วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Long Journey Of BigBang ตอนที่ 1


จริงๆ ตามต้นฉบับเค้าเรียกสิ่งที่เรากำลังจะได้อ่านนี้ว่าเป็น จดหมายเปิดผนึกจาก KVIP สู่ IVIP ค่ะแต่มิวอยากจะเรียกว่าเป็น ความในใจ ของ KVIPมาเล่าสู่เราๆฟังมากกว่า รู้เลยว่าคนเขียนต้องรักน้องๆมากแน่ๆ

น้องแป๋มส่งลิงค์มาให้อ่านได้ซักพักแล้ว มิวมัวตามเก็บรูปและคลิปคอนครอบครัว เลยคาดดาวไว้ไม่ได้อ่านซักที วันนี้เงียบๆไม่ยุ่ง เลยตั้งใจว่าจะอ่าน ไม่ได้ตั้งใจจะแปลเลย แต่พออ่านตอนแรกจบไปก็เริ่มอยากจะแปลทั้งหมดเก็บไว้

==================

บิกแบง ตำนานไอดอลระดับประเทศ

คุณเป็นห่วงเรื่องยอดขายอัลบั้มของพวกเค้ารึเปล่า?? แล้วเรื่องความโด่งดังละ?? เรื่องภาพพจน์ละ?? แล้วเรื่องสัญญาการเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าต่างๆของพวกเค้าละ??

ถ้าคำตอบในใจคุณตอนนี้ คือ คุณกำลังเป็นห่วงพวกเค้า งั้นคุณก็ประเมินค่า บิกแบงต่ำไปแล้วละ ฉันเข้าใจนะว่าทำไมคุณถึงรู้สึกแบบนั้นเพราะพวกคุณทั้งหมดอยู่ในประเทศอื่น พวกคุณไม่ได้อยู่เห็นช่วงที่พวกเค้าขึ้นสู่จุดสูงสุด คุณไม่ได้มาร่วมประสบกับปรากฏการณ์ " การระเบิดครั้งใหญ่ของบิกแบง" คุณไม่ใช่ส่วนนึงของพวกเรา คุณไม่ใช่ KVIP คุณไม่ได้เป็นพลเมืองชาวเกาหลี

ฉันไม่ได้กำลังดููถูกอะไรพวกคุณนะค่ะ จริงๆแล้ว ฉันรู้สึกขอบคุณพวกคุณที่รู้จักบิกแบง พวกคุณพูดคุยเรื่องของพวกเค้าผ่านทวิตเตอร์ facebook และใน allkpop และเป็นเพราะการพูดคุยนี้ ทำให้บิกแบงของพวกเรา สามารถที่จะไปแสดงที่กรุงเทพ สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ เมืองอีกหลายๆเมืองที่ญี่ปุ่น ไปนิวยอร์ก ไป แอลเอ ไปเวกัส และ เบลฟาสต์ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณและแรงสนับสนุนจากพวกคุณ หนุ่มๆที่รักของพวกเราคงไม่สามารถที่จะเดินทางไปรอบโลกด้วยเสียงเพลงของพวกเค้าได้แบบนี้ ขอบคุณนะค่ะ จากใจทั้งหมดของฉันฉันรู้สึกขอบคุณมากๆ

ฉันรู้สึกขอบคุณ แต่ในขณะเดียวกันก็อยากจะอธิบายบางเรื่องให้พวกคุณฟังด้วย สิ่งที่คุณได้อ่านออนไลน์ สิ่งที่คุณคิดว่าคุณรู้ พวกมันอาจจะจริงแต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะเป็นเรื่องจริง ถ้ามีใครมาทำให้คุณกลัวโดยการบอกว่าคนที่เกาหลีกำลังจะโค่นวายจีและบิกแบงด้วยคำด่า อย่าให้ความจริงข้อนี้มาหลอกคุณเลย คำพูดก็คือคำพูด คำพูดไม่ใช่เม็ดเงิน โลกในอินเตอร์เนทเป็นแค่ที่โง่ๆของใครก็ตาม แหล่งข่าวที่มีแต่พวก hater อย่าง Nate, Dispatch, หรือบางบทความของ e-news ไม่สามารถที่จะพรากเอาอาชีพของไอดอลระดับประเทศทั้ง 5 คนนี้ไปได้ , ไม่ใช่ตอนนี้

