วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

(Part 2 ) สัมภาษณ์ท็อป ในวันเปิดตัวภาพยนตร์ Tazza2 จาก 10Asia (2014/09/12)


Q: ดูเหมือนว่าเป็นเพราะการที่ไม่ใช้ชีวิตในทางที่เสี่ยงแบบนี้ของคุณ ทำให้ผู้กำกับคุณ Kang Hyeongchulเคยพูดถึงคุณไว้ว่า "ชเวซึงฮยอนนั้นมีนิสัยใกล้เคียงกับความเป็นศิลปินมากกว่าผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิค " ฉันรู้มาว่าคุณชอบคุณ Jean Prouvé ซึ่งเป็นสถาปนิกมาก โดยคุณ Prouvé เป็นสถาปนิกที่เน้นในเรื่องความสมดุลของความงามในแบบศิลปะกับการเป็นไปได้จริงในทางปฏิบัติ ในฐานะศิลปิน ความสมดุลของเรื่องใดบ้างที่คุณเห็นคุณค่ามันคะ?? 
CSH: การเป็นสิ่งที่ถูกขัดเกลาสละสลวยเพียบพร้อมและทุกอย่างต้องดูเรียบง่ายครับ ก็เหมือนกับศิลปินที่ขายสิ่งที่เค้าวาดออกมา เหมือนกับผู้ที่ทำงานประติมากรรมขายสิ่งที่เค้าลงมือปั้นออกมา ตัวผมอยู่ในสายอาชีพที่จะต้องสร้างสรรค์และขายตัวเองออกมาให้ได้ และเพราะเป็นแบบนี้ผมหวังมากๆอยากให้ตัวเองเป็นคนที่ดูไม่เยอะมากไป ระยะนี้ผมกระหายอยากให้ตัวเองเป็นคนแบบนั้นให้ได้ ยังไงก็ตาม ทำไมวันนี้ผมพูดแต่อะไรลึกซึ้งๆออกมาละครับเนี่ย?? อ่าา ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรหรอกครับ ผมชอบนะ มันกระตุ้นให้เกิดความคิดหลายๆอย่างออกมา 

Q: ระหว่างคนที่มีอายุมากกว่า หรือ กับคนที่อายุน้อยกว่า คนในกลุ่มไหนที่เข้ากับคุณได้มากกว่ากันคะ??
CSH: เหมือนกันทั้งสองกลุ่มแหละครับ อายุอารมณ์และจิตใจของผมต่ำมากเลยละครับ ดังนั้นผมจึงเข้าได้ทั้งกับเพื่อนที่อายุมากกว่าและคนที่อายุน้อยกว่าผม แต่กลายเป็นว่าเข้ากันไม่ค่อยดีกับคนที่อายุเท่าๆกัน  

Q: ดูอายุทางอารมณ์และจิตใจคุณไม่ได้ต่ำเลยนะคะ ??
CSH: ต่ำครับ มีหลายครั้งที่ผมจะสัพเพร่า และผมมักจะมีความคิดที่ไม่สามารถนำมาปฏิบัติใช้ได้ในชีวิตจริงเสมอๆ ผมไม่ใช่คนที่มีเหตุผลอยู่ตลอดเวลา  และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ผู้กำกับคุณ Kang Hyeongchul ถึงได้บอกว่าผมไม่ใช่คนที่จะเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค เพราะผมไม่ใช่คนที่จะเคลื่อนไหวไปในเส้นทางที่คำนวณไว้อย่างดีเท่านั้น บางครั้งผมยังเป็นคนที่ลำเอียงมากๆเลยนะครับ 

Q: มุมนั้นของคุณคงแสดงออกมามากเลยในงานของคุณใช่ไม๊คะ เพลงเดี่ยวของคุณ “Doom Dada” ที่ออกมา ก็ดูจะเป็นด้านขบถเล็กๆของคุณเช่นกัน ในตอนที่ดู MV นั้น ฉันคิดว่า " ชเวซึงฮยอนทำเพลงในขณะที่ในใจคิดภาพเหล่านี้อยู่ในหัวสินะ "คือนี่สินะภาพที่คุณคิดอยู่ในขณะที่ทำเพลง
CSH: ใช่ครับ ผมมักจะคิดถึงภาพต่างๆในขณะที่ทำงานเพลง เพลงและภาพต่างๆมักจะมาพร้อมกันเสมอ 

