วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Numero Talk Vol:29 กับแดซอง กุมภาพันธ์ 2017


"Talk" คือช่วงที่เราจะสัมภาษณ์พูดคุยกับนักแสดงชื่อดัง ศิลปิน และผู้สร้างสรรค์งาน 
ในหัวข้อ "on and off" ในเล่มที่ 29 นี้เราได้พูดคุยกับนักร้องและสมาชิกวงบิกแบง แดซอง 

เป็นเวลากว่า 10 ปีมาแล้ว บิกแบงได้เติบโตกลายเป็นวงที่มีความโด่งดังในระดับโลก ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ครบรอบพอดี แดซองในฐานะนักร้องนำประจำวงที่โปรยเสน่ห์ให้แฟนๆหลงใหลจากรอยยิ้มที่สดใส ได้เริ่มกิจกรรมในฐานะนักร้องเดี่ยวอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไป 2 ปี เค้ากำลังจะเปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวที่มีเพลงที่เพิ่มความเร็วของจังหวะขึ้นมาอีกนิดและสามารถทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้มาก และกำลังจะเริ่มการทัวร์คอนเสริต์ตามโดมต่างๆอีกด้วย 

ในวันนี้เค้าได้มาร่วมแบ่งปันความรู้สึกของเค้าในตอนนี้และความคิดของเค้าเกี่ยวกับงานดนตรีกับเรา

Numero:ก่อนอื่นเลยช่วยพูดถึง มินิอัลบั้มชุดใหม่ D-Day หลังจากที่เว้นไปกว่า2ปีของคุณหน่อยค่ะ คุณว่าอัลบั้มชุดนี้มีความพิเศษยังไงบ้างคะ?
Daesung: ถ้าจะเปรียบเทียบกับอัลบั้มชุดที่แล้ว D's Love สิ่งที่ผมเพิ่มเข้าไปคือแนวดนตรีที่เติบโตขึ้นครับ D-Day จะช่วยดึงอารมณ์ของทุกคนให้สดใสขึ้น เพลงที่มีความสดชื่นจะเข้ากับฤดูที่กำลังเริ่มที่จะอบอุ่นขึ้นได้เป็นอย่างดี ผมร่วมสร้างสรรค์เพลงกับศิลปินที่ผมชื่นชอบมากๆและฟังเพลงของพวกเค้ามาเยอะเลยละครับในอัลบั้มชุดนี้ 

Numero: คุณหมายถึงศิลปินอย่าง Yoshiki Mizuno จาก Ikimono Gakari , Motohiro Hata และ Ayaka อะไรที่เป็นตัวนำให้คุณขอให้ศิลปินที่เป็นตัวแทนของดนตรี pop ของญี่ปุ่นในตอนนี้เหล่านี้มาเขียนเพลงให้คุณคะ
Daesung:ตั้งแต่ที่ผมหยิบเอาเพลงของพวกเค้ามาร้อง cover ในอัลบั้มรวมเพลง cover ของผมผมก็เฝ้ารอที่จะทำงานร่วมกับพวกเค้าในการสร้างสรรค์เพลงใหม่ออกมาละครับ มันไม่ใช่แค่ว่าผมชื่นชอบเพลงของพวกเค้ามากๆเท่านั้นแต่ผมยังอยากที่จะได้พบปะพูดคุยกับพวกเค้าโดยตรงด้วยครับ ช่วงเวลาที่ผมต้องการก็เป็นช่วงเวลาที่ประจบเหมาะและโชคดีมากๆที่พวกเค้าต่างก็เห็นด้วยที่จะทำงานร่วมกับผม ซึ่งงานของเราก็เข้ากันได้อย่างราบรื่นครับ

Numero:คุณกำลังจะมีทัวร์คอนเสริ์ตเดี่ยวตามโดมที่ต่างๆด้วยอัลบั้มใหม่ชุดนี้ ช่วยบอกถึงแรงจูงใจของคุณหน่อยค่ะ
Daesung: ผมอยากที่จะจัดคอนเสริต์ที่ทุกๆคนร่วมลงมือทำร่วมกันมากกว่าคอนเสริต์ที่เน้นไปที่การโชว์แสงสีเสียง ผมอยากให้ผู้ชมได้มีเวลามีความสุขกับตัวเองและตัวผมก็จะได้รับความเข้มแข็งจากการได้เห็นว่าแฟนๆมีความสุข และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าผมจะไม่ขึ้นแสดงและร้องเพลงให้จบๆไป แต่จะเป็นการร่วมแบ่งปันช่วงเวลาและร่วมสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกันที่ผมจะทำร่วมกับแฟนๆ ในคอนเสริต์เดี่ยวของผมผมจะไม่เน้นไปที่การเต้น แต่จะขยับตัวไปเรื่อยๆและมองลงไปในตาของแฟนๆ (ประจำที่นั่งในหลายๆระดับที่ต่างกัน) ในครั้งนี้ทุกเพลงเหมาะที่จะกระโดดไปมาและสนุกไปพร้อมๆกัน ซึ่งผมตั้งหน้าตั้งตารอให้มันเกิดขึ้นแล้วละครับ