พวกเรารู้จัก จียงและยองเบตั้งแต่พวกเค้าเพิ่งจะเป็นวัยรุ่นที่ไม่มีเงิน ไม่มีอาหาร มีแต่รอยยิ้มน่ารักและศักดิ์ศรีติดตัว เราเติบโตมาพร้อมกัน เรานั่งรถไฟใต้ดินด้วยกันหลังจากที่พวกเค้าเสร็จจากการฝึกซ้อม เราเฝ้าดูพวกเค้าแสดงตามสวนสาธารณะ เรารู้จักพวกเค้าตั้งแต่พวกเราอายุแค่ 15 ช่วงอายุที่คิดว่าอะไรๆในชีวิตก็ง่ายไปหมด แต่ฉันไม่ได้บอกนะว่าเราเป็นเพื่อนกับจียงและยองเบ เพราะเราไม่ใช่เพื่อนกัน เราเป็นแค่แฟนเพลงที่ภัคดี ที่ฉันต้องการจะบอกคือ เรารู้จักพวกเค้าก่อนที่พวกเค้าจะสร้างบ้านในย่านคนรวย Chungdam dong ก่อนที่พวกเค้าจะซื้อรถAudis และ Bentleys เราไม่ได้ชอบพวกเค้าเพราะเห็นภาพลักษณ์ไอดอลที่เพียบพร้อมเหมือนในตอนนี้ เรากลายมาเป็นแฟนเพลงของพวกเค้าเพราะเรามองเห็นความหลงใหล ความอดทน และความมุ่งมั่นที่พวกเค้ามีในการที่อยากจะเป็นศิลปิน และพวกเค้าก็ประสบความสำเร็จในระดับประเทศจริงๆซะด้วย ซึ่งมันทำให้เราภูมิใจมากๆ

ฉันอายุ 17 ตอนที่ได้พบกับ พี่ซึงฮยอน แดซอง ฮยอนซึง และซึงฮยอน พวกเค้าต่างออกไป ฉันไม่เห็นพรสวรรค์เน้นๆและความหลงใหลต่อดนตรีในแบบที่ฉันเห็นในตัวจียงและยองเบ ฉันรู้สึกว่าพวกเค้าเข้ามาง่ายๆ ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเลยกว่าที่พวกเราจะเริ่มรู้สึกว่าพวกเค้าก็ล้วนเหมือนจียงและยองเบเหมือนกัน พวกคนหนุ่มกลุ่มนี้ต่างก็ไล่ตามความฝันของพวกเค้า เวลาร่วมเดือนผ่านไปเราเริ่มเห็น จียงและยองเบ สนิทกับอีก 4 คนในกลุ่ม พวกเค้าเหมือนเป็นพี่น้อง พวกเค้ามีสายใยผูกกันไว้อย่างแน่นหนาน่าประทับใจ

พวกเค้ามีพลังของความเป็นนักฝัน นักสู้และเป็นครอบครัว จียงและซึงฮยอนอุปป้ามักจะเล่นกันเสมอ ยองเบและฮยอนซึงมักจะขึ้นรถเมล์ด้วยกันตลอด แดซองและซึงฮยอนต้องใช้เวลาซักพักที่จะสนิทกัน แต่จียงและยองเบต่างก็ให้คุณค่าและรักพวกเค้า ฉันรักพวกเค้ามากขึ้นๆในทุกทุกวันที่ผ่านไป ความชื่นชอบในตัวพวกเค้าก็เพิ่มมากขึ้นด้วย

