วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จีดราก้อนจาก นิตยสาร VOGUE ฉบับครบรอบ 17ปี เดือน สิงหาคม 2013



"เมื่อฤดูหนาวปีที่แล้ว ฉันเอาแต่ฟังเพลง monster ของบิกแบงตลอดเวลาในตอนที่ถ่ายแบบกับ Mario Testino เพื่อลงในโว้กUK เค้าบอกกับฉันว่าเค้าก็เป็นแฟนเพลงของบิกแบงเหมือนกัน ฉันเลยมอบซีดีอัลบั้มบิกแบงให้กับเค้าเป็นของขวัญ "

10 โมงเช้าหลังจากโชว์ของเธอที่ปารีส Kimsunghee ตรงดิ่งมาที่สตูดิโอจากสนามบิน ทั้งหมดนี้เพื่องานถ่ายภาพกับจีดราก้อนโดยเฉพาะ Soojoo ก็เดินทางมาด้วยเที่ยวบินเดียวกับเธอ ส่วน Parkjihye น่าจะกำลังบินอยู่เหนือที่ใดที่หนึ่งในตอนนี้ นางแบบสาวสวย 3 คนนี้ที่ครองรันเวย์มาแล้วทั่วโลกกำลังจิบไวน์ด้วยกันที่ปารีสและต่างกำลังพูดกันอย่างตื่นเต้นที่จะได้ถ่ายแบบในครั้งนี้ 

" พวกเราสัญญากันไว้ว่าแล้วค่ะว่าเราจะทักทายจียงด้วยการเต้นท่า Fantastic baby แต่บางที่พวกเราอาจจะทำไม่สำเร็จแน่ๆเพราะเราขี้อายเกินไป"

เรื่องราวทั้งหมดนี้เริ่มต้นเมื่อ 2 เดือนก่อน เมื่อกองบรรณาธิการนิตยสารโว้กของเราตัดสินใจที่จะหาธีมเพื่อเล่มฉลองครบรอบ 17 ปีของโว้ก และคนแรกที่โผล่เข้ามาในใจของพวกเราก็คือ จีดราก้อน 
วงบิกแบงที่ขึ้นเวทีตะโกนร้องเพลง "คำโกหก (Lies)" ในปี 2008 ยังคงเป็นวงที่ใหม่มาก สิ่งที่เป็นตัวแทนสื่อถึงบิกแบงไม่ใช่การเต้นที่เป็นระเบียบสมบูรณ์แบบหรือเครื่องแบบใดๆแต่กลับเป็นสไตล์เพลงของพวกเราพร้อมทัศนคติเปี่ยมอิสระ ท่ามกลางสไตล์นั้นมีจีดราก้อนที่คอยดูแลในเรื่องของการผลิตเพลง และเหมือนกับเนื้อเพลง "One of A Kind" ของเค้า สิ่งที่เค้าทำกลายเป็นกระแสและทุกคนต่างก็คลั่งไคล้ไปกับมัน จีดราก้อนเป็นเหมือนไอค่อนทางวัฒนธรรมที่สามารถเป็นตัวแทนให้กับครึ่งปีแรกของศตวรรษ 21 นี้ได้ และแทนที่เค้าจะเป็นไอค่อนที่มีความลับมาก และทำตัวลึกลับ เค้ากลับเป็นดาราใหญ่ที่เป็นมิตรพร้อมทั้งเปิดเผยตัวตนผ่าน สื่อโซเซียลเนทเวิคซ์ (SNS)  อย่างต่อเนื่อง เค้ายังเป็นนักดนตรีที่สามารถมามีส่วนในโลกของแฟชั่นได้ อย่าง DavidBowie หรือBeatles อีกด้วย



