วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สัมภาษณ์ G-dragon จาก Dazed Digital


การที่ชนะรางวัล EMA การที่ขายตั๋วคอนเสริ์ตได้หมดเกลี้ยงจนต้องเพิ่มรอบการแสดง ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเติบโตขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ แต่ในทางกระแสหลักแล้ว จะว่าไปบิกแบงก็ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่ในโลกตะวันตกถ้าเทียบกับวงอย่าง ColdPlay นะครับคุณมองเห็นตัวเองและบิกแบงอยู่ตรงไหนหากมองกันไปในระดับโลกครับ?? 
GD 답변: ผมคิดว่า เราโชคดีมากๆนะครับที่เป็นที่รู้จักนอกประเทศเกาหลี และผมขอยกความดีความชอบให้กับ อินเตอร์เนท และ youtube ที่ช่วยกระจายเรื่องราวออกไปว่าบิกแบงคือใคร พวกเรายังคงเป็นวงที่มาจากประเทศเล็กๆและสำหรับพวกเราแล้วการที่ได้ก้าวเท้าเข้าไปในประเทศที่เราไม่เคยไปมาก่อน ไม่เคยมีการโปรโมทมาก่อนด้วย และยังขายตั๋วการแสดงจนหมดได้ เรารู้สึกเป็นพรที่วิเศษครับ

แต่ในตอนนี้มีข่าวมากมายที่สนใจในตัวคุณแล้วนะครับ แต่ทัวร์คอนเสริต์กลับจบลงแล้วซึ่งในปี 2013 ตามแผนมีการวางงานในส่วนของงานโซโล่ของสมาชิกในวงมากกว่า คุณวางแผนยังไงในการที่จะจัดการกับความสนใจในตัวของบิกแบงที่เพิ่มมากขึ้นในขณะที่สมาชิกต่างก็แยกย้ายไปทำงานเดี่ยวของตัวเอง?? คุณรู้สึกรึเปล่าว่ามันเป็นเรื่องที่จำเป็นที่จะคงความสนใจนี้เอาไว้ หรือคุณมั่นใจมากที่จะเดินหน้าทำไปตามแผนที่คุณต้องการ?? 
 GD 답변: เรามักจะมุ่งความตั้งใจของเราไปที่คุณภาพของเสียงเพลงนะครับ เพราะตราบใดที่งานออกมาดีจากนั้นความสนใจก็จะตามมาเอง  การที่เราได้รับความสนใจแบบนี้เป็นเพียงเพราะเราทำงานกันอย่างหนักที่จะให้ชิ้นงานออกมามีคุณภาพและผู้คนก็ชอบแบบนั้น บิกแบงทำให้แฟนๆต้องรอชิ้นงานของเรามาหลายต่อหลายครั้งในอดีต ดังนั้นความตั้งใจของผมคือ จะผลักดันผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมาไม่ว่าจะเป็นงานในอัลบั้มเดี่ยวของผมหรือในอัลบั้มของบิกแบงก็ตาม และผมจะยังคงเดินหน้าทำตามตัวเองรอคอยจนกว่าเพลงนั้นจะพร้อมและชิ้นงานนั้นออกมาดีถึงจะปล่อยออกมาครับ

มีการพูดคุยกันมากในเรื่องของการที่ศิลปินชาวเกาหลีจะทำอัลบั้มภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มโอกาสในการที่จะบุกตลาดต่อไป บิกแบงเคยทำอัลบั้มที่ญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษมาแล้วแต่ก็นานมาแล้ว ในตอนนี้คุณเริ่มต้นได้ดีและมีพื้นฐานที่ดีในประเทศอย่างอเมริกาแล้วตอนนี้มีความจำเป็นที่จะต้องออกอัลบั้มเป็นภาษาอังกฤษออกมารึเปล่าครับ?? 
GD 답변:ผมคิดว่ามันก็เท่ดีถ้าจะแร๊พเป็นภาษาอังกฤษจากที่เราเคยทำนิดๆหน่อยๆมาแล้ว แต่ก็อีกครั้งแหละครับที่ผมจำเป็นต้องรู้สึกว่ามันใช่ มันเป็นก้าวที่ใช่ ในฐานะที่เป็นศิลปิน เราเคยทำมันมาแล้วและอาจจะทำมันอีกครั้ง แต่ผมจะทำเพลงที่เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆออกมาเมื่อผมรู้สึกว่ามันใช่แล้ว ไม่ใช่ว่าทำเพราะถึงเวลาที่ควรจะทำแล้วครับ

