วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สัมภาษณ์ TOP ในนิตยสาร GQ เกาหลีฉบับ April 2011


สัมภาษณ์ ทาบิ ในนิตยสาร GQ ค่ะ เป็รนิตยสารที่ถามแล้วได้แง่มุมแปลกๆมาเยอะทีเดียว ขนาดตาจะปิดเพราะฤทธิ์ยากมิวก็ยังอุตส่าห์ปั่นซะเรียบร้อย เหวังว่าจะชอบกันนะค่ะ >_<


GQ: มีคนกล่าวว่า คุณเป็นผู้ชายที่ "ดูยอดเยี่ยมมากเวลาสวมสูท" ผมคิดว่าคุณจะต้องภูมิใจมากๆแน่กับคำชมนี้ในฐานะผู้ชายคนนึง

TOP: ผมคิดว่าที่เค้าพูดแบบนั้นเป็นเพราะผมสวมสูทบ่อยไม๊ฮะ?? (หัวเราะ) ผมชอบสูทและมีความสุขที่ได้สวมใส่มันนะฮะ ขนาดในรูปเก่าๆตอนที่ผมอายุได้แค่ 5-6 ขวบ ผมก็ยังสวมเสื้อนอกเลยละฮะ แบบที่มีสีสดใสๆหนะครับ คุณแม่เล่าให้ฟังว่าผมมักจะขอให้เธอซื้อสูทให้ผมสวมตั้งแต่เด็กๆเลยละฮะ ผมหวังว่าผมจะดูภูมิฐานและเป็นสง่าขึ้น ดังนั้นผมเลยมักจะที่จะสวมสูทครับ


GQ: งั้น คุณก็สามารถที่จะรักษาร่างกายของคุณให้เข้ากับสูทได้สินะครับ

TOP: ผมก็มีคิดเรื่องนี้อยู่บ้างนะฮะ แต่ก็ไม่ได้คิดจริงจังนัก ผมเป็นคนที่ควบคุมน้ำหนักด้วยนะครับ อย่างบางทีแขนก็เริ่มที่จะใหญ่ไปแล้วหรือหน้าท้องเลยเริ่มจะหายไปแล้ว คือรูปร่างของผมไม่สามารถที่จะคงที่ได้ตลอดเวลาหรอกครับ


GQ: อ่า เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง

TOP: ผมเลยชอบที่จะสวมใส่เครื่องแต่งกายที่ค่อนข้างสบายๆในสมัยก่อนครับแต่ตอนนี้ผมคิดว่าชุดในแบบคลาสลิกมันยากที่จะมีอะไรมาเปลี่ยนแปลงมันครับและมันเป็นสาเหตุที่ทำให้มันน่าสนใจมากด้วย นอกจากนี้ผมก็รู้สึกตื่นเต้นด้วยนะครับเพราะมีเพื่อนไม่กี่คนในวัยเดียวกับผมที่จะหลงใหลในเรื่องนี้ครับ


GQ: เมื่อก่อนดูเหมือนว่าคุณจะคอยปฤิเสธมันอยู่เรื่อยๆนะแม้ว่าคุณจะดูดีมากจริงๆ แต่จู่ๆคุณก็กลับยอมรับและมีความสุขกับความจริงที่ว่าคุณเป็นคนที่ดูดีและคุณก็เริ่มมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น
TOP:มันเป็นความรู้สึกที่ท่วมท้นเกินกว่าจะรับได้ในตอนแรกๆที่อาชีที่ผมทำอยู่นี้จะต้องแสดงออกตัวตนและรูปร่างของผมต่อหน้าสาธารณชนครับ ผมมีความเครียดมากๆๆในตอนที่เดบิวผมไม่ชอบที่จะต้องอยู่ต่อหน้ากล้องผมกลัวว่าคนอื่นจะเข้ามารู้จักตัวตนของผมมากเกินไป ซึ่งตอนนี้ผมเลิกความคิดแบบนั้นออกไปและยอมสูญเสียอะไรหลายอย่าง คือผมหมายความว่่าตอนนี้ผมคิดว่าผมควรจะเป็นคนที่พิเศษ ที่ดูดีที่เพื่อแฟนๆที่ชื่นชอบผมครับ


GQ: ผมได้ยินคุณพูดบ่อยมากๆว่า " กลัวว่าคนอื่นจะเข้ามารู้จักตัวคุณดีเกินไป "

