วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2555

ในสายตาคุณครูสอนร้องเพลง จีดราก้อน คือ......(shout16)


รู้สึกว่าใกล้เวลาคัมแบคของน้องๆเข้ามาทุกทีๆๆ แล้ว ตามที่ตั้งใจไว้ อยากจะทำ shout ให้เสร็จไปก่อน
ตอนนี้จริงๆก็เข้าโค้งสุดท้ายมาแล้วละคะ คิดว่าวันนี้ น่าจะจบได้ ส่วน shoutทาบิ จริงๆน้องไอซ์แปลไว้แล้ว แต่มิวก็ยังอยากจะแปลเก็บไว้เหมือนกัน ด้วยว่าทาบิเป็นเมนมิว 555 >///< รอคัมแบคผ่านไป เงียบๆว่างๆค่อยว่ากันใหม่นะคะ ทาบิ

================

Shout of the World GD

(shout1) ความคิดเห็นของ GD ที่มีต่อสมาชิกวง บิกแบง
(shout2) ย้อนไปเมื่อผมยังเป็นศิลปินฝึกหัด
(shout3) ทำไมตอนนั้นผมถึงต้องเข้มงวดกับพวกเค้าขนาดนั้น
(shout4) ผมเป็นคนยังไงกันนะ
(shout5) อะไรที่แย่ไปกว่าการที่ต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลว
(shout6) เรายิ่งทอแสงสว่างยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ด้วยกัน 5 คน
(shout7)เราต้องใช้ชีวิตจากนี้ไปประหนึ่งว่าเรายังเป็นศิลปินฝึกหัด
(shout8)พวกเราเปรียบเป็นต้นไม้ประเภทใดกันบ้าง?
(shout9)สำหรับผมแล้ว....เพื่อนคือ....
(shout10)ผมได้รับแรงบันดาลจากที่ไหนบ้าง?....
(shout11)สำหรับผมแล้ว...แฟชั่นคือ.......
(shout12)ความหมายที่อยู่ในรอยสักของผม
(shout13)สำหรับผม อิสรภาพคือ......
(shout14)ทำไมผมถึงไม่กลัวความล้มเหลว
(shout15)ในสายตาสไตลิสต์ จี-ดราก้อนคือ....

==============

ในสายตาคุณครูสอนร้องเพลง จีดราก้อน คือ....

GD พูดกับคุณครู " ครูฮะ ผมไม่คิดว่ามันควรจะเป็นแบบนั้นนะฮะ"

ก่อนที่บิกแบงจะเดบิว มันเป็นบรรทัดฐานเลยก็ว่าได้ที่นักร้องในวงการนี้จะสามารถร้องเพลงในแนว R&B และเพลงที่ต้องใช้อารมณ์มากๆได้ ดังนั้นการฝึกสอนของเราก็มุ่งเน้นไปในเพลง 2 แบบนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ดี ในวันนึง จียงก็เข้ามาคุยกับผมหลังจากที่เค้าได้คิดไตร่ตรองอย่างดีแล้วว่า " ครูฮะ ผมคิดว่าเราไม่ควรจะร้องเำพลงที่มันใส่อารมณ์มากๆ ผมคิดว่ามันไม่ตรงกับความจำเป็นของเราในตอนนี้นะฮะ เราต้องเปลี่ยนแนวทางและมุ่งเน้นในสิ่งที่ต่างไปจะดีกว่า " ผมค่อนข้างประหลาดใจมากที่ได้รับคำวิจารณ์แบบนั้นจากเทรนนี่ แต่ผมก็เห็นด้วยกับเค้านะครับ

ถึงแม้ว่าพวกเค้าจะใช้ชีวิตในทุกวันโดยที่มีตารางงานแน่นเอี๊ยดรออยู่เสมอ จียงก็ยังคงสามารถที่จะเจียดเวลาของเค้ามาเขียนเพลงเสมอ ผมคิดจริงๆว่า " โว้วว เด็กคนนี้วิเศษจริงๆ" ทำให้ผมต้องเตือนตัวเองเสมอว่า "เราคงต้องพัฒนาตัวเองให้เก่งในทุกๆเรื่องเพื่อที่จะได้สอนเค้าได้ " จียงอ่า ยังไงก็ขอให้ครูได้พักบ้างนะ

ว่ากันว่าเค้าเป็น แฟชั่นนิสต้า ระดับตำนานของวงการเลยทีเดียว ผมมักจะตื่นเต้นอยากรู้อยากเห็นทุกครั้งว่าอัลบั้มแบบไหนที่เค้าจะทำออกมาในอนาคตข้างหน้า ผมรู้ว่าจียงก็รู้เหมือนกันว่าทุกๆคนต่างก็ใส่ความคาดหวังลงไปในตัวเค้าอย่างมากเหมือนกัน ดังนั้น เค้าคงจะรู้สึกกดดันมากๆด้วย

แต่ยังไงก็ตามแต่ผมเชื่อมั่นอย่างแท้จริงว่าความตั้งใจในใจเค้าเกี่ยวกับเสียงเพลงจะยังมีอยู่ตลอดไปและจิตวิญญาณในการที่จะไม่ย่อท้อยอมแพ้ในการไล่ตามความฝันก็จะยังคงมีอยู่ด้วยเสมอ

[Note: If you want to repost it elsewhere, please include the following disclaimer:

I am not doing close translation of every word in the book, just quoting here and there from the sections. And I have paraphrased and summarized so it might contain errors. I am just sharing to spread the love, not hate. If you don’t feel comfortable reading it, please ignore me.And my works has nothing related to any profit making purpose. You are not allowed to reproduce it in any material forms for such a purpose. Thanks for your understanding.]

Source: Shout To The World (Chinese Version)

Eng Translated by: godlovesrice@tumblr.com/rice@bbu

Thai Translation by mew mini museum

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น