คุณเคยบอกว่าคุณให้ความพิจารณาชิ้นงานที่จะออกมาในนามของบิกแบงว่า เป็นงานที่เป็นกระแสหลักมากกว่า ในขณะที่งานในฐานะศิลปินเดี่ยวของคุณให้โอกาสคุณในการที่จะทำในแบบที่ต้องการมากกว่า คุณสร้างสรรค์งานเหล่านั้นออกมาได้ยังไง?? และคุณสร้างความสมดุลให้กับงานใน 2 ส่วนนี้ยังไง มีด้านไหนไม๊??ที่ดูจะมีอิทธิพลต่อคุณมากกว่า??
GD 답변: ผมเป็นคนเขียนเพลง เป็นโปรดิวเซอร์ครับ ถึงแม้ว่าคุณจะทำงานและทำทุกอย่างออกมาเป็นตัวของตัวเอง แต่คุณก็มักจะต้องมองผ่านมุมมองของคนอื่นด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างนะครับ มีนักแต่งเพลงมากมายที่เป็นผู้ชายแต่กลับเขียนเพลงให้กับศิลปินผู้หญิง มันเป็นเรื่องที่สนุกและสร้างสรรค์ดีนะครับ แต่ผมคิดว่าผมชอบที่จะทำงานในงานเดี่ยวมากกว่า เพราะผมเป็นอิสระและปล่อยตัว ได้อิสระและสร้างสรรค์ในแบบที่ตัวเองต้องการอย่างเต็มที่ครับ 

 

ในช่วงที่คุณออกอัลบั้ม Alive บิกแบงได้ให้สัมภาษณ์กล่าวถึงเรื่องราวความกังวลว่าพวกคุณจะเป็นที่ต้อนรับกลับมารึเปล่า??เนื่องจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงก่อนที่อัลบั้มจะออกมา (ในตอนนั้นมีเรื่องของจีดราก้อนเสพกัญชา และมีเรื่องของอุบัติเหตุของแดซอง) แต่ผลปรากฏว่าไม่เพียงแต่พวกคุณเป็นที่ต้อนรับกลับมาเท่านั้นแต่ผลลัพท์ที่ได้กลับสูงท่วมท้นเลยทีเดียว คุณรู้สึกยังไงบ้างครับตอนนี้ ถ้าจะถามผมในมุมมองของคนภายนอกนะ เหตุการณ์นี้ทำให้คุณกลายเป็นศิลปินที่เป็น อมตะ แตะต้องไม่ได้ไปเลย  
GD 답변: ผมไม่อยากจะพูดว่าเรา เป็นศิลปินที่ไม่มีใครมาโค่นลงได้ เพราะถึงแม้ว่าเราจะประสบความสำเร็จมากมายในปีนี้ ในฐานะที่เป็นศิลปินผมก็ยังอยากที่จะเติบโตต่อไปเรื่อยๆ  มันเป็นเรื่องที่โชคดีมากๆที่ผู้คนมากมายต่างก็สามารถอภัยให้กับเรา ให้เรากลับมาเร็วได้ถึงขนาดนี้ ผมคิดว่า หากไม่ใช่เพราะความรักที่พวกเค้ามีให้กับเสียงเพลงที่พวกเราทำ และความรักที่พวกเค้ามีให้กับพวกเรา ผมว่าผลลัพท์ก็อาจจะออกมาแตกต่างไปจากนี้  เรารู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาและดีใจที่ได้กลับมาเดินตามทางของพวกเราต่อไปครับ