TOP:ครับผมไม่คิดว่าผมจะทำอะไรแบบนั้นได้จริงๆนะครับ เพราะว่าด้วยบุคลิกของผมเอง แต่ผมคิดว่าผมสามารถที่จะทำสิ่งที่มันมาจากสิ่งที่มันเกิดขึ้นการจิตใต้สำนักธรรมดาๆๆได้ ผมไม่อยากจะให้ผู้คนมามองผมว่าเป็นคนที่ถูกต้องทำนองตามคลองธรรมและคาดหวังกับภาพแบบนั้น ผมต้องการที่จะเป็นอิสระและดูใหม่เสมอๆ ผมไม่ต้องการที่จะมีภาพ " หนุ่มน้อยเกาหลี" ผมกลัวที่ผมจะมีภาพที่ "ยอดเยี่ยมเกินไป" ดังนั้นผมเลยชอบที่จะหลบเลี่ยงภาพลักษณ์บบนั้นมากกว่า

GQ: นี่เป็นเหตุผลที่คุณมักจะเน้นแยกบุลลิกของ "ท็อป" และ"ชเวซึงฮยอน" ออกจากกันไม๊ฮะ??

TOP: บางทีมันเหมือนกับเป็นประโยคที่คอยจะประท้วงอยู่ในใจและทำให้คุณต้องรู้สึกเจ็บปวดในตอนเด็กหนะครับ คือ ถ้าเปรียบกับคนที่รักกันเป็นแฟนกัน คุณจะไม่รู้สึกเบื่อเหรอถ้าแฟนของคุณแสดงออกทุกอย่างของตัวตนของเค้าออกมาทีเดียวเลย?? ผมอยากจะให้คนรู้สึกอยากรู้อยากเห็นในตัวผมมากกว่าที่จะเห็นจนหมดและเกิดอาการเบื่อแทนครับ


GQ: ผมคิดว่าบทบาทของ ท็อป ที่ผู้คนต้องการอยากจะให้คุณเป็นและบทบาทที่สมาชิกคนอื่นๆในวงบิกแบงอยากให้คุณเป็น คือ เป็นคนที่ดูเป็นผู้ชายที่แมนมากๆๆ นะครับ

TOP: ผมไม่ได้เป็นผู้ชายที่แมนมากๆอย่างที่คุณคิดว่าผมเป็นหรอกครับ เวลามีคนเข้ามามีโอกาสรู้จักกับผมเค้าจะรู้สึกแปลประหลาดใจมากว่าผมเป็นคนที่อ่อนโยนและตลกมากๆ ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายแบบแมนๆหรอกนะครับ(หัวเราะ) แต่มันก็ไม่ได้สร้างความรำคาญใจอะไรกับผมนะฮะ ผมคิดว่าผู้คนเข้าใจผิดว่าเป็นแบบนั้นเพราะ สไตล์การแร๊พของผม มันจะแมนมากๆไม่ก็่อ่อนหวานมากๆอย่างละนิดอย่างละหน่อยเป็นไประหว่างสองแบบนี้แหละฮะ มันต่างจากการที่ผมร้องแร๊พเมื่อวานนี้และมันก็จะเปลื่ยนไปในอนาคตฮะ


GQ: คุณคิดยังไงกับการแสดงออกที่ทำให้คุณดูป็นผู้ใหญ่??

TOP: ไม่ฮะ ผมไม่ชอบมัน ไม่อีกต่อไป


GQ: ผมคิดว่าคุณคงได้ยินมาเยอะนะครับ

TOP: คือว่า มันเป็นความคิดที่มากเกินไปอะครับ ถ้ามันมากแบบนี้จากนี้ไปผมก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรที่มันดูเป็นเด็กๆได้อีกถ้าผมมีภาพลักษณ์แบบนี้ติดตัวไป ผมอยากจะอยู่แบบอ่อนเยาว์และยังเล่นซุกซนไ้ด้ฮะ


GQ: คุณเป็นสมาชิกที่มีอายุมากที่สุดในบิกแบง แต่ถ้าภายนอกในสังคมแล้วคุณก็ยังถือว่าเป็นเด็กอยู่ คุณรู้สึกว่ามีช่องเว้นระหว่างสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบ้างไม๊????

