วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

สัมภาษณ์ G-dragon เกี่ยวกับอัลบั้มเดี่ยว One of a kind


จีดราก้อนผู้ซึ่งอยู่เหนือการคาดเดา ผู้ซึ่งหลงใหลในดนตรี นำเพลงขึ้นแท่นเพลงฮิตได้อีกครั้งแล้วกับการคัมแบคในครั้งนี้ กลุ่มแฟนเพลงของวงไอดอลนั้นเปอร์เซ็นต์หลักๆจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น แต่อัลบั้มของจีดราก้อนครั้งนี้กลับติดเรท 19+ เรื่องนี้ไม่เพียงเป็นสิ่งที่แร๊พเปอร์นักแต่งเพลงคนนี้ไม่ได้คาดคิดมาก่อน แต่มันยังสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนอื่นๆที่ได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ด้วย

หนึ่งในเพลงใหม่ของเค้าในการคัมแบคครั้งนี้ ที่มีชื่อเพลง “That XX” ถูกตั้งคำถามว่ามีเนื้อเพลงที่ไม่เหมาะสมรึไม่ ในท่อนที่ว่า " ไอ้*** คนนั้นมีอะไรที่ฉันไม่มีเหรอ??" คำที่ฟังดูออกจะหยาบไปซักนิด ขัดกับทำนองเพลงที่เป็นอะคลูติกนิ่มๆสร้างความผสมผสานที่น่าสนใจแต่ลงตัวเป็นที่สุด จริงๆแล้วถ้าเราตัดคำว่า " ไอ้ XXX" ออกไป เนื้อเพลงค่อนข้างจะเป็นเรื่องรักที่เหลวไหลและห่างไกลจากคำ่ว่า " ไม่เหมาะสม" อย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม จีดราก้อนก็ยังคงยืดหยัดจะใช้คำนี้ โดยกล่าวว่า เค้าเกลียดที่จะต้องร้องเพลงนี้ถ้าประโยคนั้นถูกตัดออกไปจากเพลง

คุณคัมแบคในครั้งนี้หลังจากที่ห่างจากงานเดี่ยวไปกว่า 3 ปี ช่วยอธิบายเกี่ยวกับคอนเซ็บซ์ของอัลบั้ม One of a kind หน่อยค่ะ?? 
จริงๆคอนเซ็ปซ์ไม่ได้ตั้งไว้ว่าจะเป็นแบบไหนเฉพาะเจาะจงครับ มันเป็นอิสรภาพที่ไร้ขีดจำกัด เหมือนกับที่ชื่ออัลบั้มบอกไว้ครับ มันเป็นสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุด ทำได้ดีกว่าคนอื่น ผมพยายามอย่างมากที่จะเป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวครับ

สิ่งที่คุณบอกว่าทำได้ดีที่สุด มันคืออะไรคะ??
ผมคิดว่าลักษณะที่ดีที่สุดของผม คือ การที่ผมไม่ตามค่ามาตรฐานต่างๆครับ ผมพยายามที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นเห็นว่าต่างออกไป และผมก็พยายามที่จะทำในสิ่งที่แตกต่างนั้นให้เป็นในแบบของผมเอง ด้วยMV และด้วยเสียงเพลง ในขณะที่เพลงทั่วๆไปดูเหมือนๆกันและน่าเบื่อ ผมคิดว่าผมจะหาทางทำให้มันสนุก และพยายามที่จะพูดถึงในสิ่งที่แตกต่างออกไปด้วยเช่นกัน 

มีอะไรในอัลบั้มที่แตกต่างไปจากอัลบั้มเดี่ยวครั้งที่แล้วเมื่อ 3 ปีก่อนบ้างไม๊คะ??
ก่อนหน้านี้ผมใส่ความคิดลงไปในสิ่งต่างๆเยอะมากๆ ผมคิดลึกลงไปถึงความหมายต่างๆและข้อความในเพลงรวมถึงตัวเพลงจะออกไปสู่ผู้ฟังและถูกยอมรับอย่างไร แต่ยิ่งทำเพลงมากขึ้นเท่าไหร่ผมก็เริ่มคิดได้ว่าการทำเพลงโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายเป็นลักษณะส่วนตัวของผมและเข้ากับบุคคลิกของผมได้ดีที่สุด เสียงเพลงก็คือเสียงเพลง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สนุกกับมัน แทนที่จะคิดเรื่องการส่งข้อความหรือทฤษฎีที่ยิ่งใหญ่ ผมพยายามจะใส่อารมณ์ความรู้สึกที่ผมรู้สึกในแต่ละวันลงไปในเพลง ดังนั้นมันจะเป็นเรื่องสนุกสำหรับผู้ฟัง และ การแสดงบนเวทีครับ

