สารภาพ ว่ามิวก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าสัมภาษณ์นี้ไปสัมภาษณ์ไว้ตอนไหนอะไรยังไง เห็นน้องไอซ์แปลของน้องแดไปแล้ว เจ้าของที่แปลเป็นอิงค์ก็เริ่มแปลของเน่ออกมาแล้วด้วยแต่ยังไม่มีของทาบิมิวคิดว่าคงจะทยอยๆแปลไปแล้วกันค่ะ ในใจก็อยากจะไปตามแปล shout of the world มาเก็บไว้ด้วย เห็นงานนี้สั้นกว่ามีแค่ 4 ตอนเลยจัดไปก่อน แปลไปแปลมาก็คุ้นๆเหมือนตัวเองจะเคยแปลไปแล้ว ยังไงก็ตามแต่เริ่มกันเลยไม๊ค่ะ?? >_<
=====================
สัมภาษณ์ GD จาก 1st Japanese Pictorial ตอนที่ 1 : ความหลงใหล
G-dragon (GD) เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มที่จะสนใจในเสียงดนตรี??
ตอน นั้นผมยังอยู่โรงเรียนประถมฮะ ในตอนนั้นคุณพ่อของเพื่อนผมเป็นโปรดิวเซอร์ทำเพลงให้กับรายการเพลง ดังนั้นตอนที่ผมไปเล่นที่บ้านเพื่อนคนนี้ผมก็จะเห็นซีดีของศิลปินต่างประเทศ มากมาย และนั่นเป็นครั้งแรกด้วยที่ผมเริ่มฟังเพลง Hip-Hop และรู้สึกประทับใจกับเสียงเพลงครับ
เหมือนกับได้ไปรู้ว่าในโลกมีเพลงประเภทนี้อยู่เหมือนกัน
คือ ก่อนหน้านั้นผมจะฟังเพลงของศิลปินจากเกาหลีเท่านั้นครับเพราะผมคิดว่า ถ้าผมไม่เข้าใจความหมายของเนื้อเพลงแล้วฟังไปจะได้อะไร?? ผมเคยไม่เข้าใจในตลาดเพลงสากลเลยแม้แต่นิดเดียวดังนั้นผมจึงไม่ได้สนใจมัน ครับ แต่ยังไงก็ตามแต่ หลังจากที่ผมได้ฟังเพลงของวงhip-hop ชื่อดังอย่าง C.R.E.A.M ไปแล้วความคิดความอ่านในเรื่องเสียงเพลงของผมก็ขยายวงกว้างออกไปครับ
งั้นเรื่องภาษาก็ไม่ได้เป็นปัญหาอีกแล้ว??
ผม ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีฮะว่าเนื้อเพลงมีความหมายยังไงหรือออกเสียงภาษาอังกฤษ ออกมายังไงแต่ผมก็ถูกเสียงเพลงสะกดใจเข้าอย่างจัง ผมเอาแต่ฟังซีดีไม่ก็เทปซ้ำแล้วซ้ำอีกและพยายามจะเลียนการออกเสียง เพื่อที่ผมจะได้ร้องท่อนที่ผมฝึกออกเสียงนั้นได้ และผมก็อยากจะอวดให้ใครๆรู้ว่าผมจำได้เลยไปเข้าร่วมกิจกรรมคล้ายๆกับงานประกวดที่โรงเรียนและร้องเำพลงในงานนั้น ซึ่งผมคิดไปว่าทุกคนคงจะต้องชื่นชมผมและพูดว่าผมเก่ง แต่พวกเค้ากลับพูดว่า " นั่นนายร้องอะไรออกมา?? เราฟังไม่เห็นรู้เรื่องเลย " แทนที่จะได้รับคำชมผมกลับถูกล้อแทน ( ยิ้มน้อยๆ)
อ่า,คงยากมากเลยในช่วงนั้น แต่ถึงยังงั้นคุณก็อาจจะเป็นเด็กคนแรกในชั้นประถมที่เริ่มฟังเพลงที่มาจากประเทศนะ
ครับ ซึ่งเพื่อนๆที่ไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับผมในตอนเป็นเด็กตอนนี้พวกเค้าโทรมาหาผม และบอกว่าตอนนั้นน่าจะหันไปฟังเพลงกับผมด้วยนะฮะ (หัวเราะ)
งั้นตอนนั้นคุณคงได้ชื่อว่าเป็นตัวประหลาดด้วยไม๊??
ผมมักจะชอบที่จะท้าทายตัวเองกับสิ่งที่แปลกใหม่เสมอ อะไรใหม่ๆที่คนอื่นยังไม่รู้เกี่ยวกับมัน จริงๆแล้วสิ่งที่ผมสนใจสิ่งแรกเลยคือ การเต้นครับ เมื่อตอนที่ผมเป็นเด็กในตอนที่ดูทีวีผมมักจะเต้นไปตามจังหวะเสมอ เมื่อคุณแม่ของผมเห็นเข้า ก็เริ่มที่จะช่วยผมสมัครในการออดิชั่นทั้งหลายซึ่งผมก็ผ่านเข้าไปฮะ
ก็หมายความว่าคุณแม่เป็นคนแรกที่เห็นพรสวรรค์นี้ของคุณ?