TOP: ผมไม่มีความรู้สึกว่าหยิ่งหรืออวดตัวเองเลยละฮะทั้งในวงและในส่วนตัวเองแล้ว ผมคิดว่าคนที่ฉลาดนั้นจำเป็นจะต้องรู้ว่าเวลาไหนที่เค้าควรจะแสดงความสุภาพและเวลาไหนที่เค้าควรจะทำตัวสนิทสนมใกล้ชิด ในวันปกติธรรมดาทุกวันผมไม่ได้คิดว่ามผมเป็นบิกแบงหรือผมเป็นคนดังเลยละฮะ


GQ: ผมคิดว่าในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ มีเพียง 3 วิธีในการจัดการกับรุ่นน้องคือ 1 มองว่าเค้าต้อยกว่า 2.มองเค้าในระดับเดียวกับเรา 3. หลับหูหลับตาไม่สนใจพวกเค้าเลย สำหรับคุณแล้วคุณเลือกปฏิบัติแบบไหนกับรุ่นน้องของคุณครับ

TOP:ผมมักจะมองพวกเค้าในระดับเดียวกันครับ ในทุกๆปีพวกเค้าก็จะต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ผมคิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับผู้ชายด้วยกันคือ การที่เค้าจะยอมรับว่าคุณเป็น "พี่" ดังน้้นผมเลยเข้าใจดีมากๆว่า ตราบใดที่ผมต้องการมากๆที่จะข่มพวกเค้าให้นับถือผมในฐานะ " พี่" พวกเค้าก็่ย่อมไม่อยากจะปฏิบัติกับผมแบบนั้นมากเท่านั้นแหละฮะ


GQ: มีเวลาไหนไม๊ครับที่คุณเคยคิดขึ้นมาว่าสมาชิกคนอื่นๆในวง ทำไมทำตัวเป็นเด็กมากจังเลยเมื่อเทียบกับคุณ ??

TOP: พวกเค้ามักคิดว่าผมเป็น น้องเล็กสุดในวงมากกว่าฮะ (หัวเราะ) มันเป็นเพราะว่าพวกเราต่่างก็แตกต่างกันมากเลยและเราต่างก็รู้ในข้อนี้ ดังนั้นผมคิดว่านี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไม่ค่อยได้ทะเลาะกันเลยฮะ เราแค่แค่ยอมรับการตัดสินใจของกันและกันและแก้ปัญหาครับ


GQ: บนเวที ผมคิดว่าท็อปหัวเราะออกมาเหมือนกลบเกลี่อนในสิ่งที่เค้าทำพลาดไม๊ฮะ?
?

TOP:ผมแค่ทำมันออกมาตามสัณชาตญานนะครับ ถ้ามันเป็นสิ่งที่เตี๊ยมกันมาแล้ว ทุกคนย่อมต้องสังเกตเห็นได้แน่ว่ามันไม่ใช่ของจริง ผมคิดว่านี่เป็นอีกเรื่องนึงของสัญชาตญาณของผมเป็นแนวของผมอะครับ


GQ: เวทีนั้นสามารถที่จะเป็นสนามเด็กเล่นของใครบางคนหรือเป็นห้องห้องนึงสำหรับคนอื่นๆ แต่การที่จะต้องไปเผชิญกับสิ่งที่อยู่บนเวทีสำหรับบางคนแล้วเหมือนกับกำลังจัเข้าไปสู่สนามรบนะครับ

TOP: ผมเป็นคนที่มักจะไม่ค่อยออกๆไปใช้เวลาเที่ยวเล่นข้างนอกครับและผมก็มีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงผู้คนด้วย ผมไม่ค่อยได้ปลดปล่อยพลังแบบนั้นในชีวิตประจำวันดังนั้นผมเลยที่จะไปปลดปล่อยบนเวที เมื่ออยู่บนเวทีแล้ว จะมีผมอีกคนนึงที่แตกต่างจากผมที่ไม่ได้อยู่เวทีออกมาให้เห็น มันไม่ใช่ผมขึ้นไปบนเวทีเพื่อหาความสนุกเท่านั้นนะฮะ แต่ผมอยากจะให้คนมีความคิดอย่างเช่นว่า " อ่า เราเกลียดผู้ชายบนเวทีคนนั้นไม่ได้เลยเนอะแม้ว่าเค้าจะทำหน้าทำตาแบบนั้นก็ตาม"

