโง่ แต่มันก็เป็นอะไรที่จะผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ฉันเปลี่ยนแปลงไปมาก ตลกดีเหมือนกันที่ไม่มีใครรู้เลย
เราไม่พูดถึงเรื่องเล็กๆน้อยที่เราทำเมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน
เมื่อ มีเรื่องบ้าบอ เกิดขึ้น

งั้นเธอจะยืนเฉยๆ มันดูเป็นทางออกเหรอ??
สำหรับฉันดูเหมือนเธอจะเข้ามาวนเวียนอยู่ ฉันต้องการเธอในตอนนี้
เธอคิดว่าจะรับมือกับมันได้เหรอ???
เธอก็ดูฉันออกนี่ ว่าฉัน หลงทางและกำลังสิ้นหวัง
ฉันบาดเจ็บและแหลกสลาย แม้ว่าฉันจะไม่เปิดปากพูด
ฉันก็พบกับหายนะใน เวลาที่บ้าบอนี้

ฉันรู้สึกว่าตัวเองโง่ แต่ฉันก็เคยเป็นที่ต้องการเหมือนกันนะ
ฉันรู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียด แต่ฉันคิดว่ามันก็ทำให้เธอชอบเหมือนกัน
ตอนนี้เธอดูเย็นชามากขึ้น แหลกสลาย โมโห และเปลี่ยนไป
เพราะเรื่องบ้าบอทำพิษเอาแล้วใช่ไม๊??

งั้นเธอคิดว่าจะยืนอยู่เฉยๆตรงนั้นโดยที่ไม่ช่วยอะไรฉันเลยเหรอ??
เราควรจะอยู่ด้วยกันในตอนนี้นะ ฉันต้องการเธอตอนนี้
เธอคิดว่าจะรับมือกับมันได้เหรอ???
เธอก็ดูฉันออกนี่ ว่าฉัน หลงทางและกำลังสิ้นหวัง
ฉันบาดเจ็บและแหลกสลาย แม้ว่าฉันจะไม่เปิดปากพูด
ฉันก็พบกับหายนะใน เวลาที่บ้าบอนี้

และตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้ละ
นี่เป็นสิ่งที่เธออยากให้เป็นใช่ไม๊??
ฉันพยายามที่จะใช้ชีวิตต่อไปด้วยตัวเอง แต่ก็ทำไม่ได้
เมื่อถึงเวลาฉันเชื่อนะ่ว่าตัวเองเข้มแข็ง
แต่ใครก็ได้ ช่วยตอบทีเถอะว่าทำไม ฉันยังคงรู้สึกว่าตัวเองโง่
และพบกับจุดจบ

มันก็แค่ เวลาที่บ้าบอใช่ไม๊??