ในตอนนี้ KPOP เริ่มหยั่งรากลึกลงทุกทีๆในตลาดต่างประเทศ และในตลาดเพลงตะวันตก จะต้องมี หลายสาขางาน มีนักวิจารณ์ มีสายตาจากสาธารณชน จับจ้องไปยังอุตสาหกรรมเพลงเกาหลีมากขึ้นแน่ๆ และเป็นที่วิจารณ์กันมากในอดีตถึง บางอย่างที่คนเรียกกันว่า "สัญญาทาส" ในความเห็นของคุณ มีความจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรตรงนี้ไม๊?? เพื่อให้มันดีขึ้น?? 
GD 답변: ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากเกี่ยวกับเรื่อง "สัญญาทาส" อะไรที่ว่านี้หรอกครับ เพราะผมสังกัดอยู่ในบริษัทที่เรียกว่าเป็น 1 ในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดคือ YG แต่พวกเราโชคดีที่ไม่ต้องรับมือกับสถานการณ์แบบนั้นเลยครับ แต่ผมหวังว่า เงื่อนไขต่างๆจะถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อศิลปินเพราะผมก็ได้ยินเรื่องนี้มาบ้างผ่านทางข่าว ก็อยากให้คนเหล่านั้นตระหนักและทำในสิ่งที่จะดีที่สุดเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของเหล่าศิลปินนะครับ

มีคนนอกมากมายที่ไม่อาจจะทำใจเข้าใจได้เลยในเรื่องของกระบวนการฝึก ศิลปินฝึกหัด ถึงแม้ว่าในวงการนักร้องป็อปของฝั่งตะวันตกก็มีขั้นตอนหนักหนาไม่น้อยเหมือนกันในการสร้างศิลปินขึ้นมา ในฐานะที่คุณก็เป็นคนนึงที่ผ่านช่วงเวลาเป็นศิลปินฝึกหัดมาตั้งแต่อายุยังน้อย คุณมีความเห็นยังไงบ้างกับระบบนี้ครับ?? คุณว่ามันช่วยเลี้ยงดูขัดเกลาคนที่มีพรสวรรค์ให้ดีขึ้นหรือว่าเป็นการใช้แสวงผลประโยชน์ส่วนตัวมากกกว่ารึเปล่า?? 
GD 답변: มันเป็นช่วงที่ยากลำบากมากในตอนนั้นครับเพราะมันเป็นกระบวนที่ใช้เวลายาวนานและเรียกร้องมากในทุกอย่าง แต่การฝึกในตอนนั้นช่วยให้ผมกลายมาเป็นศิลปินอย่างที่ผมเป็นในปัจจุบันนี้ ดังนั้นผมรู้สึกขอบคุณนะครับ

หากคุณไม่ได้ผ่านช่วงเวลาที่เป็นศิลปินฝึกหัด คุณคิดรึเปล่าว่าคุณก็อาจจะสามารถเป็นศิลปินอย่างที่คุณเป็นในตอนนี้ได้เหมือนกัน?? คุณคิดว่าชีวิตคุณจะเป็นไปในทิศทางไหนถ้าไม่มี วายจี เข้ามาเกี่ยวข้อง?? 
GD 답변: ผมคิดว่า กระบวนการในการฝึกหัดนั้นช่วยดึงเอาด้านความคิดริเริ่มใหม่ๆที่ผมมีในตัวผมออกมา พวกเค้าช่วยผมในการฝึกหัดขัดเกลาและทำให้ทักษะที่ผมมีอยู่ทำให้มันสมบูรณ์แบบ นี่คือสิ่งที่กระบวนการในการฝึกหัดทำกับตัวผม ผมไม่รู้ว่าผมจะทำยังไงถ้าหากว่าผมไม่อยู่ที่ YG แต่ผมคิดว่าคงจะทำอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับศิลปะอยู่ดีครับ


คุณมักจะถูกนำไปอ้างอิงว่ามีอิทธิพลหรือเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินหน้าใหม่ๆเสมอ คุณมองเห็นสไตล์หรือแนวคิดของตัวเองในศิลปินเกาหลีรุ่นใหม่หรือวงดนตรีหน้าใหม่บ้างไม๊ครับ?? อย่าง Zico วง Block B ดูเหมือนจะต้องการเจริญรอยตาม ก้าวย่างของคุณมากทีเดียว
GD 답변:  ผมไม่รู้ว่ามันมีจำนวนมากน้อยแค่ไหนที่สิ่งเหล่านั้นจะมาจากอิทธิพลจากผมนะครับ แต่มันให้ความรู้สึกดีนะครับที่หากมันจะช่วยให้นักร้องหน้าใหม่ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มากขึ้นและเริ่มเข้าไปมีส่วนในด้านของการผลิตเพลงมากขึ้น ตราบใดที่มีศิลปินที่ดีเพิ่มมากขึ้นและชิ้นงานออกมาดีขึ้น และยิ่งถ้ามันจะเป็นเพราะอิทธิพลจากผมมันก็เป็นเรื่องด้านบวกเป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้นครับ