GQ: คุณหมายถึง ความพอใจของแต่ละคนก็หลากหลายออกไปใช่ไม๊ครับ

TOP: แบบนั้นแหละฮะ การทำให้เกิดความพึงพอใจที่มาจากประสบการณ์ที่หลากหลายครับ ผมคิดว่าสิ่งที่ัที่สังคมต้องการคือคนที่มีความมั่นใจบนเวที พวกเค้าจะรู้สึกสบายใจจากความมั่นใจนั้น เมื่อตอนที่ผมยังอายุน้อยกว่านี้ผมจะได้รับความมั่นใจจากศิลปินจากต่างประเทศ ความเซ็กซี่ก็เป็นอย่างนึงนะฮะ มันอาจจะเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัวนิดๆก้ได้ แต่แทนที่ผมจะคิดว่าผมจะแสดงออกบางอย่างให้กับผู้คนได้เห็นในเวลานั้น ผมคิดว่าผมควรจะเก็บช่วงเวลานั้นเอาไว้ในตัวผมตลอดไปจะดีกว่า ไม่ว่าผมจะอยู่บนเวที หรือจะแสดงละคร หรือแสดงภาพยนตร์ผมจะทำมันด้วยชื่อของผม ดังนั้นถ้าผมไม่ใส่ลงไปอย่างเต็มที่ให้มันเป็นความสมบูรณ์แบบที่สุด มันก็จะเหมือนกับจะกลายเป็นการเรื่องเล่นตลกไป ดังนั้น นี่เป็นเวทีของผมผมต้องเป็นตัวหลักครับเป็นคนตัดสินครับ


GQ: คุณคิดรึเปล่าว่าคุณเอาความรับผิดชอบในตัวเองมาแบกรับเอาไว้และไม่ลำเอียงเข้าข้างตัวเองอีกด้วย เราจะสามารถเรียกคนที่มีความคิดแบบนี้ว่าเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นชายเต็มตัวได้ไม๊??

TOP: ผมมักจะพยายามที่จะไม่เข้าข้างตัวเองและรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเองครับ ผมเห็นว่าตัวเองนั้นไม่ค่อยจะพูดเท่าไหร่แต่เมื่อเวลาผ่านไปและผมเริ่มที่จะมีชื่อเสียงแล้วและมีคนเริ่มสังเกตเห็นผมบ้างแล้วผมก็ค่อยจะเริ่มเล่นมุขออกมาบ้าง แต่ผมมักจะระมัดระวังอย่างมากกับคำพูดของผมครับ


GQ: ผมคิดว่าผมสามารถสรุปได้ว่า ผู้ชายคนนี้เมื่อถึงวัยที่เค้าจะต้องเข้าสังคมเค้าก็ได้กลายเป้นมาเป็นส่วนนึงของวงไอดอลซะแล้ว เค้าต้องก้าวเข้ามาอยู่ในระดับนี้ในสังคมแบบทันทีและเริ่มทำงานเร็วกว่าคนอื่นๆ แต่ในใจของเค้ายังไงๆก็ยังคงอยู่ในระดับเดิมของเด็กชายคนนั้นที่คอยยืนมองและต้องได้รับประสบการณ์ต่างๆในสถานการณ์ที่หลากหลายอีก ต้องรู้จักผู้คน เข้าถึงผู้คนในสถานการณ์ที่มากมาย และสิ่งเหล่านี้ทำให้ผมคิดว่าบางทีมันก็ทำให้คุณเกิดความรู้สึกท้อแท้ใช่ไม๊ครับ

TOP: ผมรู้สึกจริงๆว่าตัวเองนั้นเติบโตอย่างรวดเร็วมากแต่ผมกลับไม่คิดว่าผมต้องการที่จะเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ ผมไม่ได้กลัวว่ารูปร่างหน้าตาของผมจะเปลี่ยนแปลงไป ผมหมายความว่าผมอยากจะมีชีวิตอยู่ด้วยจิตใจที่ยังเป็นเด็กแบบนี้ ยังคงความไร้เดียวสาบริสุทธิ์เอาไว้ ผมคิดว่าเพราะแบบนี้แหละงานสร้างสรรค์ต่างๆมันจึงเกิดขึ้นก็เพราะเรายังมีแง่คิดแบบเด็กๆในตัว แต่ในขณะเดียวกันผมคิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดคือการที่เรามีอายุมากขึ้นเราโตขึ้น เราไม่สามารถที่จะทำท่าว่าเราเป็นผู้ใหญ่เกินอายุของเราใช่ไม๊ฮะในขณะเดียวกันเราก็ไม่สามารถที่จะทำตัวเด็กกว่าอายุของเราเช่นกัน ดังนั้นผมก็แค่อยากที่จะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมในหมู่คนที่มีอายุเท่ากันก็เท่านั้นเองฮะ


GQ: ดังนั้นคุณกำัลังจะบอกว่ามันสำคัญมากๆใช่ไม๊ครับในการใช้ชีวิตเมื่อเรามีอายุมากขึ้น
??

