วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บทสัมภาษณ์ แดซอง จาก Champyungan ( part2)


บทสัมภาษณ์น้องแดบทนี้ เป็นบทสัมภาษณ์เดียวกันกับอันข้างล่างนะค่ะ
อันข้างล่างเป็น งานแปลที่วีไอพีรวมตัวกันแปลออกมาก่อน ที่ AllKpop จะออกเวอร์ชั่นของตัวเองมา มิวอ่านดูแล้วเนื้อหาที่เหมือนกับข้างล่างมิวก็จะใช้เวอร์ชั่นที่วีไอพีแปลไปนะค่ะ แต่มีบางคำถามที่แฟนๆไม่ได้แปลออกมาเลย ในโพสนี้มิวเลยมาเพิ่มให้ค่ะ เวลาอ่านคำถามอาจจะไม่ค่อยประติดปะต่อนะค่ะ เพราะมิวมาแปลเก็บที่ แฟนๆทำตกไปค่ะ

======================

คุณมีความคิดยังไงครับในตอนที่คุณได้เข้าไปช่วยในการซ่อมแซมบูรณะโบสถ์??
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้าไปทำงานแบบนี้ที่โบสถ์ครับ ผมได้กลายเป็นคนที่ยึดติดมุ่งมั่นกับโบสถ์ของเรามากขึ้นในตอนที่ผมทำงาน และหลังจากที่ได้หารือและลงมือทำไปแล้ว ผมรู้สึกขอบคุณมากๆที่ผมสามารถที่จะสรรเสริญพระเจ้าผ่านตึกที่สวยงามเหล่านั้น พูดตามตรงว่า ในตอนที่เค้าประกาศว่าทางโบสถ์จะทำการบูรณะตึกผมคิดว่าพวกเค้าคงจะต้องติดต่อมืออาชีพมาทำงานนี้แน่ๆ แต่ไม่ใช่เลยครับ ทั้งบาทหลวง ผู้ดูแลวัดและเออเดอร์ผู้สอนศาสนาต่างออกมาทำในสิ่งที่พวกเค้าทำได้ มันเป็นไปไม่ได้เลยครับที่คนหนุ่มสาวอย่างเราจะนิ่งดูดายยืนดูเฉยๆได้ มันเป็นเวลา 1เดือนครึ่งที่ผมทำงาน งานที่ดึงความสนใจของผมให้ออกห่างจากเหตุการณ์อุบัติเหตุ ผมคิดว่าพระเจ้าจะต้องยินดีกับการกระทำนี้ของผมและทุกอย่างก็ออกมาเป็นผลดีส่งผลถึงคนที่รักในพระองค์ท่าน

มันเป็นงานที่คุณไม่เคยทำมาก่อนแบบนี้ มันหนักไปสำหรับร่างกายของคุณรึเปล่าครับ??
เราไม่ได้ลงมือทำอะไรที่เรียกได้ว่าเป็นงานหนักเลยฮะ ส่วนใหญ่แล้วเราคนหนุ่มสาวจะคอยทำความสะอาดและทำการช่วยเหลือเป็นผู้ช่วย มันสนุกครับ ผมได้ทานอาหารอร่อยๆและมีช่วงเวลาดีๆกับเพื่อนๆในกลุ่มHepzibah ที่เรียนศาสนาด้วยกัน พวกเค้าถึงกับขนาดเลี้ยง หมูย่างพวกเราเพื่อเป็นการขอบคุณด้วยครับ มันเยี่ยมไปเลย

รู้สึกว่าคุณจะเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเล็กน้อยนะครับ??

