วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สัมภาษณ์ จีดราก้อนจากนิตยสาร Cosmopolitan ฉบับเดือน กรกฏาคม 2013



Q:การทัวร์คอนเสริต์เดี่ยวครั้งแรกของคุณกำลังจะจบลงแล้วนี่คะและมันเป็นโชว์ที่ร้อนแรงมากด้วยถึงแม้ว่าคุณจะยังเหลือการแสดงที่จะต้องแสดงอยู่อีกในตอนนี้ แต่คุณรู้สึกยังไงบ้างคะที่จบทัวร์อย่างประสบความสำเร็จแบบนี้??
การทัวร์คอนเสริ์ตรอบโลกครั้งแรกของผมนั้นเป็นการทัวร์กับบิกแบงเมื่อปีก่อนครับ และผมก็ยังคงมีความรู้สึกว่าใจนึงก็กังวลอีกใจนึงก็ตื่นเต้นที่ได้ไปเยือนสถานที่ใหม่ๆในการทัวร์คอนเสริต์ของผม แต่มันก็สนุกมากๆเลยละครับที่ได้เดินทางไปทั่ว โดยส่วนตัวแล้วผมไม่มีเวลาได้ไปเที่ยวเล่นที่ไหนแต่ในการทำทัวร์รอบโลกนี้ผมสามารถที่จะได้พักผ่อนในช่วงเวลาที่ได้หยุดพักและใช้เวลาเที่ยวเล่นอยู่กับทีมงาน ผมรู้สึกดีใจที่ได้สร้างความทรงจำดีๆมากมาย สำหรับผมแล้วมันเหมือนการไปทัศนศึกษากับทางโรงเรียนครับ และผมก็รู้สึกดีใจมากๆที่ได้รับความรักในทุกๆที่ที่ผมไปเยือน 


Q:แม้ว่าสถานที่นั้นจะเป็นในต่างประเทศแต่ฉันคิดว่าผู้คนก็ยังจำคุณได้อยู่ดีนะคะ
เป็นเพราะแบบนั้นผมจึงไม่สามารถไปในทุกๆที่ที่ผมอยากจะไปได้สิครับ ดังนั้นผมจึงไปเที่ยวเล่นที่สระว่ายน้ำของโรงแรมและออกไปทานข้าวเท่านั้นแต่มันก็ยังสนุกอยู่ดีแหละฮะ ผมรู้สึกว่าผมสนิทกับเหล่าทีมงานของผมได้อีกนิด

Q:ถึงแม้ว่าคุณจะเคยออกทัวร์กับสมาชิกในวงบิกแบงมาก่อนแล้ว แต่ฉันคิดว่าการทัวร์คอนเสริต์เดี่ยวนี้ก็เป็นเรื่องใหม่ที่ท้าทายสำหรับคุณเหมือนกันนะคะ
เพราะผมเริ่มทัวร์ของผมทันทีต่อจากการทัวร์ของบิกแบงมันเลยทำให้ผมกังวลครับ ผมกังวลว่าตัวเองจะทำลายชื่อเสียงดีๆกับความสำเร็จที่บิกแบงทำไว้เมื่อตอนออกทัวร์ ผมมองเห็นความสามารถในตัวเองและผมก็มั่นใจอย่างแรงกล้าว่านี่มันคุ้มค่าที่จะลองทำดู ความกดดันและความกังวลนั้นมีอยู่ในการแสดงสองสามรอบในช่วงเริ่มต้นทัวร์ครับ เมื่อร่างกายของผมเริ่มเคยชินกับบรรยากาศ ผมก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นและมันก็กลายเป็นเหมือนการฝึกซ้อม ผมเพียงแค่เล่นสนุกและมีความสุขบนเวที ผมได้ข้อสรุปว่าถ้าทำแบบนี้จะเป็นผลดีต่อตัวผมเองและต่อคนที่มาดูผมด้วย ดังนั้นผมจึงทำให้ใจให้ปลอดโปร่งและตัดสินใจที่จะสนุกไปกับมันครับ