Numero:ระยะหลังนี้ คุณยุ่งออกทัวร์กับสมาชิกในวงบิกแบงตลอด ช่วยบอกหน่อยได้ไม๊คะว่า อะไรที่ทำให้คุณเลือกเดินมาบนถนนสายดนตรีนี้ 
Daesung: ทุกคนในครอบครัวของผมต่างก็รักเสียงเพลงครับ ดังนั้นตั้งแต่เด็กๆเลยเรามักจะไปร้องคาราโอเกะร่วมกันเสมอและบ้านของเราก็มีเสียงเพลงอยู่ตลอดเวลาในขณะที่เสียงเพลงจะอยู่รอบตัวของผมเสมอ แต่จุดเปลี่ยนจริงๆอยู่ที่ว่าคุณครูในสมัยมัธยมของผมได้เอาชื่อของผมไปเข้าเสนอชื่อให้เป็นนักร้องนำและผมจะต้องร้องเพลงต่อหน้าผู้ชมจริงๆ ในตอนแรกผมรู้สึกประหลาดใจมากๆ แต่จนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่อาจลืมความสุขที่ผมรู้สึกและไม่อาจลืมใบหน้าของผู้ชมที่มองมาในตอนที่ผมร้องจบในวันนั้นได้ ผมคิดว่าความพยายามอย่างสม่ำเสมอที่ผมได้พยายามก้าวไปทีละก้าวจากตอนนั้นสุดท้ายก็ส่งผลให้ตัวผมเป็นตัวผมในวันนี้ครับ

Numero:คุณจะอธิบายความรู้สึกที่คุณมีในขณะที่กำลังทำการแสดงคอนเสริต์ออกมาว่ามันรู้สึกยังไงคะ?
Daesung: มันเป็นอะไรที่คนเราจะไม่ได้ลิ้มรสในชีวิตประจำวันธรรมดาครับ ความสุขที่ผมได้รับในระหว่างการขึ้นแสดงนั้นมันยิ่งใหญ่จนไม่อาจจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมพยายามที่จะทำงานเพลงต่อไปเรื่อยๆเพื่อที่จะได้ขึ้นไปแสดงบนเวทีเรื่อยๆ มันเป็นความรู้สึกที่กรุ่นอยู่ในใจ หลังจากที่ร้องเพลงบนเวทีกว่า 2 ชั่วโมงเสร็จสิ้นลงการที่ได้เปิดเพลงจังหวะช้าๆในขณะที่เรานั่งอย่างสงบในรถระหว่างทางกลับยิ่งเป็นความรู้สึกที่สุดยอด สำหรับผมแล้วเสียงเพลงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยไม่ว่าจะเป็นตอนไหนก็ตาม 


Numero: ดูเหมือนว่าช่วงนี้คุณจะพยายามอย่างมากในการฝึกเสียงใช่ไม๊คะ? อะไรที่อยู่เบื้องหลังพลังที่คอยผลักดันให้คุณขัดเกลาทักษะและความสามารถต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลาแบบนี้คะ?
Deasung:การทัวร์คอนเสริต์เดี่ยวของผมจะเป็นการพิสูจน์ให้ผมเห็นอีกครั้งครับว่าเสียงของผมนั้นมีความสำคัญมากแค่ไหน เพราะเสียงของผมก็เปรียบเป็นเครื่องดนตรีชนิดนึงเหมือนกันดังนั้นผมจำเป็นต้องรักษาให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ของผมอยู่อย่างปกติ ผมอยากให้คนที่มาชมคอนเสริต์ของผมได้มีความสุขที่ได้เห็นว่าเสียงของผมยังดีอยู่เหมือนเคยครับ