Q:ถ้าเป็นแบบนั้น งั้นก็หมายความว่าเราไม่ควรแค่ฟังเพลงของคุณเท่านั้นแต่ควรจะต้องดูภาพที่ออกมาจากเพลงด้วยใช่ไม๊คะ?
CSH:ผมคิดว่าคุณควรจะทำแบบนั้นแหละฮะในยุคนี้ ผมจินตนาการไปว่าในอนาคตจะยิ่งกว่านี้อีกฮะ ผมคิดว่ายุคที่เสียงเพลงจะเป็นเหมือนกับชิ้นงานศิลปะในรูปแบบวีดีโอที่ไม่มีขอบเขตจำกัดนั้นกำลังจะต้องมาถึงแน่ๆ  เพราะในตอนนี้ มีทำนองและเพลงดีๆออกมาแล้ว ผมคิดว่าจะเป็นการยากขึ้นไปอีกในการที่ทำเพลงที่มีความสละสลวยออกมาหากผู้คนเริ่มฟังในสิ่งที่ไม่ได้ถูกผูกมัดไว้กับอะไรทั้งสิ้น 

Q: ในเนื้อเพลง ‘Doom Dada,’ ที่ว่า " ผมเป็นชาวเกาหลีในยุคศตวรรษ 21ที่ไม่ธรรมดา เป็นเหมือน Rap Basquiat ที่ถือไมด์ไว้ในมือ "คุณชื่นชอบ คุณ Basquiat เหรอคะ?
CSH: เหตุผลที่ผมพูดถึง Basquiat ออกมาในเพลงเป็นเพราะในช่วงที่ผมทำเพลง ‘Doom Dada, ’ผมคิดไปถึงว่าผมอยากจะทำเพลงที่ผู้คนจะไม่ค่อยชอบฟังมันได้จริงๆหรอกออกมา ซึ่งถ้าจะพูดว่าสิ่งที่ผมพูดออกมานี่ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรในตอนนี้เลย ผมคงพูดโกหกอยู่ละครับ 

เพราะในช่วงนั้น ผมคิดว่าทุกคนถูกจัดกลุ่มและแสดงออกมาเหมือนๆกันไปหมด และถ้าเกิดอะไรที่ทำแล้วได้รับความโด่งดังขึ้นมา จากนั้นทุกอย่างในอุตสาหกรรมเพลงในประเทศของเราก็จะรีบเลียนแบบทำตามกันไปหมดในทันที เมื่อผมเห็นแบบนี้ผมไม่ต้องการที่จะไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้เลย ผมคิดว่ามันดูอนาจน่าเวทนา ผมคิดจริงๆว่านี่เป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนไปจากธรรมชาติ ดังนั้นผมจึงหวังว่าจะสร้างเด็กที่มันเกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่มันแปลกๆแบบนี้ออกมาเพื่อสื่อไปถึงเหตุการณ์เบี่ยงเบนที่มันเกิดขึ้นในวงการเพลง นอกจากนี้ผมอยากที่จะสร้างงานออกมาให้ดูดิบๆแบบเร่งรีบทำ เหมือนกับงาน graffiti ของคุณ Basquiat ออกมาด้วยฮะ 



 Q: เป็นการอุปมาเปรียบเทียบได้อย่างวิเศษไปเลยนะคะ แต่พวกคนดังโดยเฉพาะวงไอดอล อยู่ในตำแหน่งที่พวกเค้าเป็นคนสร้างกระแสสร้างเทรนขึ้นมาเองไม่ใช่เหรอคะ??
CSH: พูดตามตรงนะครับ ผมไม่เคยคิดแม้แต่ครั้งเดียวเลยว่าตัวเองหรือว่าวงบิกแบงเป็น ไอดอล ผมแค่คิดว่าเป็นเพราะยุคนี้เป็นยุคที่วงบอยแบรนด์นั้นถูกโปรโมทอย่างดี เราเลยมาอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก็เท่านั้น บางทีถ้าผมมัวแต่คิดว่าตัวเองเป็นไอดอล บุคลลิกท่าทางของผมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของบิกแบงหรือ ภาพของบิกแบงทั้งทีม คงไม่ออกมาดีเท่าไหร่นักนะครับ 