แฟนๆของบิกแบงดูจะเป็นแฟนๆที่ภัคดีและทุ่มเทมาก แทยังเคยเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่ไปเจอแฟนเพลงของคุณบนเครื่องบินและดูท่าทางจะเหนื่อยหน่ายกับมันเหลือเกิน แฟนๆ เหล่านั้นสร้างผลกระทบอะไรในชีวิตประจำวันในตอนที่ไม่ได้อยู่บนเวทีของคุณรึเปล่าครับ?? คุณสามารถที่จะเดินทางไปไหนมาไหนในโซลและใช้ชีวิตตามปกติได้รึเปล่า?? คุณรู้สึกโล่งใจเวลาที่ไม่มีแฟนๆมาห้อมล้อม หรือคุณโหยหาอยากให้มีแฟนๆมารุมล้อมรึเปล่า??
GD 답변:ก็เหมือนกับทุกๆคนแหละครับ ผมต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ผมก็เข้าใจว่าผมเป็นคนมีชื่อเสียง ผมมักจะรู้สึกพอใจกับแฟนๆของผมเสมอดังนั้นผมก็คิดว่ามันก็เยี่ยมจริงๆที่มีแฟนอยู่ด้วย  แต่ในขณะเดียวกันผมก็เป็นคนที่พอใจที่จะออกไปในที่สาธารณะในฐานะคนปกติธรรมดาด้วย คุณอาจจะไม่รู้เรื่องนี้นะครับแต่คุณสามารถจะพบผมในที่สาธารณะทำตัวเหมือนคนอื่นๆแต่ผมจะปิดหน้าเอาไว้  บางเวลาผมก็ต้องการอยากจะใช้ชีวิตเหมือนคนปกติให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่สถานการณ์ในเกาหลีมันเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลยละครับ

ในการสัมภาษณ์ในรายการ Danny from LA ดูเหมือนคุณจะอิจฉาแดนนี่ในเรื่องที่ว่าเค้าปักหลักสร้างครอบครัวและกลายเป็นคุณพ่อไปแล้ว ในฐานะที่คุณดูเหมือนจะเป็นคนมุ่งมั่นในเรื่องของอาชีพการงานมากหากจะต้องมีครอบครัวคุณจะมีเวลาในเรื่องนั้นเหรอครับ??คุณจะสามารถหาจุดสมดุลระหว่างเรื่องงานกับเรื่องครอบครัวได้ไม๊?? หรือคุณจะยอมเสียสละใช้เวลาในเรื่องของการงานให้น้อยลงเพื่อที่ได้มีเวลาในเรื่องของสัมพันธภาพที่เกิดขึ้นมากกว่าครับ??  
GD 답변: ผมยังคงอายุน้อยอยู่ในเรื่องนี้ครับ แต่ผมอิจฉาพี่แดนนี่จริงๆที่เค้ามีครอบครัวแล้ว ผมต้องการอยากจะมีบ้างในวันนึงข้างหน้าแต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้ผมมีความสุขที่จะมุ่งความสนใจของผมไปในเรื่องของอาชีพการงานและเมื่อวันนั้นมาถึง ผมคิดว่าผมคงต้องเรียนรู้ที่จะหาจุดสมดุลให้กับทุกๆเรื่องให้ได้ครับ

ศิลปินฮิบฮอบชาวอเมริกันตอนนี้ไปเป็นนักร้องรับเชิญในเพลงป็อปมากขึ้นทุกทีๆ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องหันไปทำเพลงป็อป แต่คุณจัดการความที่ได้ชื่อว่าเป็นนักร้องเพลงป็อปให้มันดำเนินควบคู่ไปกับรากฐานฮิบฮอบของคุณและยังคงไว้ซึ่งความเป็นแร๊พเปอร์ของคุณได้อย่างเหนียวแน่น คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่นๆครับ?
GD 답변: ผมเป็นแร๊พเปอร์ และนี่เป็นสิ่งที่ผมเป็นมาโดยตลอด บางทีสิ่งที่สามารถแยกผมให้แตกต่างไปคือ ผมเดบิวในวงไอดอลแต่ยังไงก็ตาม ผมเป็นแร๊พเปอร์ตลอดมาครับ