TOP: ก็ใช่ไม๊ละครับ?? ยกตัวอย่างนะครับ ผมไม่สามารถที่จะไปคลุกตัวอยู่กับเพื่อนๆและออกไปดื่มข้างนอกได้ใช่ไม๊ครับ มันแลดูจะไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่
การที่ผมเป็นพี่ใหญ่ที่สุดในวงบิกแบง ถ้าเกิดข่าวลือขึ้นมาว่า มีคนเห็นท็อปออกมาดื่มข้างนอกหรือออกไปที่ไหน พวกเ้ค้าจะไม่ได้หมายความว่า ท็อปออกมา แต่มันจะกลายเป็นว่า บิกแบงออกมาเที่ยว นะครับ

GQ: อัลบัมของบิกแบงคราวนี้ดูเหมือนว่าจะถอยหลังไปหน่อยนะครับถ้าเทียบกับอัลบั้มของยูนิตพิเศษ
GDTOP ที่จะดูคลาสลิกกว่า สำหรับผมนะ ผมคิดอัลบั้มของบิกแบงคราวนี้ค่อนข้างจะไร้มิติไปหน่อย

TOP: เราได้ทำทุกอย่างที่เราอยากจะทำลงไปในอัลบั้ม GDTOP ครับ เราเขียนในสิ่งที่เราต้องการ เราทำในสิ่งที่เราต้องการ แต่สำหรับบิกแบงแล้วผู้คนคาดหวังกับมันว่าจะต้องแตกต่างออกไปจาก GDTOP ยกตัวอย่างนะครับ ถ้ามีผู้กำกับคนนึงอยากจะทำโฆษณาที่ออกมาในแนวศิลปะ ผมคิดว่าต้องมีคนจำนวนน้อยมากเท่านั้นที่จะชอบสีสันที่จะออกมาในโฆษณานี้ ซึ่งถ้าผู้กำกับคาดหวังว่าจะให้มันโดนใจสาธารณชนมันคงยาก ผมคิดว่ามันก็เป็นความรับผิดชอบของผู้กำกับนะครับที่จะต้องพยายามแสดงสิ่งที่เค้าต้องการจะทำให้ออกมาโดนใจคนดูด้วย


GQ: ผมไม่ปฏิเสธว่าคุณอยู่ในตำแหน่งไหนและไม่ได้ขัดแย้งความเห็นของคุณด้วยนะครับ แต่ผมแค่คาดหวังกับมันมากกว่านี้เพราะเรากำลังพูดถึงบิกแบง เชียวนะครับใช่ไม๊?? และหลังจากที่ผมได้มีโอกาสฟังเพลงเดี่ยวของแต่ละสมาชิกในวงมาแล้วด้วย ผมเลยคาดหวังและคิดว่ามันจะต้องมีพลังมาก ต้องมีความแตกต่างออกไปมาก

TOP: แต่ผมมีความคิดเห็นที่ต่างออกไปนะครับ เมื่อตอนที่อัลบั้ม GDTOP จะออกมาผมตรวจสอบ credit เนื้อเพลงที่ผมได้ทำมันออกมาเองและเมื่อผมเห็นมัน ผมรู้สึกสบายใจฮะ เพราะผมได้ทำทุกสิ่งที่ผมต้องการไปแล้ว
แต่กับบิกแบงอัลบั้มจะเป็นอัลบั้มที่ทุกคนอยากรู้อยากเห็น ซึ่งผมคิดว่ามันก้โอเคนะ อัลบั้ม GDTOP มันสร้างขึ้นมาจากผู้ชายสองคนที่มีสไตล์ที่แตกต่างกันมากมาก ดังนั้นมันก็ไม่ได้สร้างผลอะไรถ้ามันจะโดดเด่นออกมาหรือว่าเราจะทำอะไรกับมันก็ได้ แต่กลับบิกแบงแล้วถ้าเกิดมีใครซักคนใดคนนึงโดดเด่นขึ้นมามันก็จะไม่ใช่เราแล้ว เราก็จะไปด้วยกันไม่ได้ ซึงตรงนี้ผมคิดว่ามันก็เป็นจุดอ่อนของเราเหมือนกันนะครับ เราต่างมีบุคคลิกที่แข็งแกร่งกันมาก