ผมมีเวลาที่จะพิจารณาทบทวนความศรัทธาของผมและ
ย้ำลึกในใจว่าความฝันของผมคืออะไรกันแน่ พระเจ้าได้มอบพรสวรรค์ในการร้องเพลงให้กับผม ให้ผมได้สรรเสริญพระองค์ผ่านเสียงของผม ผมอยากที่จะใช้เสียงนี้นำเอาความรุ่งโรจน์มาสู่พระองค์และในวงการนี้ยังมีผู้คนอีกมากที่ยังไม่รู้จักพระเจ้าที่ผมเข้าถึง ผมอยากที่จะใช้ข้อได้เปรียบนี้ให้เป็นประโยชน์ครับ

คุณรู้สึกว่าสมาชิกในโบสถ์มีท่าทีเปลี่ยนไปหลังจากเหตุการณ์อุบัติเหตุไม๊ครับ??
ครับ ก่อนหน้านี้พวกเค้าจะทักทายผมอย่างร่าเริงยินดี แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าภายใต้รอยยิ้มของพวกเค้า พวกเค้ามองผมเหมือนอยากจะบอกผมว่าพวกเค้าเข้าใจสถานการณ์ของผมนะ พวกเค้าอยากจะให้กำลังใจและปลอบใจผม พวกเค้าบอกกับผมว่าพวกเค้าได้สวดภาวนาเพื่อผมเยอะมาก ผมไม่รู้ว่าผมคิดไปคนเดียวหรือยังไงนะครับแต่ผมรู้สึกว่าเป็นที่รักกว่าแต่ก่อน

มีสมาชิกในกลุ่มศรัทธามากมายที่อาจจะกำลังภาวนาเพื่อคุณอยู่ ซึ่งการสวดภาวนานั้นเป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก ซึ่งผู้คนที่อธิษฐานเหล่านี้คงเป็นเหมือนกับแหล่งพลังงานกลุ่มใหญ่สำหรับคุณเลยนะครับ
ผมคิดว่ามันมีเหตุผลเหมือนกันนะครับที่ทำไมผมถึงรู้สึกผ่อนคลายเวลาที่ได้อยู่ที่โบสถ์ เป็นเพราะว่าพวกเค้าต่างก็อธิษฐานเพื่อผมอย่างมาก ผมไม่รู้ว่าผมจะกลับมารู้สึกเหมือนเดิมได้อีกครั้งไม๊??ถ้าไม่มีกลุ่มผู้สวดภาวนาเหล่านั้น บางทีผมอาจจะต้องหาที่หลบภัยใหม่ที่ต่างออกไปเพื่อพักความคิดของตัวเองก็เป็นได้ แต่ผมรู้เมื่อได้เห็นสมาชิกในกลุ่มศรัทธาที่สวดภาวนาอย่างจริงใจเพื่อผม ผมรู้ว่านี่แหละเป็นพลังของการอธิษฐาน

ผู้คนที่ไม่ได้มีความศรัทธาพวกเค้าเชื่อว่าเราสามารถหาความสงบในใจของเราได้เองและพระองค์ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงๆ คุณรู้สึกจริงๆรึเปล่า??ที่ว่าพระเจ้าดำรงอยู่และช่วยคุณในสถานการณ์ของคุณ?? ครับ มากเลยครับ ในตอนที่คณะลูกขุนประกาศว่าผมไม่มีความผิดก็ด้วย เห็นได้ชัดเลยว่าพระเจ้าเข้ามาช่วยผม ผมได้เตรียมใจรับในทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นและจะเผชิญหน้ากับมันครับ แต่ทุกๆอย่างกลับออกมาในทางที่เป็นประโยชน์กับตัวผม ผมรู้ว่าพระเจ้าได้เข้าไปมีส่วนชักจูงใจของประชาชนที่เข้ามาเป็นคณะลูกขุนในครั้งนี้ครับ