Q:คุณเป็นประเภทที่ไม่ค่อยเครียดได้ง่ายๆรึเปล่าคะ?? ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ด้วตารางงานที่ยุ่งมากมันเป็นเรื่องปกติของเหล่าคนดังที่จะต้องมีความเครียดบ้าง ฉันสงสัยว่าคุณคลายเครียดด้วยการทำอะไรบ้างคะ??
อืมม , มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นความเครียดแบบไหนนะครับ เช่น ถ้าผมเกิดเครียดจากการทำเพลง ผมก็จะคลายเครียดด้วยดนตรี ไม่ว่าผมจะเขียนได้หรือไม่ได้ผมก็จะเขียนเพลงไปเรื่อยๆ ผมจะผ่อนคลายได้เมื่อในที่สุดแล้วผมก็จะเขียนเพลงที่ผมพอใจกับมันออกมาได้ มันเหมือนกับเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานของผมครับ 

นอกจากนั้นก็เหมือนกับคนในวัยเดียวกับผมนั่นแหละฮะ ผมจะคลายเครียดด้วยการพูดคุยและดื่มกับเพื่อนๆ บางทีผมก็แค่ดูหนังหรือนั่งเฉยๆจ้องไปในว่างเปล่า เวลาที่ผมใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆที่อยู่นอกวงการผมจะรู้สึกผ่อนคลายมากเพราะผมจะรู้สึกเป็นคนธรรมดาไม่ใช่คนดังใดๆ

Q:จีดราก้อน ถือว่าเป็นศิลปินที่มีภาพลักษณ์เด่นๆเลยว่าเป็น "ผู้สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ" คุณได้รับความคิดสร้างสรรค์มาจากที่ไหน?? หรืออะไรที่ทำให้คุณเกิดแรงบันดาลใจคะ??
ผมได้รับแรงบันดาลใจจาก ผู้คนครับ และนั่นเป็นเหตุผลที่ผมมีความสุขที่ได้พบปะผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ผมได้ทานอาหารและพูดคุยกับคนอื่นผมจะได้แรงบันดาลใจเยอะเลย บางครั้งที่ผมดูหนังหรืออ่านอะไรผมก็จะได้รับแรงบันดาลใจจากคำพูดหรือประโยคในนั้น อาจจะเก่าไปแล้วนะครับแต่ผมชอบภาพยนตร์เรื่อง <Midnight in Paris> ของ Woody Allen. 

[Mew's note : ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของพระเอกที่เดินทางไปเที่ยวกับครอบครัวของคู่หมั้นที่ฝรั่งเคส จู่ๆในตอนเที่ยงคืนของทุกๆวันเค้าก็พบว่าตัวเองย้อนเวลาไปที่ปารีสสมัย ปี 1982 ค่ะ ซึ่งก็เป็นเหตุให้คนสัมภาษณ์พูดประโยคต่อไปนี่แหละค่ะ  ]

Q:ฉันก็อยากจะย้อนเวลาไปในยุคทองของศิลปะและได้เจอกับศิลปินที่มีชื่อเสียงด้วยเหมือนกันค่ะ  


Q:ฉันคิดว่าคุณเป็นคนที่จะทุ่มเทและอินกับอะไรค่อนข้างลึกซึ้งเวลาที่คุณสนใจมันแล้วคุณก็จะหลงใหลอยู่กับมัน ในช่วงนี้คุณชอบอะไรเป็นพิเศษไม๊คะ??
ผมมักจะเสพติดอยู่กับสิ่งต่างๆอยู่เสมอแหละครับ เมื่อปีที่แล้วผมไปเล่นสเก็ตบอร์ดอยู่ทั้งปีเลย ผมคิดว่าในปีนี้ผมชอบอ่านการ์ตูนมากครับผมคิดว่าจะอ่านไปตลอดปีนี้เลย

Q:แล้วชอบการ์ตูนแบบไหนคะ?? การ์ตูนผู้ชาย??หรือการ์ตูนยอดมนุษย์แบบของมาร์แวลคะ??
ผมชอบการ์ตูนเรื่องยาวอย่าง<One piece> ผมชอบอ่านเรื่องที่กลายเป็นผลงานคลาสลิกไปแล้วอย่าง <Slam dunk> ดังนั้นหลังๆนี่ผมเอามันมาอ่านอีกรอบครับ ผมคิดว่าจะไปซื้อเรื่อง Dragon Ball มาเก็บไว้ ผมชอบการ์ตูนรุ่นเก่าๆครับ