ฉันขึ้นเรื่องมายืดยาวแบบนี้เพื่อที่จะทำให้คุณเห็นว่า เราพวก KVIP รู้สึกยังไง ฉันไม่ได้พูดว่า KVIP ทั้งหมดจะคิดแบบนี้แต่ฉันบอกได้เลยว่าฉันมั่นใจว่าสิ่งที่ฉันพูดอยู่ในใจของ KVIP ทุกคน เราอยากให้พวกคุณเห็นในสิ่งที่เราเห็น ได้ฟังในสิ่งที่เราได้ยิน ได้อ่านในสิ่งที่เรารู้ ได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพื่อที่เรียกเอาความเชื่อมั่นของคุณและศักดิ์ศรีอันแรงกล้าในชื่อของ "บิกแบง" กลับมาอีกครั้ง

=====================

หลายปีที่ผ่านมา มีไอดอลเป็นร้อยๆเดบิวในวงการเล็กๆนี้ ด้วยยอดขายเป็นเม็ดเงินรวมกว่า 30 ล้านของอัลบั้มเพลงที่ขายในแต่ละปี แต่มีเพียงแค่ 2 ล้านที่มาจากยอดขายเพลงของวงไอดอล

ในปี 2000 กลุ่มไอดอลเหล่านั้นก็เริ่มจะโดดเด่นขึ้นมาบ้าง บริษัท SM เริ่มที่จะเตรียมการที่จะชักนำพวกวัยรุ่น ฉันไม่รู้จะอธิบายให้พวกคุณเห็นภาพในระดับใหญ่ๆยังไง เอาเป็นว่า สมัยก่อนไม่มีใครมานั่งกรี๊ดนักร้องที่มีอายุแค่ 13 เหมือนกับที่ดีสนีย์ส่ง Miley Cyrus และ JB ออกมาทำเงินได้มหาศาลแบบตอนนี้ แต่ SM ได้เริ่มทำในเกาหลีด้วยการสร้างวงอย่าง HOT, Shinhwa,และ SES. ออกมาได้ตรงจุด พวกเค้ายังคงตีตรงจุดเดิมต่อเนื่องกับ BoA และ TVXQ ในขณะที่บริษัทอื่นก็เข้ามาตีเหล็กในขณะที่ไฟกำลังร้อนกับ Fin.K.Lและ Sech.Kies จากค่าย DSP ต่อด้วย Yee Hyori ด้าน JYP ก็มี G.O.D และ Rain ทาง YG ก็มี 1tym และ Se7en จนกลายเป็นกลไกใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆปีมีการผลิตวงไอดอลออกมาต่อวงแล้ววงเล่า

มีไอดอลเป็นร้อยๆในวงการนี้ วงกลุ่มชาย วงกลุ่มหญิง เดี่ยวชาย เดี่ยวหญิง รวมเป็นร้อยๆคนแต่มีไม่กี่คนในนี้ที่สามารถครองใจคนหลายหลายกลุ่มได้ ซึ่งในร้อยๆคนนี้ฉันจะยกตัวอย่างไอดอลที่มีบทบาทจริงๆ ผู้ที่ส่องแสงประกาย ผู้ที่สามารถสร้างผลกระทบต่อวัฒนธรรมในชาติเรา ผู้ที่สามารถเปลี่ยนใจคน ผู้ที่กลายเป็นผู้นำกระแส และเป็นคนที่ ประชาชน รู้จักและสนใจ มาให้ฟังกัน คือ S.E.S , Fin.K.L, BoA ,Yee Hyori , Ivy ,Wonder Girls ,IU ,So Nyeo Shi Dae HOT, Shinhwa, TVXQ, Super Junior, Shinee, god, 2PM, Sech.Kies, SS501, 1tym…