"สวัสดีครับ" จีดราก้อนเดินเข้ามาพร้อมสวมแว่นสีแดง ถือกระเป๋าแอร์เมส HACสีแดงที่มีขนาดใหญ่พอๆกับตัวเค้าแล้ว นักดนตรีคนนี้ที่เคยพูดว่าเค้าจะยังคงสวมเสื้อผ้าสีแดงไปจนกระทั่งเค้าเป็นคุณปู่แก่ๆ สิ่งแรกที่เค้าทำเมื่อมาถึง คือ เปลี่ยนเพลงโดยนำเอา Iphone ของตัวเองต่อเข้ากับลำโพงที่สตูดิโอ ห้องที่เคยเงียบงันและน่าเบื่อ ถูกเติมเต็มด้วยเสียงเพลงอิเล็คโทรนิคและท่อนแร๊พที่ลื่นไหลจาก Kanye west ก็เริ่มทำจังหวะไปทั่วห้อง 

"ผมชอบเคลื่อนไหวร่างกายไปกับเสียงเพลงที่ผมชอบในตอนทำการถ่ายภาพครับ ดังนั้นไม่ว่าผมจะไปที่ไหนผมจะต้องเปิดเพลงเอาไว้เสมอ " ตารางงานการถ่ายทำเซตเอาไว้ 2วัน 1 คืนกับชุดอีกเป็นร้อยๆชุดรวมถึงเสื้อคลุมวิบวับจาก saint laurent ที่ส่งตรงมาจากฝรั่งเคสอีกด้วย เสื้อผ้าเหล่านี้เป็นคอลเลคชั่นใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครในเกาหลีได้สวมใส่มาก่อน ทาง Saint Laurent ปารีสได้ส่งชุดเหล่านี้มาให้แฟชั่นนิสต้าของเราเป็นการพิเศษ จีดราก้อนได้รับความสนใจอย่างมากจากสตูดิโอแฟชั่นหลายยี่ห้อ ด้วยชุดแต่งกายจาก Saint Laurent นอกจากนี้เค้ายังสวมเสื้อผ้าจากรันเวย์ของ Thom browne ปรากฏตัวในมิวสิควีดีโอ MichiGo อีกด้วย สำหรับจีดราก้อนแล้วแฟชั่นก็เหมือนกับกล่องของขวัญที่บรรจุดนตรีเอาไว้ 

"คุณจะมองออกถึงความแตกต่างของท่าเดินของผมเวลาที่ผมสวมเสื้อผ้าสไตล์ ฮิบฮอบ กับเวลาที่ผมสวมสูทที่ตัดเย็บอย่างดี ซึ่งคุณก็จะเห็นความแตกต่างนี้ได้เช่นกันในเพลงของผมใช่ไม๊ฮะ?? มันเหมือนกับตอนที่ผมขึ้นเวทีหรือตอนที่ผมทำเพลงนั่นแหละครับ และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำไมผมถึงแต่งตัวเต็มยศเสมอ คุณจะไม่รู้เลยว่าเพลงของผมจะออกมาเป็นยังไงถ้าผมเกิดสวมแต่เสื้อวอล์มทุกๆวัน"

การถ่ายทำได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในตอนที่เพลงสุดท้ายในอัลบั้มของ Kanye west ดังขึ้น จีดราก้อนที่ถือไวโอลินและหีบเพลงได้กลายเป็นนักดนตรีพเนจร Sunghee นางแบบได้กลายเป็นนักเต้นที่ร่วมเดินทางไปกับเค้า ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้พูดคุยกันเลยนอกจากทักทายสวัสดีกันแบบประหม่าๆในตอนแรก แต่พอการถ่ายทำเริ่มต้นขึ้นพวกเค้าก็กลายเป็นคู่รักคู่น่ารักไปทันที SungHee ผู้ซึ่งเป็นนักเต้นบัลเล่ห์ในตอนเป็นเด็กได้โชว์การเคลื่อนไหวที่อ่อนช้อย จนช่างภาพคุณ Kim Bo Sung และจีดราก้อนต่างก็รู้สึกทึ่งไปตามๆกัน ทั้งจีดราก้อนและSunghee ต่างก็รู้วิธีที่จะใช้ร่างกายของพวกเค้า ทำงานร่วมกันกลมกลืนไปกับเสียงเพลงเหมือนนักเต้นที่ฝึกซ้อมร่วมกันมานาน 

