วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สัมภาษณ์ GD 1st Japanese Pictorial ตอนที่ 4

สัมภาษณ์ GD จาก 1st Japanese Pictorial ตอนที่ 4 : ความใฝ่ฝันและอนาคต

ในตัวของคุณเต็มเปื่ยมไปด้วยจังหวะและเสียงเพลงเลยทีเดียว บอกเราหน่อยได้ไม๊ว่าคุณรู้สึกยังไงที่ได้ยินเสียงเชียร์จากแฟนๆชาวญี่ปุ่น??

พูดจริงๆนะครับ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากที่มีคนมากมายรู้จักเรา เราร้องเพลงเป็นภาษาเกาหลีแต่มีแฟนๆชาวญี่ปุ่นสามารถที่จะร้องตามไปกับเราได้ด้วย ผมรู้สึกดีใจมากๆที่สุด แต่เป็นเพราะมีกฏข้อห้ามมากมายทำให้เราไม่สามารถที่จะ ใกล้ชิดแฟนๆได้เท่ากับที่เราทำในคอนเสริต์ที่เกาหลี ในตอนนั้นมันทำให้ผมรู้สึกกังวลเหมือนกันนะครับเพราะตัวผมเองให้ความสำคัญกับการใกล้ชิดกับแฟนๆมาก เพราะผมเคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาก่อน คือในตอนที่ยังเป็นเด็กผมได้ไปดูคอนเสริต์นักร้องคนโปรดของผม ในระหว่างการแสดงผมได้มีโอกาสจับมือเค้าด้วยมันทำให้ผมรู้สึกดีใจมากๆ ผมจะไม่มีวันลืมความรู้สึกแบบนั้นได้เลย จึงอยากจะส่งผ่านความรู้สึกแบบนั้นไปให้แฟนๆของผมด้วยครับ

อ่า...สิ่งที่จีดราก้อนต้องการมากที่สุดในตอนนี้คืออะไร??

อิสรภาพครับ

(หัวเราะ) งั้น คุณคิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต??

ผมคิดว่าน่าจะเป็นมิตรภาพครับ ผมไม่กลัวที่จะทำอะไรเลยในตอนนี้เพราะเราคือบิกแบง แต่ถ้าหลังจากที่ผมต้องออกจากวงนี้ไปในอนาคตผมก็ยังคงต้องการที่จะมีเพื่อนอยู่ใกล้ๆไม่ว่าผมจะไปที่ไหนก็ตามครับ ถึงแม้ว่าผมจะเริ่มที่จะสานสัมพันธ์รักกับใคร ผมก็เป็นคนประเภทที่จะไปออกเดทพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆผมมักจะแวดล้อมไปด้วยกลุ่มเพื่อนๆที่มีเสน่ห์ส่วนตัวของแต่ละคนอย่างชัดเจน ผมมักจะรู้สึกว่าพวกเค้านำทางให้ผมก้าวไปข้างหน้าครับ

ความใฝ่ฝันในอนาคตที่คุณมีต่อวงบิกแบงและในเรื่องอนาคตของตัวเอง คือ??

ผมไม่ต้องการที่จะเป็นเหมือนลูกโป่งที่ลอยขึ้นสูงบนท้องฟ้าจากนั้นจู่ๆก็ต้องแตกไป ผมอยากที่จะเติบโตไปพร้อมกับแฟนๆไม่ว่าจะไม่กี่ปีหรืออีก 10 ปีต่อจากนี้ผมอยากที่จะให้คนย้อนกลับไปมองและจำได้ว่าผมเป็นยังไงบ้างเมื่อทำงานกับบิกแบง ผมอยากจะให้พวกเค้าจดจำเพลงของเราได้ตลอดไป เหมือนกับที่เพลง hiphop ได้เข้ามาเป็นส่วนนึงของชีวิตผม ผมอยากให้คนไม่มีทางลืมวงของพวกเรา ผมไม่ใช่คนประเภทที่จะมุ่งเป้าหมายของตัวเองไปที่อันดับ 1 แต่ผมก็ไม่อยากจะเป็นที่ 2 เช่นกัน ถ้าผมรู้ว่าตัวเองจะต้องมาเป็นที่ 2 ผมคิดว่าตัวเองคงจะไม่ตัดสินใจมาเป็นนักร้องตั้งแต่เริ่มแรก

ส่วนภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคือ การที่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ผมเห็นว่ามันเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ครับ แต่กระนั้นผมก็ต้องการที่จะทำในสิ่งใหม่ๆท้าทายตัวเองในการลองทำงานเพลงในหลายๆแนวและผมหวังว่าผมเองจะสามารถหาแนวของตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้าได้ ถึงยังไงก็ตาม เสียงเพลงเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียวจริงไม๊ฮะ หากแฟนๆสามารถที่จะทำฝันให้เป็นจริงหลังจากที่ได้ฟังเพลงของผมหรือเพลงของผมช่วยปลอบใจและจิตวิญญาณของพวกเค้าเมื่อพวกเค้ารู้สึกเศร้าได้ ผมก็จะยังคงทำเพลงที่แตกต่างหลากหลายสไตล์ออกมา ตราบใดที่เสียงเพลงของผมจะสามารถอยู่คู่กับแฟนๆได้ตลอดไปครับ

สุดท้ายนี้ คุณช่วยฝากข้อความให้กับผู้อ่านของเราด้วยครับ

ถ้าการอ่านบทสัมภาษณ์นี้ช่วยทำให้คุณเข้าใจในบิกแบงมากขึ้น ผมก็จะดีใจมากเลยครับ แต่คุณจะเข้าใจในตัวเรามากขึ้นถ้าได้มาดูเราแสดงสดนะครับ หวังว่าพวกเราจะพบคุณทุกคนที่งานคอนเสริต์ครั้งต่อไปนะครับ

Eng translation by JwalkerVIP Thai Translation by mew mini museum

============

ยิ่งแปลยิ่งคุ้นว่าเคยแปลแล้วแต่ไป แต่ไปตามหาไม่เจอแฮะ สงสัยไม่ได้เก็บไว้ -_-!!

จบ 4 ตอนของน้องจีแล้วนะค่ะรอลงมืออีกทีคราวทาบิแล้วกัน เดี๋ยวว่างๆจะทยอยปั่น shout of the world ให้เสร็จๆไปอีก

สามารถตามอ่านตอนก่อนหน้านี้ได้ ตามนี้ค่ะ

สัมภาษณ์ GD จาก 1st Japanese Pictorial ตอนที่ 1
สัมภาษณ์ GD จาก 1st Japanese Pictorial ตอนที่ 2
สัมภาษณ์ GD จาก 1st Japanese Pictorial ตอนที่ 3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น