===============

ปีแ้ล้วปีเล่าที่เราเห็นชายที่มีรูปแบบเหมือนกันด้วยท่าเต้นพร้อมเพรียงเหมือนหุ่นยนต์มาเขย่าใจสาวๆ ฉันยอมรับว่าฉันก็เป็นหนึ่งในสาวๆพวกนั้น พวกเค้าทำให้สาวตั้งแต่วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้หญิงทุกคนแหละตกหลุม พวกเค้ามีกลยุทธที่จะมัดใจอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งรูปร่างหน้าตา เสื้อผ้า ทรงผม ท่าเต้น ทุกอย่างล้วนเอื้อให้คนเหล่านี้ครองใจคนทั้งประเทศ เอาเป็นว่าเหมือนกับในอเมริกาทุกคนต้องเชียร์Twilight และในยุโรป ทุกคนต้องเชียร์ Harry Potter สาวๆในเกาหลีก็ต้องเชียร์ไอดอล

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสร้างผลกระทบให้กับสังคมได้ ไม่มีใครในกลุ่มนี้ที่สามารถจัดอยู่ในแนวหน้าระดับประเทศ ไม่มีใครที่จะตั้งกฏใหม่ขึ้นมา ไม่มีใครในกลุ่มนี้เลยที่หักเหออกไปจากระดับที่เหมือนเป็นสูตรสำเร็จคือ หน้าตาดี มีท่าเต้นพร้อมเพรียงและร้องเพลงป็อปเลย จะว่าไป G.O.D ทำได้อยู่พักนึง แต่หลังจากที่มีเพลงฮิตดังระเบิดได้สองสามเพลง พวกเค้าก็ไม่สามารถไปได้ไกลกว่าวงที่เคยมีเพลงฮิต เรื่องนี้น่าจะต้องโทษ บริษัท JYP ที่พาเรนมาขโมยความสนใจไป

ตอนนั้นไม่มีวงไอดอลผู้ชายวงไหนที่จะสามารถกำหัวใจของคนที่มีอายุมากกว่า 18 หรือกลุ่มผู้ชายได้ ตอนนั้นเป็นปีที่ไอดอลหญิงครอบครองทุกอย่าง จาก เพลงฮิตอันดับ 1 แฟชั่นอันดับ 1 เรทติ้งรายการทีวีอันดับ 1 อันดับ 1 เพลงที่ออกอากาศมากที่สุด อันดับ 1 ที่มีคนเขียนข่าวถึงมากที่สุด อันดับ 1 ที่สร้างความคลั่งไคล้ให้กับผู้คน อันดับ 1 ในความโด่งดัง กลายเป็นอันดับ 1 ระดับประเทศ สิ่งที่ไอดอลชายทำได้มีแค่ยอดขายอัลบั้มกับจำนวนแฟนเพลงผู้หญิงเท่านั้น สถานการณ์คือ ไอดอลชายเอายอดขายกับกลุ่มแฟนคลับไป แต่ไอดอลหญิงจะครองเรื่องภาพลักษณ์ในสังคม ความโด่งดัง และ ยอดขายในเรื่องอื่นๆทั้งหมด

ที่เกาหลีใต้จะมีคำตราหน้าอย่างไม่ยุติธรรมต่อไอดอลชายว่า พวกเค้าเหมือนกับหุ่นยนต์ น่าเบื่อ กลวง ไม่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง และ ไม่มีสาระ