จีดราก้อนกล่าวว่า" ผมได้อ่านนิตยสารมาบ้างและได้ลองปรับปรุงท่าโพสบางท่าเพื่อใช้ในการถ่ายรูปครั้งนี้ครับ เพราะโปรเจคนี้เป็นโปรเจคใหญ่ของผมกับโว้ก และยังเป็นครั้งแรกที่ผมได้ลองทำงานสไตล์แบบนี้ ดังนั้นผมถึงกับไม่ยอมทานอาหารเพื่อการถ่ายทำในครั้งนี้ ผมคิดว่ารูปร่างที่ดูผอมๆจะดูดีในการถ่ายแบบแบบนี้ แต่ผมก็ไม่ได้ผอมมากหรอกนะครับในตอนนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจลดน้ำหนักเป็นพิเศษหรือทำอะไรแบบนั้น แต่เพราะผมทานเยอะเกินไปในช่วงที่คอนเสิริต์ของผมจบลงดังนั้นผมจึงออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักบางส่วนออกไปครับ"

อัลบั้มที่ 2 ของจีดราก้อนในตอนนี้กำลังเตรียมการกันอยู่ ตั้งแต่วันที่เค้ากลับมาที่เกาหลี เค้าก็ทำงานในอัลบั้มนี้ไม่ได้หยุดเลยที่สตูดิโอของเค้า เค้ากล่าวว่าเค้าไม่ได้พักเลยแม้แต่วันเดียวก็ไม่ได้พัก 

"ผมมองหาสิ่งใหม่ๆมาอย่างต่อเนื่องครับ ผมเพียงแต่ไม่รู้ว่าอะไรกันแน่ที่ผมขาดไป หากผมรู้แล้วละก็ผมก็จะแก้ไปให้ตรงจุด แต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรนี่สิครับ"  
"ผมคิดว่าการที่ผมได้ร่วมงานกับศิลปินต่างชาตินั้นถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ ผมชอบคุณ Missy Elliot ตั้งแต่ผมเป็นเด็กแล้วละครับและคิดเสมอว่าจะดีแค่ไหนถ้าได้ทำงานร่วมกับเธอ และด้วยวิธีการบางอย่างผมก็ได้รับโอกาสนั้น "  

จีดราก้อนกล่าวว่าอัลบั้มใหม่ของเค้าเสร็จสิ้นไปกว่า 70% แล้ว เค้ากล่าวว่าในอัลบั้มจะมีทั้งเพลง Hip Hop, R&B, Rock และ Ballad ดังนั้นมันจึงไม่มีคอนเซ็บซ์อะไรที่ตายตัวเป็นพิเศษ 

" ผมรวมเอาเพลงที่ผมชอบทั้งหมดในช่วง 1-2 ปีนี้เข้าไปในอัลบั้มฮะ เพราะผู้คนเดี๋ยวนี้ไม่ได้ฟังเพลงทีเดียวทั้งอัลบั้มอีกต่อไปแล้ว พวกเค้าจะเลือกเอาเพลงที่เค้าชอบออกมาแล้วทำเป็น playlist แล้วฟัง playlist ของตัวเอง"



อัลบั้มนี้จะออกมาในวันที่ 18สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันเกิดของจีดราก้อน (1998/08/18) โดยอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกของเค้าก็ออกวางแผงในวันนี้เช่นกัน  เลข "8" นี้ถือเป็นตัวเลขพิเศษมากๆสำหรับจีดราก้อน หากคุณจับเลขแปดนี้นอนลง มันก็จะกลายเป็นสัญลักษณ์ infinity (สัญลักษณ์ ที่อ้างถึงจำนวนที่ไม่มีขอบเขตหรือไม่มีที่สิ้นสุด) และมันเป็นตัวเลขนำโชคสำหรับจีดราก้อน และนอกจากนี้ จีดราก้อนยังเป็นผู้ชายที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้ขึ้นปกโว้ก ฉบับประจำเดือนสิงหาคมนี้ด้วย