Q:งั้นถ้าให้เปรียบเทียบตัวเองกับตัวการ์ตูนคุณคิดว่าตัวเองเหมือนตัวการ์ตูนตัวไหนคะ??
ผมคงจะเปรียบตัวเองกับตัวการ์ตูนในการ์ตูนเรื่อง One piece ครับผมคิดว่าตัวเองเป็นเหมือน “Luffy” ที่ใช้ชีวิตแบบเป็นเด็กและเป็นผู้ใหญ่ในเวลาเดียวกัน อ่อๆๆๆ แฟนๆเคยบอกว่าผมดูเหมือน Whang Bo Rayong จากการ์ตูนเรื่อง<Audition>ด้วยฮะ

Q:รวมถึงวันนี้ก็ด้วยเราเห็นว่าคุณตั้งใจอย่างมากในตอนถ่ายแบบ ไม่มีอะไรให้ติได้เลย ฉันคิดว่าบางทีคุณน่าจะเริ่มลองงานด้านการแสดงดูไม๊คะ?? คุณอยากจะลองทำงานในสาขานั้นบ้างไม๊??
หากผมได้รับโอกาสผมก็อยากจะลองทำดูครับแต่ผมคงไม่มีความมั่นใจขนาดนั้น จากการดูหนังดูละครมาผมคิดว่าโทนเสียงเป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆสำหรับนักแสดงแต่ตัวผมเองมีโทนเสียงที่ค่อนข้างแหลมบาง ผมลองพูดบทในบางประโยคดูแต่มันก็จะรู้สึกแปลกๆ ที่ผมแสดงได้ดีใน MV เป็นเพราะมันไม่ค่อยมีบทพูดเท่าไหร่นะครับ (555)

Q: คุณสนใจในงานหลายๆสาขาเลยทีเดียว ดังนั้นคุณคงต้องมีงานที่ตัวเองอยากจะลองทำดูอยู่เหมือนกันใช่ไม๊คะ??
เป็นเพราะผมชอบเสื้อผ้าผมเลยอยากจะลองงานในวงการแฟชั่นดูครับ แต่ก็เหมือนกับตัวผมที่ทำงานในวงการเพลงมามากกว่า 10 ปี ในวงการแฟชั่นก็เช่นเดียวกันมีหลายคนที่ต่างก็ตั้งใจทำงานในสาขานั้นอยู่ ดังนั้นผมจึงต้องระมัดระวังในการพูดในเรื่องนี้ ผมแค่หวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากพวกเค้าและได้ลองทำงานในวงการแฟชั่น ทั้งหมดคือที่ผมสามารถพูดได้ในตอนนี้ครับ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัวมากกว่า 

Q:ตอนนี้กลายเป็นเรื่องที่คุยกันอย่างคึกคักที่เดียวเรื่องที่คุณจะต้องคิดรสชาติใหม่และออกแบบป้ายติดข้างขวดเครื่องดื่มวิตามินด้วยในครั้งนี้ นี่เป็นสิ่งท้าทายเรื่องใหม่สำหรับคุณรึเปล่าคะ???
เพราะผมชอบ วิตามินวอเตอร์มาก ผมจึงตอบรับทันทีเลยครับ ตอนที่ผมเดินทางไปที่นิวยอร์กเพื่อทำการมิกซ์เสียงเมื่อนานมาแล้ว ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมค้นพบน้ำวิตามินนี้ จนกลับมาที่เกาหลีเมื่อที่เกาหลีเริ่มมีขายผมก็เหมือนใช้ชีวิตอยู่กับมันเลยละครับ และที่ผมสนใจในตัวสินค้านี้เพราะมันไม่เหมือนกับงานโฆษณาเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่ผมเคยทำมาแล้ว มันเป็นสินค้าในแบบไลฟ์สไตล์มากกว่า และผมสามารถที่จะเป็นมากกว่านายแบบคือสามารถที่จะดีไซน์ป้ายยี่ห้อหรือแม้กระทั่งคิดค้นรสชาติใหม่ๆออกมา 