คุณเปลี่ยนไปยังไงบ้างครับหลังจากที่คุณได้ศึกษาพระธรรมศัมภีร์ไบเบิล ??
ผมได้เรียนรู้ในทุกๆอย่างอย่างจริงจังเริ่มตั้งแต่ตอนต้น ผมเริ่มที่พระธรรม Genesis และอ่านเรื่องราวของอดัมกับอีฟ ผมได้เสี่ยงพาตัวเองอ่านลงลึกไปในรายละเอียดของพระธรรมคัมภีร์ ในภาค Old Testament (พระธรรมสัญญาภาคแรก จะเป็นเนื้อหาของการสร้างโลกก่อนที่พระเยซูจะถือกำเนิด) ผมจำได้ว่าในการสัมภาษณ์ครั้งก่อนคุณถามผมว่าผมรู้พระธรรมในภาค Old Testament มากน้อยแค่ไหน ผมตอบกลับไปว่า ภาคนี้มันยากที่จะทำการศึกษาดังนั้นผมจึงอ่านมันไปเพียงไม่กี่หน้าเท่านั้น แต่ในตอนนี้ผมถูกแนะนำให้พบกับแสงสว่างแสงใหม่ การศึกษาพระธรรมกับกลุ่มบาทหลวงเยาวชนมันไม่ได้ดูน่ากลัวและสนุกมากครับ มันยิ่งทำให้ผมมุ่งความสนใจไปยังการเทศนามากขึ้น ตอนนี้ผมมีความรู้เบื้องหลังติดตัวบ้างแล้ว ผมเชื่อมต่อสิ่งที่ฟังในการเทศนาเข้ากับสิ่งที่ผมอ่านเจอในไบเบิลและทุกอย่างก็ดูเข้าเค้ามากขึ้นในตอนนี้ แน่นอนว่าผมยังไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่เขียนในแต่ละหน้าอย่างถ่องแท้ทั้งหมด

ก่อนหน้านี้ ผมคิดว่า "โอเคโนอาลงมือสร้างเรือใช้เวลารวมกัน 120 ปี เจ๋งดีเนอะ อดัมและลามาร์สใช้เวลาอยู่ด้วยกัน 56 ปี โอเคจำได้แล้ว" แต่ตอนนี้ผมเข้าใจไปถึงว่ามันเกิดเพราะอะไรและเห็นความสำคัญของเรื่องราวชีวิตของพวกเค้า มันทำให้ผมตระหนักว่าผมจำเป็นต้องศึกษาพระธรรมคัมภีร์ให้มากขึ้น นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นเองครับ


ทุกวันนี้คุณยังได้อ่านคัมภีร์ไบเบิลอยู่ไม๊ครับ??

อ่านครับ ผมกำลังอ่านพระธรรมสัญญาภาคแรก แต่ก็ยังไม่เชี่ยวชาญหรอกครับ

คุณดูจะเป็นแดซองที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับแดซองที่เราสัมภาษณ์ไปเมื่อปีที่แล้วนะครับ มีตอนไหนจากคำพูดในไบเบิลที่มักจะเข้ามาในใจของคุณในตอนที่ทุกอย่างมันดูสาหัสสำหรับคุณบ้างไม๊ครับ?

จาก Hymn ที่ 365 กล่าวว่า " จงลุกขึ้นด้วยความมั่นใจ" มันก้องกังวานเป็นพิเศษในใจผม ผมตระหนักว่าผมต้องการที่จะยืนหยัดด้วยตัวเองได้อีกครั้ง


คุณได้สวดภาวนาอธิษฐานบ้างไม๊ครับในทุกวันนี้??

ครับ เป็นการสวดอธิษฐานสั้นๆ เวลาโน่นทีเวลานี่ที ครั้งแรกคือตอนที่ผมตื่นนอน ในตอนที่ผมเดินออกไปข้างนอก ในตอนที่ผมขึ้นรถ และหลังจากที่ผมกลับจากโบสถ์ถึงบ้าน ก่อนจะเข้านอน ทำนองนี้ครับ


คุณได้อธิษฐานถึงอะไรในช่วงนี้ครับ??

ผมรู้สึกว่าตัวเองได้รับพระพรทางจิตวิญญาณผ่านการศึกษาพระธรรมไบเบิลครับ และผมรู้ว่าผมจะได้รับพระพรนี้ในไม่ช้าผ่านสายตาของตัวเอง ผมเฝ้าถามพระองค์ว่าท่านต้องการที่จะเปลี่ยนผมและใช้ผมในอาณาจักรของพระองค์หรือไม่ และผมก็อธิษฐานว่าผมจะไม่มีวันที่จะหมดศรัทธาและจะไม่มีทางหลุดไปจากความมุ่งมั่นในใจที่ผมมีในตอนนี้ ผมภาวนาว่าผมจะก้าวเดินไปพร้อมกับพระองค์ จะไม่เข้าไปเจอกับอะไรที่จะมาขัดขวางผมไม่ให้พบเจอกับสัจจะ ผมยังภาวนาให้ผมได้รับพระพรในการทำงานของผม ผมจะได้สามารถร้องเพลงด้วยความมั่นใจอีกครั้งและทำมันต่อไปได้