ผมเป็นคนประเภทที่จะเต้นไม่ออกฮะถ้าไม่มีคนมาดูเยอะๆ ในขณะเดียวกันคุณแม่ก็ตระหนักว่าผมชอบที่จะนำพาความสุขมาสู่คนอื่นดังนั้น คุณแม่จึงตัดสินใจที่จะให้ผมลองเข้ามาในวงการบันเทิง ดังนั้น...ถ้าคุณจะชมว่าผมสุดยอด ผมว่าคุณไปชมว่าคุณแม่ว่าสุดยอดแทนจะถูกกว่าฮะ (หัวเราะ)
ก็หมายความว่าคุณแม่เป็นคนแรกที่เห็นพรสวรรค์นี้ของคุณ?
ผมเป็นคนประเภทที่จะเต้นไม่ออกฮะถ้าไม่มีคนมาดูเยอะๆ ในขณะเดียวกันคุณแม่ก็ตระหนักว่าผมชอบที่จะนำพาความสุขมาสู่คนอื่นดังนั้น คุณแม่จึงตัดสินใจที่จะให้ผมลองเข้ามาในวงการบันเทิง ดังนั้น...ถ้าคุณจะชมว่าผมสุดยอด ผมว่าคุณไปชมว่าคุณแม่ว่าสุดยอดแทนจะถูกกว่าฮะ (หัวเราะ)
แล้ว คุณได้ปรากฏตัวในรายการทีวีครั้งแรกเมื่อไหร่??
ตอน ที่ผมอายุ 6 ขวบครับ มันเป็นรายการโชว์ที่เหมือนกับเอาเด็กๆมาเล่นกัน คือถ้าคุณจะพูดว่าผมไปเข้าร่วมรายการด้วยตัวเองมันคงไม่ค่อยถูกนักนะฮะ แต่เป็นคุณแม่ตั้งหากที่พาผมไปในรายการนั้น เพราะผมไม่ได้สนใจอยากจะไปออกรายการทีวีเลยแต่ที่ไปเพราะผมอยากจะไปเ่ล่นกับเพื่อนๆและอยากจะไปทานอะไรที่นั่นมากกว่า (หัวเราะ) เมื่อตอนเด็กๆผมเป็นเด็กที่ขี้อาย ผมมักจะเดินหลบอยู่หลังคุณแม่ แต่สิ่งที่ผมสามารถทำอย่างเต็มความมั่นใจคือการที่ได้อยู่บนเวทีและการเต้น จนได้เข้ามาอยู่ในสังกัด YG ตอนอายุ 12 ผมถึงเริ่มที่จะเปิดตัวเองมากขึ้นครับ
คุณต้องจากคุณพ่อคุณแม่และเริ่มใช้ชีวิตด้วยตนเองตั้งแต่อายุเท่านั้นเองเหรอ??
คือ เพราะผมตัดสิินใจที่จะก้าวเข้ามาในวงการเพลง ผมก็ทำทุกอย่างตามทางที่ผมต้องการครับ ถึงแม้ว่าในตอนแรกคุณแม่จะบอกให้ผมเตรียมตัวและสอบเข้าชั้นมัธยมก่อน แต่เมื่อเธอเห็นความหลงใหลที่ผมมีต่อเสียงเพลงแล้ว เธอก็หันมาสนับสนุนผมแทน
แต่หลังจากก็ผ่านมายาวนานเหมือนกันนะกว่าที่คุณจะได้เดบิว
ผม เป็นศิลปินฝึกหัดมา 6 ปีและผมก็ได้ฝึกฝนผ่านการทำงานในอัลบั้มของรุ่นพี่และการแสดงสดของพวกเค้า ชีวิตของผมในตอนนั้นก็เป็นแบบนั้นครับ แต่พอตอนนี้ได้มองย้อนกลับไป ถ้าไม่ได้ช่วงเวลาตอนนั้นและประสบการณ์เหล่านั้น ผมคงไม่มีโอกาสได้มายืนอยู่ตอนนี้และฝ่าฟันมาได้ครับ
แต่หลังจากก็ผ่านมายาวนานเหมือนกันนะกว่าที่คุณจะได้เดบิว
ผม เป็นศิลปินฝึกหัดมา 6 ปีและผมก็ได้ฝึกฝนผ่านการทำงานในอัลบั้มของรุ่นพี่และการแสดงสดของพวกเค้า ชีวิตของผมในตอนนั้นก็เป็นแบบนั้นครับ แต่พอตอนนี้ได้มองย้อนกลับไป ถ้าไม่ได้ช่วงเวลาตอนนั้นและประสบการณ์เหล่านั้น ผมคงไม่มีโอกาสได้มายืนอยู่ตอนนี้และฝ่าฟันมาได้ครับ
Eng Translation: jwalkervip.tumblr.com
Thai Translation : mew in mini museum
Thai Translation : mew in mini museum
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น