ศิลปิน (เรียงตามลำดับการปรากฏตัว):
- G-Dragon
- Teddy (producer)
- Diplo (producer)
- Missy Elliott (performer)
- Lydia Paek (performer)
- Choice37 (producer)
- Kang Wook-jin (producer)
- Ham Seung-chun (producer)
- Dee.P (producer)
- Boys Noize (producer)
- Sky Ferreira (performer)
G-Dragon: “ส่วนตัวแล้วผมไม่สามารถฟังมันได้อีกต่อไปแล้วละครับ (หัวเราะ) ย้อนกลับไปตอนนั้นที่ผมทำมันเสร็จ ผมรักมันครับ ผมคิดว่ามันสมบูรณ์แบบ แต่คุณลองคิดดูนะมันผ่านมา 4-5 ปีแล้วในตอนนั้นผมก็ไม่ได้รู้อะไรมากขนาดนั้น ย้อนกลับไป ผมรู้สึกว่าตัวเองทำเพลงด้วยความหลงใหลล้วนๆ เวลาที่ผมแร๊พ ผมจะออกเสียงแบบก้าวร้าวรุนแรง เพลงที่ผมทำออกมามันเต็มไปด้วยพลังงานที่มากเกินไป ในตอนนี้ผมชอบเล่นเกมบ้างในบางครั้ง และผมเข้าใจว่ามันจะดีกว่าถ้าผมจัดสมดุลในสิ่งต่างๆ ผมรู้สึกสงบมากขึ้นเวลาที่ผมร้องแร๊พ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแฟชั่นหรือเสียงเพลง ยิ่งผมโตขึ้นมากเท่าไหร่ ผมก็ตระหนักว่าสิ่งที่ทำแล้วสบายใจนั้นมันจะอยู่ได้นานกว่า และความคิดแบบนี้แหละครับมันสะท้อนให้เห็นได้เยอะเลยจากอัลบั้มนี้ "
ทีมผลิตหลัก Choice37, Kush, และ Teddy
G-Dragon: “ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมทำงานร่วมกับพวกเค้า ผลลัพท์ที่ออกมามันจะเป็นที่น่าพอใจเสมอ และผมคิดว่าในทางกลับกันนะ วัตถุดิบที่ดีที่สุดของพวกเค้าก็มักจะเกิดขึ้นเวลาที่พวกเค้าทำงานร่วมกับผมเช่นกัน และความจริงอีกอย่างคือ เป็นเพราะผมทำงานกับคนกลุ่มเดิมบ่อยๆ มันมีโอกาสที่สไตล์เพลงของผมมันจะติดอยู่กับที่ และผมก็รู้ว่าผมควรที่จะลองทำงานร่วมกับคนที่หลากหลายออกไป
แต่ก็เหมือนกับคนอื่นๆแหละครับเวลาที่ผมได้เพลงมาจากเพื่อนที่รู้จักผมแล้วมันจะง่ายกว่าเวลาที่ผมเอามันมาทำต่อในแบบที่ผมมองไว้ โชคดีที่โปรดิวเซอร์ที่ผมทำงานด้วยนั้นล้วนแต่มีสไตล์ที่แปลกแยกกันออกไปชัดเจน นอกจากนี้ผมพยายามที่จะทำมันให้มันเป็นในแบบของตัวเองด้วยเช่นกัน มันเลยกลายเป็นเคมีที่เข้ากันได้ดีในการทำงานร่วมกันครับ "
Teddy: “ผมรู้จักเด็กคนนี้ตั้งแต่เค้าอายุได้ 10 ขวบแล้ว คุณรู้ไม๊ฮะ ระหว่างเราแทบไม่จำเป็นที่จะพูดกันแล้ว เวลาที่เราอยู่ในสตูดิโอ ผมจะเล่นเพลงอะไรของผมแม่งไปเรื่อย และเค้าก็จะร้องเพลง เราไม่ได้มานั่งพูดกันแบบ " เรามาทำเพลงนี้กันเถอะ" ผมไม่ต้องบอกเค้าเลยว่า " ท่อนต่อไปนายควรจะทำออกมาแบบนี้นะ" ไม่เลยครับ ในขณะที่ผมบันทึกเสียงเค้าจะคิดไว้แล้วว่าจะทำอะไรต่อไป เป็นเพราะทุกอย่างทำจากชีวิตจิตใจ มันเลยแตกต่างออกไปเสมอในทุกครั้ง ดังนั้นเราไม่มีมาตรฐานหรือแบบแผนตายตัวในวิธีการทำงานของเราฮะ "
ในแต่ละอัลบั้มใช้เวลาถึง 4 ปี
Teddy: “เรามีเพลงเดโมเป็นพันเป็นหลายพันที่เราทำเสร็จแค่ส่วนของท่อนแรกและในส่วนฮุค แต่ในเมื่อมันไม่เสร็จ คุณก็ไม่ต้องการที่จะบังคับทำให้มันเสร็จเพราะเราไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้นอีกต่อไปแล้ว คือจากนั้นเพลงมันก็ฟังดูไม่ดีเท่าที่ควรแล้วละ"
G-Dragon: “มีเหตุผลมากมายเลยครับ ว่าทำไมกว่าที่จะมีอัลบั้มที่สองนั้นถึงได้กินเวลานานนัก ส่วนใหญ่ๆเลยผมมักอยากที่จะทำงานให้ดีขึ้นดีขึ้นเรื่อยๆ ผมมีเพลงที่ผมอัดคร่าวๆออกมาเยอะมาก แต่พวกมันดูเหมือนจะไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมเท่าไหร่ ดังนั้นแทนที่จะดันเพลงที่ไม่สมบูรณ์ออกมา ผมต้องการที่จะค่อยๆเก็บรายละเอียดและทำอย่างปราณีตที่สุด
และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเราถึงได้ออก มินิอัลบั้ม One of a Kind (2012)ออกมาก่อน และในเวลาที่ยังมีอยู่ผมก็ เอาเพลงออกมาอัดใหม่ หล่อหลอมมันใหม่ และตอนนี้มันสมบูรณ์แล้วครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมจะดันงานอะไรออกมาผมมักจะรู้สึกว่ายังมีอะไรบางอย่างในเพลงที่จำเป็นต้องทำอีกแก้อีกเสมอ ผมจะไม่พูดว่าตัวเองไม่มั่นใจกับมันนะครับ แต่มันเป็นเหมือนกับความรู้สึกบางอย่างมากกว่าว่าผมสามารถทำให้มันออกมาดีกว่านี้ได้อีก ดังนั้นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงได้ใช้เวลานานนักในการทำเพลงออกมา "
กับอัลบั้ม Coup D’Etat:
G-Dragon: “อัลบั้มนี้มีความเป็นฮิบฮอบมากกว่าความพยายามของผมในครั้งก่อนฮะ ซึ่งมันทำให้ท่านประธาน ( ท่านหยางฮยอนซอก ประธานบริษัท YG Entertainment)ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ (หัวเราะ) แต่จริงๆแล้วเราไม่ได้ตั้งใจกำหนดออกมาว่าจะทำอัลบั้มประเภทนี้หรอกครับ มันออกมาในแนวนี้เองระหว่างที่เราทำมันออกมา เราแค่เก็บเกี่ยวพลังงานทีละช่องๆไปเรื่อยๆในแต่ละเพลง จากนั้นก็เริ่มทำอีกในเพลงต่อไป พูดตามตรงนะครับผมไม่ได้ใส่ความหมายมากมายอะไรลงไปในแต่ละเพลงที่ทำออกมา พวกมันเป็นแค่เพลงที่ผมอยากจะทำและอยากจะฟังก็เท่านั้นเอง"
Teddy: “มันไม่ใช่ว่า ‘Yo,ลงมือกันเถอะ อัลบั้มนี้จะใช้ชื่อว่า Coup D’Etat เริ่มปฏิบัติการ’ [หัวเราะ.] สำหรับผมแล้วมันไม่เคยเป็นแบบนั้นเลยฮะ เพราะผมทำงานของ 2NE1, Big Bang, Taeyang, T.O.P.,และศิลปินคนอื่นๆด้วย ดังนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามที่จียงชอบ เค้าก็จะคว้ามันไป ออกไปอยู่ในห้องอื่นและทำเพลงนั้นให้เสร็จ มันเป็นแบบนั้นเสมอ
เราไม่เคยที่จะวาดภาพรวมอะไรไว้ก่อนในการทำอัลบั้มนี้ มีแค่สิ่งเดียวที่แตกต่างไปในครั้งนี้คือการที่เรา บันทึกเพลง ‘Crooked,’ ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายที่เราทำ เราตั้งใจที่จะทำเพลงนี้ออกมาใส่ในอัลบั้มเพราะคิดว่ามันจำเป็นต้องมี นอกเหนือจากนั้นทุกอย่างไม่มีอะไรตายตัวเป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ
G-Dragon: “การที่ได้ฟังอัลบั้มที่เสร็จสมบูรณ์ตอนนี้ ผมชอบมันนะ แต่ผมต้องการที่จะฟังมันไปอีก 3-4ปีต่อจากนี้แล้วรู้สึกว่า " โอ้ นี่มันเยี่ยมใช้ได้นะ " นี่เป็นเป้าหมายที่เราพยายามอย่างหนักอยากจะทำให้สำเร็จ เพราะนั่นจะทำให้มันกลายเป็นอัลบั้มที่คลาสลิก ศิลปินทุกคนล้วนพยายามที่จะทำเพลงออกมาในแนวทางนี้กันทั้งนั้น ซึ่งผมก็เป็นแบบนั้นเช่นกันครับ"
Teddy: “มันเหมือนกับนรกดีๆนี่เองฮะ งานมีมาให้ทำตลอด เราแค่พยายามจบมันให้ได้ กับการมิกซ์เสียงและทำงานกันในวินาทีสุดท้าย มันมีสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงมากมาย ผมไม่รู้ว่าพวกเค้าจัดการพลิกแผลงผสมสารพัดสิ่งพวกนี้ไปมาได้ยังไงใน3วันสุดท้ายก่อนการวางแผง ผมไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้เฉพาะที่ วายจีของเรา หรือเป็นแบบนี้เฉพาะในเกาหลี แต่ผมรู้ว่าที่ญี่ปุ่นแม่งไม่ได้ทำแบบนี้ ดังนั้นผมรู้ว่ามันไม่ใช่วิถีที่ชาวเอเซียทำกันแน่ "
=================
สามารถอ่านตอนอื่นๆได้ตามนี้ค่ะ
THE MAKING OF G-DRAGON COUP D'ETAT
แบ่งออกเป็น 15 ตอนตามนี้ค่ะ
Intro
ก่อนจะออกมาเป็นอัลบั้ม COUP D'ETAT
เพลง COUP D'ETAT
เพลง Niliria
เพลง R.O.D
เพลง Black
เพลง Who you?
เพลง Shake the world
เพลงMichiGo
เพลง Crooked
เพลง runaway
เพลง I love it
You Do (outro)
เพลง Window
เพลง Black ft. sky ferreira
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น