"เป็นเกียรติมากครับ พลังเอเซียนั้นเติบโตขึ้นทุกวันๆบนโลกนี้และผมรู้สึกดีใจมากที่ผมได้เป็นส่วนนึงในการเติบโตครั้งนี้กับสามนางแบบชื่อดังระดับโลก และผมหวังว่าผมจะสามารถเป็นแรงช่วยแห่งพลังเอเซียครั้งนี้ครับ"  

เมื่อเวลาผ่านไปบรรยากาศในการถ่ายทำก็ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในผับในยามค่ำคืน เป็นเพราะ playlist ของจีดราก้อนนั้นเข้ามาสั่นสะเทือนหัวใจของคุณ  นักร้องระดับสัญลักษณ์ของเพลงฮิบฮอบในฝั่ง West Coast อย่าง Kendrick Lamar ศิลปินสุดเก๋าอย่าง  Whodini งานของ Chris Brown ที่ฟีิเจอร์ริ่งร่วมกับแร๊พเปอร์เด็กน้อย Scooter Smiff… เพลงของ Beyonce และ Pharell Williams ที่ลืมไม่ได้เลยเห็นจะเป็นอัลบั้มใหม่ของ Jay-z ที่เป็นศูนย์รวมระดับเทพทั้งหลายเอาไว้ด้วยกัน 

 “ผมจะรู้สึกร้อนรุ่มตื่นเต้นขึ้นมาทุกทีเวลาที่ได้ฟังเพลงดีๆครับ เพลงดีๆเป็นสิ่งที่กระตุ้นผมได้มากที่สุดผมรักเพลงทุกเพลงของ Jay-z และผมก็รู้สึกอิจฉา Kanye เพราะเค้าสามารถลองของใหม่มากมายซึ่งกับ J.cole ก็เหมือนกันครับ  ตอนนี้แทยังก็กำลังเตรียมงานในอัลบั้มใหม่ของเค้าอยู่ และผมก็อิจฉาเพลงเพลงนึงในอัลบั้มของเค้ามาก เวลาที่ผมได้ยินเพลงไหนที่เป็นเพลงที่ดีผมจะต้องพยายามทำใจเย็นดับความร้อนรุ่มในใจของผมครับ " 

จีดราก้อนเต้นไปกับเสียงเพลงและเอากล่องที่อยู่ในฉากมาตีประหนึ่งว่ามันเป็นกลองแอฟฟริกัน เค้าไม่สนด้วยซ้ำว่าทีมงานทั้งหมดกำลังจ้องมองมา ในขณะที่เรารู้สึกเหมือนว่าได้ฟังเพลงมามากเกินพอที่จะฟังได้ในเดือนนึงแล้ว การถ่ายทำก็หยุดพักชั่วคราว จีดราก้อนต้องออกไปข้างนอกซักพักเพื่องานปาร์ตี้เปืดตัวยี่ห้อยี่ห้อนึง 

ต่อมาในตอนดึกเมื่อเค้ากลับมา คู่หูคนที่ 2 นางแบบ Soojoo ได้มารอคอยอยู่แล้ว soojoo เคยได้พบแทยังมาแล้วที่ปารีส ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอจีดราก้อน ช่างภาพคุณ Hong Jang Hyun ต้องการให้พวกเค้าดูคุ้นเคยเป็นเพื่อนและมีฉากที่ใส่อารมณ์มากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่แลดูจะอึดอัดในตอนนี้ ช่างภาพอยากจะดึงเอาเสน่ห์ในแบบของจีดราก้อนออกมาในการถ่ายภาพ จีดราก้อนไม่ได้เดือดร้อนกับการที่จะต้องใส่กางเกงขาสั้นหรือเปลือยท่อนบนเพื่อการถ่ายรูป เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาที่เค้ามีกับโว้กที่ต้องสวมรองเท้าส้นสูงเค้าก็ทำมาแล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใด เป็นเพราะเค้าเชื่อใจในตัวของช่างภาพ และจากนั้น บางอย่างที่สุดวิเศษก็เกิดขึ้น