ปีนี้ก็เหลืออีกแค่ 3 เดือนแล้วละนะครับ คุณจะใช้เวลาที่เหลือนี้ยังไงครับ??
ผมวางแผนว่าจะใช้เวลาที่เหลือนี้พักผ่อนครับ ผมเป็นนักร้องและงานของผมคืองานเพลง แต่เวลานี้ไปจนถึงสิ้นปีผมต้องการที่จะมุ่งความสนใจไปที่โบสถ์ ผมเป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่ม
Hepzibahที่ศึกษาพระธรรมด้วย ดังนั้นผมอยากจะตั้งใจทำในเรื่องนั้น

ผมรู้สึกยินดีที่ได้รับใช้โบสถ์ในหลายๆทาง และผมก็ภาวนาว่าผมจะสามารถจัดการทุกอย่างที่เข้้ามาในทางของผมได้เป็นอย่างดี และผมจะใช้ชีวิตด้วยพระธรรม เมื่อผมเข้าไปในโรงสวดหลัก ผมหัวเราะตัวเองที่เคยเข้ามาที่นี่และเอาแต่หลบหน้าหลบตา ไม่มีใครมองว่าผมเป็นคนดัง พวกเค้าเห็นผมเป็น พี่ชายคนนึง น้องชายคนนึง และเพื่อนคนนึงเท่านั้น


เพลงที่คุณร้องเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มันวิเศษมากเลยครับ
มันเป็นครั้งแรกที่ผมร้องเพลงเพื่อการวิงวอนคนเดียวเดี่ยวๆครับ ผมรู้สึกประหม่ามาก ขาของผมไม่เคยสั่นเวลาขึ้นเวทีเลยนะครับ แต่อาทิตย์ที่แล้วมันสั่น มันเป็นความประหม่าในขั้นที่ผมไม่สามารถที่จะทำอะไรกับมันได้เลยครับ ผมรู้สึกประหม่ามากที่สุดตอนที่้ร้องท่อนอธิษฐาน มันเป็นอะไรที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิงกับการร้องเพลงบนเวทีคอนเสริต์ เนื้อเพลงนั้นโดนใจของผมมาก

มีอะไรที่คุณอยากจะพูดในตอนจบของบทสัมภาษณ์นี้ไม๊ครับ??

เมื่อคุณได้เสนอเรื่องว่าจะทำการสัมภาษณ์ผม ผมคิดไปถึงการสัมภาษณ์ที่ให้ไปเมื่อปีก่อนอย่างมาก ผมคิดถึงคำตอบที่ผมเคยตอบไปและรู้สึกอายมากเลยครับ ถ้าผมไม่ได้ผ่านอุปสรรคนี้และไม่ได้พบกับช่วงเวลาที่ลำบากสาหัสนี้ในชีวิต ผมอาจจะไม่ได้เข้ามาที่โบสถ์พร้อมกับความตั้งใจและศรัทธาท่วมท้นในใจถึงเพียงนี้ ผมรู้สึกขอบคุณมากๆในการเปลี่ยนแปลงนี้ครับ

การสัมภาษณ์นี้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2011 หลังจากการสัมภาษณ์จบลงทางเราได้ไปค้นหาบทสัมภาษณ์ที่ได้ทำไว้เมื่อปีก่อน เราเจอว่าครั้งก่อนเราสัมภาษณ์เค้าในวันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม ซึ่งห่างจากการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ 365 วันพอดี


พระเจ้าได้ปกป้องเค้าและสร้างความเชื่อให้เติบโตในตัวเค้าตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เราจะเฝ้ารอ แดซองที่จะยิ่งเติบโตในความศรัทธาในอีก 365 วันต่อจากนี้ไป


Source & Image: Champyungan

Eng Translations from allkpop

Thai Translation by mew in mini museum

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น