Q: คุณพูดว่าคุณอยากจะสร้างงานออกมาให้ดูดิบๆแบบเร่งรีบทำ ให้มันแตกต่างไปจากสิ่งที่ถูกทำเลียนแบบกันมาจนเกร่อ ซึ่งคำพูดนี้ดูเหมือนว่า คุณจะไม่ได้หมายความว่า อยากจะเปลี่ยนแปลงวงการเพลงนี้หรอก แต่กลับหมายถึงว่า ตอนนี้คุณจะเดินไปตามทางของตัวเองมากกว่า ไม๊คะ?
CSH: หากจะให้ผมพูดแบบตรงๆและดูจะโหดไปซักหน่อย แต่จริงๆแล้วเพลง  ‘Doom Dada’ เป็นเพลงที่บรรยายถึงประเด็นสำคัญที่เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงไม่ชอบการทำงานเพลงออกมาฮะ ในตอนนั้นผมคิดว่ามันเป็นช่วงที่เบี่ยงเบนไปจากปกติจริงๆที่ไม่มีใครพยายามที่จะสร้างอะไรใหม่ๆออกมาเลย 

Q: แล้วกับการแสดงละคะ?? คุณคิดว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงไปยังไงในแง่มุมของการแสดง??
CSH: ผมก็ยังไม่รู้หรอกครับ แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นทีละหน่อยๆ "ในตอนนี้"มันสนุกดีครับ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องพูดว่า ในตอนนี้ ออกมา แต่ผมต้องการที่จะทำมันต่อไปในตอนที่มันสร้างความสนุกให้กับผมและในขณะที่มีคนต้องการอยากจะเห็นผมแสดงอยู่ครับ 


Q: แล้วเรื่องดนตรีละคะ มีคำว่า "ในตอนนี้" เหมือนกันไม๊??
CSH: เหมือนกันครับ ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นงานเพลงหรือการแสดง ก็ล้วนเหมือนกัน ในอดีตผมมองว่าพวกมันแตกต่างกัน แต่ณ จุดนึงความคิดของผมก็เปลี่ยนไปครับ เพราะงานทั้งสองอย่างนั้นล้วนเป็นวิธีการที่ผมใช้ในการบรรยายตัวตนออกมา ดังนั้นถ้าผมไม่มีความสุขสนุกที่จะทำพวกมันแล้ว ผมก็จะหยุดทำโดยจะไม่มาเสียใจทีหลังเลยละครับ 

Q: คุณเป็นคนที่ตรงไปตรงมามากจริงๆ  // Daegil ในภาพยนตร์ได้บอกกับ Heo Mina (ที่แสดงโดยคุณ Shin Sekyung) ผู้หญิงที่ได้ช่วยชีวิตเค้าเอาไว้ว่า " ชีวิตของผมเป็นของคุณ " และทำทุกอย่างเพื่อเธอ ในชีวิตของคุณคุณมีคนคนนั้นที่คุณจะยอมเอาทุกอย่างเข้าเสี่ยงเพื่อคนคนนั้นไม๊คะ?? ผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ค่ะ 
CSH: ไม่ครับ ไม่ 

Q: แม้ว่าคนคนนั้นจะยอมสละทุกอย่างเพื่อคุณได้นะคะ??
CSH: คือ พูดจริงๆนะครับ ผมยังไม่เจอคนคนนั้นเลยละครับ เลยเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงไม่ยอมทำแบบนั้นหรอกครับ