Soo Joo และ GD ผู้ซึ่งมีผมบลอนด์และตาแบบสโมกกี้ ทั้งคู่เกือบจะดูเหมือนภาพในอุดมคติ เหมือนกับฝาแฝด สไตลิสต์ของ 2ne1  Yang Seung Ho ผู้ที่ผ่านมาและหยุดมองดูการถ่ายภาพครู่นึง กล่าวว่า " ผมบอกไม่ได้เลยว่าคนไหนคือจีดีคนไหนคือ soojoo " 

ทั้งคู่ดูเป็นธรรมชาติและดูเหมือนคู่รักกันจริงๆ แต่จีดราก้อนก็ไม่อาจซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของเค้าเอาไว้ได้ " ผมเอาแต่มองตรงไปข้างหน้า ตรงไปข้างหน้าอย่างเดียวครับ 555" เมื่อการถ่ายภาพเสร็จสิ้นลงจีดราก้อนได้พูดถึงช่วงเวลาที่แสนอึดอัดนั้น " ผมเป็นผู้ชายดังนั้นผมสบายมากที่จะเปิดเผยร่างกายบ้าง แต่นี่มันยากเพราะผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับนางแบบที่เปิดเผยบางส่วนของร่างกายขนาดนี้ครับ ขนาดบนเวทีผมก็ไม่เคยลองทำอะไรแบบนี้มาก่อน แต่ว่ามันก็สนุกนะครับ" 

ทันทีที่การถ่ายทำจบลง Soojoo กลายเป็นสุภาพสตรีขี้อายในทันที SooJoo ผู้ซึ่งมีเสน่ห์ในแบบเอื้อมไม่ถึงในระหว่างการถ่ายภาพ ก็เป็นเพียงแฟนเกริ์ลอีกคนนึงเท่านั้น ตอนที่เธอเข้าไปถ่ายรูปกับจีดราก้อน เธอถึงกับชูสองนิ้วขึ้นมาด้วย


ในวันต่อมา การถ่ายภาพของเราเริ่มในตอนกลางคืน จีดราก้อนในกางเกงสกินนี่สีแดงได้เล่าให้เราฟังว่าเค้าต้องการเนื้อที่ในการเก็บเสื้อผ้ามากกว่านี้ในบ้านใหม่ของเค้า ในขณะที่พูดเค้าก็เพิ่มสินค้าลงไปในตะกร้าชอปปิ้งออนไลน์เพิ่มอีก สิ่งที่อยู่อันดับ 1 ในรายการของที่อยากได้ในฤดูกาลต่อไปของเค้าคือ รองเท้าสีขาวจาก Saint Laurent 

 “ผมเคยสวมรองเท้า  high-tops ไม่ก็รองเท้า Louboutin แต่ตอนนี้ผมไม่ค่อยตื่นเต้นกับรองเท้าราคาแพงๆแล้วครับ ผมมักจะซื้อรองเท้าไนกี้รุ่นเก่ารุ่นเดียวกับที่ผมเคยใส่ในตอนที่อยู่มัธยมแบบนั้นแทน"
จีดราก้อนมีรอยสักเยอะพอๆกับรองเท้าและเสื้อผ้าของเค้าเหมือนกัน เมื่อ 2 ปีที่แล้วเค้าได้ไปสักรอยของ  keith Harring และเมื่อเร็วๆนี้ก็เพิ่มรอยของ Basquiat เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลคชั่นรอยสักของตัวเอง 

"ผมชอบศิลปะในแนวป็อป มันเป็นศิลปะในแขนงที่เป็นสาธาณะชนและในแบบสื่อโฆษณามากที่สุด เมื่อเร็วๆนี้ผมพึ่งซื้องานของ Patrick Rubinstein มาครับ”


การถ่ายภาพเซตสุดท้ายของเค้าเริ่มพร้อมกับเสียงเปียโนที่เล่นโดย  Billy Preston คืนนี้จีดราก้อนจะเป็นสุภาพบุรุษในคลับยุค 50 สุภาพสตรีที่จะมาร่วมอยู่เป็นเพื่อนเค้าในคืนนี้คือ Park Ji Hye ซึ่งเป็นนางแบบเพียงหนึ่งเดียวที่กล้าพอจะทักทายจีดราก้อนด้วยท่าเต้น Fantastic baby คุณ Park Ji Hye กล่าวชื่นชมจีดราก้อนอย่างจริงใจว่า " จีดราก้อนเก่งมากค่ะ มันไม่ใช่สิ่งที่เราพวกนางแบบทำกันเท่านั้น แต่นี่มันเป็นสไตล์เอกลักษณ์ในแบบของเค้าเอง" 

จีดราก้อนผู้ซึ่งทำงานมาโดยตลอดตั้งแต่อายุ 13 ในฐานะศิลปินฝึกหัดในค่าย YG เค้าคิดยังไงกับตัวเองกันนะ?? 