Numero:มีศิลปินคนไหนที่คุณนับถือเป็นพิเศษบ้างไม๊คะ?
Daesung:ผมชอบและฟังดนตรีได้ทุกๆแบบเลยครับ ระยะหลังนี้ผมฟังเพลง ร็อคเยอะมากเป็นพิเศษ และผมคิดว่าผมมาถูกทางแล้วที่ได้ทำเพลงที่ทำให้ผมรู้สึกดีกับตัวเอง ยกตัวอย่างนะครับ ออร่าและพลังที่ Freddie Mercury ปล่อยออกมาบนเวทีนั้นท่วมท้นมากๆ ก่อนที่จะขึ้นเวทีคอนเสริต์บางครั้งผมจะดูวีดีโอการแสดงของเค้าและผมจะรู้สึกประทับใจมากๆกับการที่เค้าทำให้ผู้ชมหลงใหลในทางที่ทรงพลังมากๆแบบนั้น

Numero:คุณใช้เวลาในวันว่างยังไงคะ?? คุณใช้วิธีไหนในการที่จะผ่อนคลายทั้งกายและจิตใจ??
Daesung:ช่วงนี้ผมยุ่งมากๆและแทบจะไม่ได้ใช้เวลาใดๆในวันหยุดเลยครับ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีวันหยุดผมจะใช้เวลาอยู่คนเดียวที่บ้านหรือที่โรงแรมที่ผมต้องอาศัยอยู่ในช่วงเวลานั้น นอนบนเตียงและดูหนังก็ทำให้ผมมีความสุขแล้วครับ ส่วนใหญ่เลยผมก็จะหลับไประหว่างที่ดูหนังนั่นแหละ (หัวเราะ) แต่การได้ทำแบบนี้ก็สร้างความสุขให้กับผมแล้วครับ ผมคิดว่าด้วยวิธีนี้ทำให้ผมผ่อนคลายได้มากที่สุด

Numero: ในเรื่องของแฟชั่นมีอะไรที่คุณชอบมากเป็นพิเศษไม๊คะ?? คุณไปช้อปปิ้งซื้อของที่ไหน??
Daesung:จริงๆผมไม่ได้มีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษในเรื่องของแฟชั่นแบบที่จีดราก้อนจะมีหรอกครับ โดยปกติแล้วผมจะเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ญี่ปุ่นเท่านั้น แล้วก็มักจะหยิบเอาเสื้อผ้าที่สไตลิสต์ได้เตรียมไว้ให้ใช้ที่ประเทศญี่ปุ่นมาใช้ในชีวิตประจำวันอยู่เรื่อยๆ ถ้าจะให้ผมบอกว่าอะไรที่ผมซื้อล่าสุดก็คงจะเป็นถุงเท้าครับ (หัวเราะ) ผมจะเป็นคนที่จู้จี้ในเรื่องของถุงเท้าอยู่ครับ ถ้าพวกมันไม่มีความหนาที่พอดีนั่นแสดงว่าใช้ไม่ได้ครับ เมื่อสองสามวันก่อนสไตลิสต์ได้ไปเจอถุงเท้าที่มีความหนาที่สมบูรณ์แบบมากๆและผมก็ชอบมันมากๆผมเลยซื้อพวกมันทีเดียวเลย 200 คู่โดยซื้อโดยตรงจากโรงงานเลยครับ (หัวเราะ)

Numero:มีสถานที่ไหนในโตเกียวที่ไม่ว่ายังไงๆคุณก็จะต้องไปให้ได้ไม๊คะ?
Daesung:ผมชอบที่จะไปซื้อชิ้นงานของศิลปินที่ ร้าน MoMA ครับ นอกจากนี้ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องแฟชั่นนะครับแต่ผมมักจะไปร้านอาหารเกาหลีร้านนึงในเมือง ทุกๆอย่างบนเมนูของร้านนี้อร่อยทุกจานครับ มันจะให้ความรู้สึกเหมือนผมไม่ได้อยู่ที่โตเกียวเลยเวลาไปร้านนั้น ผมชอบมันมากๆเลยครับ

Numero:สุดท้ายแล้ว ชื่ออัลบั้มครั้งนี้คือ D-Day ซึ่งหมายถึงวันที่สำคัญ คุณจะให้คำนิยามวันสำคัญของคุณว่าเป็นยังไงคะ?
Daesung:ทุกๆวันล้วนมีความสำคัญต่อผมครับ ตลอด10ปีมานี้ผมได้แต่วิ่งไปข้างหน้า จนตอนนี้เวลา10ปีได้ผ่านไปแล้วและผมเริ่มสงสัยว่ายังเหลือเวลาอีกมากน้อยแค่ไหนมีเวลาอีกนานแค่ไหนที่ผมจะเป็นที่รักแบบนี้ต่อไป และนั่นทำให้ทุกๆวันล้วนมีความหมายสำหรับผมครับ

Source: https://numero.jp/talks29/3/
English Translation by Mshinju
Thai Translation by Miss Mew


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น