Q: อืมมม คนประเภทไหนค่ะ ที่ดึงดูดความสนใจจากคุณได้?
CSH: ในผู้หญิงและผู้ชายก็ต่างกันไปนะครับ ในกรณีที่เป็นผู้ชาย ผมชอบคนที่อดทนและใจกว้าง ผมจะเข้ากับคนที่ใฝ่รู้และชอบศึกษาในสิ่งใหม่ๆ คนที่อยากจะรู้ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากขึ้นๆ สำหรับเพศตรงข้าม ผมชอบผู้หญิงที่ดีครับ เมื่อก่อนผมเคยคิดเรื่องของรูปร่างหน้าตาลักษณะภายนอกเอาไว้ แต่ตอนนี้นอกเหนือสิ่งอื่นใดเลยคือ เธอจะต้องเป็นคนดีฮะ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่มีผู้หญิงที่ดีจริงๆเลยละฮะ

Q: โดยทำร้ายมามากสินะคะเนี่ย (หัวเราะ)
CSH:(หัวเราะ) ไม่ใช่แบบนั้นหรอกฮะ  ผมไม่ได้มีความสัมพันธ์กับใครเยอะขนาดนั้นครับ และผู้หญิงที่ผมเคยเดทด้วยก็ล้วนเป็นคนดี แต่เมื่อคิดว่าตอนนี้ทำไมผมถึงไม่ได้เดทกับใครมาเป็นเวลานานมากๆแล้วก็ได้คำตอบว่า น่าจะเป็นเพราะ ผมไม่มีโอกาสได้เจอกับผู้หญิงดีๆเลยครับ จะให้นิยามคำว่าดีเหรอครับ?? อ่า ดีเหรอ อืมมม ดี คือ เป็นคนที่จิตใจดีมั้งครับ?? 

Q: (หัวเราะ) งั้นตัวคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนจิตใจดีเหรอคะ??
CSH: ก็ถ้าให้คิดเรื่องนี้ ผมว่าตัวเองก็เป็นคนดีนะครับ (หัวเราะ) ผมไม่สามารถคิดเรื่องร้ายๆออกมาได้ฮะ ผมไม่มีด้านสุนัขจิ้งจอกในตัวเลยแม้แต่น้อย 



Q: ก็เข้าใจได้อยู่นะคะว่าทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองเป็นคนดี ฉันเลยถามละค่ะ ซึ่งคุณก็ดูเป็นคนดีจริงๆ แต่ยังไงก็ตามแต่มันดูเป็นเรื่องน่าเศร้านะคะที่ตอนนี้คุณยังไม่มีคนคนนั้นที่คุณจะยอมเสี่ยงทุกอย่างในชีวิตเพื่อเธอ
CSH: ผมมีนิสัยในแบบหนุ่มโสดละครับ ผมไม่อยากจะเอาชีวิตลงไปพนันกับคนคนนึง ผมไม่ชอบที่จะเป็นภาระใครและไม่อยากจะหาภาระมาใส่ตัวด้วย พูดจริงใจไปไม๊ครับเนี่ย คือ แต่ผมคิดว่าส่วนที่เลวร้ายที่สุดของการแต่งงานคือ การที่ต้องตื่นมาในตอนเช้าและต้องอยู่ในที่ที่นึงที่จะต้องเจอคนคนนึงไปตลอดกาล  (ถอนหายใจยาว)

Q:แบบนั้นคุณควรจะอยู่คนเดียวจริงๆแหละค่ะ ไม่ก็ต้องทำบ้านแบ่งกันอยู่คนละชั้น ไม่ก็มาเป็นแฟนกันเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์
CSH: ผมคิดว่านิสัยตัวเองเป็นแบบนั้นแหละครับมันเลยทำให้การแต่งงานเป็นเรื่องที่เข้มงวดเกินไปสำหรับผม ผมสงสัยว่าการแต่งงานไม่ใช่การที่เราต้องเอาทุกอย่างลงมาพนันหรอกเหรอฮะ?? แล้วถ้าเป็นแบบนั้น การที่จะต้องแต่งงานก็จะต้องหมายความว่าผมจะต้องเอาทุกอย่างที่ผมมีลงมาเสี่ยงจริงๆใช่ไม๊ละฮะ