"ผมเดาเอาว่าตัวเองประสบความสำเร็จในเรื่องของสิ่งที่เป็นความฝันในแบบคร่าวๆได้แล้วครับ แต่สิ่งที่สำคัญคือนักร้องแบบไหนที่คุณกำลังเป็นอยู่ ผมไม่อยากจะแบ่งแยกว่ามันดีหรือเลวโดยวัดกันตรงที่ศีลธรรมของตัวศิลปิน ผมคิดว่าคุณจะสามารถเป็นศิลปินที่ดีได้หากคุณสามารถทำเพลงที่คุณจะไม่มีทางอับอายเมื่อได้ยินมันออกมา เป็นศิลปินที่ดีได้เมื่อคุณสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นน้องและคุณสามารถแสดงบนเวทีจนถึงเวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตได้ นี่เป็นสิ่งที่ผมคิดและพยายามทำมันให้ได้เสมอมาครับ สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญนั้นไม่ใช่เรื่องของอายุ แต่เป็นเรื่องของจิตวิญญาณวัยหนุ่มที่เรามีตั้งหาก การที่คุณพยายามจะเข้าเป็นส่วนนึงของโลกใบนี้ได้อย่างง่ายดายนั้นจะทำให้คุณสูญเสียตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไป ซึ่งในเรื่องของเพลงก็เช่นเดียวกัน "

เมื่อการถ่ายภาพเซตสุดท้ายของจีดราก้อนจบลง เหล่าทีมงานที่ร่วมทำงานกับเค้ามามากกว่า 24 ชั่วโมงแล้วก็ปรบมือเสียงดัง จีดราก้อนดูไม่เหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ในตอนที่เค้าเดินออกจากสตูดิโอในตอน ตี 3 เค้ากล่าวว่า

"หากคุณยังคงตั้งใจเดินไปในหนทางที่คุณคิดว่ามันเป็นเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว วันนึงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของคุณ มันจะต้องส่องแสงสว่างภายในตัวคุณได้อย่างแน่นอน ใช่ไม๊ฮะ??"



 =================================



ใน Vogue Living ที่แถมมาเป็นเซตร่วมกับนิตยสาร มีไปเยี่ยมดูบ้านยองเบด้วยค่ะ 
ซึ่งยองเบบอกว่าได้คำแนะนำจากทาบิ มิวแปะไว้ร่วมกันเลยแล้วกัน 

ก่อนที่แทยังจะมีการดีไซน์ห้องของเค้า และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเค้าได้ไปขอคำแนะนำจากท็อปผู้ซึ่งรู้เรื่องการดีไซน์เป็นอย่างดี
ท็อป ที่เป็นมือสมัครเล่น แต่อยู่ในระดับสูงในเรื่องของการตบแต่งภายใน เค้ามีเครือข่ายและติดต่อกับเจ้าของร้านเครื่องเรือนและของตบแต่งต่างๆเอาไว้เสมอรวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ AAAในย่านHongdaeอีกด้วย 

ด้วยคำแนะนำจากท็อปแทยังเลือกวอลเปเปอร์ พื้นห้อง และเฟอร์นิเจอร์ ที่สามารถเข้ากันได้ดีกับสีดำ และเค้าก็ตบแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก หนังสือ และภาพวาดที่เค้าสะสมมาจากการออกทัวร์คอนเสริต์

Eng Translated by DANA A.K.A BIGBANGGisVIP
and in Vogue living section translation by UTOPIA
Thai Translated by miss mew
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น