ในตอนแรกฟังๆดูอาจจะเป็นงานที่หนักดังนั้นผมจึงคิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากก็ได้ แต่เมื่อพวกเค้าบอกกับผมว่า โครงการในครั้งนี้มีชื่อว่า  ‘เป็นอย่าง Glaceau’ ผมจึงถามเค้าไปว่า " เป็นแบบ Glaceau นี่คือเป็นยังไงครับ??" และพวกเค้าก็ให้คำตอบมาว่า "ก็เป็นแบบจีดราก้อนนั่นแหละ" เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้วผมคิดว่าผมคงต้องทำแล้วละ 




Q:งั้นแล้วการเป็นแบบจีดราก้อนนี้เป็นยังไงกันคะ?? อะไรที่จีดราก้อนสามารถแสดงออกมาได้คนเดียวเท่านั้น??
พูดตามตรงนะครับ ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรที่มีเฉพาะผมที่จะแสดงออกมาได้คนเดียวเท่านั้นหรอกครับ แต่ผมมีอะไรบางอย่างที่อยากจะแสดงออกไปตั้งหาก ในตอนที่ผมทำงานกับทาง Glaceau Vitamin water ผมได้รู้มาว่า สโลแกนของพวกเค้าคือ "สากลรอบโลก มีเอกลักษณ์ เปี่ยมด้วยสไตล์ ทันสมัย และ สร้างสรรค์ "  ซึ่งคำเหล่านี้มันเป็นคำที่ผู้คนจะได้จากผม แค่เท่านี้ผมต้องการจะแสดงออกด้านดีๆของผมออกสู่ผู้คน ไม่ว่าเมื่อไหร่หรือไม่ว่าผมจะทำอะไร ผมอยากจะให้ผู้คนพูดกันว่า " อ่อ นี่จีดราก้อนนี่ ฉันมั่นใจในตัวเค้านะ"

Q:เหมือนกับที่คุณมักจะพูดว่า " ผมอยากจะทำเพลงที่สามารถให้พลังดีๆออกมาได้" แบบนั้นใช่ไม๊คะ ว่าแต่ที่บอกว่า "พลังงานดีๆ" นี่หมายถึงยังไงคะ??
อืมม … อธิบายค่อนข้างลำบากนะครับ พลังงานดีๆของผมมันไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นพลังในด้านบวกหรือสดใส คือ รู้ไม๊ฮะ มันเป็นช่วงเวลาที่คุณตั้งใจมุ่งสมาธิลงไปเวลาที่ทำงานในออฟฟิศหรือในสตูดิโอก็ตามแต่ ด้วยความรู้สึกแบบนั้นหากคุณทำงาน เขียนเพลงหรืออัดเสียงด้วยความรู้สึกนั้น ผลงานที่ออกมานั้นก็จะเป็นที่น่าพอใจ เป็นเพลงที่ผมทำออกมาและมันจะให้พลังทุกครั้งที่ผมได้ยินมัน และนั่นคือเพลงที่ผมพูดถึงแหละครับ "เพลงที่สามารถให้พลังดีๆออกมาได้"

Q:ดังนั้นน่าจะหมายถึง ช่วงเวลาที่คุณทุ่มแรงบันดาลใจและพลังงานทั้งหมดลงไป หรือเปล่าคะ??
ครับ สำหรับผมมันเป็นแหล่งพลังงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลย ดังนั้นเมื่อคนมาฟังมัน ไม่ว่าจะมีความคิดด้านบวกหรือลบ ผมเชื่อว่ามันก็ย่อมจะมีพลังงานบางอย่างไหลเวียนอยู่ในตัวพวกเค้าแล้ว เมื่อคุณตั้งสมาธิไปที่สิ่งนั้นๆหรือตั้งสมาธิในการที่จะทำอะไรบางอย่างโดยมุ่งพลังงานเหล่านั้นไปที่คนที่จะได้ฟัง อะไรบางอย่างที่คุณทำนั้นมันจะสามารถตรงเข้าไปกระทบความตั้งใจของอีกฝ่ายได้ ดังนั้นผมจึงคิดว่าไอ้เจ้าพลังงานตัวนี้แหละเป็นสิ่งที่สำคัญในขณะที่ทำเพลง คนที่เขียนเพลงออกมาแล้วโด่งดังมักจะบอกว่าเพลงฮิตหนะใช้เวลาเขียนเพียงแค่ 5-10 นาทีเท่านั้น และผมคิดว่าที่เป็นแบบนั้นก็เพราะพลังงานที่ว่าแหละครับ

Q:คุณโชว์ความสามารถในฐานะโปรดิวเซอร์ได้อย่างเยี่ยมยอด มีภาพรวมวงในแบบใหม่ๆที่คุณอยากจะสร้างเก็บเอาไว้ในใจบ้างรึเปล่าคะ??