ฉันเดาเอาว่าคำตราหน้าเหล่านี้มันมาจากที่ว่า นักร้องชายที่ไม่ใช่ไอดอลชายของเกาหลีส่วนใหญ่จะเป็นคนที่โชว์เสียงร้องแบบมีคุณภาพเรามีมาตรฐานสูงมากในตัวนักร้องชาย เพราะเรามีนักร้องระดับตำนานอย่าง Jo Yong Pil, Yee Seungchul, Yoon Doo Hyun Band, และ Seo Taiji and the Boys พวกนี้โด่งดังเพราะความสามารถทางด้านดนตรี ไม่ใช่พวกไอดอล พวกไอดอลชายเทียบได้กับดาวดวงน้อยในขณะที่นักร้องชายเหล่านั้นเป็นพระอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่าง และนี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเรนถึงส่องแสงสว่างออกมาท่ามกลางกลุ่มไอดอลชายคนอื่น เราไม่ได้นับว่ายุคของSeo Taiji and the Boys เป็นยุคของไอดอลชาย แต่ 10 ปีให้หลังมาตั้งหาก

เรนปรากฏตัวตามรายการทีวี ในภาพยนตร์ และแพร่กระจายความเป็นกระแส Hallyu ให้ขยายวงกว้าง เค้าเป็นคนกระจายวัฒนธรรมของเราออกไป ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ได้มีพรสววรค์เหมือนกับ Lee Seung Chul หรือ Kim Gunmo สังคมเกาหลีก็มองว่าเค้าเป็นดาราระดับโลก

เรนได้กลายเป็นไอดอลในระดับสากลและประสบความสำเร็จในระดับโลก แต่ก็นั่นแหละ เค้าเป็นดาราระดับโลกของเรา แต่ในรายชื่อดาราเกาหลีที่ดังไกลทั่วโลกตอนนั้น มันมีอะไรขาดไปว่าไม๊ค่ะ?? เราขาดกลุ่มไอดอลชาย เนื่องจากว่า ระดับและมาตรฐานที่สูงมากๆยังคงดำเนินต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเราจะมียุครุ่งเรืองสุดๆของกลุ่มไอดอลชายอย่าง TVXQ และ SS501 ผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมที่หลากหลายอาชีพก็ยังคงมีความรู้สึกเฉยๆ กับกลุ่มไอดอลชายเหล่านี้ มันไม่ได้สร้างผลกระทบในสังคมอย่างที่ คนรุ่นคุณยายก็รู้จักเพลงของวงไอดอลหญิง Fin.K.L เพื่อนคนรุ่นคุณพ่อคุณแม่ร้องเพลงของ Wonder Girls ได้ ลุงของฉันก็ชื่นชม Hyori คุณลุงที่ขับรถเมล์ก็เต้นเพลงของ SNSD ได้ ส่วนคุณป้าที่ขาย ddeokbokki ก็ยังต้องการอยากให้ลูกชายแต่งงานกับ IU

คนเหล่านี้ในสังคมไม่สน วงไอดอลชายเลย ไม่จนกระทั่งในปี 2007 และปี 2008 ปีที่จักรวาลอันเคว้งคว้างนี้ได้รู้จักการระเบิดครั้งใหญ่ ที่ชื่อว่า " บิกแบง"

================

จบตอนแรก!! เรียกได้ว่าเป็นเหมือนกับบทนำนะค่ะ 55555 จากนี้ไปเส้นทางยังอีกยาวไกล ในโลกที่มีแต่ไอดอลหญิงครองโลกน้องๆเราจะเข้ามาขอแทรกในสนามรบนี้ได้ยังไง รออ่านตอนสองและสามกันค่ะ

ขอบคุณ วีไอพีคนเขียน Cristina Kang + UKBigbang+รวมถึง Trollingforkpop at 6Theoryและ WhySoPerfectBB and Me mewmew in mew mini museum the translator >_<

2 ความคิดเห็น:

  1. พี่มิวค่ะ อ่านแล้วขนลุกอ่าค่ะ ต้องขอบคุรบทความนี้จริงๆๆที่ทำให้รุ้ว่าน้องเราไม่ได้เป้นสองรองใคร และไม่ต้องหวั่นไหวถ้ามีใครจะมาโค่นน้องและวายจี ชอบมากๆๆค่ะ ขอบคุณพี่มิวด้วยเช่นกันที่แปลบทความดีๆๆนีั

    ตอบลบ