มีอะไรอีกไม๊คะ??ที่มีอิทธิพลต่อคุณนอกเหนือจาก ประสบการณ์และความรู้สึกของคุณเอง?? 
มันเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกที่มันสามารถที่จะดึงเอาคำที่ตรงใจออกมาได้นะครับ มันเป็นนิสัยที่แปลกๆของผมเอง แต่ผมก็พยายามที่จะตีความออกมาในรูปแบบที่ต่างออกไปด้วย ผมชอบที่จะจินตนาการในเรื่องต่างๆแม้กระทั่งตอนที่ดูหนังก็ยังคิด, คำว่า "Crayon" แค่เฉพาะคำนี้ก็เป็นคนที่ทรงพลังในตัวของผมเองอยู่แล้ว ผมเริ่มแต่งเพลงนี้โดยพยายามที่จะวางคำต่างๆลงไปในเพลง รวมถึงคำพูดอันโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง แบทแมนตอน The Dark Night คำว่า “Why so serious” ซึ่งเป็นธีมของหนังลงไปในเพลงของผมด้วย ส่วนตัวแล้วคำคำนี้เป็นข้อความที่ผมได้จากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงนำเอามาปรับใช้ในการทำเพลงเพลงนี้ครับ

เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการจำกัดอายุคนฟังอัลบั้มนี้ให้อยู่ที่ 19+ คืออะไรคะ??
เห็นชัดๆว่านี่กำลังจะกลายเป็นปัญหาที่ผมจะต้องเผชิญกับมันนะครับ ดังนั้นผมต้องการที่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านั้นขึ้นเลยจัดการติดเรทไปก่อน ผมรู้ว่ามันก็แค่คำคำเดียว แม้จะมีความแตกต่างนิดเดียว แต่เพราะเพลงถูกสร้างมาจากคำที่มีความแตกต่างนิดเดียวคำนี้แหละ ผมคงไม่อยากจะร้องนี้ถ้าในเพลงไม่มีคำคำนี้ ผมคิดว่าคนที่ฟังเพลงแล้วจะเข้าใจครับ

ทุกๆเพลง ทุกๆอัลบั้มที่คุณทำออกมาผู้คนล้วนมีความคาดหวังสูงมากๆ คุณรู้สึกกดดันบ้างรึเปล่าคะ?? 
มีความกดดันครับ แต่มันไม่ได้รบกวนอะไรผมเท่าไหร่ ถ้าผมเป็นคนประเภทที่กังวลว่าสายตาคนข้างนอกจะมองมายังไงและขีดกรอบตัวเองเพราะสายตาของคนเหล่านั้นผมคงไม่สามารถที่จะทำในสิ่งที่ผมทำออกมาได้ครับ หากผมทำงานอย่างหนักและเพียงพอ ผู้คนจะยอมรับผมเอง ใช่ไม๊ฮะ?? 


คุณพยายามที่จะทำให้งานเดี่ยวของคุณมีความแตกต่างออกไปจากงานของบิกแบงไม๊คะ??
ก่อนหน้านี้ผมพยายามที่จะแยกสไตล์เพลงของบิกแบงก็ส่วนบิกแบงงานเดี่ยวก็ส่วนงานเดี่ยว แต่ตอนนี้ไม่มีเรื่องแบบนั้นแล้วละครับ ความคิดเดียวที่ผมมีคือ ทำเพลงที่ดีออกมา การที่ไปกะเกณฑ์แบ่งแยกสไตล์เป็นการปิดกั้นตัวเองนะครับ เป้าหมายเดียวที่มีคือการที่ผู้คนมีความสุขไปกับเพลงไม่มีเป้าหมายที่เหนือกว่านั้นแล้วครับ

ผู้คนมักจะคาดหวังสิ่งใหม่ๆและสิ่งที่ดีที่สุดจากจีดราก้อนเสมอนะคะ
ความโดดเด่นไม่ได้เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเสมอไปครับ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละคนมากกว่า เป็นเพราะผมได้รับความรักมากมายจากคนฟังเพลงของผมและแฟนๆมาจนถึงตอนนี้ ดังนั้นมันเหมือนกับเป็นความรับผิดชอบอย่างนึงที่ผมจะต้องตอบสนองเติมเต็มความคาดหวังนั้นของพวกเค้า ในตอนนี้ทุกอย่างยังคงดำเนินไปได้ด้วยดีแบบนี้ แต่ต่อไปในอนาคตก็ยังคงเป็นเรื่องที่เราต้องกังวลกันอยู่ มันยังคงมีภูเขาลูกใหม่ๆที่ต้องปีนขึ้นไปเสมอ มันยากครับ แต่ผมยังอายุน้อยและโชคยังเข้าข้างผมอยู่เสมอในตอนนี้ ดังนั้นผมต้องการที่จะทุ่มเทสิ่งที่ผมมีทั้งหมดลงไปในสิ่งที่ผมพอจะทำได้ครับ