GQ: คนมากมายต่างยกรับแล้วว่าบิกแบงนั้นไม่ใช่ไอดอลทั่วๆไป ขนาดในกลุ่มของแวดวงไอดอลด้วยกันยังพูดกันแบบนั้นด้วย มีคำกล่าวว่าว่าการเป็นไอดอลนั้น " ไอดอลจะต้องขยันออกรายการทีวีและออกอัลบั้มบ่อยๆ และนั่นจะทำให้พวกเค้ากลายเป็นศิลปินได้" ซึ่งวงเกาหลีชั้นนำต่างก็ทำแบบนั้นทั้งไม๊ครับ?? แล้วสำหรับบิกแบงคุณคิดไม๊ครับว่าบิกแบงก็กำลังเจริญรอยตามทางที่จะกลายเป็นศิลปินอยู่

TOP: ครับ พูดแบบนี้จะดีกว่าครับ เรา บิกแบง กำลังเป็นรุ่นพี่ที่กำลังสร้าง พิมพ์เขียวที่จะสร้างทางเดินทางใหม่ที่แตกต่างออกไปอยู่ ซักวันนึงเราจะสร้างฝันให้กับรุ่นน้องให้ฝันถึงเส้นทางในแบบของเรา ผมไม่คิดว่าจะมีเรื่องร้ายแรงอะไรเกิดกับบิกแบงแต่ว่าถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เราก็อยากจะเป็นวงที่ดีที่ไม่ได้มีช่วงเวลารุ่งไรจน์อยู่แต่ในอดีตเท่านั้น แต่ว่าเราอยู่เหนือขึ้นไป เราไม่ได้เมินเฉยต่อรุ่นพี่ของเราในตอนนี้นะครับแต่สิ่งที่ผมอยากจะสื่อคือ เราสามารถที่จะทำให้มันดีขึ้นได้


GQ: คุณจะผิดหวังไม๊ถ้าเราจะเรียกบิกแบงในทุกวันนี้ว่า เป็น"วงไอดอล"??

TOP: ไม่ครับ ผมชอบที่จะให้คนมาเรียกเราว่าเป็นไอดอล ตอนนี้ผมอายุ 25 แล้วละครับแล้วถ้าผมอายุ 30 ก็คงไม่สามารถที่จะถูกเรียกว่าเป็นไอดอลได้อีกต่อไป (หัวเราะ)


GQ: คิดว่าคุณอยากจะใช้ชีวิตให้เข้ากับอายุซะอีก??

TOP: จริงๆคำคำนี้มันดีนะครับ ผมมักจะต้องการเป็นไอดอลในใจของใครซักคนอยู่แล้ว แต่ผมก็หวังว่าภาพลักษณ์นี้จะไม่ทำให้ชาวเกาหลีคิดกับผมแบบนั้นหนะครับ


GQ: เป้าหมายของคุณนั้นคือการหลุดจากภาพไอดอล แต่แผนการต่างๆของคุณนั้นล้วนแล้วแต่เป็นแผนการเพื่อไอดอล การลดน้ำหนัก การเต้น และการแสดง แล้วอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณแตกต่างจากไอดอลคนอื่นๆละครับ??

TOP: ผมต้องการที่จะถูกเรียกว่า เป็นคนที่ทำงานเพลง แทนที่จะเป็นผู้ชายที่ร้องเพลงไปตลอดทั้งชีวิต

GQ: คุณกำลังมองในภาพที่กว้างออกไปใช่ไม๊ครับ การทำงานเพลงที่กว้างออกไป

TOP:ครับ ผมอยากจะได้ยินมากขึ้นว่าผู้ชายคนนี้ทำงานเพลงและเค้าพยายามที่จะพัฒนาความสามารถของเค้าด้วยการหันไปลองงานแสดง มากกว่าที่จะต้องการความโด่งดัง ผมแค่อยากจะทำในสิ่งที่ผมสามารถที่จะทำมันให้ลึกซึ้งได้ ผมอยากที่จะทำอะไรบางอย่างที่มันมีข้อความมันมีความมหมาย ไม่ใช่แค่ทำไปเพราะต้องการความโด่งดัง
GQ: วินาทีที่คุณพูดเรื่องนั้นผมคิดว่าคุณกำลังจะพูดว่าคุณกำลังจะทำเพลง hiphop ซะอีก