มีอะไรที่เป็นความฝันของคุณที่คุณยังไม่สามารถทำมันให้สำเร็จได้บ้างไม๊ครับ?? 
GD 답변: ผมมักจะฝันให้ยิ่งใหญ่ไว้ก่อนเสมอฮะ ถึงแม้ว่าในตอนนี้ผมจะยังไม่มีเป้าหมายอะไรที่ชัดเจนในใจในตอนนี้ แต่ผมมักจะสนใจในเรื่องของการให้การสนับสนุนและเสาะแสวงหาพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ออกมา ไม่ก็ชอบที่จะบุกเบิกเส้นทางใหม่ๆครับ ตั้งแต่ยังเป็นเด็กผมมักชื่นชมคนที่มีพรสวรรค์และนักดนตรีที่น่าทึ่งผมต้องการที่จะเรียนรู้และเข้าถึงพวกเค้าว่าทำยังไงถึงได้กลายมาเป็นแบบทุกวันนี้ ผมอยากที่จะสร้างวัฒนธรรมป็อปออกมาด้วยเสียงเพลงและแฟชั่น เป็นอะไรบางอย่างที่สามารถสร้างสรรค์และครอบคลุมงานในสาขาต่างๆที่แตกต่างกันได้

คุณเป็นที่รู้จัก ในนาม เป็นคนนิยมความสมบูรณ์แบบเท่านั้น (perfectionist) นี่เป็นเหตุผลที่คุณไม่ยอมทำ mixtape แล้วไปปล่อยในอินเตอร์เนทใช่ไม๊ครับ?? คุณจะสามารถปล่อยผ่านแล้วยอมทำอะไรแบบนั้นออกมาได้รึเปล่าครับ??
GD 답변: ผมคิดว่า การทำ Mixtape ของที่นี่น่าจะแตกต่างจากที่ยุโรปและที่อเมริกาอยู่บ้างนะครับ ผมคิดว่ามันเท่ดีนะครับ แต่โดยส่วนตัวแล้วผมต้องการที่จะปล่อยเพลงที่มีคุณภาพออกมาในทุกๆครั้ง ไม่ได้จะบอกว่า Mixtape เป็นงานที่ไม่มีคุณภาพนะครับ แต่ถ้าเพลงนั้นไม่สามารถที่จะเข้าไปบรรจุอยู่ในอัลบั้มได้ ผมรู้สึกพอใจที่จะเก็บมันเอาไว้ในเซฟไม่ให้ใครเห็นมันมากกว่า

Mick Jagger เคยพูดเอาไว้ว่าเค้าไม่เคยอยากที่จะร้องเพลง'Satisfaction' ในตอนที่มีอายุ 40 หรอกนะ แต่ในตอนนี้เค้าอายุเกือบๆจะ 70 แล้วแต่เค้าก็ยังคงวางมาดอยู่บนเวทีอยู่เลย คุณเคยคิดคร่าวๆถึงระยะเวลาของบิกแบงบ้างไม๊ครับ?? จะมีจุดไหนที่จะทำให้คุณหันมาคิดว่า "ฉันคงรู้สึกไม่ไหวที่จะมาส่ายสะโพกเต้นเพลง Fantastic babyบนเวทีแล้วละ" 
GD 답변: ผมเคยคิดเรื่องนั้นครับ แต่ผมยังคงอายุน้อยอยู่ ตอนนี้ผมยังอยู่ในช่วงอายุ 20 กลางๆอยู่เลยดังนั้นยังนานอยู่กว่าที่ผมจะอายุ 40 (ดังนั้นแน่นอนว่าผมยังไม่ทันคิดไปถึงตอนที่ผมอายุ 70 หรอกครับ ^^;)

Source: http://www.dazeddigital.com/music/article/15701/1/g-dragon
Thai Translation by mew 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น