คุณเคยคิดบ้างไม๊คะว่า มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก มันต้องมีช่วงเวลา"ขาลง"ในอาชีพนี้บ้าง??
ผมคิดเรื่องนั้นเสมอเลยครับ เรื่องของชีวิตคุณไม่มีทางล่วงรู้อะไรได้เลย หากผมจู่ๆก็ต้องตกลงมาผมคิดว่ามันคงเป็นเรื่องที่หนักหนาจนผมไม่รู้จะทำยังไง ผมไม่ได้ทำเพลงด้วยความกลัวที่จะตกลงมา แต่หากอาชีพในฐานะนักแสดงของผมถึงจุดที่ตกต่ำลง ผมก็คิดเรื่องที่จะไปทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ครับ เหนือกว่าการทำเพื่อได้เงินมา เป้าหมายของผมคือการได้ทำเพลงในระยะยาว ผมอาจจะดูเหมือนเด็กบ้าๆบนเวทีคนนึงในตอนนี้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมจะทำไปตลอด 10-15 ปีนี้หรอกครับ ผมอยากที่จะเห็นตัวเองทำเพลงดีๆออกมา เพลงที่มีความสัมพันธ์กับอายุของผมในตอนนั้นๆ

จีดราก้อนที่ไม่ได้ทำเพลงจะเป็นยังไงคะ??
ผมคิดว่ามันมีช่องว่างที่ใหญ่มหาศาลระหว่างบุคคลิกของผมในตอนที่ทำดนตรีกับตอนที่ไม่ได้ทำเพลงครับ บนเวทีจะมีส่วนนึงในตัวของผมที่ต้องการอยากจะดูมั่นใจซึ่งก็เป็นส่วนนึงของการสร้างภาพลักษณ์แบบนั้นขึ้นมา เมื่อผมลงจากเวทีผมจะประหม่าและเหมือนเด็กซะเป็นส่วนใหญ่ ในช่วงเวลาที่ผมไม่ได้ทำงานเพลง เวลาออกไปทานข้าวกับเพื่อนๆหรือดูหนัง ผมมักจะพูดเยอะเลยครับ

เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เมื่อไม่ได้อยู่บนเวทีตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณเป็นอิสระในการที่จะทำในสิ่งที่คุณต้องการทำมากขึ้นนะคะ
ผมก็คิดแบบนั้นครับ มันอาจจะเพิ่มขึ้นเมื่อปีนึงๆผ่านไป เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาแล้วเมื่อผมโตขึ้นอีก 1 ปี ผมก็ได้รับอนุญาติให้ทำอะไรๆเพิ่มมากขึ้น เมื่อก่อนนี้ในรายการต่างๆผมมักจะง่วนอยู่กับการทักทายรุ่นพี่ แต่ในตอนนี้ขนาดคนที่โตกว่าก็มักจะมาทักทายผมก่อน ผมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นครับ

คุณคิดยังไงกับรุ่นพี่ร่วมค่าย อย่างคุณ PSY ที่กำลังสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก??

ผมนับถือเค้ามากครับ ในตอนที่เพลงนี้ของเค้าออกวางแผงผมไม่คิดมาก่อนว่ามันจะกลายเป็นเพลงดังมากถึงขนาดนี้ ผมไม่สามารถที่จะรู้สึกหรือเข้าใจได้ 100%ในสิ่งที่พี่ไซกำลังเผชิญในตอนนี้ได้  แต่ผมจินตนาการว่าพี่เค้าคงใช้ชีวิตเหมือนอยู่ในฝันทุกๆวันแน่ๆ ในฐานะเพื่อนร่วมงานและศิลปินร่วมค่ายบางส่วนในตัวผมรู้สึกอิจฉาเค้านิดๆครับ แต่ผมก็รู้สึกดีใจด้วยอย่างแท้จริงในสิ่งที่พี่เค้าประสบความสำเร็จ หากพี่ไซได้ระมัดระวังตระเตรียมทางในฐานะผู้ที่กรุ่ยทางไปล่วงหน้าก่อน ผมคิดว่า รุ่นน้องของเค้าก็มีทางเข้าใกล้เป้าหมายของพวกเค้าในตลาดนี้เข้ามาอีกก้าวด้วยเหมือนกัน สถานการณ์ทั้งหมดนี้น่าสนใจทีเดียวครับ  

งานของคุณก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีในต่างประเทศด้วยเช่นกัน  มีแผนการอย่างเป็นทางการที่จะออกไปสู่ตลาดในระดับนานาชาติบ้างไม๊คะ??
มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เกิดขึ้นได้จากการวางแผนนะครับและผมก็คิดว่าอย่าลองเลยจะดีกว่าถ้าความพยายามของคุณมีไม่มากพอ เป้าหมายของผมคือ การทำเพลงออกมาให้ผู้คนทั่วโลกสามารถที่จะสนุกมีความสุขไปกับมันได้ และนั่นคือสิ่งที่ผมเตรียมการเอาไว้ และผมคิดว่าผมคงจะไปสู่เป้าหมายนั้นได้โดยปริยายหากผมทำเพลงที่พวกเค้าชอบได้และทำในสิ่งที่ผมมั่นใจออกมา ผมกำลังเรียนรู้อย่างมากระหว่างที่เราทำ World tour ครั้งนี้ครับ

Source: soompi
Thai Translation by mew mini museum 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น