TOP: ผมคิดแบบนั้นเหมือนกันครับเมื่อตอนที่ผมยังเป็นเด็ก แต่ว่า Hiiphop นั้นก็เป็นตัวตนหนึ่่งของผมเหมือนกันเป็นเพราะผมทำมันมาตั้งแต่ยังเด้ก ผมคิดว่าคุณสามารถพูดออกมาได้ว่าคุณชอบมันรึปล่า?? แต่คุณไม่สามารถที่จะพูดได้ว่ามันดีหรือไม่ดี มันจะเป็นการไม่สุภาพนะครับและผมก็ไม่อยากจะพูดว่าตัวเองเยี่ยมที่สุดถ้าคุณยังไม่มีโอกาสได้เห็นผมจริงๆ เพราะมันไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาของผม ผมคิดว่าผมสามารถที่จะพัฒนาไปได้เรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งมันก็จะทำให้ผมทำได้ยอดเยี่ยม และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเมื่อใครที่ทำบางสิ่งเป็นเวลานานก็มักจะทำมันได้ดีฮะ


GQ: ผมคิดว่าบิกแบงคงมีจุดมุ่งหมายในบางอย่างที่จะประสบความสำเร็จในแบบที่แตกต่างออกไปจากสังคมทั่วไปนะ

TOP: จริงๆพูดตามตรงนะครับ เราไม่ได้มีความปราณีตหรือว่าคาดการณ์อะไรล่วงหน้าเลยละฮะ ผมคิดว่ามันเป็นการที่เราพยายามผลักตัวเองให้มีความมั่นใจที่จะเข้าไปพูดคุยกับคนอื่นๆได้อย่างมั่นใจ ผมคนนึงละที่ทำแบบนั้นบ่อยๆ การที่ยืนอยู่ใกล้ชิดกับสาธาณชนและหวังว่าจะได้อิสรภาพมากขึ้น ผมคิดว่าอะไรแบบนั้นมันเป็นการพยายามผลักดันตัวเอง เรารู้ว่าถ้าเราโหยหามันเราก็จะได้มันมา เราไม่ได้มีแผนฝันไปไกลว่าเราจะไปเดบิวที่อเมริกา ตอนนี้มันเพียงพอแล้วที่เรามีความมั่นใจในเพลงของเรา ไม่ว่ามันจะเป็นที่ต่างประเทศที่เกาหลี หรือแม่แต่กับตัวเราเองซึ่งมันต่างก็เป็นปัญหาของผมเองแหละครับ ผมไม่มีความมั่นใจขนาดนั้น

GQ: คุณไม่ได้มองไปที่คนอื่นเลยนี่นา เรายังมีอักหลายๆอย่างที่สามารถทำให้มันเข้าทีเข้าทางได้นะ
TOP: การที่ผมไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองนั้นทำให้ผมต้องตรวจสอบตัวเองอีกครั้งเพื่อที่จะให้ผมสงบใจลง ผมไม่เคยที่จะพอใจกับตัวเองมันมีอะไรมากมายที่ผมสามารถที่จะแสดงออกมาให้คุณได้เห็น แต่ผมไม่อยากที่จะเปิดเผยทุกอย่างออกมาในครั้งเดียว เช่น การที่ได้ออกอัลบั้ม GDTOP หรือการที่ผมได้แสดงเป็นนักเรียนทหารในภาพยนตร์ มันทำให้ผมตื่นเต้นที่ให้ผู้คนเห็นผมในแบบที่พวกเค้าไม่เคยเห็นนั้น


GQ: แต่ว่าความตื่นเต้นนั้นเป็นเรื่องรองนะครับ แต่ว่าชีวิตประจำตั้งหากที่จะอยู่ตลอดไปมันจะไม่ดีต่อคุณนะที่จะต้องมาใช้ชีวิตในแบบที่คุณไม่ได้พอใจกับมัน

TOP:ผมมักจะเศร้า และทุกข์ทรมานกับความรู้สึกว่างเปล่า แต่ผมมักจะปล่อยภาระเล็กๆน้อยๆออกไป ผมคิดว่ามันไม่มีอยู่หรอก มนุษย์ที่ชื่อ ชเวซึงฮยอน ผมยกเลิกชีวิตส่วนตัวของผมออกไปและผมหวังว่าชีวิตในด้านส่วนตัวของผมจะไม่มีอยู่


GQ: โทษนะครับ?? คุณพูดว่าคุณหวังว่ามันจะไม่มีอยู่เลยเหรอ??