ผมก็ยังไม่แน่ใจในเรื่องนั้นนะครับ ผมยังทำงานในด้านการโปรดิวเพลงอยู่เลยดังนั้นการที่จะออกไปเปิดบริษัทใหม่และปั้นศิลปินหน้าใหม่ดูจะเป็นอนาคตที่ห่างไกลในตอนนี้  ผมยังคงยุ่งกับบิกแบงยุ่งกับตัวเองอยู่เลยครับ ผมคงจะเป็นโปรดิวเซอร์หลังจากนี้ในตอนที่ผมมีเวลา ตอนนี้ผมกำลังเรียนรู้และยังคงมีความสุขสนุกกับการที่ได้อยู่บนเวทีร้องเพลงที่ผมเขียนขึ้นมาอยู่ครับ 




Q:ฉันคิดว่าเรื่องของเสียงเพลงนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณอยากจะทำมันต่อให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆและจะทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆด้วยเมืื่อคุณฟังมากขึ้นและทำเพลงออกมามากขึ้น แน่นอนว่าก็เหมือนกับศิลปะในทุกๆแขนงยิ่งทำก็ยิ่งเก่งขึ้น คุณอาจจะบอกว่าเพลงที่จีดราก้อนทำได้ดีที่สุดในตอนนี้คือ เพลงฮิบฮอบ แต่ฉันก็สงสัยนะคะว่ามีแนวเพลงในแบบอื่นอีกไม๊??ที่คุณอยากจะทำมันให้เก่งขึ้นมา 
 ผมอยากจะทำเพลงในแบบฮิบฮอบให้ดีขึ้นครับ แน่นอนว่าผมชอบค้นคว้าหาเพลงในแบบใหม่ๆเหมือนกันแต่การไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆนั้นก็เพื่อมาหลอมเป็นเพลงฮิบฮอบในตอนท้ายอยู่ดี จู่ๆผมจะไม่ไปบอกว่าผมจะลงมือทำเพลงร็อค heavy metal  แต่ผมอยากจะผสมดนตรีในแบบอื่นๆกับความเป็นฮิบฮอบ ผมรู้สึกว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่ผมจะต้องเรียนรู้ในดนตรีฮิบฮอบ และนี่เป็นสิ่งที่ผมอยากจะเก่งขึ้นอยากจะทำให้ดีขึ้นตลอดมาครับ

Q:มีสื่อต่างประเทศและทีมงานชาวต่างชาติมักจะกล่าวชื่นชมคุณว่า " GD เป็นส่วนผสมของ Michael Jackson และ Lady Gaga” หรือ “GD เป็น Kanye Westฉบับชาวเกาหลี” เวลาที่คุณได้ยินอะไรแบบนี้ฉันคิดว่าคุณคงรู้สึกภูมิใจในขณะเดียวกันก็คงรู้สึกกดดันด้วยใช่ไม๊คะ?
อ่าา , เป็นความกดดันอย่างหนักเลยครับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นคำชมที่พูดเกินไปครับแต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกชอบเหมือนกัน คือผมชอบที่จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับคนที่อยู่ในระดับที่อยู่เหนือกว่าผมมากๆ แต่สิ่งที่ผมจะต้องทำต่อไปไม่ใช่การฟังว่า จีดราก้อนเหมือนกับคนนั้นคนนี้ แต่ผมจะต้องทำงานให้หนักขึ้นอีกเพื่อที่ว่าจะได้รับคำชมจากศิลปินหน้าใหม่ เวลาที่เค้าพูดชมกันว่า นายเหมือนจีดราก้อนคนที่สองเลยนะ แบบนี้มากกว่า ผมคิดว่าผมจะสามารถเป็นแบบนั้นได้หากผมเรียนรู้มากขึ้นและฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น ครับ