Q: คุณพูดว่าตัวเองรักอิสระ แต่ตอนนี้ตัวคุณก็อยู่ภายใต้สังกัด YG นะคะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นบริษัทตัวแทนศิลปินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศของเราในตอนนี้ แต่ถึงแม้ว่าวายจีจะมีการจัดการที่มีแนวโน้มให้อิสระสูง แต่ฉันเชื่อว่าคุณก็ไม่สามารถที่จะเพิกเฉยในสิ่งที่บริษัทพูดเวลาที่คุณจะต้องโปรโมทเพลงหรอกจริงไม๊คะ? 
CSH: คือ จากคนทั้งบริษัทนะครับ คนที่ไม่เคารพคำพูดจากบริษัทมากที่สุดน่าจะเป็นผมนี่แหละครับ (หัวเราะ) ช่วงก่อน ทาโบลฮยองก็พูดอะไรทำนองนี้ออกมานะครับ เค้าพูดว่า "นายปฏิเสธบ่อยมากจริงๆ" นอกจากนี้ผมยังได้ยินอีกนะครับว่าพวกเค้าคุยกันว่าผมเป็นคนนอก แต่เป็นเพราะบริษัทเข้าใจในนิสัยของผมดีมากๆในตอนนี้ พวกเค้าเลยไม่ได้บังคับให้ผมทำอะไรอีกต่อไป หรือ ทำอะไรทำนองนั้น กับผมครับ

Q:เมื่อไหร่ที่เราจะได้ฟังอัลบั้มเดี่ยวของคุณคะ?? 
CSH: ตอนที่ผมต้องการจะปล่อยมันออกมาฮะ  เพลงก็อยู่ตรงนั้นแหละฮะ ผมสามารถที่จะทำให้มันสำเร็จลุล่วงได้ทุกเมื่อ ถ้าจะให้ผมออกอัลบั้มนี้ให้เร็วที่สุดในตอนนี้ มันสามารถพร้อมที่จะออกมาใน 2-3 อาทิตย์ที่จะถึงนี้เลยละครับ

Q:แต่นิสัยหนึ่งของคุณคือคุณจะไม่ปล่อยผลงานใดๆออกมา ถ้ายังไม่ได้มีการเตรียมการมาอย่างสมบูรณ์แบบไม่ใช่เหรอคะ? 
CSH: แล้วผมไม่ใช่คนที่พร้อมเสมอหรอกเหรอครับ?? (หัวเราะ) เมื่อเป็นเรื่องเพลง ผมพร้อมเสมอครับ

Q: แล้วถ้าเป็นเรื่องการแสดงละคะ??
CSH: การแสดงต้องการเวลาเยอะมากๆในการวิเคราะห์ตัวบทครับ และไม่เหมือนกับงานเพลง การแสดงไม่ใช่งานที่คุณจะลงมือทำในแบบที่คุณอยากจะทำได้ การทำงานนี้คุณต้องก้าวเข้าไปในโลกที่ผู้กำกับได้คิดไว้แล้ว และเป็นตัวผู้กำกับมากกว่าที่จะวางแผนให้คุณบรรยายเรื่องในโลกนั้นออกมาในแบบที่เค้าต้องการ สิ่งที่คุณต้องทำคือ คอยมอบท่าทางการแสดงที่เค้าต้องการออกมา  ด้วยความเคารพนะครับ งานนี้เป็นงานที่น่ากลัวจริงๆ 

กับงานเพลง หากคุณพลาด คุณก็แค่พูดว่า "เป็นความผิดของผมเองครับ" ไม่ก็ "ผมทำไปในแบบที่เป็นตัวตนของตัวเองมากไปครับ" แต่กับภาพยนตร์เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับคนมากมาย ไม่ใช่อะไรที่ผมจะสามารถทำไปในแบบของตัวเองได้เลยฮะ 

Q:โลกแห่งการแสดงเป็นโลกประเภทไหนกันคะ??
CSH: เป็นโลกแห่งความตื่นเต้นครับ เหมือนกับบทพูดในเรื่องTazza ที่ว่า "สไตล์ในการทำงานของผมคือ ทำงานเพื่อจะได้พบกับความตื่นเต้น ไม่ใช่ทำเพราะเงิน " 

==============

English Translation by kwonaventure
Thai Translation by Miss mew 
Original source:http://tenasia.hankyung.com/archives/315193

สามารถอ่านพาร์ทแรกที่ออกมาก่อนได้ตามนี้ค่ะ พาร์ทแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น