ดาราเคป็อป ชาวเกาหลี ชเวซึงฮยอน ดูจะไม่ค่อยมีข่าวคราวเกี่ยวกับเค้ามาระยะหนึ่งแล้ว เริ่มจากเค้าต้องเข้ากรมทหารและจากนั้นก้เจอโรคระบาดที่ระบาดหนักไปทั่วโลก แต่เบื้องหลังแล้วเค้าไม่เพียงแต่ยุ่งทำงานเพลงเท่านั้นแต่ยังกระตือรือร้นรวบรวมผลงานศิลปะที่น่าทึ่งเอาไว้ครอบครอง ดาราที่รู้จักกันในนามของ T.O.P ได้นั่งให้สัมภาษณ์ครั้งแรกในรอบปีกับ Artnet Intelligence Report พูดเรื่องเส้นทางส่วนตัวของเค้าที่เข้ามาในโลกแห่งศิลปะ และพูดถึงวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตของคอลเลคชั่นของเค้า
1. ศิลปะที่วนเวียนอยู่ในครอบครัว
ซึงฮยอนเติบโตมาในครอบครัวของศิลปินและผู้ศึกษาศิลปะ คุณปู่ทวดทางฝั่งของคุณแม่ของเค้าคือคุณ Kim Whan-ki (1913–74), ศิลปินในช่วงหลังสงครามคนสำคัญของเกาหลี ผู้ซึ่งภาพเขียนแอปสแตร็คของเค้าพึ่งถูกขายออกไปในการประมูล ได้ราคาสูงถึง 13 ล้านดอลล่าร์ หนึ่งในคุณป้าทั้งหมด 3 คนของซึงฮยอนเปิดโรงเรียนศิลปะซึ่งเป็นที่ที่ซึงฮยอนเคยถูก"บังคับ"ให้เรียนรู้การวาดภาพและการระบายสี เป็นเวลา 3-4 ชั่วโมงต่อวันหลังจากที่เค้าเลิกจากชั้นเรียนระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนปกติแล้ว เค้าเล่าว่าประสบการณ์ในตอนนั้นเป็นประสบการณ์ที่สะเทือนใจ เค้ามาก เพราะเค้าตระหนักว่าเค้าคงจะไม่ได้ใช้ชีวิตไปในแบบที่เค้าคาดหวังเองได้
2. ศิลปะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับเค้าในการเอาชนะความวิตกกังวล
“ผมเป็นเด็กที่หดหู่ มืดมนและมีความวิตกกังวลครับ" ซึงฮยอนย้อนให้เราฟังถึงภาพของคุณปู่ทวดของเค้า ว่ามัน " มันช่วยให้ผมรวบรวมสติ และช่วยผมให้ตั้งสมาธิได้" มันกลายเป็นประสบการณ์ที่ปลูกฝังให้เค้ารักในศิลปะ
3. การซื้อครั้งแรกของเค้าค่อนข้างน่าเบื่อ
จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับชีวิตของซึงฮยอนในปี 2006 เมื่อเค้าได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดบิวต์ในวง บิกแบง (ชื่อในวงการของเค้าคือ T.O.P ย่อมาจาก “The Original Pimp.”) เค้าใช้เงินที่เค้าได้มาซื้อภาพวาดขนาดใหญ่ 4 ชิ้นของศิลปินหน้าใหม่ที่รู้จักกันในนาม KAWS โดยภาพวาดเหล่านั้นมีราคา 7000 เหรียญต่อภาพ ซึงฮยอนกล่าวว่าต่อมาเค้าตระหนักว่าจริงๆแล้วเค้าไม่ได้ชอบผลงานแนวนี้และก้ไม่เคยซื้อผลงานของ KAWS อีกเลย
4. เขาค้นพบแรงบันดาลใจทางศิลปะส่วนใหญ่บน Instagram
ในชีวิตจริงซึงฮยอนเป็นเพื่อนสนิทกับศิลปินที่เค้าสะสมผลงานอยู่หลายคน ซึ่งรวมไปถึง Mark Grotjahn และ Jonas Wood แต่เค้าเลือกเฟ้นหางานศิลปะผ่าน อินสตาแกรม ไม่ได้ไปงานแสดงศิลปะหรือไปตามแกลอรี่ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นนะ?? ก็เพราะว่าเค้าหลีกเลี่ยงที่จะไปในที่สาธารณะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่เช่นนั้นเค้าจะทำให้เกิดฝูงชนขนาดใหญ่ตามเค้าไปด้วย ไม่ว่าเค้าจะไปที่ไหน “เค้าไม่สามารถที่จะไปแกลอรี่ หรือพิพิธภัณฑ์ได้ โดยเฉพาะในทวีปเอเซีย เพราะจะมีคนจำเค้าได้เสมอ" นักแสดง Sean Dulake เพื่อนของเค้าอธิบายให้ฟัง “ดังนั้นเค้าจึงดูผลงานศิลปะต่างๆผ่านโทรศัพท์ของเค้าไม่ก็คอมพิวเตอร์"
5.ถ้าคุณพบวัยรุ่นที่รู้จัก Mark Grotjahn นั่นอาจจะเป็นเพราะ T.O.P
ซึงฮยอนได้กลายเป็นระดับแนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของตลาดงานศิลปะ เมื่อความต้องการในงานศิลปะ contemporary ในเอเซียพุ่งสูงขึ้นในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เขายังได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ซื้องานศิลปะรุ่นใหม่ เมื่อเค้าได้ช่วยทาง Sotheby จัดการการขายงานศิลปะในปี 2016 มันกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดงานประมูลงานศิลปะที่มี คนดังเป็นภัณฑารักษ์ผู้เลือกหางานมาให้ประมูล
“ในตอนที่เรามีการทำพรีวิวงาน T.O.P ก่อนในฮ่องกงและเกาหลี เราจะเห็นเด็กนักเรียนมัธยมในชุดนักเรียนมากันมาก พวกเค้าอาจจะไม่มีเงินพอที่จะสะสมงานศิลปะ แต่พวกเค้ามาเรียนรู้งานศิลปะเหล่านั้นผ่านไอดอลที่เค้าชื่นชอบ " คุณ Yuki Terase อดีตผู้บริหาร Sotheby ผู้จัดงานในครั้งนั้นกล่าว “ คุณจะต้องแปลกใจมากทีเดียวว่าเด็กๆรู้จัก Jonas Wood และ Mark Grotjahn มากแค่ไหน”
6. เค้าหวังว่าจะเปิดพิพิธภัณฑ์ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า
ซึงฮยอนเก็บรักษางานศิลปะส่วนใหญ่ของเค้าไว้ในโกดังที่อยู่ถัดไปจากที่พักของเค้าในกรุงโซล บางส่วนก็ถูกแขวนไว้ที่บ้านของคุณพ่อคุณแม่ ในเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต เค้าอยากจะเปิดพิพิธภัณฑ์ "เพื่อให้คนเกาหลีได้ชื่นชม" ในขณะที่เค้ารู้สึกว่ายังคงมีเวลาอีกยาวนานที่เค้าจะสร้างคอลเลคชั่นที่คู่ควรสำหรับการเรียกความสนใจ เค้าตั้งข้อสังเกตว่า " ผมจะต้องสร้างมันให้ได้ก่อนที่ผมจะกลายเป็นคุณปู่"
From news.artnet.com // 06-10-2021
Thai Translated by Miss mew
photo from omonatheydidnt.livejournal.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น