TOP: ครับ ผมหวังว่ามันจะไม่มีอยู่เลย ถึงแม้ว่าเมื่อผมแก่ตัวลง ผู้คนจะขี้เกียจและต้องการพักผ่อนแต่ผมหวังว่าผมจะเป็นคนนึงที่ทำงานตลอดเวลา สำหรับตอนนี้ผมขอไม่มีแง่มุมในเรื่องชีวิตส่วนตัวก่อนซักพักฮะ


GQ: ผมไม่เคยคิดเลยว่าเหตุผลที่ทำให้ท็อปมีความมั่นใจมากๆๆไม่เหมือนเมื่อก่อนเป็นเพราะท็อปเค้าได้ทิ้งชีวิตในด้านส่วนตัวอออกไปแล้ว

TOP: ครับ ผมก็คิดแบบนั้น แต่มันทำให้ผมมองโลกในแง่บวกมากกขึ้น ผู้คนพูดกันว่าผมดูสดใสขึ้นและผมก็คิดว่าผมได้เปิดใจตัวเองเพิ่มขึ้นนิดหน่อย ผมคิดว่าผมละทิ้งอะไรในใจของผมไปมากแล้วละฮะ (หัวเราะ)


GQ: ดังนั้น ตอนนี้คุณคิดว่าคุณเยี่ยมยอดแล้วสินะ??

TOP:ไม่เลยฮะ

GQ:ไม่มีทางเลยเหรอ??
TOP: ผมอยากที่จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่นะครับ ผมมักจะหวังแบบนั้น ผมคิดว่ามันคงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่จะมีคนมาเรียกว่า "คุณคือผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด" อีกแล้ว ในฐานะผู้ชายคนนึงแต่ผมคงไม่หลอกตัวเองด้วยคำคำนั้นหรอกฮะ

GQ: มันน่าจะมีอะไรที่ดีกว่าคำพูดนี้มั้งนะ??ผมคิดว่าอะนะ

TOP: (หัวเราะ) ถ้าเกิดว่า คำคำนี้เป็นเหมือนชุดที่สาธารณชนต้องการใหผมสวมใส่มัน ผมก็จะใส่ครับ ถ้าหากนั้นเป็นสิ่งที่อาชีพของผมจำเป็นจะต้องมี ทั้งเรื่องสไตล์ ทั้งเรื่องความยอดเยี่ยม งั้นมันคงต้องเต็มใจที่จะเป็นคนที่เยี่ยมยอดคนนั้น


GQ: คุณจะรู้สึกต่อต้านหรือไม่เห็นด้วยบ้างไม๊?? ถ้าคนรอบข้างของคุณมากมายมาบอกว่าคุณเป็นคนที่แสนจะพิเศษ??

TOP: จริงๆผมไม่ค่อยมีคนรอบข้างๆเท่าไหร่ครับเช่นเดียวกับเพื่อนๆที่เป็นคนดังผมก็ไม่ค่อยมี แต่ว่าถ้านั่นเป็นสิ่งที่พวกเค้าพูดออกมาจริงๆหนะเหรอครับ (หัวเราะ) อืม.. ผมว่าเค้าคงจะพูดออกมาเพราะอยากให้ผมรู้สึกดีครับ


GQ: นี่จะเป็นข้อเสียอย่างนึงนะถ้าคุณตัดเอาชีวิตส่วนตัวของตัวเองออกไป คำชมต่างๆแบบที่มีมาตั้งแต่รุ่นพ่อหนะ

TOP: ถ้าผมมีแฟน ผมอยากจะเป็นแฟนที่น่าภาคภูมิใจครับแม้แต่กับเพื่อนๆของเธอ ผมอยากจะเป็นผู้ชายแบบนั้น ผมคิดว่าผมต้องการหัวใจที่บริสุทธิ์มากกว่าใช้แค่รูปร่างหน้าตาของตัวเอง ผมมักจะคิดเสมอว่าผู้ชายแบบนั้นแหละเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมมาก


GQ: คุณต้องการอยากที่จะเป็นผู้ชายที่ยิ่งใหญ่และมีเกียรติจนได้สวมสูทมากกว่า ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสวมสูทและดูดีใช่ไม๊??
TOP: ผมมักจะคิดเสมอว่า หัวใจจะต้องมาก่อนรูปร่างหน้าตา ครับ


Magazine scanned by: Ramel @ DCTOP Eng Translated by: HuisuYoon @ bigbangvip.net Thai Translation by mew in mew museum

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น