Q:พอๆกับที่แฟนๆสนใจในอัลบั้มเดี่ยวของจีดราก้อน พวกเค้าต่างก็รอคอยการกลับมาของบิกแบงด้วย คุณวางแผนว่าจะคัมแบคเมื่อไหร่คะ??
การคัมแบคของบิกแบงขึ้นอยู่กับผมเท่านั้นแหละครับ (55555) เป็นเพราะผมต้องรวบรวมสิ่งที่อยู่ในตัวของผมและเริ่มเขียนเพลง (5555) ดังนั้นผมค่อนข้างปวดหัวอยู่นะครับ แต่ว่า บิกแบงจะมีทัวร์คอนเสริต์ที่โดมในประเทศญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน เราจะมีคอนเสริต์รวมใน 6 โดมและผมได้ยินมาว่าเราเป็นศิลปินจากเกาหลีวงแรกที่ทำแบบนี้ได้ 

เราเดินทางไปที่ญี่ปุ่นบ่อยๆเพราะเราได้รับปฏิกริยาตอบรับที่ดีจากพวกเค้า แต่ผมรู้สึกว่าเราควรจะต้องทำงานตั้งใจอย่างหนักเพื่อแฟนๆชาวเกาหลีของเราด้วย นี่ก็เป็นปีที่ 7 แล้วตั้งแต่เราเดบิวมา แต่เรามีแค่ 2 อัลบั้มเต็มออกมาเท่านั้น นอกนั้นเกือบทั้งหมดเป็นมินิอัลบั้มหรือเป็นซิงเกิลทั้งนั้นเลยฮะ  



Q: ฉันได้ยินมาว่าคุณใช้เวลาอยู่ที่บริษัทมากเลยทีเดียว และที่นั่นพวกหนุ่มๆชอบพูดคุยกันมากเลยเหรอคะ?? ที่ถามขึ้นมาเป็นเพราะฉันเป็นคนอยากรู้เองแหละ ว่าหนุ่มๆอย่างพวกคุณคุยเรื่องอะไรกัน??เอ?? มันก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?? แล้วพวกผู้หญิงคุยเรื่องอะไรกันละฮะ??

Q:อืมมม คุยเรื่องผู้ชาย เสื้อผ้า เรื่องทรงผมแบบนี้มั้งคะ ?
พวกเราก็เหมือนกันครับ

Q:แต่พวกหนุ่มๆไม่ค่อยคุยกันเรื่องนี้นี่คะ??
พวกเราต่างมีความชอบคล้ายๆกัน และเป็นเพราะพวกเราใช้เวลาส่วนใหญ่ร่วมกันเราเลยชอบอะไรคล้ายๆกัน เช่น ชอบอาหารเหมือนๆกัน ชอบผู้หญิงเหมือนๆกัน ชอบเพลงและวัฒนธรมที่คล้ายๆกัน ดังนั้นเราจะคุยกันเรื่องผู้หญิงเยอะมากและพูดคุยกันเรื่องดนตรี ชีวิต และซี่รีย์จากอเมริกาที่ผมพึ่งดูไปเมื่อคืน

Q:โอ้วว คุณกันเรื่องผู้หญิงที่ชอบเหรอคะ?? งั้นฉันถามได้ไม๊??ว่าคุณชอบผู้หญิงแบบไหน?? พนันได้เลยว่าต้องมีคนอยากรู้เรื่องนี้มากแน่ๆ
อาจจะฟังคลุมเครือหน่อยนะครับแต่ผมชอบผู้หญิงที่มีเซนต์ที่ดี อย่างที่คุณคิดแหละครับมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากหน่อย ไม่ว่าจะใส่ชุดอะไร ก็ต้องมีเซนที่ดีในการแต่งตัว เวลาที่จะพูดอะไรก็จะต้องมีเซนที่ดีในเรื่องที่พูด ก็เหมือนกับผู้หญิงที่ดูทันสมัยมั้งครับ พวกเธอรู้จักดูแลตัวเองและเป็นมิตรกับผู้อื่น ผมคิดว่าพวกเธอดูฉลาดกันด้วย 

Q:แล้วก็ต้องสวยน่ารัก?
ก็ยิ่งดีสิครับ

source: http://cosmopolitan.joinsmsn.com/article/RetArticleView.asp?strArtclCd=A000001206&strMCateCd=ADAB
English Translation by DANA a.k.a BigbangisVIP
Thai Translation by me a.k.a miss mew 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น